ละครไทย : เน่าจนได้ดี?....ได้ไปจีน
ละครไทย : เน่าจนได้ดี?
เป็นเรื่องที่น่าจับตาไม่น้อยกับข่าวการเยือนจีนของนายกรัฐมนตรีของไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ นครกวางโจว พร้อมกับใช้โอกาสนี้ลงนามบันทึกความตกลงและความตั้งใจร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้ละครไทยได้ไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ CCTV และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นตามมณฑลต่างๆ ของจีน ... บันเทิงไทยแค่สายลมที่พัดผ่าน? ย้อนกลับไปในอดีต หาใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใดกับการที่ละครไทยจะไปปรากฏสายตาเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นประเทศใกล้ๆ กันอย่าง ลาว กัมพูชา ที่ต่างก็ติดละครไทยกันอย่างงอมแงม ขณะเดียวกันละครอย่าง "สงครามนางฟ้า" ก็เคยออกเป็นแผ่น DVD วางขายในประเทศญี่ปุ่นมาแล้วโดยนักแสดงนำของเรื่อง "บี น้ำทิพย์" ยังได้เดินทางไปประชาสัมพันธ์ผลงานชิ้นนี้ถึงแดนปลาดิบมาด้วย อย่างไรก็ตาม การส่งออกความบันเทิงไทยไม่ว่าจะเป็นละคร, เพลง, รายการโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ ที่ผ่านมาโดยส่วนใหญ่มักจะถูกเรียกว่า "T-Wind" หมายความถึง 'สายลมจากเมืองไทย' ที่ไม่สามารถสร้างความต่อเนื่องได้ ต่างไปจากความบันเทิงที่ถูกส่งออกมาจากญี่ปุ่น หรือเกาหลี ที่บุกประเทศต่างๆ ไม่ต่างอะไรจากลมพายุ กระทั่งการไปเยือนจีนของละครไทยเรื่อง "เลือดขัตติยา" จากค่ายเอ็กแซ็กท์เมื่อ 2 ปีที่แล้วนั่นเองซึ่งได้จุดกระแสความนิยมขึ้นในหมู่วัยรุ่นชาวจีนที่มีต่อละครไทยให้เกิดขึ้น โดยในเว็บไซต์ Sohu.com ซึ่งรวบรวมข้อมูลของละคร, ซีรีส์จากประเทศต่างๆ ที่ได้เข้าไปฉายในจีนไว้ปรากฏว่า "เลือดขัตติยา" ได้รับเสียงโหวตถึง 56,943 เสียง แซงหน้าผลงานจากประเทศอื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่น โดยหลังเกิดปรากฏการณ์จากละครเรื่อง ขัตติยา ละครไทยก็เริ่มพาเหรดกันเข้าไปสร้างความบันเทิงในประเทศจีนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เจ้าสาวสายฟ้าแลบ, แก้วตาพี่, หัวใจช็อคโกแล็ต, สงครามนางฟ้า,เลือดหงส์ ฯลฯ ซึ่งการบุกตลาดจีนของละครไทยในครั้งนี้ส่วนหนึ่งต้องขอบคุณเทคโนโลยีการสื่อสารอย่างอินเทอร์เน็ต ที่ทำให้แฟนละครตี๋หมวยไม่ต้องง้อสื่อกระแสหลัก แต่สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล การพูดคุยกับแฟนละครชาวไทย จนสามารถติดตามข้อมูลต่างๆ รวมถึงตามหาละครไทยใหม่ๆ มาดูกันได้ง่ายดายขึ้นนั่นเอง ... พระเอกไทยขโมยหัวใจสาวหมวย จากความดังของละคร "เลือดขัตติยา" ทำให้พระเอกนำของเริ่องอย่าง "ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี" กลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่สาวจีนคลั่งไคล้ไปตามๆ กัน บทความจากเว็บไซต์ Baidu.com บรรยายสรรพคุณของหนุ่มติ๊กไว้ว่ามีความหล่อเหลาในแบบเดียวกับ "หวังลี่หง" และ "อู๋จุ่น" ขณะที่ความเป็นคนตลกขี้เล่นยังทำให้สาวจีนหลายคนเปรียบเทียบเขากับ "เฉินกว้านซี" นอกจากนั้นการจบการศึกษาสาขาวิศวกรรม ก็ทำให้ชาวจีนบางส่วนนึกไปถึง "แดเนียล วู" นักแสดงหนุ่มชาวจีน เจ้าของปริญาบัตรวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโอเรกอน