Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
8 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
ปีหนึ่งเพื่อนกันและวันอัศจรรย์ของผม

ฟุตบอลมวก.นนทบุรีคัพ รอบแรก
7 ก.ค.55 สนามน้ำแก้จน
สวนกุหลาบ 2-1 สวนกุหลาบ นนทบุรี


ตอนที่เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 5 ซึ่งมีอาจารย์ที่ปรึกษาชื่ออ.บุญตาสอนวิชาสังคมและอ.อภิรดีสอนวิชาวิทยาศาสตร์นั้น

ห้องเรียนของผมมีเพื่อนใหม่มาจากต่างจังหวัด 2 คน นิเวศ แดงเพลิงจากสระบุรีและสุทธิ วัชรฤทธิ์จากสงขลา

ทั้งสองเข้ามาเรียนที่โรงเรียนสวนกุหลาบในโควต้าของนักบอล โดยจะมาเล่นฟุตบอลโค้กคัพ (อายุไม่เกิน 15 ปี) โดยเฉพาะ '-)

ทีมโค้กคัพชมพู-ฟ้าสตาร์ททัวร์นาเมนท์ได้สวยหรู ต้อนสตรีวิทยา 2 ไป 9-0 แต่น่าเสียดายที่บทจบกลับไม่สวยหรูดังคิด

วันคริสต์มาสของปี 33 สวนกุหลาบพ่ายโรงเรียนวัดรางบัวด้วยการดวลจุดโทษในรอบควอเตอร์ไฟนอล ฟุตบอลโค้กคัพ รอบคัดเลือกเขตกทม.

นอกจากจะป้องกันแชมป์ไม่สำเร็จแล้ว ยังอดไปแข่งขันรอบสุดท้ายอีกด้วย (! _ !)

แชมป์โค้กคัพ (รอบสุดท้าย) ในปีนั้นคือจ.นครสวรรค์ที่มีแนวรุกจัดจ้านเป็นที่สุด เจษฎาภรณ์ จันทร์สุวงษ์ (หมายเลข 10) กระชากทางขวา ธีระยุทธ จรัญญานนท์ (11) เลื้อยทางซ้าย ผมประทับใจลีลาการเล่นของหมอนี่เป็นพิเศษ (^-’)b

ส่วนคู่หน้านั้นได้แก่นพรัตน์ บัวทิม (8) และชัยภูมิ น้อยม่วง (9) สองคนนี้ต่อมาได้ย้ายมาเรียนต่อที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน

แผงหลังคุมทัพโดยรักพงษ์ แก้วแท้ (5) ซึ่งตัวใหญ่มาก (ต่อมาได้รับสายเลือดม่วง-ทองเช่นกัน) เมื่อประสานกำลังกับกัปตันทีมอย่างประดิษฐ์ อินธนู (4) แล้ว ยากที่กองหน้าทีมไหนจะผ่านง่าย ๆ

นครสวรรค์ชนะร้อยเอ็ดได้ในนัดชิง โดยทีมจาก “เมืองเกินร้อย” มีดาวเด่นเล่นตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ...ทวิช ทีสระคูคือนามกรของเขา

และผมไม่ต้องบอกนะว่า กาลต่อมาเขาได้ย้ายมาสู่รั้วชงโค

โค้กคัพเปรียบเสมือนซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีแต่ “ของแบรนด์เนม” นักเตะฝีเท้าดี ๆ ให้โรงเรียนต่าง ๆ ในกรุงเทพฯมาจับจ่ายอย่างเมามันเลยในสมัยนั้น

ผมกำลังจะเข้าเรื่องแระนะ เพราะคนที่ผมจะพูดถึงก็คือนักเตะพรสวรรค์สูงที่สวนกุหลาบได้ตัวมาจากโค้กคัพครั้งนั้น

เรื่องมันมีอยู่ว่า...

สงขลาเป็นอีกหนึ่งทีมที่โชว์ฟอร์มได้ดี เข้ารอบลึก ๆ ได้ ผมจำไม่ได้ว่าสุดท้ายเข้าถึงรอบไหน :-p เอาเป็นว่าก่อนแข่งรอบไหนสักรอบ สุทธิ...ก็ไอ้นักบอลโค้กคัพจากจ.สงขลาในห้อง ม.3/5 ห้องเดียวกับผมนั่นแหละ เดินมาหาผมที่หลังห้อง

มาถึงก็ยืมหนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวันของผมไปอ่าน

มันเพ่งรูปทีมสงขลาในคอลัมน์พรีวิวก่อนแข่ง (ก็บทความประเภทวิเคราะห์วิจารณ์นั่นแหละ) สักพักก็เงยหน้ามาบอกผม พร้อมกับชี้นิ้วไปที่นักบอลคนนึงในรูป

“ไอ้จ้อน เพื่อนกูเอง ปีหน้าจะมาเรียนที่สวนกุหลาบ”

