ดาวน์โหลดโปรแกรม ดูละครย้อนหลัง อ่านเรื่องราวของความรู้รอบตัว วิทยาศาสตร์ ท่องเที่ยว สุขภาพ อาหาร รถยนต์ต่างๆ ไม่ทิ้งเรื่องราวความบันเทิงและเรื่องส่วนตัวอีกด้วย
Group Blog
 
<<
กันยายน 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 กันยายน 2554
 
All Blogs
 
จับกระแสโลกร้อน-สังคมคนแก่ชี้เทรนด์เทคโนโลยีน่าลงทุน


เทคโนโลยีนำส่งยาให้ตรงเป้าหมาย เป็นอีกเทคโนโลยีที่น่าลงทุน


จับกระแสโลกร้อน-สังคมคนแก่ชี้เทรนด์เทคโนโลยีน่าลงทุน

สวทช.เผย 10 เทคโนโลยีน่าลงทุนแก่นักธุรกิจ จับกระแสโลกร้อนและอนาคตสังคมคนแก่ พร้อมคาดหวังจะผลักดันให้เกิดการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชน และยกระดับกระทรวงวิทยาศาสตร์เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ ที่เพิ่มมูลค่าธุรกิจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผลักดันให้เกิดการวิจัยในภาคเอกชน

ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เผยถึง 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามองสำหรับธุรกิจภายในงาน NSTDA Investors’ Day 2011 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.ย.54 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด “ลงทุนในธุรกิจเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์เพื่อความมั่นคงและยั่งยืน”

สำหรับเทคโนโลยีที่น่าจับตามองที่โลกกำลังจะไปในทิศทางใดนั้น ดร.ทวีศักดิ์กล่าวว่า เป็นการรวบรวมและคัดสรรจากทีมงาน สวทช. ซึ่งพบว่าคนเรามีอายุขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พบปัญหาเรื่องความเสื่อมตามมา และยังมีภาวะโลกร้อนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมที่กระทบต่อการดำรงชีวิต

เทคโนโลยีซึ่งถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 10 ที่น่าจับตาสำหรับนักลงทุนคือเทคโนโลยีเกี่ยวกับอวัยวะซ่อมเสริมหรืออวัยวะเทียม (Artificial Organ) ที่จะช่วยสนับสนุนและเพื่อคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ป่วย ผู้สุงอายุ หรือผู้พิการที่มีร่างกายเสื่อมถอย จึงต้องสร้างเสริมอวัยวะเพื่อมาซ่อมแซม

แนวทางสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ ได้แก่ สร้างอวัยวะเทียม เช่น หัวใจเทียม มือเทียมที่อาศัยสัญญาณจากกล้ามเนื้อเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว ใช้สเต็มเซลล์ (Stem cell) หรือเซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งมีตัวอย่างการสร้าง “ท่อลมขั้วปอด” จากสเต็มเซลล์ได้สำเร็จ และการสร้างอุปกรณ์ไฮเทค เช่น ชุดทางการทหารที่ช่วยให้ยกของหนักๆ ได้

“อันดับ 9 เป็นเทคโนโลยีระบบน้ำส่งยาด้วยนาโนเทคโนโลยี ซึ่งโอกาสที่เราจะค้นพบยาใหม่ๆ มียากขึ้น อนาคตต่อไปผู้ผลิตต้องหาวิธีนำส่งยาน้อยๆ แต่ไปได้ตรงเป้าหมาย ซึ่งไทยเองก็มีการพัฒนาระบบน้ำส่งยา เช่น ยารักษาโรคมะเร็ง และระบบเพิ่มการละลายของยา เป็นต้น” ผอ.สวทช.กล่าว

เทคโนโลยีน่าจับตาสำหรับนักลงทุนอันดับ 8 คือ การวินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ที่ใช้จีโนมส่วนบุคคล ด้วยการหาลำดับเบสของสารพันธุกรรม ซึ่งทุกคนมีสารพันธุกรรมที่เหมือนกัน 99.9% และมี 0.1% ที่แตกต่างกันซึ่งจะบอกได้เราจะเป็นโรคอะไร และจะเกิดอะไรกับเราบ้าง โดยเทคโนโลยีการวินิจฉัยด้วยการวิเคราะห์จีโนมเฉพาะบุคคลนี้จะมีราคาถูกลงเรื่อยๆ จากเดิมเป็นแสนเป็นล้านบาท เหลือเพียงไม่กี่หมื่นบาท

