เปิดใจ ศ.ดร.พิเชษฐ์ หอบเงินล้านมอบเวที กปปส.
ศ.ดร.พิเชษฐ์ ระบุเงินทองของนอกกาย ประเทศสำคัญกว่า มันเป็นหน้าที่ที่ต้องทำความดีเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ หวังเป็นจุดเริ่มต้นให้ ขรก.ขี้กลัวกล้าออกมาช่วยบ้านเมือง ย้ำไม่หวั่นดีเอสไอสอบ ปลุกนักธุรกิจ ถึงเวลาต้องออกมาช่วยกันลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา ได้สอบถามหาข้อเท็จจริงทำไม ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด ( มหาชน ) ถึงกล้าขึ้นเวทีราชดำเนิน เพื่อมอบเงินสดๆ จำนวน 1 ล้านบาท ให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(กปปส.) เพื่อนำไปใช้เป็นทุนในการต่อต้านรัฐบาล ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยคิดอยากจะดัง จากการขึ้นเวทีบริจาคเงินครั้งนี้เลย คิดแค่ว่ามันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำความดีเพื่อช่วยเหลือประเทศชาติ ถ้าเราช่วยกันทำกันคนละนิดคนละหน่อย ป่านนี้งานของ กปปส.สำเร็จไปนานแล้ว เรื่องเงินหนึ่งล้านสำหรับผมมันจิ๊บจ้อยมาก และสิ่งที่ตั้งใจให้เกิดขึ้นเมื่อวานก็คือ อยากจะใช้จุดนี้เป็นจุดเริ่มต้น กระตุ้นคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มข้าราชการที่มีเป็นแสนเป็นล้านคน ที่มีความรู้สึกอึดอัดในใจแต่ไม่กล้าที่จะลุกขึ้นมาทำอะไร ให้กล้าที่จะออกมาทำอะไรเพื่อบ้านเมืองของเราได้แล้ว ซึ่งสถานการณ์ของประเทศขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพึ่งพากำลังของข้าราชการ เพื่อร่วมกันผลักดันงานของประเทศให้เกิดความสำเร็จลุล่วงไปข้างหน้า ซึ่งเรื่องนี้ผมคิดแบบนักวิทยาศาสตร์นะ ไม่ได้คิดแบบนักการเมือง เมื่อถามว่า หลังลงจากเวทีกังวลการถูกตรวจสอบเรื่องการเงินจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือไม่ ศ.ดร.พิเชษฐ์ ตอบว่า ผมไม่กลัวว่าจะถูกตรวจสอบอะไรจากการขึ้นบริจาคเงินครั้งนี้เรา เพราะคิดว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ผมเป็นข้าราชการมาก่อน ตอนนี้ก็เป็นข้าราชการบำนาญ ใครจะมาตรวจสอบผมก็ได้เลย ไม่มีปัญหาเพราะทุกอย่างเราทำโปร่งใส ยิ่งมาตรวจสอบยิ่งดีเลยยิ่งชอบ เมื่อถามย้ำว่า ไม่กลัวที่จะถูกอายัดบัญชีด้วยหรือ ศ.ดร.พิเชษฐ์ ตอบว่า ไม่เคยกลัวเลย อายัดมาเลยไม่มีปัญหา ผมทำทุกอย่างโปร่งใส เพราะผมอยู่ในที่แจ้ง ไม่ได้อยู่ในที่มืด ผมมีโอกาสที่จะแสดงจุดยืนอะไรผมก็จะทำ และที่สำคัญเงินที่ผมนำไปบริจาคก็เป็นเงินส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินบริษัทของผม ที่อยู่ในตลาด ซึ่งก็หวังว่าทางผู้ถือหุ้นจะเข้าใจเรื่องนี้ด้วย ตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่นักธุรกิจ หรือข้าราชการทั้งหมด จะต้องออกมาช่วยกัน ทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง ตรงนี้สำคัญกว่าเรื่องเงิน ผมอยากให้สิ่งที่ผมทำเป็นการจุดกระแส ไปปลุกจิตสำนึกของพวกเรา ให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองได้แล้ว ถ้าเราช่วยกันทำได้ บ้านเมืองเราคงเจริญกว่านี้เยอะ เมื่อถามว่า มีแผนที่จะบริจาคเงินเพิ่มเติมหรือไม่ ศ.ดร.พิเชษฐ์ ตอบว่า ก็คงดูสถานการณ์ต่อไปก่อน ยังบอกอะไรไม่ได้ แต่ถ้าจะทำอีกก็คงจะต้องไปงัดกระปุ๊กออกมาอีก และคิดว่าถ้าหากเราช่วยกันบริจาคกันคนละเล็กละน้อย คนละแสนสองแสน จะทำให้ผู้ชุมนุม มีกำลังต่อสู้ได้มากขึ้น เราก็จะชนะได้เร็วขึ้น แต่เรื่องเงินทองผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญนะ แต่สิ่งสำคัญในขณะนี้คือเราอยู่ในประเทศของเรา ควรแสดงจุดยืนของเรา ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ตอนนี้ มีคนจำนวนมาก ไม่กล้าที่จะพูดแสดงความเห็นอะไรออกมา ทั้งนักวิชาการ นักธุรกิจ ข้าราชการ เท่าที่รับฟังมาเขาอึดอัด แต่ก็ไม่กล้าพูดไม่กล้าทำอะไร ซึ่งการแสดงความเห็น เป็นสิ่งสำคัญมาก ในฐานะผู้นำความคิดเราต้องกล้าทำ เพื่อช่วยให้ประเทศไทย พัฒนาเจริญรุ่งเรืองขึ้นกว่าเดิม เราต้องกล้าทำ ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่าวทิ้งทาย
ที่มา ผู้จัดการ ออนไลน์
Create Date : 22 ธันวาคม 2556 |
Last Update : 22 ธันวาคม 2556 10:39:01 น. |
|
2 comments
|
Counter : 969 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หนึ่งคนหนึ่งเสียง IP: 121.216.155.74 วันที่: 22 ธันวาคม 2556 เวลา:16:01:30 น. |
|
|
|
โดย: Rangsana IP: 124.120.237.205 วันที่: 22 ธันวาคม 2556 เวลา:16:49:08 น. |
|
|
|
| |