นักบอลที่ปลายนิ้วชี้ของสุทธินั้น รูปร่างหนา หน้าตากวนไม่ใช่เล่น

เขามีชื่อจริงว่า “จีรพงษ์ เพชรโชติ”

ซึ่งโชว์ฟอร์มในทัวร์นาเมนท์นั้นได้โดดเด่นเลยแหละ

จีรพงษ์หรือจ้อนเข้ามาเรียนชั้น ม.4 ห้อง 16 ในปีการศึกษาต่อมาจริง ๆ แล้วก็พาทีมสวนกุหลาบเข้าชิงบอล 16 ปีกรมพละประเภท ก กับกรุงเทพคริสเตียนได้ในปีแรก

ปีต่อมา เขาคือกำลังสำคัญของทีม 18 ปีที่ได้แชมป์กรมพละเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทีมชมพู-ฟ้าจะห่างหายจากบัลลังก์แชมป์ไปถึง 17 ปี จนมาถึงยุค “เนวินส์ เบ๊บส์” นั่นแหละ

น่าเสียดายที่ตอน ม.6 จ้อนไม่สามารถพาทีมคว้าแชมป์จตุรมิตรมาครองได้เพราะดันพลาดท่าพ่ายอัสสัมชัญในรอบชิงแบบสุดช็อก (! _ !)

ซึ่งนัดนี้ อ.สุรินทร์ เข็มเงิน อดีตโค้ชผู้ยิ่งใหญ่ของชาวชมพู-ฟ้ายกให้เป็นแม็ทช์ที่น่าผิดหวังที่สุดในการคุมทีม จากการสัมภาษณ์ลงหนังสือที่ระลึกในวาระที่ท่านเกษียณด้วย

“เราบุกตลอด แต่ยิงไม่เข้า ขนาดไอ้จ้อนหลุดเดี่ยวไปแล้ว เหลือกองหลังอัสสัมชัญอยู่ตัวเดียว สวนฯขึ้นไปช่วยทั้งซ้ายขวา แต่มันไม่ส่ง ความตั้งใจที่จะทำเอง แต่ยิงไม่เข้า เกมนี้เค้าบุกขึ้นมาครั้งเดียวได้ประตู เลยแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย...”




ภาพในปัจจุบันของจีรพงษ์ เพชรโชติ อดีตนักเตะพรสวรรค์สูงของสวนกุหลาบ


ฝีเท้าที่โดดเด่น พรสวรรค์ที่เหลือเฟือ บวกกับดีกรีการติดทีมนักเรียนไทย พอจบ ม.6 อัจฉริยะลูกหนังชาวสงขลาคนนี้ก็เลยติดโครงการนักกีฬาช้างเผือกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแบบไม่ยากเย็น

ยอมรับว่าตลอด 3 ปีที่เรียนมัธยมปลาย ผมกับจ้อนไม่เคยได้คุยกันเลย ด้วยเพราะอยู่คนละห้อง แต่ก็เคยปะหน้าปะตากันอยู่บ้างเหมือนกัน

มาได้คุยกันครั้งแรกตอนเรียนปีหนึ่งที่จุฬาฯนี่เอง

ที่สนามแข่งเซปัค ตะกร้อ ในศึกกีฬาเฟรชชี่

ผมอาจจะเป็นหมายเลข 3 ของรุ่น (ที่นิเทศฯ) ในเรื่องฟุตบอล (ซึ่งมีผู้ชาย 19 คน และ 19 คนนี้ก็...เอ่อ...มีแบบไม่ใช่ชายแท้ซะ 5 คนหรือมากกว่านั้นตามกาลเวลาและการเผยตัว)

แต่กับตะกร้อแล้ว ฝีเท้าของผมมาเป็นอันดับ 4 ก็เลยต้องเป็นตัวสำรองตามระเบียบ

คณะของผมโคจรมาเจอคณะครุศาสตร์ซึ่งมีจีรพงษ์ เพชรโชตินำทัพ

ผมทักทายจ้อนตามประสาเด็กสวนฯเล็กน้อยก่อนเกม

เซ็ทแรกเป็นไปตามคาด...ครุศาสตร์ชนะไปขาดลอย

ไหน ๆ ก็จะแพ้แล้ว ผมก็เลยได้เปลี่ยนตัวลงมาสัมผัสเกมในเซ็ทที่สองบ้าง

ใครจะไปเชื่อว่านิเทศฯจะเอาชนะได้ในเซ็ทนี้!

ผมคือตัวแก้เกมชั้นเยี่ยมหรอ?