สาวจีนคนหนึ่งที่เป็นแฟนคลับของ หวังลี่หง, เหลียงเฉาเหว่ย และกัวะฟู่เฉิง ยอมรับว่าเธอตกหลุมรักหนุ่มติ๊กทันทีที่ได้ดูละครเรื่อง เลือดขัตติยา และชื่นชมถึงความหล่อเหลาแบบไร้ที่ติของเขา โดยสื่อจีนได้ให้สมญานามพระเอกหนุ่มชาวไทยคนนี้ว่าเป็น 'สุดหล่อในเครื่องแบบ' จากการรับบทเป็นทหารหนุ่มในละครเรื่องดังกล่าว นอกจากหนุ่มติ๊กแล้วพระเอกไทยคนอื่นๆ ต่างก็ได้รับความนิยมจากสาวจีนด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น "อั้ม อธิชาติ ชุมนานนท์" รวมถึง "เคน ธีรเดช" ที่สื่อจีนบอกว่าภาพที่ขัดแย้งระหว่างชีวิตจริง และบทบาทในละครคือเสน่ห์ของเขา เพราะขณะที่ในละครเรื่อง สวรรค์เบี่ยง เขาต้องสวมบทบาทเป็นหนุ่มซาดิสต์ (SM) ผู้หยิ่งทรนง ลักพาตัวนางเอกไปทรมานทรกรรม แต่สุดท้ายกลับตกหลุมรักเธอ ในชีวิตจริงเขากลับเป็นชายหนุ่มผู้ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง โดยเฉพาะกับความรักต่อภรรยาอายุมากกว่า 7 ปี ซึ่งหาก ติ๊ก เจษฎาภรณ์ คือหนุ่มในเครื่องแบบของสาวจีน เคน ธีรเดช ก็คือสุดหล่อในชุดสูท เจ้าของเสน่ห์อันอบอุ่น และภูมิฐานไปพร้อมๆ กัน อีกหนึ่งพระเอกที่ได้รับความนิยมจากสาวจีนไม่แพ้กันก็คือในรายของหนุ่ม "ป้อง ณวัฒน์" อันมาจากความฮิตของละครเรื่อง สงครามนางฟ้า โดยล่าสุดเจ้าตัวต้องถึงกับแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่อมีแฟนคลับชาวจีนมารอรับเขาระหว่างที่เขาบินไปอัดรายการทีวีที่ประเทศจีนร่วมร้อยรวมถึงมีแนวโน้มว่าเจ้าตัวอาจจะมีโอกาสได้แสดงละครร่วมทุนไทยจีนอีกต่างหาก "ผมเพิ่งไปจีนมา เพราะละครไปออกอากาศที่นั่นหลายเรื่อง เหมือนสถานีที่โน่นเชิญไปออกรายการเขา ไปพบปะแฟนๆ ผมไปเหมือมผมเป็นเดอะสตาร์เลย (ยิ้ม) พอถึงสนามบิน ก็มีแฟนคลับมารอรับร้อยกว่าคน มีป้ายไฟ ป้ายผ้า คือมีละครที่ผมเล่นไปออกอากาศที่นั่นหลายเรื่อง ซึ่งเป็นช่วงเวลาไพรม์ไทม์ อย่าง เลือดหงส์ สงครามนางฟ้า" "บังเอิญว่าสงครามนางฟ้า ดังมากที่โน่น คือผมก็เอ๊ะใจว่ามีแฟนคลับส่งข้อความเป็นร้อยๆ ตั้งแต่อยู่เมืองไทย ทั้งเข้าไปในเว็บไซต์ อีเมล ผมก็คิดว่ามีแฟนคลับสัก 2-3 คน แต่ปรากฏว่ามารอที่สนามบินเป็นร้อย รู้สึกเลยว่าเอเอฟ เดอะสตาร์รู้สึกกันยังไง มีแฟนคลับตาม มีขับรถตู้ตาม ก็งงเหมือนกัน ดังกว่าอยู่เมืองไทยอีก" ... ได้ดีเพราะน้ำเน่า!? อย่างไรก็ตามแต่ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีหรือไม่เมื่อมีการวิเคราะห์ว่า "ความน้ำเน่า" รวมกับเนื้อเรื่องประเภทชิงรักหักสวาท, ความรักที่ผิดหวัง, ความดีชนะความเลว ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเก่าเล่าใหม่ที่เข้าขั้นซ้ำซาก แต่ก็ถูกนำเสนอแบบจริงใจ ง่ายต่อความเข้าใจ เป็นความบันเทิงที่เรียกได้ว่าพาฝันของจริงนั่นเองที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ละครไทยได้รับความนิยม โดยสื่อจีนรายหนึ่งสรุปได้ว่า ละครไทยคือความเชย แต่ยังย้ำตามไปว่าความเชยคือสิ่งอมตะ นักวิจารณ์เจิ้งฉิงซ่ง กล่าวว่าปรากฏการณ์ความนิยมของประเทศไทยเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ เนื่องจากชาวจีนให้ความสนใจในวัฒนธรรมไทยอยู่เป็นทุนเดิมแล้วเนื่องจากประเทศไทยมีอารยธรรมที่เก่าแก่ยาวนาน โดยนอกเหนือจาก