จากส่วนหนึ่งในหน้าหนังสือ...."คู่บุปผาข้ามภพ"
นิยายจากสำนักพิมพ์แจ่มใส
ปกติก็ไม่ค่อยได้อ่านนิยายสักเท่าไหร่หรอกนะ
จะว่าไปหนังสือทั่วๆไปยังไม่ค่อยจะอ่านเลย 555
แต่เมื่องานสัปดาห์หนังสือที่ผ่านมา
เห็นนิยายพวกนี้เลยลองซื้อมาอ่านดู
มีสำนวนที่ว่า
"Don't judge a book by its cover
อย่าตัดสินหนังสือเล่มหนึ่งเล่มใด เพียงแค่หน้าปกของมัน"
ใช่ค่ะ แต่แม่นางเกโยซื้อหนังสือคราวนี้มา เพราะหน้าปก!!
ก็ไม่รู้ว่าจะอ่านแล้วฟินไหม แต่หน้าปกสวยอ่ะ ชอบ แค่นี้ล่ะ
อย่างน้อยก็ทำให้แม่นางเกโย ได้อ่านหนังสือมากกว่า 8 บรรทัดต่อปีซิน่า
กลัวว่าเดี๋ยวจะมาต่อความยาวกันว่า
เดี๋ยวนี้เค้าบอกว่าสถิติเป็นว่าคนไทยอ่านหนังสือ 37นาทีต่อวันนะ
ใครยังพูดว่า 8 บรรทัดนี่ดูไม่ดีเลย..
ไม่เอานะ ไม่ดราม่า...ขำๆมากกว่าจ๊ะ
ในเรื่องมีการกล่าวถึง Red Spider Lily หรือดอกพลับพลึงสีแดง
แว๊บแรกที่อ่านทำให้นึกถึงหนังเลส เรื่อง Spider Lilies
ที่เคยดูนานมากแล้ว ออกแนวดูไม่รู้เรื่องด้วย 555
จำได้เพียงว่า สาวน้อยน่ารัก เรนนี่ หยาง เล่นคู่กับ สาวเท่ อิซซาเบลา เหลียง
ซึ่งตอนนั้นคงจะอินในความเท่ของเธอคนนี้มากๆ
จนรู้สึกเหมือนว่านักแสดงคู่นี้เล่นได้เหมาะกันดีจริงๆ
นึกว่าจะเป็นคู่รักเลสเบียนกันจริงๆ ซะอีก
กลับมาที่หนังสือ ก็มีได้อธิบายเกี่ยวกับเจ้าเรดสไปเดอร์ลิลลี่นี่แล้วนะ
ตามรูปด้านล่างนี้
สะดุดหนักมากตรงข้อความที่ว่า
"จึงมีภาษาดอกไม้ว่า...ความทรงจำอันแสนเศร้า"
และในส่วนของเชิงอรรถ
"คำว่าปี่อั้น แปลตรงตัวว่าอีกฟาฝั่ง ตามความเชื่อของจีน
แม่น้ำปรภพจะแบ่งสองฟากฝั่ง ระหว่างคนเป็นและคนตายจากกัน
บนฝั่งของคนตายจะมีทุ่งดอกปี่ปั้นบานอยู่ทั่ว
ผู้ที่จะข้ามมาฝั่งนี้ได้ มีเพียงคนตายเท่านั้น
ดังนั้นจึงมีอีกชื่อว่า ดอกไม้คนตาย"
..
อะไรมันจะเศร้าขนาดนี้
..
ความงงๆ ยังอยู่ ก็เลยไปหาข้อมูลว่า
ไอ้ดอกไม้เจ้า Red Spider Lily ตามชื่อดอกปี่อั้น ในภาษาจีน
เขียนมาได้แบบนี้ 彼岸花
ซึ่งไปเสิร์ชนั้นก็เจอเป็นเขียนแบบเดียวกัน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่น
เรียกว่า "ดอกฮิกังบานะ" Higanbana 彼岸花
ในเชิงความหมายแบบเดียวกัน คือ บุปผาแห่งปรภพ
ชอบชื่อนี้จัง "บุปผาแห่งปรภพ"
ที่มา : //muumakun.exteen.com/20120225/entry
//redlovetree.com/higanbana-redspiderlily-kinchakuda-saitama-manjushage/
ในเชิงของภาษาไทย ให้ความหมายถึงว่า
ดอกพลับพลึงสีแดง ก็เปรียบได้กับความตาย หรือการพลัดพลาก
และนี่คือหน้าตาดอกพลับพลึงสีแดง
ที่มา : Google
ทั้งหมดทั้งมวลนี้พึ่งจะมาตอบโจทย์กับหนังเรื่องดังกล่าวข้างต้น
ที่พอจะจำได้รางๆ ว่าสาวเท่ในเรื่องเป็นช่างสัก และต้องการที่จะสักดอกนี้เหมือนกับพ่อ
เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับน้องชายมากขึ้น
อย่างว่าแหล่ะ
เบื้องหลังรอยสักนั้น มีความนัยซ่อนอยู่
จะว่าไป การแค่สะดุดกับคำบางคำในหน้าหนังสือ
ก็กลายมาเป็นความรู้ใส่สมองขี้เลื่อยอย่างเราได้อีกนะ
ถือว่าคุ้มค่าอยู่
สงสัยถ้าอ่านจบเล่มแล้ว คงจะต้องไปหาสามก๊กมาอ่าน
(เหตุผลในบล็อกถัดไป)
และมาดูหนัง Spider lilies กลับมาดูอีกครั้ง
จะได้เข้าใจมากขึ้น
โดยเฉพาะฉากเลิฟซีน
เย้ย !!!
สวัสดี
คิดถึงเช่นกันค่า
การอ่านหนังสือให้สนุกและเข้าใจ บางทีก็ไม่ง่ายเหมือนกันนะคะ