เมื่อวานนี้ฉันเพิ่งได้ฤกษ์ล้างห้องอาบน้ำ และห้องน้ำ หลังจากที่ปล่อยทิ้งไว้เขรอะจนเป็นคราบแทบถูไม่ออก อยากทำตัวเป็นแม่บ้านคนขยันบ้าง นาน ๆ พอไหว...แต่ประจำไม่เอา เพราะหากทำเป็นประจำ ก็จะไม่ได้รับคำชมน่ะสิ นาน ๆ ทำที พอตาอ้วนกลับบ้าน

อ้วน ๆ มานี่สิ ดูอะไรนี่...เห็นมั้ย นี่ด้วยเห็นมั้ย วันนี้ขยันใช่ป่ะ

sugoi ว่ะ sugoi ว่ะ (แปลว่า เยี่ยมว่า เยี่ยมว่ะ) "ว่ะ" ที่เห็นนี่"ว่ะ"ไทย ตาอ้วนเลียนแบบคำพูดฉันเอง

แล้วฉันก็จะได้polar bear hug พร้อมกับน้ำลายดวงใหญ่เปื้อนที่แก้มเป็นรางวัล

ห้องน้ำ และห้องอาบน้ำที่ญป มักจะแยกกัน ยกเว้นตามโรงแรม เพราะพื้นที่ใช้สอยจำกัด

แรก ๆ ที่มาอยู่ญปฉันไม่ค่อยชิน เพราะติดว่าต้องใช้น้ำฉีด ๆ ราด ๆ เวลาทำความสะอาดห้องน้ำ ไม่งั้นจะรู้สึกว่าไม่สะอาด แต่อยู่ ๆ ไปก็เริ่มชิน แถมยังรู้สึกว่าทำความสะอาดง่ายอีกต่างหาก

เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศเกาะ พื้นที่ใช้สอยแคบ เพราะมีภูเขาเยอะ ฉะนั้นจะหาห้องน้ำที่ใหญ่ปานห้องนอนแบบเมืองไทยยากมาก ยกเว้นบ้านคนมีกะตังค์ ห้องน้ำบ้านฉันตอนที่เห็นครั้งแรก ตกใจนิดหน่อย เพราะว่าแคบกว่าห้องน้ำบ้านเช่าเก่าเสียอีก

แต่ในความแคบ ๆ ก็มีสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยให้คุณถ่ายทุกข์ได้อย่างสุขี นั่นคือเทคโนโลยี และการออกแบบพื้นที่ใช้สอยน้อยให้มีประโยชน์สูงสุด

มีอ่างล้างมือเล็ก ๆ แคบ ๆ ที่หย่อนไปพอดีพอดี (ใครที่ตีพ่อตีแม่ มือใหญ่เท่าใบลานอาจจะรู้สึกหงุดหงิดกับขนาดอ่างล้างมือเล็กน้อย) ใต้ซิงค์และเหนือแทงค์เก็บน้ำมีตู้ที่มีประตูปิดเก็บเครื่องใช้ไม้สอย อุปกรณ์ที่ใช้ในห้องน้ำ บางบ้านที่เป็นโถรุ่นเก่า จะมีที่ล้างมืออยู่เหนือแทงค์เก็บน้ำ เป็นการรีไซเคิลเอาน้ำที่ล้างมือลงไปเก็บในแทงค์เพื่อใช้เวลาฟลัชครั้งต่อไป

ที่โถนั่งจะมีเครื่องปรับอุณหภูมิให้ส่วนที่สัมผัสกับก้นอุ่นในยามฤดูหนาว บางรุ่นจะมีปุ่มกดล้างอยู่ในโถนั่งเลย แต่ของบ้านฉันปุ่มที่ว่าติดอยู่กับผนังห้องน้ำ มี 3 ปุ่มที่ฉันใช้บ่อย ๆ คือ

