BlogGang.com : : scimovie : ข้อคิดจาก โชคลาง สัญญาณ สังหรณ์

ข้อคิดจาก โชคลาง สัญญาณ สังหรณ์

วันนี้ได้อ่านหนังสือ "โชคลาง สัญญาณ สังหรณ์" โดย พลูหลวง เขียน ของสำนักพิมพ์ เมืองโบราณ และเป็นฉบับที่พิมพ์ครั้งที่ 6 แล้ว ได้อ่าน
เกี่ยวกับเรื่องของจิต วิญญาณ ตายแล้วไปไหน ประมาณนั้น มีความน่าสนใจและทำให้เกิดการคิดได้หลายๆ แง่มุม ดังที่จะเล่าต่อไปนี้

1. วันเวลาในภพภูมิที่ไม่ใช่เวลาเดียวกัน
จากที่เคยได้ยิน อ่านมาจะพบว่า ผู้ที่เคยบอกว่าได้ไปเห็นนรก สวรรค์นั้น ล้วนแต่บอกว่า ได้เห็นวิญญาณหรือจิตหรือร่างหรืออะไรก็ตามแต่ที่จะ
เรียกของผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่และผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว และเมื่อผู้ที่ไปนรกสวรรค์นั้นกลับมายังโลก ก็ได้เห็นคนที่เคยเห็นวิญญาณในนรกนั้นตายไปทีละคน
แสดงว่า ในส่วนของนรกหรือสวรรค์นั้นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้ว แต่เหตุการณ์จริงบนโลกยังไม่ได้เกิด ซึ่งก็คือชีวิตของเราถูกกำหนดไว้แล้ว
ใช่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือ "ใช่" ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า เราจะทำอย่างไรก็ตามผลที่ได้ก็ต้องเป็นไปตามที่มีคนเห็นในโลกอื่น หรือว่าถ้าหากเรา
รู้ตัวว่าเราจะต้องไปเกิดในนรกแล้ว เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ทำแต่ความดี ผลที่ได้อาจจะได้ไปอยู่สวรรค์ ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แสดงว่า เราสามารถ
กำหนดชีวิตของเราได้ในขณะปัจจุบันและทำความดีเพิ่ม เราก็จะได้ผลกรรมดีที่ตามมาเมื่อเสียชีวิตไป

2. ผลการทำบุญที่เราได้ทำ ส่งผลคืนให้เราเองเมื่อเราเสียชีวิตไปแล้ว
หมายความว่า ถ้าหากเราเคยทำบุญใส่บาตรด้วยอาหารอะไรก็ตามแต่ สิ่งนั้นก็จะกลายเป็นอาหารของเราบนสรวงสวรรค์ และถ้าหากเราเคยสร้าง
วัดวาอาราม บริจาคกระเบื้องมุงหลังคา หรือสร้างอาคาร เราก็จะได้อยู่ในอาคารบ้านเรือนหลังใหญ่ โต หรือ ขนาดเท่ากับที่เราได้สร้างไว้ ผู้ที่ไม่เคย
ได้สร้างก็ต้องไปอาศัยอยู่กับผู้อื่น ประมาณนั้นหรือเปล่า

3. คนที่ทำบาปมากกว่าบุญและไม่รักษาศีล 5 ย่อมลงนรก
ได้ยินได้อ่านมาว่า เราจะได้เกิดเป็นคนในชาติหน้าหรือไม่ ขึ้นกับว่า เราได้ทำบุญรักษาศีล 5 หรือไม่ ถ้าทำก็ย่อมได้เกิดเป็นคน แต่จะไปนรกหรือ
สวรรค์ก่อนก็คงจะขึ้นอยู่กับว่า ทำบุญหรือบาปไว้มากกว่ากัน...แบบนี้เข้าใจถูกต้องหรือไม่

4. ร่างของเราที่จะไปไหนต่อไหน เป็นร่างโปร่งแสง
หมายความว่า เรารู้ตัวว่าเป็นเรา แต่มองเห็น(ไม่ใช่ด้วยตา)ว่าเป็นร่างโปร่งแสง ไม่เห็นอวัยวะภายใน คงจะเหมือนภาพร่างที่เราวาดที่จะมองเห็น
ขอบเขตว่าร่างของเราเป็นเป็นอย่างไรเท่านั้น การเดินทางไปไหนมาไหนจึงไม่ทำให้เกิดความรู้สึกเหนื่อย แต่จะไม่สามารถขัดขืนคำสั่งจากผู้ที่สั่ง
เราได้ แม้ว่าอยากจะทำก็ตาม

5. เรื่องบนสวรรค์เล่าได้ แต่เรื่องในนรกห้ามเล่า

6. อย่าไปว่า โกรธ หรือเคืองคนที่ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้ เพราะเป็นกรรมของบุคคลแต่ละคนเอง

7. ทิศทางและการเข้าออกจากร่างต้องเป็นจุดเดียวกัน

8. เวลาในนรกหรือสวรรค์จะช้ากว่าบนโลก
เช่น เราไปนรกหรือสวรรค์ด้วยความรู้สึกว่า แป๊บเดียว แค่เวลาบนโลกผ่านไปเป็นสัปดาห์

วันนี้เอาไว้เท่านี้ก่อนครับ

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2553

Last Update : 17 พฤศจิกายน 2553 8:33:24 น.

0 comments

Counter : 715 Pageviews.