เมษายน 2560

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
การลาออกครั้งสุดท้าย และความคิดถึง Bloggang ของเรียมเจ้าขา






เก๋มาเล่าเรื่องว่าไปทำอะไรมาบ้าง ช่วงที่ห่างหายไปจากการเขียน Blog ใน Bloggang ไปนานเกือบ 2 ปีแล้ว นานขนาดว่าเขียน blog ครึ่งปีหนหนึ่ง Blog นี้ เก๋เลยจะมา Update ชีวิตให้เพื่อนๆหลายคนฟัง  จะบอกว่าตลอดเวลาที่หายไปเกือบ 2 ปี  ตลอดเวลานั้นคิดถึงการเขียน blog การถ่ายรูป การรีวิว เกี่ยวกับลูกมาก เลยนะเนี่ย เพราะเวลาเขียนถึงลูกนี่คือความสุขเลย  รวมถึงการไปท่องเที่ยว ชิมอาหาร และเขียนเรื่องเรียนต่อเยอรมนีที่เก๋จะเขียนเป็นธีมหลักใน blog ของตัวเองด้วยค่ะ



เรื่องมันก็มีอยู่ว่า เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เก๋ลาออกจากงานประจำค่ะ เหตุเพราะลูกสาวยวัยสามขวบ หนูคิมมี่ จะขึ้นอนุบาล 1 จากเดิมที่อยู่เนิสเซอรี่ หลายคนจะทราบว่า เก๋เลี้ยงลูกเองกับป่าป๊าของคิมมี่ ตั้งแต่เกิดเลย โดยเอาเข้าเนิสเซอรี่ตั้งแต่ 3 เดือน ตอนเช้าก่อนไปทำงานก็เอาไปส่งที่ทำงาน พอเย็นก็ไปรับสักห้าโมงครึ่ง ถึงหกโมง ถ้ามีงานยุ่งก็ช้าได้สุดประมาณหนึ่งทุ่ม แต่ก็เกรงใจครูพี่เลี้ยงเขามาก เพราะเขาก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว  


พอต้องเข้าอนุบาล 1 โรงเรียนที่เล็งๆอยู่ใกล้ที่ทำงาน เลิก 4 โมง  ถ้าให้รถโรงเรียนมาส่งก็ประมาณ 4 โมงครึ่ง ซึ่งเราก็ยังไม่เลิกงาน และตำแหน่งเราก็เป็นระดับผู้จัดการแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นผู้บริหารระดับค่อนข้างสูงแล้ว เพราะที่เหนือไปก็ผู้อำนวยการก็หมดลำดับขั้นแล้ว จะมานั่งเลี้ยงลูกคงไม่เหมาะ  คิดหลายรอบแล้วก็ลาออกมาเป็นที่ปรึกษา วิทยากร และโค้ช แบบฟรีแลนด์ ซึ่งที่ทำงานเดิมก็จ้างเป็นที่ปรึกษาเป็น Project Base รวมถึงองค์กรต่างๆด้วย


ช่วงแรกที่ออกมา จิตตกเล็กน้อย ก็ไม่เรียกว่าน้อยหรอกนะ ต้องเรียกว่า ปานกลาง ถึงมากในบางวัน เพราะเก๋ทำงานประจำมาตั้งแต่เรียนจบเลย ทำงานทุกวัน  เพราะตัวเองเป็นพี่คนโตด้วย ต้องดูแลพ่อแม่ด้วย ตอนก่อนออก เก๋ก็มีการวางแผนเรื่องเงินเรียบร้อยแล้วแหล่ะ แต่ก็ยังกังวล เพราะบางเดือนงานก็เยอะ บางเดือนก็น้อย   แม้ว่าป่าป๊าเจ้าคิมมี่จะดูแลทุกอย่าง  แต่เราเคยเป็น working mum ต้องมีรายได้ของตัวเองเป็นกอบเป็นกำ ใช้จ่ายได้ด้วยเงินตัวเองไม่ต้องเกรงใจ ก็เลยทำให้กังวลอย่างที่เล่าให้ฟังในข้างต้น จนปัจจุบัน เริ่มอยู่ตัวทั้งเรื่องงานที่เข้ามา  รายได้ lifestyle  และชีวิตส่วนตัว ครอบครัว มีความสุขตามอัตภาพค่ะ