ไม่หรอก

จ้อนจงใจเล่นดึง ๆ ปล่อย ๆ แต้ม ให้ เพื่อจะได้เล่นเซ็ทที่ 3 ให้สนุกเท้าอีกเซ็ทนึงต่างหาก

และเซ็ทสุดท้ายนั่นแหละที่นักบอลเบสิคดีจากแดนใต้โชว์ฟอร์มแบบเต็มที่ แถมยังหยอกผมซะแรง เสิร์ฟจี้ผมตลอดและเอาชนะไปแบบง่าย ๆ

“เชี้ยจริง ๆ” ผมชื่นชมเพื่อนร่วมโรงเรียนด้วยรอยยิ้มแบบนั้น 555 ^-^

จีรพงษ์ เพชรโชติเป็นชื่อที่ตามหลอกหลอนคณะของผมอีกครั้ง ในปีต่อมา

คราวนี้เป็นบอลคณะ

ด้วยความที่มีนักบอลมหา’ลัยเพียบ ครั้นจะให้ลงได้หมด ครุศาสตร์ก็คงได้แชมป์แบบสบาย ๆ

ฟุตบอลรายการนี้ก็เลยจำกัดนักบอลมหา’ลัย, นักบอลโครงการช้างเผือกให้ลงได้แค่คณะละ 3 คน

พอเป็นแบบนี้ นักฟุตบอลที่เรียนครุฯก็จะมีหลายคนที่ไม่ได้เล่นในรายการนี้ ก็เลยมีกฎออกมาอีกว่าทุกคณะสามารถดึงตัวนักบอลมหา’ลัยจากครุฯไปช่วยทีมได้

จ้อนก็เลยถูกยืมตัวไปเล่นให้ศิลปกรรมศาสตร์...ซึ่งโคจรมาเจอนิเทศฯที่ทำหยิ่งใช้เด็กในคณะล้วน ๆ ลงเล่น (แค่นี้ก็แย่งกันลงตัวจริงจะแย่อยู่แล้ว 555)

เป็นเกมที่สูสีกันมากและเสมอกันอยู่ 2-2 จนมาถึงนาทีสุดท้าย

แกสซ่าเมืองไทย (ผมเพิ่งจำฉายานี้ได้แฮะ...หมายถึงจ้อน จีรพงษ์นั่นแหละ ด้วยรูปร่างท้วม ๆ เทคนิคสูง ๆ สื่อก็เลยตั้งฉายาให้แบบนี้) ได้บอลอยู่นอกเขตโทษ ผมขยับเข้าหามันช้าไปนิดเดียว วินาทีนั้นมันก็เลยตัดสินใจปั่นโค้งทันที

ลูกโค้งพุ่งเข้าเสียบมุมอย่างงดงาม ต่อให้นิเทศฯเรายืมตัวอาทิตย์ ธนูศร ผู้รักษาประตูมือ 1 ของจุฬาฯยุคนั้นมายืนเฝ้าเสาก็ยังจะหยุดไม่อยู่เลยมั้ง

“สินกำ” ก็เลยชนะนิเทศฯไป 3-2

“เชี้ยจริง ๆ” ผมทักจ้อนด้วยรอยยิ้มแบบเดิมอีกครั้งหลังเกม ^-^

หลังจากนั้น ผมก็ไม่มีโอกาสได้เจอกับนักฟุตบอลพรสวรรค์สูง (แต่อวบไปนิด) คนนี้อีกเลย

ได้ข่าวของเขาทีไรก็จะแบบว่า

“เสียหุ่นนักบอลหมดแล้ว”

“อ้วนขึ้นเยอะ”

อะไรแนว ๆ นี้

จากบทสัมภาษณ์ของอ.สุรินทร์อีกเช่นกัน ท่านพูดถึงดาวเตะชาวสงขลาคนนี้ว่า “พูดถึงไอ้จ้อนแล้วครูเสียดายความสามารถของมันน่ะ ครูมองว่ามันเป็นนักบอลที่มีทักษะดี เห็นมันอ้วน ๆ แต่กลับตัวเร็ว ยิงบอลดี แต่มันลงเร็วมากด้วยเพราะขาดความมีวินัยในตัวเอง ความจริงน่าจะไปได้ไกลกว่านี้”




เด็ก ๆ สวนกุหลาบ รุ่น 16 ปี วอร์มกันอย่างขะมักเขม้น

สิทธิโชค กันหนู "ขอพักเหนื่อยดื่มน้ำหน่อยนะคร๊าบ"


ผมได้เจอกับจีรพงษ์อีกครั้งในศึกฟุตบอลมวก.นนทบุรีคัพ ประเภทเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปี รอบแรก ซึ่งสวนกุหลาบโคจรมาพบกับสวนกุหลาบ นนทบุรีที่สนามน้ำแก้จนนี่แหละ

จ้อนไม่ได้ตัวใหญ่มากอย่างที่คิดหรือได้ยินมา แต่ก็ท้วมกว่าสมัยเรียนอยู่เหมือนกัน

“ตอนนี้ก็มาเป็นโค้ชอยู่สวนกุหลาบนี่แหละ พักอยู่ที่หอพักนักกีฬาของโรงเรียนเลย มีสมาคมศิษย์เก่าสวนกุหลาบฯจ่ายเงินเดือนให้” อดีตนักเตะพรสวรรค์สูงชาวสงขลาบอก หลังจากที่โบกมือทักทายผม หลังจากเราสบตากันแวบนึง หลังจากที่มันเรียกนักบอลมารวมพลังกันก่อนลงสนาม

