Photobucket - Video and Image Hosting
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
1 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
Tsukiji Tama Sushi

ในบรรดาอาหารญี่ปุ่น อาหารโปรดที่สุดของฉันคือ ปลาดิบ (Sashimi) เป็นไปได้ไง..... ทั้ง ๆ ที่สมัยที่ฉันมาญี่ปุ่นครั้งแรก ๆ ฉันไม่ชอบเลย เพราะเป็นคนที่ติดทาน "ข้าว" มื้อไหนไม่มีข้าว มื้อนั้นต่อให้สวาปามยังไง ก็จะรู้สึกไม่อิ่ม เพราะไม่มีข้าวที่ถ่วงท้องให้หนัก แล้วของกินเบา ๆ อย่างปลาดิบเนี่ย ทั้งคาว ทั้งไร้รสชาติ สยึ๋มกึ๋ยจะตายไป.... แต่มันเป็นไปแล้ว เพราะวันนี้หากมีคนจะเลี้ยงฉัน ให้ฉันเลือก ฉันขอปลาดิบร้อยทั้งร้อย

แต่ความโชคดีนี้มาถึงฉันเพียงครึ่งเดียว เมื่อวันเกิดที่ผ่านมาของฉัน แม่บอกว่าอยากจะพาฉันไปกินอะไรก็ได้ที่ฉันอยากกิน (โฮๆๆๆ ทำไมแม่เห็นหนูเป็นคนตะกละ ) ฉันเลือกอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า "ไปกินซูชิที่ Tsukiji Tama Sushiกันมั้ยแม่"

เรื่องซูชิร้านนี้มันมีความเป็นมายาว...วันหนึ่งพ่อกลับมาบ้าน กลังจากไปประชุมที่บริษัท พ่อถือนามบัตรของซูชิร้านหนึ่งติดมือมาด้วย พ่อเริ่มบรรยายสรรพคุณ....

"ร้านนี้มีสาขาทั่วโตเกียวทั้งหมด 23 สาขา"
"ค่อนข้างมีชื่อเสียง"
"ราคาไม่แพง และวัสดุใช้ได้"
"สาขาที่พ่อไปกินมาที่Shimbashi มี食べ放題 (กินไม่อั้นจ่ายราคาเดียว) ด้วย สงสัยจะเป็นสาขาเดียวที่มี (แต่พ่อไม่ได้กินแบบเหมาหัว เพราะพ่อกินไม่ไหว)" ฯลฯ

แล้วหลังจากนั้นไม่นานฉันกับเพื่อนไปทานไทยที่ร้านKaewjai สาขา Lumine Yokohama ฉันเหลือบมองเห็นร้านซูชิร้านนึง คนยืนต่อคิวยาวจากหน้าร้านไปจรดหน้าห้องน้ำผู้หญิง (50 กว่าคน เรียงเป็นงูกินหาง)

"เอ๊ะ...ร้านซูชิอะไรหว่า ทำไมคนเข้าคิวยาวขนาดนี้ เฮ้ย....Tsukiji Tama Sushiนี่นา ว๊าว....ร้านซูชิที่พ่อเคยพูดถึง มีสาขาที่โยโกฮาม่าด้วยเหรอเนี่ย...โอ้ว โอ้ว...มีกินเหมาหัวด้วย กรี๊ด ๆ ๆ สงสัยพ่อจะไม่รู้" แล้วฉันก็รีบคาบข่าวนี้ไปบอกพ่อโดยด่วน ว่าพ่อขา หนูไม่ต้องถ่อไปถึงShimbashi หนูก็สำเริงสำราญกับ Tsukiji Tama Sushi ได้ค่ะ

แล้วฉันก็เริ่มกระจายข่าวนี้ไปยังเพื่อน ๆ กลุ่มเดียวกัน...แต่ก็ยังไม่มีใครลองไปกินกับฉัน จวบจนวันที่แม่เสนอพาฉันไปเลี้ยงวันเกิดนั่นแหล่ะ ฉันถึงรีบเสนอชื่อร้านนี้ทันที โดยไม่ลังเล แล้วสำคัญ...แม่ต้องเลือกกินแบบเหมาหัวด้วยนะแม่ เพราะกินแบบธรรมดามันไม่ตื่นเต้น