 ปีแรก ในส่วนของการทำหน้าที่แม่ คิมมี่เรียนอนุบาล 1 เก๋ไปรับไปส่งลูกเองทุกวัน สลับกับป่าป๊าของคิมมี่ ถ้าวันไหนเก๋มีงาน จนเรารู้จักโรงเรียนดีในระดับหนึ่ง ปีที่ 2 คิมมี่ขึ้นอนุบาล 2 เก๋ถามคิมมี่ว่าจะนั่งรถตู้โรงเรียนไหน คิมมี่บอกอยากนั่ง เพราะจะได้เล่น ได้คุยกับเพื่อนด้วย ก็ให้นั่งรถตู้ทั้งขาไปและกลับเช้าเย็น นางมีความสุขค่ะ แค่บ่นว่า เพื่อนๆหาว่านางคุยเก่ง และไม่ค่อยมีคนคุยกับนางเท่าไร 


คือลองนึกภาพนะคะ ตอนเช้า เด็กๆยังสลึมสลือ นั่งหลับในรถกัน นางก็คุยๆ พอตอนเย็น ทุกคน เรียน เล่นมาเหนื่อยก็นั่งรถแล้วก็หลับอีก แต่คิมมี่นางเป็นเด็กลูกครึ่ง แล้วพ่อแม่ตัวใหญ่ทั้งคู่  นางเลยแรงเยอะ ไม่เคยนั่งหลับในรถเลย ไม่ว่านั่งไปไหน ขับไปไกลกี่ชั่วโมง คิมมี่จะได้นั่งหน้ารถเป็นเพื่อนคนขับ เพราะนางจะชวนคุย ชวนถาม ชวนดูนกดูไม้ ดูข้างทางตลอดเวลา เป็น Strong girl มาก


ในส่วนของชีวิตด้านการงานของเก๋  ตามที่เขียนไว้ข้างต้น คือเก๋มาทำที่ปรึกษา วิทยากร และโค้ช ซึ่งสามารถกำหนดการรับงาน ปริมาณงานเองได้ จริงๆก็รับเกือบหมดแหละ เพราะเก๋ค่อนข้างวางกรอบในการทำงานค่อนข้างชัดเจนว่า ตัวเองทำงานในเรื่องอะไรบ้าง ดังนั้นคนที่ติดต่อเรื่องงานจะส่งงานที่อยู่ในขอบเขตและความสามารถที่เก๋มีทักษะและความสามารถด้านนี้ค่ะ


กล่าวคือ เก๋จะเป็นที่ปรึกษา และวิทยากร ด้าน การพัฒนาผลิตภัณฑ์และนวัตกรรม และการบริหารโครงการ (Project Management) ซึ่งตลอดชีวิตการทำงานในช่วงเป็นพนักงานประจำกินเดือนนั้น อาชีพจะอยู่ในส่วนของ R&D Engineering หรือวิศวกรฝ่ายวิจัยพัฒนา และตำแหน่งสุดท้ายคือผู้จัดการศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์ ขององค์กรอิสระภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องทำหน้าที่เป็นนักวิจัยด้วย เป็นที่ปรึกษาและวิทยากรไปอบรมเกือบทั่วประเทศและที่ศูนย์เอง  ตอนนี้ก็รับงานด้านการให้คำปรึกษาและอบรมสัมมนาในด้านนี้ให้กับ SMEs และ Corporate ค่ะ