ส่วนพลังงานชีวภาพจัดเป็นเทคโนโลยีลำดับ 7 ที่น่าลงทุน ซึ่ง ดร.ทวีศักดิ์กล่าวว่าปัจจุบันมีความพยายามพัฒนาพลังงานชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร อาทิ ฟาง ใบไม้ กิ่งก้านพืชเกษตร เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดการแย่งแหล่งอาหาร

“หากแต่เศษเหลือทิ้งเหล่านั้นเป็นเซลลูโลสที่กระบวนการหมักยังสลับซับซ้อน และยังมีใครไปถึงดวงดาว จึงมีการทุ่มพัฒนาจุลินทรีย์ และมีการทำจีเอ็มโอเพื่อให้จุลินทรีย์ย่อยสลายเซลลูโลสออกมาเป็นเชื้อเพลิงให้ได้ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีโรงงานต้นแบบแล้ว และของไทยก็มีโรงงานผลิตเอทานอลจากชานอ้อยอยู่ที่สระบุรี” ดร.ทวีศักดิ์กล่าว

มาถึงเทคโนโลยีอันดับ 6 คือเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่ง ดร.ทวีศักดิ์กล่าวว่า เราสามารถเปลี่ยนพลังงานตรงจากแสงอาทิตย์มาเป็นความร้อนได้เยอะ แต่เรายังเปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์ไปเป็นไฟฟ้าได้น้อย ซึ่งเ)นเรื่องน่าสนใจหากเราสามารถทำได้ เพราะจะทำให้เรามีแหล่งพลังงานใหม่ สำหรับเซลล์แสงาอทตย์ที่น่าลงทุนสำหรับประเทศไทยนั้นควรเป็นเซลล์ที่ไม่กลัวร้อน เซลล์แสงอาทิตย์หลายชนิดประสิทธิภาพลดลงเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น

“ที่น่าสนใจคือเซลล์แสงอาทิตย์ประสิทธิภาพสูงชนิดรอยต่อแบบเฮเทอโร (High efficiency heterojunction solar cells) ซึ่งดูดกลือนแสงได้ดีเหมือนเซลล์แสงอาทิตย์แบบซิลิกอนทั่วไป แต่ใช้พลังงานความร้อนในการผลิตน้อยกว่า ทั้งนี้มีบริษัทเอกชนที่พัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดนี้มานาน 20 ปี และเป็นโอกาสที่เราจะได้ต่อยอดวิจัยเพื่อผลิตจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ” ดร.ทวีศักดิ์

สำหรับเทคโนโลยีอันดับ 5 คือพลาสติกชีวภาพ โดย ดร.ทวีศักดิ์กล่าวว่า เม็ดพลาสติกชีวภาพชนิดพีบีเอส (PBS) นั้นเป็นเทคโนโลยีที่น่าลงทุน โดยลักษณะของพลาสติกจะมีลักษณะเป็นเรซินขาวขุ่น ขึ้นรูปได้ดีและย่อยสลายง่ายกว่าพลาสติกชีวภาพแบบพีแอลเอ (PLA: Polylacticacid)

มาถึงเทคโนโลยีน่าลงทุนเป็นอันดับ 4 คือ จีโอพอลิเมอร์ (Geopolymer) เป็นวัสดุจำพวกอะลูมิโนซิลิเกต ที่มีสมบัติทางกลดีมาก ทนไฟ ทนสารเคมี มีการค้นพบจากการสังเกตการเปลียนแปลงของหินภูเขาไฟ และนำมาสู่การพัฒนาวัสดุชนิดนี้ ซึ่งนำไปประยุกต์ใช้กับวัสดุก่อสร้างให้ทนไฟและมีน้ำหนักเบา และต่อไปในอนาคตจะพัฒนาเป็นเซรามิกส์ที่ไม่ต้องเผา ณ อุณหภูมิสูงๆ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนต่ำ

ส่วนเทคโนโลยี 3 อันดับแรกที่น่าลงทุน ได้แก่ อันดับ 3 กราฟีน (Graphene) วัสดุชนิดใหม่ที่เกิดจากการเรียงตัวของโมเลกุลคาร์บอนเป็นรูป 6 เหลี่ยม แต่มีความบางเพียง 1 โมเลกุล ซึ่งทำให้นำไฟฟ้าได้ดีตามคุณสมบัติเชิงควอนตัม มีความโปร่งใสและแข็งแรงมาก ดร.ทวีศักดิ์คาดว่าจะมีเทคโนโลยีที่นำวัสดุชนิดนี้ไปใช้อย่างหลากหลายในอนาคต อาทิ ทรานซิสเซอร์ที่เล็กเพียง 240 นาโนเมตร และมีความเร็วถึง 100 กิกะเฮิรตซ์ หรือจอที่สามารถโค้งงอและม้วนเก็บได้ เป็นต้น