อาหาร, มวยไทย และกะเทย (หรือ เหยินเหยา ที่ชาวจีนให้ความสนใจกันมากๆ) แล้ว ไทยก็คือประเทศในเขตเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่ยังมีความลี้ลับอยู่พอสมควร ชนิดที่ว่าถ้าชาวจีนคนไหนจะไปเมืองไทย มักจะถูกเตือนแกมล้อเล่น ว่าระวังโดน 'ของ' กันอยู่เสมอ ความน่าสนใจของวัฒนธรรม และลีลาแบบไทยๆ กลายเป็นเสน่ห์สำหรับชาวจีน ที่พวกเขาไม่ได้คุ้นเคยนัก แตกต่างจากสื่อบันเทิงของเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ที่ยังเห็นได้ชัดว่ามีความใกล้เคียงกับวัฒนธรรมจีนอยู่ในระดับหนึ่ง ในกรณีของ เลือดขัตติยา สื่อจีนรายหนึ่งบรรยายความประทับใจของพวกเขาต่อละครเรื่องนี้ว่า เกิดขึ้นจากทั้งจากเครื่องแต่งกายของนักแสดง, สถาปัตยกรรมอันงดงาม ที่ผสมระหว่างความเป็นตะวันตกและตะวันออก อาคารที่สูงตระหง่าน มียอดแหลม และไม้แกะสลักตกแต่งปิดทอง รวมไปถึงเนื้อหาที่ผสมผสานระหว่างเรื่องราวของการเมืองการปกครองและความรักอันสุดโรแมนติกของคู่พระนางที่มีฐานันดรศักดิ์แตกต่างกัน แน่นอนว่าเรื่องราวแบบนี้ไม่ได้หาง่ายนักในละครชุดของจีน หรือฮ่องกงเอง ที่พูดถึงเรื่องเรื่องเจ้าชายเจ้าหญิง และราชสำนักก็ต้องนึกไปถึงละครชุดอิงประวัติศาสตร์เป็นส่วนใหญ่ ... โอกาสที่เปิดกว้างขึ้นกับความเป็นไปได้ แน่นอนว่าถึงตรงนี้ความนิยมของละครไทยในจีนจะยังไม่สามารถเทียบเคียงกับละครท้องถิ่นของจีนเองได้ แต่กระแสที่เกิดขึ้นก็สร้างความสั่นสะเทือนให้กับละครจากเกาหลีใต้ และญี่ปุ่นที่ยึดหัวหาดสร้างฐานความนิยมในหมู่วัยรุ่นอยู่ก่อนแล้วไม่น้อย โดยสื่อจีนเองได้กล่าวต้อนรับละครไทย ในฐานะทางเลือกใหม่ของพวกเขา พร้อมกล่าวว่าสื่อบันเทิงแดนสยามคือหนึ่งในตัวเลือกที่ทำให้ตลาดบันเทิงมีความหลากหลายมากขึ้นและอาจจะมาแทนที่กระแสกิมจิฟีเวอร์ ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่าการเข้ามาช่วยเปิด "ประตู" แห่ง "โอกาส" ให้เปิดกว้างขึ้นโดยรัฐบาลในครั้งนี้จะทำให้ละครไทยก้าวเดินต่อไปในตลาดใหญ่มากๆ อย่างประเทศจีน รวมถึงจะมีการพัฒนาไปในทิศทางใด? โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเงื่อนไขของจีนต่อเนื้อหาละครที่จะเข้าไปฉายในประเทศตนเองว่า จะทำการเซ็นเซอร์ทันทีหากละครต่างประเทศมีเนื้อหาหนึ่งละครที่มีนักเรียนแต่งเครื่องแบบนักเรียนแล้วทำความผิดร้ายแรงต่างๆ สองละครที่เป็นเรื่องผีหรือไสยศาสตร์ และสามละครที่มีตัวละครนำเป็นเพศที่ 3 หรือรักร่วมเพศ เหตุเพราะทั้ง 3 ประเด็นที่ว่านั้นมันเป็น 3 หัวใจหลักของละครไทยส่วนใหญ่มิใช่หรือ?
ที่มา //www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000159110
ยังมีละครไทยอีกไม่น้อยที่มีคุณภาพและน่าติดตาม คงจะได้รับการตอบรับจากทุกประเทศแหละคราวนี้ คนไทยดังแน่ๆ ปล่อยให้หนังจีน ญี่ปุ่น เกาหลีและฝรั่งเข้ามาโกยเงินมากแล้ว ถึงเวลาเก็บตังค์คืนบ้าง
Create Date : 11 พฤศจิกายน 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 11 พฤศจิกายน 2553 9:34:14 น. |
Counter : 1229 Pageviews. |
|
|
|
ไม่ลองไปตั้งเป็นกระทู้ดูหรอคะ? น่าจะได้รับความสนใจจากคนเฉลิมไทยไม่มากก็น้อย
ว่าแต่ว่า พอคนจีนเห็นหน้าท่านนายกเราแล้วจะตามไปกรี้ดด้วยหรือเปล่าเพราะคุณมาร์คก็หน้าตาดีไม่ใช่น้อย หุหุ