|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Alone in Hochimin #6 On the way to "Muine"
เช้านี้อากาศดี๊ ดี ไม่อยากจะลุกจากที่นอนเลย เห็นมีพรายกระซิบบอกว่า "ฝนตก ๆ" เมื่อคืนกว่าจะหลับได้ก็ปาไปตีสี่.... ก่อนจะหลับก็น้ำตาพรากกันไปกับซีรีย์เรื่อง เกรย์ อนาโตมี่ ตื่นมาเลยตาบวม ๆ เลยแหะ คือจริงๆแล้วมันบวมไปหมดเลยอ่ะ "ทั้งหน้า" และ "ทั้งตัว" ฮ่าๆๆๆๆ พูดอีกก็ช้ำใจอีก ดันกินเยอะเองทำไม ก็ต้องอ้วน ล่ำ ดำ ถึก ต่อไปนี่ล่ะนะ
โว๊ะ เปลี่ยนเรื่องดีกว่า มาเล่าเรื่องที่ดองค้างเน่าเค็มต่อ เช้านี้ (หมายถึงเช้าวันนั้น วันที่ 9 มกราคม 54) เตรียมตัวเตรียมใจรีบออกมานั่งรอรถมารับเพื่อที่จะไปเที่ยวต่อที่ "มุยเน่" ระหว่างรอ ก็จัดการกับเสียงเรียกร้องของพุง ก่อนที่ใคร ๆ ละแวกนั้นจะได้ยิน
เลยข้ามไปซื้อขนมปังด้านตรงข้ามเช่นเคยมากิน คราวนี้ขอลองแซนวิซ ที่ออกจะฮิตมาก ๆ มีคนมารอซื้อกันแต่เช้า ทุกวัน เอาวุ้ย ไม่ลองไม่รู้ สั่งไงวะเนี่ย.....ไม่เป็นไร ชี้ ๆ จิ้มๆ ก็ได้ละ ฮ่าๆๆ นี่ล่ะนะ ภาษากาย....สบายแฮ เลย
ด้วยความที่กลัวตกรถมาก ก็เลยไม่กล้าจะออกไปเดินเล่น รับอากาศเย็นๆสักเท่าไหร่ กลับมานั่งรอแถว ๆ ล็อบบี้ของโรงแรม และนั่งหม่ำแซนวิซ ดีกว่า ได้ลองชิมคำแรก ....เอ้อ อร่อยดีแหะ ...เสียดาย โง่มาตั้งนาน ของอร่อย ๆ อยู่ตรงหน้าจริง ๆ ล่ะ ทางโรงแรมก็ใจดี รีบเอาน้ำชาร้อน ๆ มาให้ แอบหวั่นใจว่า ได้ของร้อนไปตอนเช้านี่ มีแววว่า "มัน" จะออกมาได้โดยง่าย แต่มันเหมาะมากที่จะทานคู่กัน แซนวิซ กับ ชาร้อน ในบรรยากาศเย็นๆ ยามเช้า โรแมนติกได้อีกนะ....ตอนนี้กำลังเพ้อ.... โยเป็นโรคงี้ล่ะ ได้กินของกินแล้วดีความสุข จะเพ้อๆ ล่องลอยๆ นิดนึง ดึงกลับไม่ค่อยจะได้ ....ผลที่ได้....เลยมี "ห่วง" รอบพุงซะเลย
ระหว่างที่นั่งหม่ำ อย่างเอร็ดอร่อย...มีคนหาบของมาขาย สักพักพนักงานในโรงแรมเอย คนละแวกนั้นเอย ก็มานั่งจุมปุ๊กอยู่ข้าง ๆ คนที่หาบของขาย... ไอ้เราก็คิดว่า เค้าจะต้องขายพวกกิ๊ฟชอป ความสวยความงาม ด้วยความสงสัย เลยชะโงกออกไปดู แหม๋ คุณพี่คนหาบ กำลังหั่นเนื้ออย่างเมามัน