ข้อดีของร้านซูชิร้านนี้ คือ เป็นซูชิที่สั่งเป็นเซ็ต ๆ หรือเป็นคำ ๆ โดยที่จะมีส่วนหลังเคาน์เตอร์ที่พ่อครัวยืนเรียงรายสลอน แขกออเดอร์ทีนึง ก็เริ่มปั้นกันทีนึง (พ่อครัวบอกว่าหากวันที่แขกมาก...ก็ปั้นกันจนมือเปื่อยเลย...เชื่อว่ะ...เพราะขนาดวันที่ฉันไปกิน เป็นวันธรรมดาช่วงบ่ายโมงกว่า คนเต็มร้านแต่ไม่ถึงก็ยืนรอคิว พ่อครัวยังไม่หยุดมือปั้นเลย)

Image hosted by Photobucket.com

บรรยากาศของสาขานี้น่านั่ง (แต่ฉันไม่กล้าถ่ายรูปมา) มี 2 ส่วน คือ ส่วนเคาน์เตอร์ ซึ่งแม่กับฉันเลือกนั่ง และ ส่วนที่ต้องถอดรองเท้านั่ง...วันนี้เราตั้งใจมากินแบบเหมาหัวอยู่แล้ว เลยไม่ต้องขอเมนูมาดู แม่ถามฉันว่าจะเอาซุปมิโสะมั้ย...แต่ฉันไม่เอา เดี๋ยวกินซูชิได้ไม่เต็มที่....

คนข้างตัวว่าหลักของการไปกินร้านซูชิแบบแท้ดั้งเดิม(authentic)อย่างประหยัดตังค์ คือ ต้องสั่งแบบรวม (moriawase)มาก่อน เพื่อเอามาตัดกำลัง จากนั้นก็ค่อยสั่งชนิดปลาที่ตัวเองต้องการเป็นรายคำ หากสั่งอย่างสะเปะสะปะมาแต่แรก...หมดtoodแน่ ๆ

Image hosted by Photobucket.com



Image hosted by Photobucket.com

คำแรก แม่เรียกหา หอยเป๋าฮื้อ (awabi)กับโทโร่มาเลย ดูแม่ทานอย่างเอร็ดอร่อย แต่ฉันไม่ชอบทานเป๋าฮื้อสด เพราะมันแข็ง ส่วนโทโร่ ก็เละเกินไป (เอาใจยากจริงวุ้ย )

ส่วนตัวฉันชอบทานปลาเนื้อขาว แลหนังมีสีเงินแวววาวแบบ kohada, saba มากกว่าปลาเนื้อแดงแบบ maguro

Image hosted by Photobucket.com

แต่ที่ฉันชอบมากที่สุดในบรรดาซูชิแล้ว ต้องเป็นไข่ปลาซัลมอน (ikura) และไข่หอยเม่น (uni) จำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่ง รู้สึกจะเป็นวันเกิดปีที่แล้ว ตาอ้วนไปทัศนศึกษาไม่อยู่ ฉันเลยมาพักบ้านใหญ่ พ่อซื้ออุนิมาแพ๊คใหญ่ ๆ ฉันกินคนเดียวหมดเลย...เพราะพ่อแม่ไม่กิน แล้วอุนิที่พ่อซื้อมาให้วันนั้น หย่อยกว่าอุนิที่ร้านนี้อีก

Image hosted by Photobucket.com

จากนั้นก็เริ่มทะยอยสั่งของที่ตัวเองชอบกันคนละ 2 คำ จะสั่งอะไรก็ได้ ตามแต่ใจชอบ แน่นอนแม่จะมาคนละแนวกับฉัน...ของฉันต้องเน้นคาว ๆ ในขณะที่แม่ทานคาวจัดไม่ไหว เพราะเหม็น แม่ว่าพอแก่ตัวลง ของที่เคยชอบหลายอย่างก็กลับกินไม่ได้ เพราะทนกลิ่นไม่ไหว อย่างสมัยแม่สาว ๆ แม่เคยย้ายตามพ่อไปฮิโรชิม่า เพราะพ่อถูกย้ายไปประจำที่นั่น แม่ชอบทานหอยนางรมสดมาก...แล้วฮิโรชิม่าก็เป็นแหล่งเลย...แม่ทานได้ทุกวัน และทุกโอกาสเท่าที่อยากทาน แต่เดี๋ยวนี้แม่ทานไม่ได้อีกแล้ว...เหมือนร่างกายจะไม่รับ หากทานแล้วจะเกิดอาการปวดท้อง และทนกลิ่นของมันไม่ไหว