(แล้วผมจะเล่าเหตุการณ์ย้อนหลังไปเรื่อย ๆ แบบ Memento ทำไมนี่? :-p)

จีรพงษ์มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยโค้ชในทีม 16 ปีของสวนกุหลาบ ในขณะที่เฮดโค้ชนั้นคือนิวัติ ศรพรหม OSK103 อดีตดาวซัลโวฝีเท้าเยี่ยม เจ้าของตำแหน่งนักฟุตบอลยอดเยี่ยมรุ่น 18 ปี รายการกองทัพอากาศเมื่อปี 2527 ซึ่งทัวร์นาเมนท์นั้นเขากดแฮททริกได้ถึง 3 ครั้ง 3 ครา

“ผมได้มาอยู่กับเด็ก ๆ ชุดนี้มาประมาณ 2 เดือนเท่านั้นเอง ก็มาปรับรูปเกมให้ คือ...เด็ก ๆ ของเราอาจจะติดรูปเกมแบบนึงจากที่อื่น จากโค้ชคนอื่น เราก็มาแก้เขาให้เล่นในแบบของเรา แต่ก็ยอมรับว่ายังเปลี่ยนวิธีคิดของเด็ก ๆ ไม่ได้ พวกเขายังเล่นเป็นตัวเองอยู่ ก็ต้องใช้เวลา” พี่นิวัติพูดถึงทีมที่เขาดูแลอยู่

ฟุตบอลมวก.นนทบุรีคัพในนัดแรก สวนกุหลาบเอาชนะมัธยมวัดเบญจมบพิตรมา 4-0 ส่วนสวนกุหลาบ นนทบุรีพลาดท่าถูกมัธยมวัดเบญฯเชือด 0-1

วันนี้ “สวนฯใหญ่” แค่เสมอก็เข้ารอบแล้ว ในขณะที่ “สวนนนท์” ต้องเอาชนะให้ได้สถานเดียวเพื่อมาลุ้นจับสลากเข้ารอบเอา

“วันที่เจอวัดเบญฯเป็นเกมที่เราบุกแทบจะฝ่ายเดียวเลย มีโอกาสทำได้ 4-5 ลูกด้วย แต่ทำไม่ได้ สุดท้ายโดนโต้กลับมาก็เสียประตูเลย” วีระพันธ์ ไชยทิพย์ เฮดโค้ชสวนนนท์เล่า

สวนนนท์วันนี้มาในระบบ 4-4-2 มีเสกสรร ไชยงามเป็นผู้รักษาประตู

แผงแบ็กโฟร์จากขวามาซ้ายประกอบไปด้วยวัฒนพงศ์ มหุวรรย์, สรวิศ สุขบันเทิง (กัปตันทีม), รพีพัฒน์ พุ่มพวงและปพนพัชร์ ไชยนิตย์

แดนกลางคุมทัพโดยกฤตภาส เรืองขจรและปฏิภาณ รุ่งจันเหนือ ริมเส้นขวา-ซ้ายใช้บริการของสิรภพ สุวนิชากุลและธนบูรณ์ จิตจงตามลำดับ

คู่สังหารในแดนหน้าประกอบไปด้วยภูมิพัฒน์ อิศรางกูร ณ อยุธยากับสันติสุข สุทธวงค์

ส่วนฝั่ง “สวนฯใหญ่” แม้จะเสมอก็เข้ารอบแล้ว แต่ “โค้ชจ้อน” สั่งให้ลูกทีมชนะ 4-0 มาให้ได้ น้อยกว่านั้นถือว่า “แพ้”!

“เราอยากกระตุ้นเด็ก ๆ ให้ทำผลงานให้เต็มที่ คือเราเจอคู่แข่งที่แพ้ทีมที่เราถล่มมา 4-0 ด้วย ก็เลยอยากให้ได้ผลการแข่งขันออกมาแบบเดียวกัน”

แม้ฟุตบอลจะไม่ใช่บัญญัติไตรยางศ์ แต่นี่อาจจะเป็นจิตวิทยาที่ดี ที่ช่วยกระตุ้นความกระหายในเกมการแข่งขันให้กับเด็ก ๆ ชุดนี้ก็เป็นได้

สิบเอ็ดตัวแรกของสวนกุหลาบในระบบ 4-4-2 ประกอบไปด้วย อนิรุต นัยนาในตำแหน่งผู้รักษาประตู

แผงหลังประกอบไปด้วยแบ็กขวา-ชินวัตร อุบลอ่อน, แบ็กซ้าย-กฤษณศักดิ์ ชื่นบัวอินทร์ คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ ณัฐวิชย์ รุ่งโรจน์กิจประสานงานกับธีรภัทร แก้วกัลยา