บ้านเราส่วนมากก็จะมีขายในตลาดอ่ะเน๊อะ ที่หาบขายส่วนมากก็ไม่ใช่ของสดแบบนี้... เอ...จะว่าไป ก็คงคล้าย ๆ กับพวกรถกระบะที่มีของห้อย ๆ เต็มท้ายรถ ขับขายไปยังตรอกซอกซอยต่าง ๆ ล่ะ พร้อมป่าวประกาศด้วยเสียงแหลมๆ ดัง ๆ แต่ฟังไม่รู้เรื่องว่าขายอะไร เมื่อก่อนอาจจะพัฒนามาจากการหาบเหมือนกันก็ได้ คือแค่อยากจะบอกว่าเวอร์ชั่นหาบมาขายเนี่ย "เกิดไม่ทัน" 55555 ไม่อยากบอกว่าตัวเองแก่ไง กร๊ากๆๆๆ
ร้านหาบนี้ยังมีผักนานาชนิดให้ได้เลือก เนื้อเอย หมูเอย ไก่เอย ไม่รู้ว่ามีเนื้อหมารึป่าวนะ อันนี้ไม่กล้ามองมาก แอบหวั่นใจ แต่คาดว่าคงไม่มี เพราะเนื้อหมา เห็นว่าจะต้องร้านเฉพาะๆ หน่อยมั้ง คนเวียดนามที่รู้จัก เมื่อก่อนเล่าให้ฟังว่า เนื้อหมาเป็นอาหารที่สุดยอดแล้ว นึกแล้ว...สยอง....ไม่เอาดีกว่า นี่ก็เป็นเหตุผลนึง ที่ไม่กล้าไปนั่งกินร้านที่ดูบ้าน ๆ มาก เพราะอาจจะได้เนื้อหมามาทานโดยไม่รู้ตัว
กินเสร็จแล้ว รถก็ยังไม่มา เทียวถามกับพนักงานโรงแรมบ่อย ๆว่า เค้าไม่ลืมเราแน่นะ....โอ๊ยย ชีวิตนี้ มันช่างน่าหวาดเสียว... เห็นสีหน้าเราแอบหวั่นรึไงก็ไม่รู้ พนักงานก็เลยโทรตามให้ บอกว่าแวะรับลูกทัวร์คนอื่น ๆ กำลังจะมาแล้วล่ะ เฮ้อ....ค่อยโล่งอก (ที่เล็กๆ) หน่อย
โรคขี้กลัว เป็นโรคประจำตัวของเกโย อยู่แล้ว แล้วยิ่งอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ มาคนเดียวแบบนี้ มันก็อดจะคิดไม่ได้อ่ะนะ อีกเรื่องก็ยังแอบกลัวอยู่ว่า "ถ้าเราปวดอึ จะทำไง แล้วถ้าเราอึอยู่ตอนรถมาแล้ว เค้าจะรอเราไหม" จิตใจจดจ่อกับการอึมากเกินไปแล้ว...เลยหยิบหนังสือมาอ่านดีกว่า ไม่นานรถก็มาเรียบร้อย หน้าตาดีใจสุด ๆ พนักงานก็รีบร่ำลา และรถก็ยังคงไปรับลูกทัวร์คนอื่น ๆ ต่อ เลยถึงบางอ้อ....อ๋อ..แล้วก็เข้าใจแล้วว่า ทำไมรถมารับช้า เพราะว่ากว่าคุณๆ จะลงมากันเนี่ย...ให้รถคอยได้อีก... เลยพยายามมองในแง่ดีว่า เค้าอาจจะเป็นแบบเราก็ได้ กินอะไรตอนเช้า แล้วมันพร้อมที่จะเข้าห้องน้ำไง ยัง มันยังไม่วายเรื่อง อึ ...ให้ตายเหอะ โรบิน
วันนี้นั่งรถตู้ที่ออกจะดูแออัดพอควร ได้นั่งข้างคุณยายแก่ๆ แต่ดูใจดี เห็นแล้วคิดถึงย่าจับใจ..... บนรถนี้อุดมไปด้วยฝรั่ง มีบางส่วนที่เป็นคนเวียดนาม
