บ้านเลขที่ 23 บ้านนี้มี ... รัก จ้่่่าาาา่่ืาาา
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
15 กันยายน 2551
 
All Blogs
 

อีกหนึ่งตัวอย่างพระเมตตาของในหลวงของเรา

ในหลวงทรงพระเมตตา ด.ช.เมืองพิจิตร (ภาพ - ข่าว : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ พฤศจิกายน 2550)

เด็กเมืองพิจิตรถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี ให้ทรงช่วยเหลือครอบครัวที่มีความเป็นอยู่สุดแร้นแค้น พร้อมมีพระราชกระแสรับสั่งผ่านผู้ว่าฯ เร่งช่วยเหลือทันที เผยต้องรับจ้างแบกข้าวสาร เฝ้าเล้าเป็ด หาเงินจุนเจือครอบครัว ระบุอยากเรียนหนังสือ ด้านเด็กน้อยหลั่งน้ำตาร่ำไห้หลังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ

นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยพสกนิกรชาวไทยไปทั่วหล้า วันนี้น้ำพระราชหฤทัยของพระองค์ทรงแผ่ไพศาลไปถึงเด็กชายตัวเล็กคนหนึ่งใน จ.พิจิตร หลังจากเด็กชายยื่นถวายฎีกาขอพึ่งพระบารมี เพื่อขอให้พ่อหลวงของแผ่นดินพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ครอบครัวที่มีความเป็นอยู่แร้นแค้นอย่างมาก

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วย นางปิยะธิดา เรืองจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพิจิตร เดินทางไปที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านไผ่สีรุณ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร เพื่อไปตรวจดูสภาพความเป็นอยู่ และเตรียมให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี นัดดา หรือน้องบุตร อายุ 12 ปี หลังจากเด็กชายเขียนจดหมายยื่นถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า ครอบครัวมีความเป็นอยู่เดือดร้อนอย่างมาก

หนังสือที่ ด.ช.ชาตรี ยื่นถวายฎีกามีความว่า

เขียนที่โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2550
เรื่อง ขอพระราชทานความเมตตา

"กราบแทบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน กระผม ด.ช.ชาตรี นัดดา อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง อ.เมือง จ.พิจิตร ขณะนี้เรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนบึงสีไฟ หมู่ 4 ต.ท่าหลวง กระผมมีพี่น้อง 3 คน พี่สาวเรียนอยู่ชั้น ป.6 น้องชายคนเล็กเรียนอยู่ชั้น ป.3 ครอบครัวของกระผมมีความเป็นอยู่ที่ยากจนมาก ประกอบกับคุณแม่สติไม่สมประกอบ คุณพ่อมีอาชีพรับจ้างทั่วไป

ทั้งนี้ วันใดโรงเรียนหยุด กระผมจะไปรับจ้างชาวบ้านเฝ้าเล้าเป็ดได้คืนละ 40 บาท ถ้าวันใดเขาไม่จ้าง กระผมก็จะไปรับจ้างแบกข้าวเปลือกขึ้นรถที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. ได้ค่าแรงงาน 50 บาท เพื่อนำไปจุนเจือครอบครัว ถ้าวันใดไม่มีคนจ้างไปทำงาน เวลากลางคืนก็จะออกไปจับกบ จับเขียดและงู มาเป็นอาหาร บางวันที่ไม่สามารถหาอาหารได้ก็จะไปขออาหารจากหลวงพ่อบุญเลิศ วัดบึงสีไฟ เพื่อนำไปให้พ่อแม่และพี่น้องรับประทาน กระผมทำอย่างนี้ทุกวัน ครอบครัวกระผมยากจนมาก หมดที่พึ่ง

กระผมขอพึ่งบารมีพระพ่อหลวงของแผ่นดิน เป็นที่พึ่งสุดท้ายของชีวิต และครอบครัว ทางด้านการศึกษาและที่อยู่อาศัย กระผมและน้องๆ อยากเรียนสูงๆ เมื่อจบแล้วก็จะได้มีงานทำเลี้ยงดูทดแทนพระคุณพ่อพระคุณแม่ ตั้งแต่ผมเกิดมาเห็นพ่อแม่สุดแสนลำบาก กระผมจะขอพึ่งอาศัยพระพ่อหลวงของแผ่นดินเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรตลอดชีวิตของกระผม กราบเท้าพระพ่อหลวงของแผ่นดิน

