ลีกวัน
8 ก.ค.55 สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด
บางกอก เอฟซี 3-0 ขอนแก่น

มีสโมสรอยู่สโมสรหนึ่งที่ผมแอบติดตามอยู่เงียบ ๆ

บางกอก เอฟซีครับ

แต่ผมไม่ได้เป็นแฟนดั้งเดิมมาตั้งแต่สมัยบางกอก บราโวโน่นหรอกนะ มาติดตามเอาก็ตอนเป็นบางกอก เอฟซีแล้ว

เหตุผล (เล็ก ๆ) เหตุผลนึงก็คือ...ฉายากระทิงเหล็กของบางกอก เอฟซีนั้น มันโยงไปถึงกระทิงดุที่หมายถึงทีมชาติสเปน ทีมชาติที่ผมเชียร์เป็นอันดับสอง รองจากอาร์เจนตินาได้ (อะไรนะ ฟังดูแถ ๆ ไปนิดส์นึงหรอ? แหะ ๆ :-p)

งั้นเอาเหตุผลจริงจังก็ได้

สนามเหย้าของพวกเขา สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมด...น่าจะเป็นสนามบอลที่ใกล้บ้านผมที่สุดแล้วมั้ง? รวมทั้งเป็นยังสนามแห่งความทรงจำบางอย่างด้วย (ผมเคยมาแข่งบอลนักเรียนที่นี่ แล้วก็เคยมาคัดตัวแทนฟุตบอลกีฬาเยาวชนแห่งชาติ เขต 10 ที่นี่ด้วย)

แต่กว่าจะมีโอกาสมาดูฟอร์ม “กระทิงเหล็กแห่งทุ่งบางมด” ทีมนี้ได้ครั้งแรก...ก็ปาเข้าไปรอบแชมเปียนส์ลีก (ของเมื่อ 2 ปีก่อน) โน่นแล้ว ^^!

ซึ่งเป็นฤดูกาลสุดมหัศจรรย์ของชาวบูลลิแกนด้วย

บางกอก เอฟซีเปิดฤดูกาลนั้นด้วยความพ่ายแพ้ติด ๆ กัน แต่พออ.ทองสุข สัมปหังสิตปรับจูนทีมซึ่งใช้บริการดาวรุ่งแทบจะยกทีมได้ลงตัวแล้ว กระทิงหนุ่มฝูงนี้ก็เก็บชัยชนะรวด ๆ แม้ท้ายฤดูกาลจะต้องมาลุ้นนิด ๆ แต่สุดท้ายทีมก็ยังแกร่งพอที่จะคว้าแชมป์ดิวิชัน 2 ลีกภูมิภาค โซนกรุงเทพฯและปริมณฑลได้สำเร็จ (^-^)V

รอบแชมเปียนส์ลีก...แทบไม่มีกูรูคนไหนให้เครดิตพวกเขาเลยว่าจะฝ่าฟันคู่แข่ง จนเลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1 ได้ เฮดโค้ชที่ผ่านร้อนผ่านหนาวในแวดวงฟุตบอลไทยมาหลายพรรษาอย่างอ.ทองสุขก็คิดไม่ต่างกัน

“ความจริงก็ไม่ได้หวังว่าจะได้เล่นรอบแชมเปียนส์ลีกด้วยซ้ำ ตัวผู้เล่นที่ใช้ก็เตรียมตัวแค่ 2 สัปดาห์ก่อนแข่งเท่านั้น จะพูดไปแล้วประสบการณ์นักเตะของเรายังเทียบทีมอื่นไม่ได้เลย”

แต่ทุกอย่างเหมือนเป็นใจ จู่ ๆ ฟุตบอลลีกที่สามารถออกกฎอะไรมาเมื่อไหร่ก็ได้ที่เดียวในโลกนี้ เกิดอยากเพิ่มทีมในไทยพรีเมียร์ลีกและดิวิชัน 1 จาก 16 ทีมให้เป็น 18 ทีมเอาเมื่อตอนจบฤดูกาลนั่นแหละ

นั่นหมายความว่าทีมอันดับ 3 และ 4 ของแต่ละกลุ่มในรอบแชมเปียนส์ลีกยังคงมีหวังลึก ๆ ที่จะได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชัน 1

บางกอก เอฟซีคว้าโควต้านี้ได้อย่างหวุดหวิด (แต่ขนาดลุ้นแค่อันดับ 4 ของกลุ่ม กระทิงเหล็กยังต้องลุ้นจนถึงนัดสุดท้ายเลย)

รอบเพลย์ออฟ บางกอก เอฟซีถล่มนราธิวาส (ซึ่งปีนั้นแทบไม่มีความพร้อมเลย) ขาดลอย คว้าสิทธิ์ขึ้นสู่ดิวิชัน 1 ได้สำเร็จ ชนิดที่ก่อนเปิดฤดูกาล ถ้ามีใครบอกว่าฝูงกระทิงจากฝั่งธนฝูงนี้จะเลื่อนชั้น

เชื่อว่าเสียงหัวเราะน่าจะดังพอ ๆ กับคนที่บอกว่าฟุตบอลไทยจะไปบอลโลก (ในเร็ว ๆ นี้) นั่นแหละ - -"

แล้วถ้าบอกว่าทีมจะได้โค้ชระดับ “อดีตตำนานนักเตะทีมชาติไทย” อย่างเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองมาคุมทัพ

มีศูนย์หน้าระดับทีมชาติไทยอย่างโจ้ ห้าหลามาคอยซัลโวคู่แข่ง

บางทีแค่เล่นเกม FM อาจจะยังทำไม่ได้อย่างนั้นด้วยซ้ำไป

แต่สองปีต่อมา สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง!

บรรยากาศสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดในวันแข่งคึกคักไม่เบา

แฟน ๆ บางกอก เอฟซีซื้อตั๋วเข้าชมการแข่งขัน

การขึ้นมาเล่นดิวิชัน 1 เป็นครั้งแรกเมื่อฤดูกาลก่อน “กระทิงเหล็ก” เป็นทีมเต็งตกชั้นอันดับต้น ๆ แต่อ.ทองสุขก็ประคองตัว พาทีมให้อยู่รอดมาได้ ด้วยการเล่นเกมรุกที่สนุกสนาน พร้อมจะชนะได้ทุกทีม ขณะเดียวกันทีมก็สามารถแพ้ใครก็ได้เช่นกัน ยิงได้เยอะ แต่ก็เสียประตูเยอะ

ย่างเข้าสู่ขวบปีที่สอง...หรือฤดูกาลนี้นั่นแหละ บางกอก เอฟซี “เปี้ยนไป๋” อย่างเห็นได้ชัด โครงสร้างเดิม ๆ จากชุดแชมป์ดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพฯและปริมณฑลแทบจะถูกถอดออกหมดเลย นั่นเป็นเพราะความมุ่งมั่นของท่านประธานที่ปรึกษากิตติมาศักดิ์ ส.ส.ณัฎฐพล ทีปสุวรรณนั่นเอง

บางที “ท่านประธานตั้น” อาจจะมองว่าไหน ๆ ก็ลงมือทำทีมบอลทั้งทีแล้ว ทำได้แค่หนีตกชั้นก็ไม่รู้จะทำไปทำไมเหมือนกัน อย่ากระนั้นเลย ลองทุ่มเงิน คว้าตัวดี ๆ มาเสริมสักทีสิ บางทีกระทิงเหล็กฝูงนี้อาจจะผงาดสู่ไทยพรีเมียร์ลีกก็ได้

นั่นทำให้ดาวเตะผู้เคยผ่านเวทีไทยพรีเมียร์ลีกพาเหรดกันตบเท้าสู่ถิ่นบางมดกันเป็นทิวแถว เริ่มแบบเบา ๆ ก่อนด้วยพวกปรีชา ชาวกล้า (บียู), มานะ นพเนตร (นครปฐม), สุขสยาม ชาญมณีเวช (สมุทรสงคราม), ซาโลมง โอกูตู (บีอีซี เทโรศาสน) เป็นต้น

แต่ก็ต้องแลกกับการเดินจากไปของดาวรุ่งหลาย ๆ ดวงที่ทีมปลุกปั้นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, จาตุรงค์ พิมพ์คูณ เป็นต้น อ้อ! รวมทั้งดาวยิงต่างชาติที่ทีมฝากความหวังในการพังประตูมาโดยตลอดอย่างเอเก อึมบาห์ด้วย

การเสริมทีมในแบบ “เจ้าบุญทุ่ม” อย่างนี้...น่าแปลกที่ผลงานกลับไม่หนีไปจากฤดูกาลก่อนเท่าไหร่เลย นั่นทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้น เมื่ออ.ทองสุข ผู้ปลุกปั้นทีมตัดสินใจลาออกพร้อมกับทีมงาน

ในเวลาเดียวกันนั้น เรื่องยุ่ง ๆ ในมุ้งบิ๊กแบงที่ใครสักคนเกิดไม่สนุกกับการเล่นเกม FM อยู่แค่หน้าจอคอมหรือบนไอโฟนเท่านั้น ก็เลยทำให้ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมืองเปิดโอกาสให้ “ท่าน” ได้เล่นเกม FM บนผืนหญ้าอย่างเต็มที่ด้วยการลาออกจากตำแหน่งเฮดโค้ชบีบีซียูซะ

นั่นเป็นจังหวะที่ลงตัวของส.ส.ณัฎฐพลในการยื่นสัญญาให้อดีตศูนย์หน้าจอมตีลังกาเพื่อมารับบทมาธาดอร์ คุมทัพกระทิงฝูงนี้