ระหว่างทางมีป้ายสัญลักษณ์แปลกๆ มากมายเลย แต่ถ่ายไม่ได้ ...เศร้า มองดูผู้คนในรถส่วนมากก็จะหลับกันแล้ว นั่งรถมาได้สักพักนึง ก็มีแวะระหว่างทาง เพื่อให้พักเข้าห้องน้ำ ซื้อของ
บางคนก็ลงมายืดเส้นยืดสาย เห็นว่าคนรอเข้าห้องน้ำเยอะ ก็เลยลงมามองวิว ถ่ายรูปเล่น ทีนี้ก็เดินเลยที่จอดรถไปหน่อย เห็นป้ายอยู่ไม่ไกลนัก รีบจ้ำไปถ่ายรูปดีกว่า เดี๋ยวจะอดได้รูปป้ายกลับไป
ทำธุระกันเรียบร้อย พร้อมเดินทางกันต่อแล้ว ไม่นานกิจกรรมประจำก็เริ่มแสดงออกทีละคนสองคน คือไม่อ่านหนังสือ ก็หลับ.... ใจอยากจะอ่านหนังสือ แต่เป็นคนที่อ่านหนังสือบนรถไม่ได้ เวียนหัวอย่างแรง พร้อมอ๊วกเลย ก็เลยหยิบไอพอดสีชมพูคู่ใจ มาเปิดเพลง Depapepe ฟังเพลิน ๆ ดีจัง เหลือบไปมองยายที่นั่งข้าง ๆ หลับไปตั้งแต่โยขึ้นรถมาได้แป๊บเดียวล่ะ ระหว่างนี้เริ่มเคลิ้มแล้ว... ........... ....... .... ..
.....แต่ก็ต้องมาสะดุ้งตื่นเพราะเสียง "แตร"...... แม่เจ้า จะบีบกันเอามันเลยหรอค๊าาา คือที่เคยมาเวียดนามเนี่ย ก็เข้าใจอยู่แล้วว่าเค้ามักจะบีบแตรกันตลอด ยิ่งในเมืองอะนะ แต่ช่วงที่อยู่ดาลัท มันเริ่มสงบมากไง เพราะไม่มีการจราจารที่แออัด มันก็เลยสบายหู แต่คราวนี้พี่แกเล่นบีบกันแบบว่า "แช่" ยัง ยังไม่พอ พี่แกบีบกันทีละ 3 ครั้ง .....แช่ แช่ แช่..... โอ้วววว นี่ถ้ามากับเพื่อนๆ คงได้ร้อง "ตุ้งแช่ ตุ้งแช่" ตามแน่ๆ เลย พร้อมกับเชิดสิงโตให้ดูกันไปเลย เย้ยยยยย !!! สงสัยว่าเมื่อคืนพี่คนขับ แกทะเลาะกับเมียรึป่าวนะ เลยมาลงที่แตรซะขนาดนี้..เจ็บหูกันไปเลย
มองดูเส้นทางแล้วก็นะ ชวนหวาดเสียวใช่ย่อย ก็เป็นทางโค้ง ๆ ขึ้นเขา ลงเขา แล้วทางก็ประมาณเลนเดียว สักพักถึงได้เริ่มเข้าใจแล้วว่า ที่พี่เค้าต้องบีบขนาดนี้ เพราะบางที และหลายๆ ที หลาย ๆ โค้ง มันมองไม่เห็นจริงๆว่า ข้างหน้ามีรถสวนมารึป่าว โดยเฉพาะพวกมอเตอร์ไซด์ ที่พร้อมจะขับปาดล่วงล้ำมามาก นี่บีบแตรขนาดนี้แล้ว ยังไม่วาย มีมอไซด์ ขับมาสวนได้ซะงั้น บางที มอไซด์ที่วิ่งทางเดียวกัน ก็วิ่งซะกลางเลนแบบไม่แคร์สื่อ บางช่วง ก็เป็นรถใหญ่สวนมาอีก ก็เลยยอมปวดหู เพราะถ้าไม่บีบแตร ทุกโค้ง ก็อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
