BlogGang.com : : scimovie : แนวคิดแนวทางการปฏิรูปห้องเรียนวิทยาศาสตร์

แนวคิดแนวทางการปฏิรูปห้องเรียนวิทยาศาสตร์

ห้องเรียนวิทยาศาสตร์ที่ครูหลายคนคุ้นเคยก็คงจะเป็นห้องที่มีโต๊ะยาวๆ สำหรับปฏิบัติการทดลอง นั่งเป็นกลุ่มๆ บางครั้งก็ใช้เรียน บางครั้งใช้ทดลอง บางครั้งก็ใช้ทั้งสองอย่าง แล้วจะปฏิรูปอย่างไร วันนี้ค้นไปเจอแนวคิดในการปฏิรูปห้องเรียนวิทยาศาสตร์ จากเว็บไซต์แหงหนึ่ง (//curric.net/elearning/mod/forum/discuss.php?d=12) ผู้เขียนชื่อ อดุลย์ วงษ์ใหญ่ ได้ให้แนวคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ ไว้ว่า

ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการปฏิรูปการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เพราะการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ต้องฝึกให้นักเรียนรู้จักการค้นหาแสวงหาความรู้หรือคำตอบจากเรื่องที่นักเรียนสนใจ...หรือองค์ความรู้ที่ครูอาจารย์ต้องการให้เกิดการเรียนรู้และมีพฤติกรรมตามความประสงค์ดังนั้น ห้องเรียนต้องจัดใหม่ให้พร้อมสำหรับการตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นก็เป็นห้องเรียนที่มีเครื่องมือของทุกกลุ่มวิชา อยู่ภายในห้องเดียวกัน มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเชื่อมต่อระบบเครือข่าย inter-net ได้ แต่ละกลุ่มอาจเรียนไม่เหมือนกันแต่ในหัวข้อหรือหัวเรื่องเดียวกัน โดยให้ค้นคว้าหาคำตอบได้หลากหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามที่ครูจัดเท่านั้น

ตัวอย่างเช่น
ถ้าเรียนเรื่องการเจริญเติบโตของพืช กลุ่มหนึ่งอาจค้นจาก ระบบเครือข่าย หรือค้นจากงานที่มีคนอื่นทำไว้แล้ว บางกลุ่มอาจทดลองปลูก หรือหาตัวอย่างมาสรุป แต่เมื่อถึงเวลาทุกกลุ่มก็จะมารายงานโดยมีครูเป็นผู้ดูแลและแนะนำ ก็จะได้องค์ความรู้ใหม่ตามความต้องการของนักเรียน

ดังนั้นห้องเรียนวิทยาศาสตร์และห้องปฏิบัติการต้องอยู่ด้วยกันโดยการจัดห้องให้บริเวณนักเรียนให้อยู่กลางและอุปกรณ์การทดลองหรือแหล่งค้นคว้าต้องไปอยู่รอบๆห้องเรียน มีระบบเครือข่ายและเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ในห้อง เมื่อนักเรียนเรียนก็สามารถฟังบรรยายได้ แต่ถ้ามีข้องสงสัยก็ให้ค้นหาคำตอบได้จากภายในห้องนั้นเลย หมดสมัยแล้วนะครับที่คุณครูจะให้นักเรียนทดลองเหมือนกันทั้งห้อง ปลูกผักบุ้งก็เหมือนกันทั้งห้อง ไม่ต้องจัด Lab แล้วปฏิบัติเหมือนกันหมด แล้วนักเรียนจะมีความคิดริเริ่มใหม่อย่างไรครับ อย่าเริ่มการสอนด้ววิธีการสร้างปัญหา แต่ให้เริ่มด้วย วันนี้มีเรื่องที่น่าสนใจ/นักเรียนพบเรื่องอะไรที่แปลกบ้างครับ แล้วอยากรู้ไหมมันเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่นทำไมเราถึงรู้สึกหนาว แค่นี้ก็หารคำตอบกันแย่แล้วละครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ แนวคิดนี้ โรงเรียนที่ทำได้ก็คงต้องวางแผนบริหารงบประมาณ(ที่มีจำกัด)ให้ดีนะครับ เพราะต้องลงทุนหลายบาท แต่ก็อาจจะทยอยซื้อหามาใส่ให้ได้ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คงจะสมบูรณ์แบบเอง สิ่งสำคัญคือตัวนักเรียนนั้นเราจะต้องฝึกให้เขามีความรับผิดชอบให้มากๆ และมากกว่าปัจจุบันหลายเท่าเชียวแหละ หากทำได้..เยี่ยมไปเลยสำหรับเด็กประถม แต่เด็กโตไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไร

และในหน้าเว็บเดียวกันก็มีผู้เสนอแผนผังห้องเรียนไว้คือ ดร.ไพจิตร สดวกการ ได้เสนอผังห้องเรียนวิทยาศาสตร์อย่างมีความสุขดังนี้

ทำได้แค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมที่มี
อาจจะมีมากกว่านี้ หรือน้อยกว่านี้ก็ปรับตามสภาพนะคะ
ตรงกลางเป็นโต๊ะชุดสำหรับนักเรียนทำกิจกรรมกลุ่มค่ะ
อาจจะแยกย่อยเป็นกลุ่มเล็กกว่านี้ก็ได้
ที่วางไว้นั้นอาจจะนั่งได้ประมาณกลุ่มละ 6 คน
มีคอมพิวเตอร์สำหรับนักเรียนอยู่ 6 เครื่อง และครู 1 เครื่อง เป็นมัลติมีเดีย และใช้ Internet แบบ online หรือ offline ได้
หมายเลข 1 และ 2 คือ printer และ scanner ไว้ให้เด็กสร้างสรรค์งานเพื่อนำเสนอข้อค้นพบของตน
มีจอทีวีและเครื่องเล่นวีดิทัศน์
มีตู้เก็บซอฟท์แวร์สำหรับเก็บแถบวีดิทัศน์ และแผ่นดิสก์ หรือ ซีดี-รอมบทเรียนและเกมสถานการณ์จำลองทางวิทยาศาสตร์
มีอ่างน้ำ ตู้เก็บอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์ และของเล่นเชิงวิทยาศาสตร์
มีชั้นวางหนังสือตำรา การ์ตูน วารสาร และนิยายทางวิทยาศาสตร์
มีจอใหญ่สำหรับนำเสนอด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ วีดิทัศน์
มีกระดานไว้เขียนอะไรที่ต้องอธิบายเพิ่มเติมเล็ก ๆ น้อย ๆ
มีป้ายนิเทศสำหรับปิดผลงานค้นพบ สร้างสรรค์ต่าง ๆ ของนักเรียนทั้งที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ และสร้างด้วยมือเปล่า หรือชิ้นส่วนของจริง

เอาล่ะครับ คงจะมีนำเสนอไว้เพียงเท่านี้ก่อน ไปคิดหาทางประยุกต์ใช้ก่อนดีกว่า

Create Date : 30 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 30 พฤศจิกายน 2554 9:20:47 น.

1 comments

Counter : 14285 Pageviews.

555+

โดย: วนัชพร ซุ่นเส้ง IP: 115.67.131.59 วันที่: 9 มกราคม 2556 เวลา:20:21:29 น.