“จริง ๆ แล้วบางกอก เอฟซีถือว่าเป็นทีมของคนกรุงเทพฯ ทีมนี้ตั้งอยู่ในชุมชนบางมด ซึ่งผมมองว่ายังมีอีกหลายทีมที่ยังไม่มีสนามเป็นของตัวเอง แต่บางกอก เอฟซีมีสนามเป็นของตนเอง แล้วก็เป็นแหล่งชุมชนด้วย ตัวผมก็เคยเป็นคนฝั่งธนมาก่อน แล้วสนามแห่งนี้ ผมก็เคยเล่นมาก่อน ตั้งแต่สมัยบอลนักเรียน แต่ก่อนยังไม่มีลู่วิ่งเลย มันเลยเหมือนการย้อนความทรงจำวัยเด็กของผมได้เหมือนกัน” คือเหตุผลที่ซิโก้ตัดสินใจรับงานนี้

สำหรับเป้าหมายในฤดูกาลแรกนั้น ตำนานหมายเลข 13 แห่งทีมชาติไทยบอกว่า

“ณ ขั้นต้น...ต้องบอกว่าบางกอกอยู่พื้นที่อันตราย ซึ่งผมก็ขอพาให้หนีพ้นโซนอันตรายก่อน ให้จบด้วยตัวเลขที่สวยงามถ้ามีโชคผสมผสานด้วยนะ ส่วนเรื่องลุ้นขึ้นไทยพรีเมียร์ลีกก็เป็นอีกเรื่องนึง ตอนนี้เราพยายามหนีโซนอันตรายก่อน แล้วเราก็ต้องหาตัวผู้เล่นเพิ่ม ซึ่งเราได้โจ้ ห้าหลามาเป็นตัวเป้า เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนของทีมเลย แล้วก็จะได้ชัชปภพอีกคน ตอนนี้ผมก็มองหานักเตะอีก 2-3 ตำแหน่งก็น่าจะหยุดการช็อปได้ เพราะผมต้องการให้มีนักเตะสัก 22-23 คน ไม่อยากซื้อมาเยอะ เดี๋ยวก็มานั่ง”

ศรายุทธ ชัยคำดี, ชัชปภพ อุตสาพรม คือ “บิ๊กเนม” ล็อตใหม่ที่พาเหรดเข้าสู่บางกอก เอฟซี...และโปรดติดตามความเคลื่อนไหวต่อจากนี้ให้ดี!

หลายคนจากไป หลายคนเข้ามาใหม่ แต่สำหรับเสมอภาค ศรีนนท์ มิดฟิลด์ริมเส้นแล้ว เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ไต่เต้ามาพร้อมกับทีมตั้งแต่ยังอยู่ในดิวิชัน 2 จึงมองเห็นความเปลี่ยนแปลงของทีมหลังเวลาผ่านมา 2 ปีได้อย่างชัดเจนที่สุด

“ตอนนี้ทีมเราดีขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนเป็นมืออาชีพมากขึ้น มีนักเตะใหม่เข้ามา...มันก็ช่วยให้ทีมดีขึ้น นักเตะเหล่านี้เอาประสบการณ์มาช่วยเราได้ครับ”

ซิโก้ในฐานะประธานพัฒนาเทคนิคเริ่มงานคุมลูกทีมซ้อมได้หลายมื้อแล้ว แต่ยังไม่ได้นำทัพลงแข่งขันแบบจริง ๆ จัง ๆ สักที เกมเปิดบ้านรับขอนแก่น ทีมจังหวัดบ้านเกิดนี่เองที่ถือว่าเป็นแม็ทช์แรกอย่างเป็นทางการของเขา

“วันนี้เป็นแม็ทช์แรกของผม ก็จะพยายามเก็บสามแต้มให้ได้ ผมมาเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นครับ” ซิโก้ประกาศก้องกลางสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดตอนช่วงพักครึ่ง ซึ่งมีพิธีเปิดตัวเขาต่อหน้าแฟนบอลนับพันอย่างเป็นทางการ

“พี่โก้สอนให้ทุกคนมีระเบียบวินัยมากขึ้นครับ ตั้งใจซ้อม แล้วก็ทำให้เกมเราดีขึ้น” เสมอภาคพูดถึงผู้นำฝูงกระทิงเหล็กคนใหม่

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง...ผู้กอบกู้ฝูงกระทิงเหล็ก

หลังจากห่างหายไปจากการติดตามชมบางกอก เอฟซีมาเกือบ ๆ 2 ปี วันนี้ผมได้ฤกษ์หวลคืนสู่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติบางมดอีกครั้ง

เวลา 2 ปีที่ผันผ่าน นอกจากทีมจะมีการเปลี่ยนแปลงทั้งผู้เล่นและโค้ชแล้ว กองเชียร์ก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกัน

จากรอบแชมเปียนส์ลีกเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีแฟนบอลชาว “บูลลิแกน” เข้ามาเชียร์กันหนาตาจนเกือบเต็มอัฒจันทร์ฝั่งมีหลังคา แต่กับวันนี้ จำนวนแฟนบอลเพิ่มมากขึ้นไปอีก จนมีแฟนบอลกลุ่มใหญ่ ๆ ไปรวมตัวกันเชียร์ที่อัฒจันทร์ฝั่งไม่มีหลังคาด้วย

ผมว่าบางกอก เอฟซีกำลังเดินมาถูกทางแล้วแหละ

เวลาสองปีเปลี่ยนบางกอก เอฟซีได้ซะขนาดนี้

เช่นกันกับทีมเยือน...ขอนแก่น

สองปีก่อน แม้พวกเขาจะใช้ผู้เล่นท้องถิ่นซึ่งค่อนข้างโนเนมเป็นหลัก แต่ด้วยเพราะเล่นด้วยกันมานาน “ไดโนพิฆาต” จึงโชว์ฟอร์มเปล่งประกายจนคว้ารองแชมป์ดิวิชัน 1 ได้สำเร็จและเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก

แต่กับปีนี้ พวกเขาค่อย ๆ สูญเสียดาวเด่นจากชุดนั้นไปทีละคน สองคน...