Image hosted by Photobucket.com

ส่วนฉัน หากลงว่าได้ทานซูชิแล้ว ฉันจะไม่สั่งของสุกเลย ไม่ว่าจะเป็นไข่หวาน อานาโกะ อุนาหงิ กุ้มต้ม.... 3 อย่างแรกนั่นก็หวานเกินไป แถมมีเนื้อที่นิ่ม ๆ เละ ๆ ฉันชอบของที่เวลาเคี้ยวจะสวก ๆ หน่อย ให้รู้สึกถึงความเด้งดึ๋งของเนื้อสสาร ส่วนกุ้งต้มก็จืดชืดไม่ค่อยมีรสชาติ

Image hosted by Photobucket.com

ในบรรดากุ้งในร้านซูชิที่ฉันเคยทานมานั้น ฉันชอบทานกุ้งbotan ebiที่สุด ฉันเคยไปทานในร้านซูชิที่จังหวัดโอกายาม่า แล้วยังติดใจไม่หายเลย ฉันไม่เคยทานกุ้งมังกรแบบซูชิ (ไม่ทราบด้วยว่าที่ไหนมีหรือเปล่า) เคยแต่ทานแบบซาชิมิ นั่นก็ของชอบอีกเหมือนกัน ตอนนี้ที่อยากลองทานคือ sakura ebi แบบซาชิมิ แต่รู้สึกว่าจะหาทานยากสักหน่อย ส่วนใหญ่จะเห็นคนเอามาทำกุ้งแห้ง ไม่ก็ทอดเป็นเทมปุระ (ซึ่งก็เป็นเมนูที่ฉันไม่ค่อยอินทั้งคู่)

Image hosted by Photobucket.com



Image hosted by Photobucket.com

ฉันเป็นคนชอบลองอะไรใหม่ ๆ จะชอบไม่ชอบขอลองไว้ก่อน หากไม่ชอบคราวหน้าก็จะจำไว้ แล้วไม่สั่งอีก หากชอบ ก็จะได้จำไว้แล้วไปสั่งครั้งต่อไป ฉันเคยไปทานซูชิร้านหนึ่งบริเวณสถานีอุเอโนะ เป็นซูชิที่ราคาถูก แต่อร่อย หลังส่วนที่พ่อครัวยืนปั้นซูชิ จะมีตู้ปลาขนาดใหญ่ใส่ปลาเป็น ๆ ไว้ พอถึงนาทีทอง ก็จะช้อนปลาขึ้นมา แล้วสั่งกระดิ่งเล็ก ๆ เรียกความสนใจของลูกค้าในร้าน ให้ดูมหกรรมเชือดปลายักษ์

Image hosted by Photobucket.com

เป็นครั้งแรกที่ฉันลองทาน engawa (ส่วนเนื้อบริเวณครีบ ของปลาฮิราเมะ) ตอนแรกฉันสนใจดูว่าพ่อครัวทำอะไร เห็นเอากระบอกก๊าซพ่นไฟใส่เนื้อปลาขาว ๆ ฉันนึกว่าพ่อครัวปรุงแบบ tataki (คือจะนำปลาวางไว้บนฟางที่ไหม้ไฟแป๊บเดียว จากนั้นก็จะนำปลานี้ไปใส่ไว้ในน้ำเย็น ที่เห็นบ่อย ๆ คือ katsuo-tataki เนื้อผิวหน้าจะไหม้ประมาณ 2-3 มม. แต่เนื้อข้างในยังแดงอยู่) คนข้างตัวก็สนใจ เลยถามพ่อครัว ได้ความว่านี่คือ enkawa-aburi คือการเอาไฟลนเฉพาะบริเวณผิวเนื้อนิด ๆ เพื่อให้น้ำมันของปลาออกมา เวลาทานก็โรยเกลือ....อาหย่อยมั่ก ๆ ๆ ๆ ทั้งหอม ทั้งหวาน และเนื้อปลายังกรุบ ๆ (พิมพ์ไปยังกลืนน้ำลายเอื๊ก ๆ เลย)