อีกด้านหนึ่ง เก๋ไปเรียนด้านการโค้ช ( Coaching)  ซึ่งได้ไปทำงานทั้งการโค้ชในองค์กรโดยเป็นส่วนหนึ่งของทีมโค้ชมืออาชีพ  รวมทั้งรับเป็นโค้ชส่วนตัวการโค้ชตัวต่อตัว ด้วยค่ะ  และเป็นวิทยากรด้านการโค้ชชิ่งค่ะ   ทักษะการโค้ชนี่ส่วนตัวเก๋ว่าดีมากเลยนะคะ สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเก๋จะเอามาแบ่งปันเรื่องการเอามาใช้กับชีวิตครอบครัว ใน blog ย่อย Family Coaching เพื่อจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านด้วยนะคะ


ในส่วนของ เรียมเจ้าขา Blog นี้ เก๋คงกลับมาเขียนเรื่องหลักๆ  3 เรื่องที่เป็นงานอดิเรกของเก๋คือ  
- เรื่องลูก 
- lifestyle 
- ท่องเที่ยว 
- และเรียนต่อเยอรมนี
ทั้ง 4 เรื่องนี้คงเป็นเรื่องหลักที่เก๋จะเขียนค่ะ อาจจะเขียน  2 -4 บทความต่ออาทิตย์ค่ะ ส่วนเรื่องงานคงไม่เอามาใส่ใน Blog นี้ค่ะ


หวังว่า การลาออกครั้งสุดท้ายของเก๋จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ เพราะตอนนี้งานอิสระค่อนข้างอยู่ตัวแล้ว ชีวิตค่อนข้างลงตัว ทั้งเรื่องงานที่สร้างรายได้ งานจิตอาสา ชีวิตครอบครัว ชีวิตมีความสุข สงบกับวิถีที่เลือกค่ะ มีสติอยู่กับตัวเองทุกย่างก้าว และไม่ประมาทกับชีวิตค่ะ 



ขอบคุณที่อ่านมาจนจบหน้านี้นะคะ เก๋ขอขอบคุณทุกท่านนะคะ 
Welcome to เรียมเจ้า Blog ค่ะ 
กดติดตามกันได้นะคะ 


เรียมเจ้าขา - แม่เก๋ลูกคิมมี่ค่ะ




Create Date : 16 เมษายน 2560
Last Update : 17 เมษายน 2560 20:50:25 น.
Counter : 2354 Pageviews.

4 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat

  
สวัสดีค่ะยินดีที่ชีวิตลงตัวเรียบร้อยดีค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 16 เมษายน 2560 เวลา:12:22:54 น.
  
หายไปนานเลยย คิดถึงน้าาาา
โดย: patthanid วันที่: 17 เมษายน 2560 เวลา:22:58:37 น.
  
คิดถึงนะคะ
โดย: kae+aoe วันที่: 20 เมษายน 2560 เวลา:14:17:07 น.
  
ไว้จะแวะมาทักทายบ่อยๆ นะ
โดย: kae+aoe วันที่: 21 เมษายน 2560 เวลา:11:06:47 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรียมเจ้าขา
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 144 คน [?]



" เรียมเจ้าขา หรือ เก๋ค่ะ "

เขียน blog จริงจัง ปลายปี 2555
Blog นี้ก็จะรวมสิ่งที่ชอบในชีวิต
และเรื่องที่อยากแบ่งปันทั้งเรื่อง
ลูกสาวน้องกล้วยหอม,เรื่องเรียน
ต่อเยอรมนี,Beauty, Skin
care,แฟชั่นสิ่งทอ,ท่องเที่ยว
และก็ตะลอนชิม ค่ะ


ก็ขีดๆเขียนๆข้อมูลต่างๆเอาไว้
และแชร์เผื่อจะเป็นประโยชน์
กับท่านอื่นๆด้วยนะคะ

contact me :
http://www.facebook.com/kimmyandmais
http://instagram.com/sasimamai
ss.suksawang@จีเมล์ดอทคอม

อุปกรณ์ที่ใช้ถ่ายรูป

* Canon EOS 600D,
* Canon EF-S 15-85mm f3.5-5.6 IS USM
- Sigma 70mm F/2.8 DG Macro
- Canon EF-S 18-55mm 1:3.5-5.6 IS
- Canon EF-S 55-250 mm./4-5.6 IS
* Ipad 3
* Olympus compact camera.
New Comments