เริ่มจาก “หมีน้อย” สุรชาติ สิงห์โหง่น แบ็กขวาจอมบุกที่สะบัดก้นไปเชียงราย ยูไนเต็ดตั้งแต่ก่อนเปิดซีซัน ล่าสุดทีมต้องเสียผู้เล่นอีกล็อตใหญ่ไปพร้อม ๆ กัน ประกอบไปด้วยเริ่มรัตน์ งามเจริญ, จัตตุพล สิทธิเลาะและดาวรุ่งอย่างสกลวัชร์ สกลหล้า

“ผู้เล่นตัวหลัก ๆ ย้ายออกจากทีมไปแบบนี้...มันส่งผลอยู่แล้ว แต่ตรงนี้มันคงต้องใช้เวลา โอกาสที่เราจะกลับมาอีกครั้งมันก็มีเพราะถ้ามองในแง่ดี การที่นักเตะรุ่นพี่ย้ายออกไป มันก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้นักเตะรุ่นน้องได้แจ้งเกิด แต่การจะยืนระยะได้นั้น มันก็คงต้องใช้เวลาหน่อย” ณรงค์ ท่วมไธสงค์ โค้ชไดโนพิฆาตพูดด้วยน้ำเสียงปลง ๆ ผสมกับมีหวังเล็ก ๆ

ขอนแก่นเพิ่ง “สอบตก” จากไทยพรีเมียร์ลีกมาหมาด ๆ ก่อนเปิดฤดูกาลก็เลยอาจจะยังมีคนมองว่าเป็นตัวเต็งเลื่อนชั้นเหมือนกัน แต่ถึงวันนี้เชื่อว่า “เป้าหมาย” ของทีมคงเปลี่ยนไปแล้วแหละ

“ความหวังจริง ๆ ในตอนนี้...ผมพูดได้แค่ว่า ‘ไม่ตก’ เท่านั้นเอง จะไปคาดหวังมากกว่านี้คงลำบากเพราะตัวผู้เล่นของทีมต่าง ๆ ในดิวิชัน 1 ตอนนี้ ไม่แตกต่างจากไทยพรีเมียร์ลีกเลย ข้อเท็จจริงอย่างนึงก็คือขอนแก่นเราเป็นทีมที่เล็ก เราใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นทั้งหมด ก็ต้องใช้เวลาสร้างทีมพอสมควร ก่อนหน้านี้ที่เราโตมาจากโปรวินเชียลลีก นั่นก็ใช้เวลาตั้ง 5-6 ปีกว่าจะขึ้นมาได้ นั่นเพราะนักเตะเล่นด้วยกันมานาน ปีนี้ไม่ขึ้น แล้วปีหน้าขึ้นไหม?...ก็คงพูดลำบากอีก มันต้องใช้เวลา ต้องดูว่านักเตะจะพัฒนาได้เร็วแค่ไหน?” โค้ชณรงค์ร่ายยาว

แม้จะต้องผลัดใบ ตัวผู้เล่นเปลี่ยนไปจาก 2 ปีก่อนเยอะ แต่ “ไดโนพิฆาต” ยังยึดระบบเดิม ๆ 3-5-2 อาศัยการเปิดบอลริมเส้นของผู้เล่นวิงแบ็กทั้ง 2 ฝั่งเป็นหลัก ทางซ้ายน่ะคนหน้าเดิม ศุภกร ฆารดา แต่มาปีนี้เขาได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมด้วย ส่วนด้านขวานั้น ในเมื่อไม่มี “หมีน้อย” พิพัฒน์ พิลารักษ์จึงได้รับบทบาทนี้แทน

เซนเตอร์ฮาล์ฟ 3 คนประกอบไปด้วยวุฒิชัย พันธ์มุก, โชค สุขแก้วและหลี่ เซียง โดยมี “พี่มาร์คหน้าหล่อ” อภิสิทธิ์...เอ้ย! ปิยะวัฒน์ อินทรพิมพ์เฝ้าเสาตามเดิม

กองกลาง 3 คนมีผดุงศักดิ์ กิตติวราพลคุมเกมรับ ปล่อยให้การเดินเกมรุกเป็นหน้าที่ของกฤษดา เหมวิพัฒน์และวนัสนันท์ ถานะ