Image hosted by Photobucket.com

จะว่าฉันชอบแต่ของดิบอย่างเดียวก็คงไม่ถูก เพราะฉันเคยลองลิ้มชิมรสของสาหร่ายชนิดหนึ่งในร้านซูชิหมุนในห้างเซบุ (ที่วันนั้นโชคดี ล่อลวงคนข้างตัวให้ไปนั่งทานเป็นเพื่อนด้วยได้) ฉันเห็นจานหนึ่งวนผ่านหน้ามา เอ๊ะ...นี่มันอะไร ทำไมรูปร่างประหลาด ๆ อยากลองทานดูจังเลย มันคือ umi budo (องุ่นทะเล) โอ้ว....ไม่เคยกินมาก่อน ลักษณะของมันจะเป็นสาหร่ายสีเขียว มีลูกเล็กๆๆๆ ติดกันเป็นพวง คล้ายช่อเม็ดพริกไทยอ่อนที่เราเอามาผัดฉ่า แต่ขนาดเล็กกว่ากันมาก เวลาเคี้ยวจะกรึ๊บ ๆ แป๊ะ ๆ ฉันพยายามหาสาหร่ายชนิดนี้ในซุปเปอร์มาร์เกต แต่ยังไม่เคยเจอเลย อยากซื้อมาทานที่บ้าน

Image hosted by Photobucket.com

จานนี้ฉันคิดอยู่ตั้งนานว่ามันคืออะไร....เพราะแม่เป็นคนสั่ง (อย่างที่บอก ฉันไม่สั่งของสุกอยู่แล้ว) นึกไปนึกมาถึงบางอ้อ มันคือ hotategai (หอยเชลล์) แต่สายไปแล้ว ฉันย่อรูปไปเรียบร้อยแล้ว จริง ๆ วันนั้นสั่งอีกหลายอย่าง แม่น่ะหมอบกระแตไปตั้งแต่ยังไม่ถึงคำที่ 10 ด้วยซ้ำ....จึงสั่งแต่ไข่หวานไม่เอาข้าวมาทานล้างปากดับคาว ส่วนฉันก็ยังนั่งยืดเยื้อสั่งไปเรื่อย ๆ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเกรงใจแม่...แม่จะหยิบเข้าปากก็เจอฉันสกัดดาวรุ่ง ยิงจนร่วง เลยเก็บภาพมาเท่าที่โอกาสจะอำนวย

Image hosted by Photobucket.com

คำสุดท้ายที่ฉันสั่ง คือ kani miso (อยากจะเรียกว่าส่วนมันปู แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพื่อน ๆ ที่อยู่ญี่ปุ่นคงเข้าใจว่ามันคืออะไร แต่เพื่อน ๆ ที่อยู่เมืองไทย อาจจะไม่คุ้นเคย....เอาเป็นว่าหากใครชอบทานอะไรคาวหน่อย แบบอุนิ เมนูนี้ก็จะไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน

ยังมีปลาอะไรต่อมิอะไรอีกหลายพันธุ์ ประเภทว่าเอ่ยชื่อมา ฉันต้องทำหน้า"เหวอ" ส่ายหัวด๊อกแด๊ก เพราะไม่เคยได้ยินชื่อ ส่วนมากเป็นปลาที่นักนิยมตกปลามักจะตกมาทานกัน ไม่มีวางขายดาษดื่น...ฉันหมายถึงปลาทะเล ไม่ใช่ปลาแม่น้ำ เดี่ยวจะนึกไปว่าเป็นปลาayu นักเรียนคนล่าสุดของฉันเป็นหมอฟัน ผู้ที่มีงานอดิเรกเล่นกอล์ฟ กีต้าร์acoustic และขับเรือ คุณหมอว่าลูกชอบตกปลา แล้วตกเก่งเสียด้วย (อายุ 10 กับ 14 ขวบ) แต่จะตกมาแค่พอกิน คือพอตกได้สัก 2-3 ตัวก็จะกลับบ้าน ฉันเลยจีบคุณหมอบอกว่าคราวหน้าตกสัก 4-5 ตัวนะ แล้วฉันจะช่วยกิน ฮี่ ๆ ๆ

หากเพื่อน ๆ สนใจไปทาน Tsukiji Tama Sushi ดูที่เวบนี้ค่ะ
//www.tamasushi.co.jp/

ส่วนนี้คือ Tsukiji Tama Sushi Yokohama ที่ฉันกับแม่ไปมา
//www.tamasushi.co.jp/store/yokohama/






mahalo Image hosted by Photobucket.com




Create Date : 01 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 4 พฤษภาคม 2549 13:48:17 น. 0 comments
Counter : 2372 Pageviews.

fudge-a-mania
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add fudge-a-mania's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.