ลงชื่อ ด.ช.ชาตรี นัดดา (ด.ช.ชาตรี นัดดา) ผู้ร้องขอความเมตตา"
-----------------------------------------------------------------------------

ภายหลังจาก ด.ช.ชาตรี ถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สำนักราชเลขาธิการได้ตอบหนังสือดังกล่าว พร้อมมีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

ที่ รล 0009.5/18916

สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง กทม.10200

วันที่ 3 ตุลาคม 2550

เรื่อง ขอพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ระบุว่า

เรียนผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร

สิ่งที่ส่งมาด้วย สำเนาฎีกาของ ด.ช.ชาตรี นัดดา ลงวันที่ 10 สิงหาคม 2550

ด้วย ด.ช.ชาตรี นัดดา ทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา ความว่า ด.ช.ชาตรี เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบึงสีไฟ อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 5 ต.ท่าหลวง กับบิดา ซึ่งมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มารดาสติไม่สมประกอบ และพี่สาวกับน้องชายซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนบึงสีไฟ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และปีที่ 3 ตามลำดับ ครอบครัวมีฐานะยากจน ได้รับความลำบากด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงขอพระราชทานทุนการศึกษา และที่อยู่อาศัย ความละเอียดตามสำเนาฎีกา ที่แนบมาพร้อมนี้

ทั้งนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากมีหนทางคลี่คคลายปัญหาหรือมีข้อคิดเห็นประการใด กรุณาแจ้งให้ทราบด้วยจะขอบพระคุณยิ่ง เพราะจะนำความกราบบังคมทูลพระกรุณาต่อไป

ขอแสดงความนับถือ

นายอินทร์จันทร์ บุราพันธ์

เลขาธิการคณะองคมนตรี ปฏิบัติราชการแทนราชเลขาธิการ

-----------------------------------------------------------------------------

หลังจากผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ไปตรวจสอบสภาพที่อยู่อาศัยของ ด.ช.ชาตรี พบว่า ครอบครัว ด.ช.ชาตรี ปลูกกระท่อมอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน บ้านเป็นโครงสร้างไม้ไผ่แต่ฝาบ้าน ส่วนหลังคามุงด้วยกระเบื้องที่เก็บมาจากกองขยะ และมีรูโหว่จำนวนมาก ขณะที่พื้นบ้านเป็นไม้ไผ่สับ มีช่องโหว่จำนวนมาก สาเหตุเกิดจากเมื่อฤดูฝนที่ผ่านมามีอากาศหนาว ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี ไม่สามารถหาฟืนไปก่อไฟไล่ความหนาว จึงต้องนำพื้นบ้านมาก่อไฟ เพื่อป้องกันความหนาว

จากการตรวจสอบข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน พบเพียงเตาหุงข้าวที่ต้องใช้ฟืน และหม้อเพียง 1 ใบ และกระทะ 1 ใบ ไม่มีเครื่องปรุงจำพวกซอส หรือแม้แต่น้ำปลา มีเพียงเกลือป่นที่ใช้ในการประกอบอาหารเท่านั้น ส่วนที่นอนมีผ้านวมเก่า 2 ผืน และมุ้งเก่าๆ มีรอยขาดจำนวนมาก 1 หลัง พร้อมกับเสื้อผ้าที่เก็บมาจากกองขยะอีก 1 กองใหญ่ เท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่ากระท่อมทรุดโทรมเป็นอย่างมาก เสาบ้าน 2 เสา ล้มลงจนพื้นบ้านเอียงติดกับพื้นดิน
เบื้องต้นนายปรีชาเร่งให้ความช่วยเหลือ โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภคมอบให้ครอบครัวของ ด.ช.ชาตรี พร้อมให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหลวงก่อสร้างบ้านตามโครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันในที่ดินขององค์การบริหารส่วนตำบล ที่หมู่ 5 ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะติดหนองน้ำ และให้สภากาชาดให้ความช่วยเหลือในส่วนของการศึกษา

นายปรีชา กล่าวว่า วันนี้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะสามารถช่วยเหลือ ด.ช.ชาตรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าครอบครัว ด.ช.ชาตรี มีความเดือดร้อน และอยู่ในฐานะที่ลำบากมาก ส่วนบิดามีอาชีพรับจ้างทั่วไป ขณะที่มารดามีร่างกายไม่สมบูรณ์ ทั้งคู่ทำงานได้เพียงหาเลี้ยงตัวเองไปวันๆ เท่านั้น ซึ่งการช่วยเหลือต้องดูที่เด็กเป็นหลัก