แดนหน้าเป็นการจับคู่กันของชรินทร์ บุตรฮาดและคำแพง สายวุฒิ

บางกอก เอฟซีเจ้าบ้าน ท่านประธานพัฒนาเทคนิคจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 มีลี ทัค จอมเทคนิคชาวอังกฤษที่ซิโก้เคยอยากได้นักหนา ตั้งแต่เมื่อครั้งยังคุมบีบีซียูอยู่เป็นจอมทัพ

“ตอนที่อยู่บีบีซียูก็อยากได้ลี ทัคแต่มันก็เป็นเรื่องของสัญญา บางกอก เอฟซีให้สัญญาได้ดีกว่า เราก็เลยอด แต่ในที่สุดวันนี้ก็ได้มาทำงานร่วมกันจนได้ ซึ่งลี ทัคเองก็แฮปปี้” เกียรติศักดิ์พูดถึงดาวเตะหมายเลข 9 ที่เล่นตำแหน่งหมายเลข 10 คนนี้

แนวรุกนอกจากทัคแล้ว ริมเส้นทั้ง 2 ข้างประกอบไปด้วยซามวล ควาคูทางด้านขวาและคิม บอง เซทางด้านซ้าย มีปรีชา ชาวกล้ายืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

ถอยกลับไปดูแนวรับบ้าง สิทธิโชค ทัศนัยกับซาโลมง โอกูตูทำหน้าที่ปิดทองหลังพระให้กับลี ทัค ส่วนแดนหลัง 4 คนไล่จากขวามาซ้ายประกอบไปด้วยอนุสรณ์ เอี่ยมภาษี, สุขสยาม ชาญมณีเวช, ธุวนันทิวัฒน์ ภาคภูมิและเฉลิมเกียรติ บุญเนตร

ส่วนผู้รักษาประตูใช้บริการของมานะ นพเนตรซึ่งเป็นกัปตันทีมด้วย

“เมื่อวานผมเจอนักบอลขอนแก่นแล้ว ก็คุยกับพวกเขา บอกว่าให้เล่นเต็มที่ ตอนนี้เราสวมเสื้อคนละสีก็จะไม่มีพี่ มีน้องในการแข่งขัน แต่นอกสนามทุกคนคือพี่ คือน้องกันหมด ผมเองก็มุ่งหวังให้เด็กทุกคนเป็นมืออาชีพ เวลาลงแข่งก็ขอให้เต็มที่ พี่โก้มีหน้าที่เป็นโค้ชให้บางกอก เอฟซีก็ต้องทำหน้าที่ให้ดี” ประธานพัฒนาเทคนิคชาวขอนแก่นเปิดใจถึงการต้องประเดิมเกมแรกด้วยการเจอกับทีมบ้านเกิด

นอกจากซิโก้แล้ว ยังมีชาวขอนแก่นอีกคนที่ไฟฟอลโลว์ทุกดวงต้องสาดส่องมาจับตลอดเวลา ศรายุทธ ชัยคำดีคือชื่อของเขา

เจ้าของฉายา “จ้า ห้าโหล” เอ้ย! “โจ้ ห้าหลา” ไม่ได้ลงสนามวันนี้หรอกครับ เขาแต่งไพรเวทนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ดูบางกอก เอฟซี เพื่อนร่วมทีมใหม่ลงแข่ง โดยตอนพักครึ่งจะมีการเปิดตัวอดีตดาวยิงการท่าเรือไทย, โอสถสภา, บางกอกกลาส, อาร์มี ฯลฯ คนนี้ด้วย

กองเชียร์บางกอก เอฟซีมากันแน่นขนัด

มีกองเชียร์หนาตารวมตัวที่อัฒจันทร์ฝั่งไม่มีหลังคาด้วย ไม่แน่ ถ้าทีมขึ้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกได้ อาจจะมีปรากฏการณ์ "สนามบางมดเต็ม" เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์!

เกมนี้ผมมาถึงสนามหลังที่เกมเริ่มไปแล้วประมาณ 10 นาที

แค่ 4 นาทีที่ผมย่างเท้าเข้าสู่สนาม ควาคู ปีกลมกรดของบางกอก เอฟซีอาศัยความไว แตะหลุดเข้าไปยิง น่าเสียดายที่พลาดเป้าไป แต่ก็เรียกเสียงกรี๊ดจากชาวบูลลิแกนได้ดังสนั่น

บางกอก เอฟซีครองบอลบุกได้มากกว่า แต่ยังทำอะไรแผงรับขอนแก่นได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก

ลี ทัค โดยบทบาทแล้วเป็นมิดฟิลด์ตัวรุก คอยสร้างสรรค์เกมอยู่หลังศูนย์หน้าตัวเป้า แต่หลาย ๆ ครั้ง จอมเทคนิคชาวอังกฤษคนนี้ก็โชว์ให้เห็นถึงความขยัน วิ่งลงมาไล่บอลต่ำถึงหน้าเขตโทษของตัวเอง แถมบางจังหวะยังพาบอลขึ้นมาบงการเกมรุกเองด้วย

กองเชียร์เจ้าบ้านต้องอดทนรอจน 3 นาทีสุดท้ายถึงได้เฮกันสุดเสียง จากลูกเปิดทางริมเส้นฝั่งซ้าย ควาคูโฉบเข้าโหม่งตุงตาข่ายได้สำเร็จ

บางกอก เอฟซี 1-0 ขอนแก่น

แล้วก็หมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นั้นแหละ

ควาคูพยายามดักไม่ให้คำแพงพาบอลหนี

ปรีชา (บางกอก) ดวลลูกโหม่งกับหลี่ เซียง (ขอนแก่น)

ควาคูกับคำแพงมองไปคนละทาง...แล้วบอลอยู่ไหนล่ะ?