ก็เลยพาลคิดไปถึงว่า...ตั้งแต่เดินทางมาเนี่ย พี่เค้าบีบแตรไปแล้วทั้งหมดกี่ครั้ง?? เอ่อ....นะ ลองคิดกันเล่น ๆ ดู ทางโค้งๆ ก็เปรียบได้กับทางไปปาย บ้านเรานั่นแล แต่อาจจะไม่ถึงขนาดว่า 1,864 โค้งหรอกมั้ง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น หูอาจจะดับได้ เนื่องจาก 1,864 x 3 = 5,592 ครั้ง....ไม่ นะ ไม่ ... ถ้าตัดเหลือแบบไม่เหลือเยื่อใย สัก 100 โค้ง เป็นไร ก็เท่ากับว่า ฟังเสียงแตรทั้งหมดอย่างน้อย ย้ำ อย่างน้อย 300 ครั้ง คืนนี้จะนอนหลอนเป็นเสียงแตรกันไหมล่ะ.... และที่นั่งหัวดำ หัวทอง กันในรถตอนนี้ ก็ไม่มีใครหลับได้ลงจริงๆ ล่ะ สุดยอดไปเลย แบบนี้ถือว่าเป็น "อเมซซิ่งเวียดนาม" ไหมเนี่ย ฮี่ๆๆๆ
อีกเรื่องที่คิดได้ ณ ตอนนั้น คือ ถ้าเอาน้องกีวี่ (Nissan march) มาขับที่เวียดนาม หรือเอานิสสัน มาร์ช มาขายให้คนเวียดนาม คงจะขายไม่ออกเป็นแน่ เพราะว่า "แตรมันบีบยากกกกกกกก" 55555
เหนื่อยละวันนี้....ดูซิ ยังไปไม่ถึง "มุยเน่" เลย พรุ่งนี้วันหยุด อาจจะไม่ได้ไปไหน แล้วจะมาอัพต่ออีกทีละกัน ถ้าไม่ขี้เกียจนะ ... สัญญา ... (กับตัวเอง)
Create Date : 01 พฤษภาคม 2554 |
Last Update : 1 พฤษภาคม 2554 14:23:18 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1162 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ลำเนา วันที่: 2 พฤษภาคม 2554 เวลา:1:11:35 น. |
|
|
|
โดย: ลำเนา วันที่: 25 พฤษภาคม 2554 เวลา:3:55:14 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]
|
FreakGirL ผู้หญิงประหลาด ๆ คนนี้ หลายคนมองว่า เซอ ซ่า บ้า เปรี้ยว(ไม่เชื่อมาดมจุ๊กกาแร้ดูดิ อิอิ)
บางครั้งก็ เงียบ ซะจนได้ฉายาว่า เด็กหญิงอมทุกข์ เป็นคนชอบฟังมากกว่าพูด รักสันโดษ แต่เที่ยวเล่นเป็นบางเวลา ตอนนี้อยากขอบคุณท้องฟ้าที่ทำให้เราได้เจอกัน....
เกโย นั้นเกิดปีลิง หน้าตาจิ้มลิ้ม ตุ่งแช่ ตุ่งแช่ เกโย เป็นเด็กฮิพฮอพ จะจริงหรือหลอก ตุ่งแช่ ตุ่งแช่ เกโย เป็นคนบ๊องๆ ใครเชื่อก็ต๊อง ตุ่งแช่ ตุ่งแช่
ฮ่าๆๆๆ บ้าไปแล้น ปล. กรุณาเขย่าขวดก่อนกินยา ไม่ง้านอาจบ้า ตุ่งแช่ ตุ่งแช่ เย้้ยยย
|
|
|
|
|
|
|
|