แดนกลางประกอบไปด้วยกิตติพงษ์ ศิริแสง ดีกรีทีมชาติชุด U-16 คุมทัพร่วมกับอนาวิน พิมพ์นอก มีกฤตทัย มรรธโกษะกระชากด้านขวาและจิรวุฒิ สายอยู่เลื้อยด้านซ้าย

แดนหน้าเป็นการจับคู่กันของสิทธิโชค กันหนู (กัปตันทีม) และธัชนนท์ นคราวงศ์




สวนกุหลาบ นนทบุรีมาในชุดเยือนเสื้อขาว ดูเก๋ไปอีกแบบ

นักเตะทั้งสองทีมเดินลงสู่สนาม

นักเตะทั้งสองทีมทักทายกันก่อนเริ่มเกม

การเจอกันของโรงเรียนในเครือ สวนฯใหญ่ก็เลยมีดอกกุหลาบมาฝากโรงเรียนน้องซะหน่อย

บูมสวนดังกระหึ่มก่อนเริ่มเกม


วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน แดดดีทีเดียว แต่เด็ก ๆ ชมพู-ฟ้าทั้งสองทีม (สวนนนท์เลี่ยงไปใส่เสื้อสีขาว) ก็ไม่มีกลัวแสงแดด ต่อบอลเข้าสู้กันอย่างหนุกหนาน

โอกาสยิงประตูครั้งแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 7 และแน่นอนว่าต้องให้เกียรติแก่ทีมพี่ก่อน “โมสต์” จิรวุฒิกระชากขึ้นไปทางซ้ายก่อนจะเปิดให้ “ค็อปเตอร์” ธัชนนท์ได้ยิง แต่ก็เหิรข้ามคานไป

5 นาทีถัดมา กัปตันทีมของสวนนนท์มารับใบเหลืองเป็นคนแรก จากการตัดเกมคู่แข่งในจังหวะกระชากหนี

“เลี้ยงจี้คนที่ได้ใบเหลืองไปเลย เค้าไม่กล้าฟาวล์แล้ว” จีรพงษ์ซึ่งยืนกำกับเกมข้างสนามตลอดสั่งลูกทีมแบบนั้น

ในขณะที่เฮดโค้ชอย่างนิวัติจะคอยตะโกนสั่งการจากในม้านั่งสำรองซะมากกว่า

เกมไม่ค่อยมีใครได้เปรียบเสียเปรียบกันมากนัก สวนกุหลาบขึ้นเกมทางโมสต์ด้านซ้ายเป็นหลัก แต่เอาเข้าจริง บอลกลับไปไม่ค่อยถึงไอซ์ สิทธิโชค ดาวยิงดีกรีทีมชาติไทยชุด U-16 ซะเท่าไหร่

ในขณะที่สวนนนท์อาศัยจังหวะโต้กลับ โดยห้อยสันติสุขเก็บบอลแดนหน้าคนเดียว

ผ่านครึ่งชั่วโมงไปเล็กน้อย สวนกุหลาบมีการปรับตำแหน่งกันเล็กน้อย ถอยค็อปเตอร์ลงไปยืนตำแหน่งถนัดในแดนกลาง แล้วดัน “อั๋น” อนาวินขึ้นมายืนคู่กับไอซ์แทน นอกจากนี้ นิวัติยังสั่งตัวสำรองออกไปวอร์มกันหมดทุกคนเพื่อให้พร้อมสำหรับการปรับเปลี่ยนเกมในครึ่งหลังด้วย

ท้ายครึ่งแรก วัฒนพงศ์ แบ็กขวาสวนนนท์มารับใบเหลืองไปเป็นคนที่ 2

40 นาทีแรกจบลงโดยที่ทั้งสองทีมยังยิงประตูกันไม่ได้ เสมอกันอยู่จืด ๆ 0-0




โมสต์ ปีกซ้ายสวนกุหลาบพยายามเข้าแย่งบอล

ไอซ์รับบทบาทกัปตันทีมชุดนี้

โค้ชจ้อนแนะนำเทคนิคให้ปอนด์ ดาวเตะทีมชาติไทยชุด U-16

ลูกฟรีคิกของสวนกุหลาบทำเอาแผงรับสวนนนท์ต้องหันหลังประสานพลังกันทีเดียว

แม้จะเป็นโรงเรียนเครือเดียวกัน แต่ก็บู๊กันดุเดือด


นิวัติในฐานะเฮดโค้ชของสวนกุหลาบแก้เกมให้ลูกทีมก่อน แล้วตบท้ายว่า

“ครึ่งแรกจบแล้ว...จบไป ครึ่งหลังหายใจลึก ๆ ลงไปเล่น ตั้งใจ เล่นตามแพทเทิร์นเดิมของเราต่อ”

จากนั้นก็เรียกจีรพงษ์มาติวเสริมในบางจุดต่อ

โค้ชจ้อนจี้จุดอ่อนในครึ่งแรกให้ลูกทีมเป็นจุด ๆ ไป ก่อนจะใช้ไม้แข็งกระตุ้นลูกทีมปิดท้าย