ลี ทัคกับมาดจอมทัพแห่งบางกอก

ลีลาการโยกของเฉลิมเกียรติ แบ็กซ้ายกระทิงเหล็ก

คำแพง ศูนย์หน้าชาวลาวของขอนแก่นบังบอลไม่ให้ธุวนันทิวัฒน์เข้าถึง

แผงรับขอนแก่นทำงานกันอย่างหนัก

ช่วงพักครึ่ง ทีมเจ้าบ้านมีการเปิดตัวเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองต่อหน้าแฟนบอลของตนเองอย่างเป็นทางการ จากนั้นก็ถึงคิวเปิดตัวของดาวยิงคนใหม่ ที่จะมาเสริมคมให้กับทีมในเลกที่ 2 อย่างศรายุทธ ชัยคำดี

โจ้ ห้าหลาจะมาสวมเสื้อหมายเลข 13 หมายเลขโปรดของประธานพัฒนาเทคนิคของทีมซะด้วย

“ใส่เสื้อเลยสิ” ซิโก้ยุลูกทีมคนใหม่ คนบ้านเดียวกันให้ใส่เสื้อที่ท่านส.ส.ณัฎฐพลมอบให้

อดีตดาวซัลโวซีเกมส์สวมใส่อย่างว่าง่าย และพอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เสียงของแฟน ๆ กระทิงเหล็กก็ดังกระหึ่มขึ้นทันที

“โจ้ บางกอก ๆ ๆ ๆ”

ทำเอาดาวยิงคนใหม่ยิ้มแก้มแทบปริเลย ก่อนจะเปิดปากพูดคุยกับแฟนบอลว่า

“สวัสดีครับ ตื่นเต้นนะครับ ก่อนอื่นก็รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเกียรติจากท่านประธานสโมสรและผู้จัดการทีมหรือพี่อ๋อของเรานั่นเอง ที่สำคัญก็คือซิโก้ พี่ชายของผมเองที่ได้ดึงตัวผมมาอยู่กับครอบครัวบางกอก เอฟซี ผมมีเรื่องที่ประทับใจกับแฟนบางกอก เอฟซี เมื่อตอนเล่นให้สโมสรการท่าเรือ ตอนที่มาเยือนสนามแห่งนี้ ถึงแม้จะอยู่คนละทีม แต่มิตรภาพดี ๆ ที่แฟนบางกอก เอฟซีมอบให้วันนั้น ผมรู้สึกประทับใจ ตอนนี้เราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมก็หวังว่ามิตรภาพในวันนั้นและวันนี้จะเหมือนเดิม ทุกคนจะให้กำลังใจผม ผมสัญญาครับว่าจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อให้แฟนบอลบางกอก เอฟซีมีความสุข ทำให้ทีมประสบความสำเร็จมากที่สุด และผมสัญญาครับ...ผมจะพาบางกอก เอฟซีขึ้นไปเล่นไทยพรีเมียร์ลีกให้ได้ครับ!”

เสียงเฮจากแฟน ๆ ดังกระหึ่มอีกครั้ง พร้อม ๆ กับเสียงนกหวีดจากคุณสุรพล สว่างจิตต์ อันหมายถึงเกมครึ่งหลังเริ่มแล้ว

มิตรภาพระหว่างแฟนบอลทั้งสองทีม

เปิดตัวซิโก้ต่อหน้าแฟน ๆ กระทิงเหล็ก

โจ้ ห้าหลาทักทายแฟน ๆ

หมายเลข 13...ดาวยิงคนใหม่แห่งทุ่งบางมด

ขอนแก่นพยายามเปิดเกมรุกเพื่อเอาประตูคืนให้ได้ แค่ 5 นาทีเท่านั้น วนัสนันท์มีโอกาสยิงนอกกรอบเขตโทษ มานะรับปลิ้นนิดนึง แต่ก็แค่พอให้แฟนบอลได้เสียวเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นเอง

บางกอก เอฟซีลุยกลับทันควัน ไม่นานนัก ควาคูเปิดบอลให้ปรีชา แต่จังหวะแตะบอลหนีปิยะวัฒน์นั้นทำให้เหลือมุมแคบไปหน่อย ก็เลยยิงไม่ตรงกรอบ