"ที่น่าเป็นห่วงก็คือ ลูกๆ ทั้ง 3 คนเราต้องดูแลในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องนอน อาหารการกิน และทุนการศึกษา ในส่วนของการศึกษาจังหวัดจะหาทุนให้เป็นกรณีพิเศษตลอดไป จนกว่าเด็กจะไม่อยากเรียน" นายปรีชา กล่าว

ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวต่อว่า ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นนั้น ขณะนี้สภากาชาดนำเครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือแล้ว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะดูแลเรื่องต้นทุนทางสังคมเกี่ยวกับการดำรงชีพ นอกจากนี้ยังให้แรงงานจังหวัดช่วยหางานให้พ่อแม่ เช่นเดียวกับเรื่องที่อยู่อาศัยได้ให้โครงการบ้านเทิดไท้องค์ราชันสร้างบ้าน ขณะนี้ออกแบบบ้านเสร็จแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่า จังหวัดจะดูแลครอบครัวนี้เป็นอย่างดี เพราะดูจากหน่วยก้านของ ด.ช.ชาตรี น่าจะเป็นเยาวชนที่มีอนาคตยาวไกล

ด้าน นางลมัย สังคริทร์ อาจารย์ประจำชั้น โรงเรียนบึงสีไฟ กล่าวว่า ด.ช.ชาตรี เป็นเด็กที่มีความกตัญญู รักพ่อแม่ พี่สาว น้อง และรักเพื่อนมากกว่าตัวเอง ชีวิตความเป็นอยู่น่าสงสาร ตลอดเวลาสังเกตว่า ทุกวันเมื่อ ด.ช.ชาตรี ออกไปทำงานรับจ้างได้เงินมาก็จะไปซื้อขนมให้น้องชายคนเล็กกินก่อนทันที และเมื่อน้องกินอิ่ม หากขนมเหลือก็จะกินต่อจากน้อง ส่วนการเรียนอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แต่ไม่ดี เนื่องจาก ด.ช.ชาตรี เป็นห่วงครอบครัว เวลาครูให้การบ้านก็จะบอกว่า ไม่มีเวลา เพราะต้องรีบไปทำงานรับจ้าง เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

ภายหลังได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการต่างๆ ด.ช.ชายชาตรี กล่าวสั้นๆ ว่า "ขอขอบพระคุณในหลวงที่ให้การช่วยเหลือครอบครัว" จากนั้นก็มีน้ำตาไหลออกมา และร้องไห้ตลอดเวลา





แม้จะท้อแท้ เบื่อหน่าย เพราะคิดว่าในชีวิตนี้ไม่เคยมีเรื่องดีๆอะไรเลย แต่อย่างน้อยคนไทยทุกคนก็โชคดีที่มีในหลวง

ขอจงทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน




 

Create Date : 15 กันยายน 2551
4 comments
Last Update : 15 กันยายน 2551 10:28:53 น.
Counter : 1049 Pageviews.

 

ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ อย่างนี้มาลงให้ได้อ่านกันนะคะ
ทำให้อดแค้นใจที่มีใครต่อใครมาจาบจ้วงในหลวงของเรา ทั้งๆที่พระองค์ทรงดีขนาดนี้

 

โดย: หญิงอ้วน IP: 125.26.164.58 15 กันยายน 2551 11:06:22 น.  

 

 

โดย: Nissan_n 15 กันยายน 2551 11:09:06 น.  

 

ประเทศไทย ยังมีแบบนี้ครอบครัวที่มีสภาพไม่ต่างจากนี้อีกมากนัก คนที่พอมีกำลัง ก็ควรจะแบ่งปันให้การช่วยเหลือ ตามความสามารถ โดยเฉพาะหน่วยงานราชการ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เช่น พวกสังคมสงเคราะห์ต่างๆ อย่าต้องรอให้เป็นข่าวเสียก่อน จึงค่อยเข้าไปดู

 

โดย: ครูเอก 15 กันยายน 2551 11:36:13 น.  

 

ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

 

โดย: น้องมล IP: 58.136.95.234 15 มีนาคม 2552 23:34:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


nainue
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add nainue's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.