- ปุ่มฉีดล้างก้น (แบบน้ำแรง)
- ปุ่มฉีดล้างก้น (แบบน้ำละมุนละไม) เหมาะสำหรับคนเป็นโรคริดสีดวงทวาร
- ปุ่มล้างของผู้หญิง (bidet)

นอกจากนี้ยังมี
- ปุ่มปรับอุณหภูมิของน้ำ
- ปุ่มปรับความแรง/เบาของน้ำ
- ปุ่มปรับอุณหภูมิที่โถรองนั่ง
- ปุ่มดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ （脱臭）
- ปุ่มทำความสะอาดหัวฉีดน้ำล้างก้น
ฯลฯ

ที่ตัวโถเองก็มีเซนเซอร์ฟลัชน้ำโดยอัตโนมัติอีกด้วย (ฉันเองก็ค้นพบโดยบังเอิญเมื่อ 1 ปีผ่านไป เช้ยเชย..)

ที่เห็นเป็นสีดำ ๆ ในภาพนั่นแหล่ะ คือเซนเซอร์

คนไทยในญปจึงไม่มีการโอดครวญเรื่องใช้กระดาษทิชชู่เช็ดก้น แล้วก่อให้เกิดอาการแสบtood เหมือนคนไทยในบางประเทศ...อย่างนี้ไม่เรียกว่า cool japan! แล้วจะเรียกว่าอะไร ชิมิเคอะ

ส่วนห้องอาบน้ำ ดูเหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่จริง ๆ แล้วมีอะไรน่าสนใจเยอะทีเดียว...

เวลาสร้างบ้านในญป หากสังเกตดี ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นมาตรฐาน เช่นระดับความสูงของหน้าต่าง เพื่อให้สะดวกแก่การหาผ้าม่านสำเร็จรูปใส่ ไม่ต้องไปสั่งตัดให้เสียตังค์ ระดับความใหญ่ของห้องก็ว่ากันเป็นกี่เสื่อ ๆ ตาตามิ เพื่อความเข้าใจตรงกัน รวมถึงขนาดของห้องอาบน้ำ

คอนโดฉันห้องอาบน้ำขนาด 1418 ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไม อาจจะ 1.4x1.8 เมตร (ฉันเดาเอา) สำหรับคอนโดขนาด 85 ตร.ม. บ้านป่าป๊าหม่าม้า ห้องอาบน้ำขนาด 1620 เพราะเนื้อที่คอนโดท่าน 100 กว่าตร.ม. โค้ดนี้ใช้เป็นมาตรฐานทั่วเกาะญป (ยกเว้นหากคุณมีกะตังค์มาก และคิดจะออกแบบบ้านสร้างเอง)

อ่างอาบน้ำ(โอฟุโระ)และฝาปิด ก็มีขนาดมาตรฐานด้วย

1. หัวปรับอุณหภูมิน้ำ ร้อน-เย็น
2. หัวปรับฝักบัว-ก็อกน้ำ
3. ฝักบัว
4. ก็อกน้ำ

1. ที่ปิดอ่างน้ำ
2. ราวจับสำหรับคนแก่

บ้านเช่าเก่าฝาปิดอ่างก็เป็นแบบตอนนี้ที่ฉันใช้ (คอนโดมีให้) คือเป็นแบบชนิดม้วนเก็บและคลี่ออกมาได้ เพื่อสะดวกในการเก็บ บ้านป่าปาหม่าม้าเนื่องจากอ่างอาบน้ำใหญ่กว่าของบ้านฉัน แผ่นปิดอ่างจึงเป็นแผ่นใหญ่ ๆ 2 แผ่น รูปร่างต่างไปจากที่ฉันใช้...แผ่นที่ว่านี้ดียังไง...