ไดโนพิฆาตตัดสินใจปรับเปลี่ยนแนวรุกตั้งแต่ต้นครึ่งหลังเลย ส่ง “จอมโจ๊กเกอร์” ศราวุธ วิเชียรลงมาแทนวนัสนันท์ ถัดจากนั้นไม่นาน ซิโก้ก็เปลี่ยนบ้าง ส่งเสมอภาค ศรีนนท์ลงมาแทนปรีชา โดยให้เล่นเป็นปีกซ้าย แล้วโยกคิมไปยืนศูนย์หน้าตัวเป้าแทน

บางกอก เอฟซียิ่งเล่นยิ่งดุ สร้างความเอนเตอร์เทนให้กับแฟนบอลได้ตลอด ลี ทัคคุมแดนกลางได้ยอดเยี่ยม แล้วก็เล่นได้เข้าขากับควาคูซึ่งเร็วจัด สปีดแต่ละที คู่แข่งทำได้แค่สำลักฝุ่นเท่านั้น!

“บทบาทของลี ทัคในทีมเราคือเป็นกลางรุก แต่ก็ดันไปเล่นหน้าต่ำได้ เค้าเล่นได้ในหลายพื้นที่ ซึ่งหลังจากนี้เราจะได้โจ้มาด้วย เรามีคิม มีควาคู ทีมที่จะเจอบางกอก เอฟซีก็จะไม่รู้ปิดใคร ปิดซ้ายก็ลำบาก ปิดขวาก็ลำบาก ปิดหน้าก็ลำบาก ผมกำลังทำบางกอก เอฟซีให้เล่นสนุก ถ้าทุกคนมาดูบอลแล้วสนุกก็คงอยากมาดูบางกอกเรื่อย ๆ” ซิโก้เปิดเผย

นาทีที่ 59 ทัคโยนให้ควาคูจับบอลลงแล้วล็อคเข้าซ้าย น่าเสียดายที่ยิงเฉียดเสาออกไป

5 นาทีต่อมา ทัคกับควาคูแผงฤทธิ์อีกแล้ว บอลเริ่มที่ทัคตรงกลาง ก่อนจะถ่ายออกทางขวาให้ควาคู ก่อนที่จะตบไปเสาสองให้เสมอภาค ตัวสำรองยิงเข้าประตูไป

บางกอก เอฟซีนำ 2-0 แล้ว!

“บอลผ่านมาจากด้านขวา แล้วผมก็วิ่งเข้าแป ดีใจมากครับ เป็นประตูแรกที่ผมยิงได้ในบ้านตัวเอง” ผู้ทำประตูที่ 2 เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

1 ลูก 2 ลูกก็ยังไม่พอ นาที 72 กระทิงเหล็กก็ทะยานห่างเป็น 3-0

จากลูกบอมบ์มาหน้าประตู มาร์ค จอมหนึบของทีมเยือนทุบบอลไม่ขาด ลูกปลิ้นไปหาคิม และดาวเตะชาวเกาหลีก็จัดการซัดเข้าประตูไป

นำห่างแบบนี้ ซิโก้ก็ยังสั่งให้ลูกทีมลุยต่อ นาทีที่ 76 จากลูกที่หลี่ เซียง ปราการหลังไดโนพิฆาตเข้าบอลน่าหวาดเสียวใส่นักเตะเจ้าถิ่น แต่กลับไม่มีเสียงอะไรดังออกมาจากปากผู้ตัดสิน ควาคูก็เลยเล่นต่อ โยนให้ทัคจับบอลแล้วก็ยิง ลูกหนังพุ่งเฉียดเสาไปแบบน่าได้สุด ๆ

ขอนแก่นปรับทัพ 2 คนในเวลาใกล้ ๆ กัน ส่งกัลยา สายสมหวังลงมาแทนกฤษดาในนาทีที่ 77 ตามมาด้วยอมาดู ทิดจานีที่ลงมาแทนชรินทร์ในนาทีที่ 79

ส่วนเจ้าบ้านนั้น ซิโก้ส่งนพดล วงศ์จันทร์ลงมาแทนคิมในนาทีที่ 81

ช่วงท้ายเกมยังคงความมันอยู่ไม่คลาย ทิดจานีของทีมเยือนได้ยิง ลูกพุ่งจนน่าจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่มานะเซฟได้อย่างยอดเยี่ยมในนาทีที่ 87

ถัดมานาทีเดียว ทัคได้ดวลเดี่ยวกับปิยะวัฒน์ แต่กลับทำได้น่าผิดหวังเมื่อส่งลูกเหิรข้ามคานไป

ช่วงทดเวลาเจ็บ ซิโก้เรียกจอมเทคนิคชาวอังกฤษให้ออกมานั่งพัก พร้อมกับส่งสายันต์ เพ็งพันธ์ลงไปเล่นแทน

4 นาทีของการทดเวลาบาดเจ็บ ไม่มีฝ่ายไหนยิงเพิ่มได้อีก ทั้ง ๆ ที่ต่างก็มีโอกาสใส่สกอร์ได้เหมือนกัน จบเกมบางกอก เอฟซีจึงเอาชนะขอนแก่นไปขาดลอย 3-0