“ยัง 0-0 อยู่ ถือว่าเราแพ้นะ เราชนะ 1 ลูก 2 ลูกก็เสียแล้วนะ ส่วนเค้าชนะ 1-0 คุยไปได้ตลอดเลย แล้วถ้าเค้าชนะ เค้าจะกลายเป็นสวนฯใหญ่ไปเลย ส่วนเราจะเป็นแค่เพียงสวนฯเล็ก ทำอะไร คิดถึงโรงเรียนให้เยอะ ๆ เล่นให้เหมือนกับกินข้าวหม้อเดียวกันหน่อย”

จากนั้นก็มีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นใน 2 ตำแหน่ง ส่ง “โมสต์” สัณหรัช จักษุวิจิตรกรกับสิชล จันทร์ดีลงไปแทนธัชนนท์และ “โมสต์” จิรวุฒิ...แท็กติกนี้น่าจะเรียกว่า “2 โมสต์อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้”

นิวัติส่งโมสต์คนที่ลงไปใหม่ยืนศูนย์หน้าแทนค็อปเตอร์ที่ถูกถอดออก ส่วนสิชลนั้นให้ยืนกลางคู่กับปอนด์ กิตติพงษ์ นักเตะทีมชาติ U-16 โยกอั๋น อนาวินไปเล่นกราบขวา แล้วย้ายอิ๊กคิว กฤตทัยมาลากด้านซ้ายแทน โอย! วุ่นวายไปหมด




การแก้เกมของโค้ชนิวัติ

โค้ชจ้อนแนะนำแท็กติกแก่น้อง ๆ


เกมครึ่งหลังของสวนกุหลาบดูดีกว่าครึ่งแรกเยอะ จากที่ครึ่งแรกขึ้นเกมทางซ้ายเป็นหลัก ก็หันมาขึ้นทางขวา ทางอนาวิน ที่ไม่ใช่จูจีนดูบ้าง ซึ่งอั๋นก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีเลยแหละ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่านี่คือตำแหน่งถนัดที่สุดของจอมพลิ้วหมายเลข 8 คนนี้ก็ได้...ไม่ใช่ตรงกลางสนามอย่างที่เล่นในครึ่งแรก

เปิดฉากมาแค่นาทีเดียว “สวนฯใหญ่” ได้ลุ้นก่อน ชินวัตรดันขึ้นมาจากแบ็กขวา ลองกดไกลดู แต่ก็ไม่ตรงกรอบ

นาที 46 ไอซ์ สิทธิโชคได้แผลงฤทธิ์ กระชากหนีเสกสรร ผู้รักษาประตูสวนนนท์ไปได้แล้ว ก็เลยโดนรวบล้มในเขตโทษ

ผู้ตัดสินเป่าปรี๊ด เป็นจุดโทษทันที พร้อมกับมอบของสมนาคุณสีเหลือง ๆ ให้จอมหนึบสวนนนท์ด้วย

กันหนูคนน้องหยิบลูกหนังมาวางที่จุด แล้วก็ส่งเข้าไปตุงตาข่ายอย่างเลือดเย็น

สวนกุหลาบขึ้นนำแล้ว 1-0

ท้องฟ้าในครึ่งหลังเริ่มมืดครึ้มลงอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เพราะเย็นย่ำค่ำสนธยาหรอก แต่เป็นเพราะเมฆฝนที่เริ่มเคลื่อนตัวเข้ามาปกคลุม เฉกเช่นในสนามที่สวนฯใหญ่ปูพรม เปิดเกมรุกเข้าใส่ทีมน้องเป็นระยะ ๆ แต่ก็ยังยิงลูกที่ 2 ไม่ได้ซะที

ต้องรอจน 4 นาทีสุดท้ายโน่นแหละที่ไอซ์ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับเสกสรร ก่อนที่จะเดาะบอลข้ามผู้รักษาประตูสวนนนท์ได้อย่างเหมาะเหม็ง

สวนฯใหญ่นำ 2-0 แล้ว

“ลูกที่สองพอเข้าไป มันก็ทำให้คลายความเครียดไปได้ ก็ดีใจครับที่ยิงได้” สิทธิโชคพูดถึงประตูที่สองของตนเอง

“ลูกนี้มันต้องเข้า ด้วยมาตรฐานระดับศูนย์หน้าทีมชาติ ถ้าไม่เข้านี่โดนอยู่แล้ว แต่ถ้าเข้าก็ตามมาตรฐาน บอลหลุดเดี่ยวอ่ะนะ โกล์เค้าจะกลัวศูนย์หน้ามากกว่าอยู่แล้ว มันอยู่ที่ศูนย์หน้าจะคุมสติได้หรือเปล่า เพราะถ้ากดดันหรือตื่นเต้นนิดเดียว บางทีน้ำหนักอาจจะไม่ได้ ทิศทางอาจจะไม่ดี ซึ่งไอซ์คุมสติตัวเองได้ดีครับ” คุณพ่อพนม กันหนู โค้ชส่วนตัวของไอซ์วิจารณ์