อันดับที่ 2 คือเทคโนโลยีจอภาพ 3 มิติ ซึ่งมีหลากหลายแบบ ซึ่งหลักการคือทำให้ตาซ้ายและตาขวาเห็นภาพเดียวกันในมุมต่างกัน เมื่อสมองประมวลผลจะทำให้เห็นเหมือนภาพ 3 มิติ ในตอนนี้เราเห็นเทคโนโลยีจอภาพ 3 มิติจายในราคาสูง แต่อนาคตเราจะได้เห็นการถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์แบบ 3 มิติ และจะได้เห็นจอภาพที่มีราคาถูกลงเรื่อยๆ

สำหรับเทคโนโลยีที่น่าลงทุนอันดับ 1 คือ เทคโนโลยีเว็บ 3.0 หรือเว็บเชิงความหมาย (Semanic Web) ซึ่งจะเข้ามีบทบาทสำคัญในอนาคตอันใกล้นี้ โดยเว็บในรุ่นนี้จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกัน โดยสิ่งสำคัญของเว็บคือการเชื่อมโยงเนื้อหา ไม่ใช่การเชื่อมโยงลิงค์อย่างที่ผ่านมา โดยมี “ออนโทโลยี” (Ontology) เป็นแนวคิดเบื้องหลังเทคโนโลยีนี้ และมีการแสดงผลบนมาตรฐาน RDF (Resource Definition Framework) OWL (Ontology Web Language)

สำหรับงาน NSTDA Investors’ Day นี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยปี 2554 นี้มีนักลงทุนตอบรับเข้าร่วมงานประมาณ 400 คน และมีการนำเสนอ 5 ผลงานเด่นของ สวทช.เพื่อการเจรจาธุรกิจโดยมีนักลงทุนให้ความสนใจในผลงานเด่นดังกล่าว 28 ราย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยได้พบปะนักลงทุนเพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อพัฒนานวัตกรรมที่ตอบความต้องการของภาคอุตสาหกรรม

“หวังว่างาน NSTDA Investors’ Day จะกระตุ้นให้เกิดการวิจัยและพัฒนาในภาคเอกชนมากขึ้น และจะยกระดับกระทรวงวิทยาศาสตร์ให้เป็นกระทรวงเศรษฐกิจ จากการเพิ่มมูลค่าธุรกิจด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี” ดร.ทวีศักดิ์กล่าว


นักลงทุนกำลังสนใจเทคโนโลยีเปลี่ยนเซลลูโลสหรือวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาเปลี่ยนเป็นพลังงานชีวภาพ


ที่มา
//www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000121027


Create Date : 23 กันยายน 2554
Last Update : 23 กันยายน 2554 0:03:17 น. 1 comments
Counter : 781 Pageviews.

 
www.PackageDD.comเข้าชม สินค้าได้ที่นี่ครับ
ร้านแพ็คเกจดีดี จำหน่าย บรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางค์ ขวดอคิลิค ขวดแก้ว ขวดสูญญากาศ ขวดpet ขวดอโรมา กระปุกครีม ตลับพลาสติก หลอดโฟม
หลอด บีบ หัวสเปรย์ หัวฉีด หัวปั้ม ถุงแพ็คเกจ ที่ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพและสวยงาม เหมาะสำหรับนำไปบรรจุผลิตภัณฑ์ความงาม เช่น ครีมทาผิว
เจล โลชั่น และเครื่องสำอางค์ชนิดต่างๆ ทั้งเรายัง จำหน่าย ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์ มาร์คหน้า มาร์คกระชับสัดส่วน ครีมบำรุงผิว เจลอาบน้ำ
เกลือขัดผิว และ ผลิตภัณฑ์น้ำหอม ให้เลือกมากมายหลายแบบ ราคาถูกที่สุดบนโลกออนไลน์


ณัฐสามารถเข้าชมและสั่งซื้อสินค้าได้ที่ //www.packageDD.com ติดต่อ โทร 086-0572323 หรือ 089-4765666 (ณัฐ)Email info@packagedd.com


โดย: PackageDD IP: 110.168.70.148 วันที่: 23 กันยายน 2554 เวลา:23:38:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

scimovie
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 108 คน [?]




แหล่งรวบรวมความรู้ โปรแกรม เพลง หนัง เกมส์ วิทยาศาสตร์ ดูละคร เรื่องย่อ ภาพยนตร์ การเงิน และอื่นๆ อีกมากมาย สุดท้ายขอกำลังใจให้มีแรงอัพเดทตลอดๆ ครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยียนกันครับ
Friends' blogs
[Add scimovie's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.