เนื่องจากคนญปนิยมลงแช่น้ำร้อนทุกวัน หลังชำระล้างร่างกายให้สะอาด น้ำจึงถูกใช้อย่างเปลืองมาก น้ำที่ใช้แช่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำร้อนเปล่า ๆ ไม่มีการใส่สารทำให้เกิดฟองฟูฟ่องเหมือนของทางตะวันตก อุณหภูมิของน้ำร้อนที่แช่จะอยู่ในราว 42 องศาเซลเซียส บางบ้านอาจจะสูงกว่านั้น (แต่ต่ำกว่านี้ไม่เคยเห็น) คนในครอบครัวจะใช้น้ำในอ่างเดียวกัน ฝาปิดอ่างจึงช่วยเก็บอุณหภูมิของน้ำร้อนให้ร้อน และยังช่วยไม่ให้มีสิ่งสกปรกลงไปปนเปื้อนในน้ำร้อนอีกด้วย

พื้นห้องน้ำจะไม่ใช้กระเบื้องแบบบ้านเรา แต่จะเป็นวัสดุที่ไม่ลื่น ปัจจุบันนี้ตัวเลขผู้สูงอายุของญปมากขึ้นเรื่อย ๆ บริษัทผู้ผลิตจึงต้องคิดค้นผลิตภัณฑ์ออกมาเพื่อลูกค้ากลุ่มนี้ ตรงผนังห้องน้ำก็จะมีราวอลูมิเนียมสำหรับให้คนแก่จับเกาะกันลื่นอีกด้วย

ที่เห็นเป็นแท่งเหล็กเหนืออ่าง นั่นไม่ใช่ท่อน้ำ แต่เป็นราวให้คนแก่เกาะเหนี่ยงตัวขึ้นจากอ่าง ห้องน้ำฉันมีราวแบบนี้ 2 ราว คือที่อ่าง และใกล้ ๆ ที่วางแชมพู/สบู่ เพราะคนญปจะล้างตัวให้สะอาดก่อนลงแช่อ่าง จึงต้องมีราวไว้ 2 จุด

ราวอลูมิเนียมที่เห็นแขวนไว้เหนืออ่างอยู่สูงนั้น มีไว้สำหรับให้ตากผ้าในห้องน้ำ เดี๋ยวนี้คอนโด/บ้านที่สร้างใหม่ ๆ จะมีระบบตากผ้าในห้องน้ำแทบทั้งสิ้น (บ้านฉันไม่ได้พิเศษไปกว่าบ้านอื่นหรอก เหอ เหอ เหอ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด)

วลีที่ว่า make hay whilst the sun shines จึงไม่จำเป็นเสียแล้ว วันเปียกวันแห้ง ซักผ้าได้ตลอด จะกลางวันกลางคืน ดึกดื่น ก็ซักได้ (เสียแต่ค่าไฟที่แพงขึ้น)

ที่ผนังในห้องน้ำ จะมีแผงอีเล็คโทรนิคส์แผงนี้ติดอยู่ มันทำงานยังไงเดี๋ยวจะอธิบายให้ฟังอย่างคร่าว ๆ....

ปุ่ม 1 คือปุ่มเอาไว้อุ่นน้ำร้อน - อ่างอาบน้ำจะสามารถอุ่นน้ำร้อนที่เย็นแล้วให้ร้อนได้อีก หากเป็นสมัยก่อนน้ำร้อนอาจจะต้องทิ้งวันต่อวัน เนื่องจากน้ำที่ทิ้งไว้ในอ่าง ข้ามคืนจะเย็นเหยียบขึ้นมาทันที ก็ต้องรองน้ำร้อนให้เต็มอ่างกันใหม่อีกรอบ กว่าจะลงแช่ได้...เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง เป็นการประหยัดน้ำ

ปุ่ม 2 คือปุ่มที่คุณอ่างน้ำจะคุยกับคุณ ในทันทีที่ปล่อยน้ำร้อนลงอ่าง คุณอ่างจะพูดบอกกับคุณว่าขณะนี้เริ่มรองน้ำร้อนลงอ่างแล้ว และเมื่อน้ำเต็มถึงระดับที่ต้องการใช้ คุณอ่างก็จะร้องเตือนคุณอีกว่า น้ำร้อนรองเต็มแล้ว ไม่ต้องห่วงว่าน้ำร้อนจะถูกปล่อยท่วมพื้นห้องน้ำในกรณีที่คุณเผลอไปนั่งหน้าคอมพ์นาน ๆ (เหมือนฉัน)

ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ยินเสียงคุณอ่าง เพราะแผงอิเล็คโทรนิคส์อีกแผงจะถูกติดไว้ในครัว ส่งเสียงดังฟังชัดคับบ้านเลย

ปุ่ม 3 คือ ปุ่มปล่อยน้ำร้อนลงอ่าง

ยังมีปุ่มทางขวาอีกมากที่ฉันไม่ได้พูดถึง...ก็ฉันไม่เคยใช้นี่นา เหอ เหอ เหอ (เป็นโรคไม่ถูกกับการลงอ่าง...ฉันแช่อ่างปีละ 2 หน) ต้องถามตาอ้วน

เมื่อกี้คนคงสงสัยว่าจะตากผ้าในห้องน้ำได้ยังไง ผ้าไม่เหม็นแย่เหรอ คำตอบอยู่ที่แผงนี้ ถูกติดไว้หน้าห้องอาบน้ำ

ปุ่ม1 (乾燥） เอาไว้ตากผ้า ทันทีที่กดปุ่มนี้ ลมร้อนที่อยู่เหนือเพดานในห้องอาบน้ำจะถูกเป่าลงมา วู้ ๆ ๆ (เสียงลม) ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ชั่วโมง แล้วจะตัดไปเอง หากผ้ายังไม่แห้ง ก็กดเป่าต่ออีก 3 ชม. โดยเฉพาะกางเกงยีนส์ แห้งยากหน่อย

ปุ่ม2 （涼風） เป็นปุ่มที่เป่าลมเย็นออกมา

ปุ่ม 3 （暖房）เป็นปุ่มฮีตเตอร์เป่าลมร้อน

ปุ่ม 4 （換気）　ventilation เอาไว้เวลาห้องน้ำเปียก กดปุ่มนี้แล้วลมเย็นจะถูกเป่าลงมาทำให้ห้องน้ำแห้ง กันไม่ให้ห้องน้ำอับ ไม่งั้นอาจจะเกิดเชื้อราได้ง่าย

ปุ่ม 5 คือปุ่มที่เปิดพัดลมหมุนเวียนในห้องอาบน้ำตลอด 24 ชั่วโมง ฉันไม่ค่อยใช้หรอก แต่ตาอ้วนบังคับบอกให้เปิดไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ห้องน้ำจะได้แห้ง ๆ แล้วยังช่วยระบายอากาศด้วย

ทุกวันนี้ฉันก็เลยสนุกสนานกับการตากผ้าในห้องน้ำ ไม่ต้องเดินออกไปที่ระเบียง เช็ดฝุ่นที่ราวตากผ้าอีกต่อไป ขนาดซักผ้าปูที่นอน หรือปลอกผ้านวมฉันก็ตากไว้ในห้องน้ำ วิธีนี้เนื้อผ้าไม่หดเหมือนกับใช้เครื่องอบผ้าทั่ว ๆ ไป คุณว่า cool japan! มั้ยล่ะ

ปล. ไม่อนุญาตให้ก๊อปรูปภาพ หรือข้อความไปไว้ที่เวบใด ๆ วันก่อนน้องปุ้ยบอกฉันว่ามีคนเห็นข้อความในบล็อคของฉันถูกคัดลอกไปไว้บนเวบอื่น หากใครต้องการข้อมูลที่ฉันนำมาลงที่บล็อคขอให้บอกกล่าวกันให้รู้สักนิดค่ะ

mahalo

Create Date : 22 พฤษภาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2550 17:49:07 น.		0 comments
Counter : 4496 Pageviews.
Share Tweet