ในขณะที่จีรพงษ์นั้นยังคงเร่งเร้าลูกทีมอยู่ที่ขอบสนาม

“ขออีก 2 ลูก เอาหน่อย ๆ”

เกม 4 นาทีที่เหลือบวกกับ 3 นาทีที่ทดเวลาบาดเจ็บ มีสกอร์อย่างที่โค้ชจ้อนอยากให้เป็นจริง ๆ น่าเสียดายที่ดันไปออกฝั่งสวนนนท์ซะ

จากลูกเตะมุมในช่วงทดเวลา ปฏิภาณเป็นคนที่ยิงตีไข่แตกให้สวนนนท์ได้สำเร็จจากลูกกุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ อยู่ที่หน้าประตูนั่นแหละ

หมดเวลา สวนกุหลาบจึงชนะสวนกุหลาบ นนทบุรีไปแค่ 2-1 ผ่านเข้ารอบไปพบกับสิงห์ลาดกระบังหรือพรตพิทยพยัตทีม B นั่นเอง ในวันจันทร์ที่ 16 กรกฎาคมนี้




วินาทีสตาร์ทเกมครึ่งหลัง

ลูกบู๊ของกัปตันไอซ์

เสกสรร ผู้รักษาประตูสวนนนท์ลอยตัวรับลูก

ลูกจุดโทษของไอซ์ เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ของสวนกุหลาบ

การชิงเหลี่ยมของหมายเลข 6 ของทั้ง 2 ฝั่ง

ลีลาการจ่ายบอลของปอนด์ ดาวเตะทีมชาติชุด U-16

จังหวะสังหารลูก 2-0 ของไอซ์

ยิงได้ก็วิ่งเฮทันที


หลังแข่งจบ จีรพงษ์พาน้อง ๆ เข้าไปไหว้สต๊าฟทีมงานของทางสวนนนท์ จากนั้นก็บอกให้นักฟุตบอลทั้งสองทีมมาถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน โดยเขาเป็นคนกำกับภาพเองทุกอย่าง

“เอ้า ชูมือเฮ”

น่าเสียดายที่ผมกดชัตเตอร์ไปแล้ว ก็เลยได้แอคชันเรียบ ๆ ไม่ได้ชูมือมาเท่านั้น

“โดยศักยภาพของเด็กเรา ต้องยอมรับว่าเป็นรองอยู่แล้ว ทีม 16 ปีทีมนี้ เราไม่ได้มีการคัดตัวมาจากที่ไหนเลย เป็นเด็กบ้านหรือเด็กที่เรียนในโรงเรียนเราทั้งหมด วันนี้ก็ยอมรับความพ่ายแพ้ ส่วนลูกที่ 2 นั้นเป็นลูกที่ไม่น่าเสีย เป็นความผิดพลาดของผู้รักษาประตู นอกนั้นก็โอเค” วีระพันธ์ เฮดโค้ชสวนนนท์ให้คอมเมนท์หลังเกม

ส่วนฝั่งผู้ชนะ นิวัติไม่ถึงกับโอเคซะทีเดียว

“ไม่พอใจฟอร์มเท่าไหร่นะ บอลเราคิดว่าเข้ารอบแน่ ๆ ก็เลยมีการปรับให้เด็กลงเล่นให้เยอะ เรามีเด็กตั้ง 25 คน ก็เลยอยากให้ทุกคนได้มีส่วนร่วม อยากให้ทุกคนลงไปแล้วได้แสดงออก ก็เลยกลายเป็นการกดดันตัวเอง เด็กบางคนอาจจะตื่นบ้าง รูปเกมเลยออกมาไม่ได้ดั่งใจ”

ในขณะที่ฮีโรของเกมนี้อย่างสิทธิโชค กันหนูมองว่า “ครึ่งแรกสภาพอากาศร้อนจัดทำให้เกมเนือย แล้วเราไม่ค่อยให้เสียงกันด้วย เลยไม่เข้าใจกัน แต่ครึ่งหลังดีขึ้น นี่ผมก็เพิ่งกลับมาร่วมกับทีมได้แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้นเอง ก็อาจจะยากที่จะปรับระบบกันได้ แต่เท่าที่เห็นทีมก็กำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ นะครับ”

ถามว่าไอซ์เล่นดีไหม? คนที่จะตอบได้ชัดเจนที่สุดน่าจะเป็นคุณพ่อพนม กันหนู ผู้ปลุกปั้นทั้งอาร์ทและไอซ์อย่างใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนนั่นเอง

“ไอซ์ยังเล่นไม่ค่อยดี ครึ่งแรกไม่ค่อยได้บอล อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยได้เล่นกับกองกลางชุดนี้ด้วย ส่วนครึ่งหลังดีขึ้น แต่ก็ยังมีบางจังหวะที่น่าให้ น่าจ่ายได้ดีกว่านี้”