จังหวะนี้ปรีชาโยกหนีมากไป เลยยิงเข้าด้านข้าง

เสมอภาคเปลี่ยนตัวลงไปแทนปรีชา แล้วก็กดลูกที่ 2 ซะ

ลีลาการกระชากของควาคู

ลูกนี้ควาคูหักมากไปนิด เลยหลุดกรอบไป

ปิยะวัฒน์ชกบอลไม่ขาด บอลเลยไหลไปถึงคิม บอง เซ แล้วก็เป็นประตูที่ 3

3-0 คือผลงานการคุมทัพนัดแรกของซิโก้

“ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ความแข็งแกร่ง การตัดสินใจเล่นบอลจังหวะแรกถ้าเทียบกับทีมบางกอก แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง วันนี้เราต้องคอยแก้เกมจากความผิดพลาดของตนเองตลอด เช่น จังหวะแรกที่ทำไม่ดี ทำให้คู่ต่อสู้เล่นง่าย เราเลยต้องไล่ตลอด แล้วก็ยังมีความผิดพลาดในแดนสุดท้ายอีก นอกจากนี้การโต้กลับของเราก็ทำได้ไม่ดีพอ” ณรงค์ ท่วมไธสงค์ โค้ชขอนแก่นเปิดใจ

ในขณะที่ฝั่งผู้ชนะ เสมอภาค ศรีนนท์ ผู้ทำประตูที่ 2 บอกว่า “เป็นเกมที่ดีครับ สนุก ทุกคนในทีมช่วยกันเล่น ทำให้เราเก็บสามแต้มได้”

ส่วนความเห็นหลังเกมของเกียรติศักดิ์ เสนาเมืองนั้น กว่าผมจะได้มาต้องใช้เวลาพอสมควรทีเดียว เนื่องจากปรากฏการณ์ “ซิโก้ฟีเวอร์” เริ่มระบาดขึ้นในถิ่นบางมดแล้ว แฟน ๆ พากันเข้ามาขอลายเซ็น ขอถ่ายรูปด้วยกันยกใหญ่ ((((((((--))))))))

จากนั้นก็โดนพาไปทักทายกับแฟนบอลที่อัฒจันทร์ฝั่งไม่มีหลังคาอีก ระหว่างรอพูดคุยกับประธานพัฒนาเทคนิคของทัพกระทิงเหล็ก ผมก็เลยได้เจอคนหน้าคุ้น ๆ

“เฮ้! คุ้น ๆ หน้านะนี่” ต่างก็แซวอีกฝ่ายด้วยก็อปปี้เดียวกัน ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ บียา อดีตเจ้าหน้าที่ทีมของบีบีซียูนั่นเอง หนีตามพี่โก้มาอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกันแฮะ

“ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่ดี แต่ยังต้องมีจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอยู่บ้าง วันนี้ขอนแก่นก็เล่นได้ดีนะครับ แต่เราเล่นได้ดีกว่าเท่านั้นเอง” ซิโก้ให้คอมเมนท์ ก่อนที่จะปลีกตัวไปถ่ายรูปกับแฟน ๆ อีกกลุ่มใหญ่ ๆ

ไม่แน่ใจว่าอีกจุดนึงของสนาม โจ้ ห้าหลาจะต้องรับบทหนักอย่างซิโก้รึป่าว? เพราะผมไม่ได้สังเกต

แต่ที่แน่ ๆ นัดแรกของเลกสอง ปรากฏการณ์ “โจ้ ฟีเวอร์” น่าจะระบาดหนักไม่แพ้ “ซิโก้ ฟีเวอร์” ในวันนี้แน่นอน

ซิโก้เดินไปทักทายกับชาวบูลลิแกนฝั่งไม่มีหลังคา

ปรากฏการณ์ "ซิโก้ ฟีเวอร์"

ลี ทัคก็เป็นขวัญใจของแฟน ๆ เหมือนกัน

นาน ๆ มาดูบางกอก เอฟซีครั้งนึง ทุกครั้งสร้างความประทับใจให้กับผมได้เสมอ แล้วจะคอยแวะเวียนมาเรื่อย ๆ นะครับ...ถ้าแข่งไม่ชนกับจามจุรี ยูไนเต็ด

แต่ต้นปีหน้า คอนโดที่ผมซื้อไว้แถว ๆ งามวงศ์วานก็จะเสร็จแล้ว และผมคงย้ายไปอยู่ที่นั่น...ถ้าถึงวันนั้น ก็ไม่แน่ใจว่าจะได้มาดูกระทิงเหล็กฝูงนี้อีกเมื่อไหร่?

บางทีอาจจะต้องรออีก 2 ปีต่อไป (เท่ากับการเว้นวรรคในครั้งนี้)...

บางกอกใน 2 ปีถัดไป...คงได้ต้อนรับยักษ์ใหญ่อย่างบุรีรัมย์, เอสซีจี, ชลบุรี ฯลฯ แล้วมั้ง?

Create Date : 12 กรกฎาคม 2555
Last Update : 12 กรกฎาคม 2555 2:21:50 น.		0 comments
Counter : 2676 Pageviews.
Share Tweet