เป็นอันว่าทีมรุ่น 16 ปีของสวนกุหลาบสามารถสอบผ่านได้ในระดับนึง เมื่อผ่านรอบแรกได้ทั้ง 2 ทัวร์นาเมนท์ ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลกองทัพอากาศหรือฟุตบอลมวก.นนทบุรีคัพถ้วยนี้ก็ตาม

แต่หนทางข้างหน้านั้น...ยังอีกยาวไกล

“ตอนนี้เราประสบความสำเร็จตรงที่ผ่านรอบแรกแล้ว แต่เส้นทางของเราค่อนข้างเหนื่อย ยังมีทีมที่เล่นด้วยกันมานานอย่างอัสสัมธนฯและคริสตียนรออยู่ พวกเค้าเล่นด้วยกันมาหลายปี เล่นเกมระดับสูง ๆ มาก็หลายทัวร์นาเมนท์ ส่วนของเราเพิ่งรวมตัวกัน เราก็เลยขอดูทีละเกมไป ต้องเน้นความละเอียด คอยบอกเด็ก ๆ ว่าแต่ละเกมจะเล่นยังไง ลึก ๆ ก็ตั้งความหวังไว้นะ แต่ด้วยปัจจัยเรื่องเวลา เรื่องทัวร์นาเมนท์ที่แข่งติด ๆ กัน แล้วเด็ก ๆ ก็ต้องเรียนหนังสือด้วย ไปสู้กับบางโรงเรียนที่ไม่เน้นการเรียนหนังสือ มันก็ค่อนข้างลำบาก เราทำงานได้ไม่เต็มสูบ เรื่องกำลังเรายังไม่ได้เลยเพราะเราจะอัดซ้อมเช้าหนักก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวตอนเรียนก็จะเบลอกัน ตอนเย็นก็หนักไม่ได้อีก เพราะมี 3 ทีมซ้อมสนามเดียวกัน แต่คิดว่าจะดีขึ้นเพราะตอนนี้เราได้สนามซ้อมที่โรงพยาบาลทหารเรือมาเพิ่มแล้ว” โค้ชนิวัติสาธยายซะยาวเลย


รูปหมู่ของทั้งสองสวนฯ

ชนะแบบนี้ ก็ต้องมีเงินอัดฉีดกันหน่อย


ผมติดรถบอล OSK116 แอดมิน กรุ๊ป SUANCHEER ในเฟซบุ๊คกลับบ้าน ระหว่างทาง เราได้สนทนากันเรื่องฟุตบอลหลายเรื่อง

ตอนนึงบอลถามขึ้นมาว่า “พี่เชียร์บีอีซีด้วยป่ะนี่?”

ที่ถามแบบนี้เพราะธง...ซึ่งก็เป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับบอลนั่นแหละ คนที่ผมติดรถไปดูเอซีเอสคัพนัดที่ชนะเทพศิรินทร์เมื่อเสาร์ที่แล้วเป็นแฟนบีอีซีนั่นเอง

“เปล่า ความจริงในเมืองไทยก็ไม่ได้เป็นแฟนทีมอะไรเป็นพิเศษนะ ถ้าจะมีก็...คงเป็นจุฬานั่นแหละ” ผมตอบ

แน่นอนว่า “จุฬา” ของผมในชั่วโมงนี้หมายถึง “จามจุรี ยูไนเต็ด” ไม่ใช่ “บีบีซียู” หรอกนะ

วันนี้จามจุรี ยูไนเต็ดก็มีคิวแข่งดิวิชัน 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑลกับสมุทรปราการ ยูไนเต็ดเช่นกัน แต่ผมเลือกที่จะมาดูสวนกุหลาบซะมากกว่า

ไม่รู้สิ สำหรับผม ทุกวันที่ได้มาดูทีมชมพู-ฟ้า ได้มาเห็นการเติบโตของนักบอลรุ่นน้อง ได้มาเห็นแพสชันในการเชียร์ของบรรดาศิษย์เก่าเลือดสีเดียวกันแล้ว มันช่างเป็น...

“วันอัศจรรย์ของผม” ซะจริง ๆ (พยายามแฉลบมาจบแบบชื่อเรื่องให้ได้นะนี่ 555 :-p)




Create Date : 08 กรกฎาคม 2555
Last Update : 8 กรกฎาคม 2555 22:19:11 น. 2 comments
Counter : 5791 Pageviews.

 
ตอนนี้พี่จ้อนมาอยู่สงขลาครับมาสอนฟุตบอลเด็กอยู่ครับผม


โดย: เก๋ IP: 171.7.249.246 วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา:11:37:00 น.  

 
เมื่อไหร่ขึ้นมากรุงเทพฯ ก็ติดต่อมาหากันบ้างนะครับ
คิดถึงโค้ชจ้อนครับ


โดย: สุรชัย IP: 180.180.36.72 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา:18:18:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.