Photobucket
Group Blog
 
 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
10 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Marley & Me และเกศินี

เมื่อวานนั่งดูนั่งเรื่องนี้ ในระหว่างที่รีดผ้า
ดูๆไปมันสะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตทีเดียว
เริ่มจากคู่แต่งงานเริ่มต้นหาหมามาเลี้ยงไปก่อนที่จะมีลูก
"มารเล่ย์" เมื่อตอนที่เป็นลูกหมา แววตาน่ารัก ๆ
บ่งบอกว่าไร้เดียงสามากมาย สายตาที่บอกว่า "รีบรับผมไปเถอะ"
"ผมน่ะ น่ารักนะครับ" จนสองสามีภรรยาตกลงที่จะรับเจ้ามาเล่ย์มาเลี้ยง

ตอนแรกที่เจ้าลูกหมายังไม่มีชื่อ แต่จอห์นผู้เป็นสามี
ระหว่างขับรถกลับบ้านมาเปิดเพลง "บ๊อบ มาร์เล่ย์"
แล้วเหมือนเจ้าลูกหมาน้อย ๆ นี่จะชอบเลยลองเรียก บ๊อบ
ก็ยังไม่โอเค และลองเรียก "มาร์เล่ย์" กลายเป็นว่าสีหน้าและท่าทาง
มันบ่งบอกเลยว่า "ชื่อเนี้ย มันเท่ห์สำหรับผมมากเลยฮะเจ้านาย"

Photobucket

โยไม่เคยมีความรู้สึกแบบในหนัง อารมณ์แบบว่าอยากได้หมามาเลี้ยง
ตั้งแต่เล็ก ๆ พ่อก็ชอบเอาหมามาเลี้ยง
ไม่ซิ เรียกว่าเอามา "ทิ้ง" ไว้ให้ โยและแม่ดูแล
เริ่มจากเจ้าปุย และเจ้าฝ้าย หมาตัวผู้และตัวเมีย
โยตั้งชื่อให้มัน ไม่มีเหตุผลใด ๆ นอกจากว่า
ช่วงนั้นชอบกินขนมปุยฝ้ายมาก ....เหตุผลของคนอ้วน ๆ น่ะ
ขนเจ้าปุย สีขาวล้วน ขนสั้น ๆ
ส่วนเจ้าฝ้าย ขนสีขาว ปนดำ ดำเป็นปื๊ดๆ ขนสั้น ๆ เช่นกัน
ไม่รู้ว่าเป็นพันธุ์อะไร

ถึงโยจะไม่ได้เป็นคนเลือกเจ้าหมาทั้งสอง
แต่ด้วยแววตาที่ไร้เดียงสา และขี้อ้อน
โยก็ตกหลุมรักมันทั้งคู่ได้โดยง่าย
ไม่ต่างกันกับ จอห์น และเจนนี่ ที่ชอบเจ้ามาร์เล่ย์นั่นแล

แต่วีรกรรมของเจ้าปุยฝ้าย ก็คงไม่มากมาย เหมือนกับเจ้ามาร์เล่ย์นัก
เจ้ามาร์เล่ย์ เริ่มแปลงร่างจากลูกหมาน้อย ๆ
กลายมาเป็น "ปีศาจลูกหมา" ฮะ ฮะ ฮ่า
ก็เจ้ามาร์เล่ย์ แทะทุกอย่าง กินทุกอย่าง
และพร้อมที่จะวิ่ง วิ่ง และ วิ่งอย่างเต็มกำลัง
ราวกับว่าไม่ชอบที่จะผูกมัดใดๆ

ไม่นานมาร์เล่ย์ก็เลยกลายเป็นหมาที่ตัวเบ้อเร่อ
และยังคงนิสัยเช่นเดิม แต่ทั้งจอห์น และเจนนี่
ต่างก็ยังรัก และดูแลมันเป็นอย่างดี

ขอตัดมาเล่าเรื่องตอนนึงที่ทำให้โยเริ่มนึกถึงความหลังอีกครั้ง
ก็เมื่อเจนนี่ ผู้เป็นภรรยา อยากจะมีลูกมาก
และสุดท้าย สิ่งที่เธอปรารถนาก็เป็นจริง
เธอเริ่มตั้งท้อง...

ฉากนึงในระหว่างที่ เจนนี่และจอห์น อยู่ให้ห้องตรวจ
เจนนี่ท้องได้เกือบ 10 สัปดาห์
พยาบาลที่ตรวจ ก็เป็นแฟนตัวยงของจอห์น
ที่ตามอ่านบทความที่จอห์นเขียน เรื่องของเค้าซึ่งมีเจ้ามาร์เล่ย์
อยู่ในทุกๆ ตอนของคอลัมน์
ในระหว่างที่กำลังคุยกันสนุกสนาน
พยาบาลกำลังตรวจครรภ์ของเจนนี่ เพื่อฟังเสียงหัวใจ
แต่แล้วสีหน้าเธอก็เริ่มเปลี่ยน...
แต่เธอยังคงทำหน้าพยาบาลได้ดี
แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจมากขึ้น จนถึงกับตามหมอมาเช็คอีกที
ทั้งจอห์น และเจนนี่ ก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้น
และเมื่อหมอบอกว่า...ไม่ได้ยินเสียงหายใจ...ผมเสียใจด้วย

จอห์น เจนนี่ และเกศินี อึ้ง และดิฉันก็น้ำตาไหลพราก

ทุกสิ่งทุกอย่างในรายละเอียดนั้น....
มันคล้าย ๆ กันกับชีวิตของโยช่วงนึง
ที่จะต้องเสียลูกในท้องไป...

มันแย่.....
มันแย่มาก....

แต่ของโย ทีแรกที่หมอตรวจ หมอไม่ได้พูดอะไร
บอกว่าให้กินยาบำรุงมากหน่อย และคอยดูอาการ
พร้อมทั้งอยากให้พักผ่อนเยอะ ๆ
ใจจริงตอนนั้นก็เริ่มกังวลเล็ก ๆ
แต่ด้วยความที่เราไม่อยากให้ลูกเราเครียดตามไป
เลยพยายามไม่คิดถึงมัน
จนหลังจากวันนั้นไม่นาน ....
โยก็เริ่มมีเลือดออกนิดหน่อย
ใจก็ยิ่งเริ่มกังวลหนัก แต่หมอบอกว่ามันอาจเกิดขึ้นได้
แต่ถ้าไม่สบายใจ...ให้มาเช็คดู
หลังจากนั้น ก็เริ่มปวดท้องมากขึ้น
และเลือดก็ออกมามาก....เลยต้องส่งโรงพยาบาล

และวันนั้น คนที่อยู่ข้าง ๆ ฉัน ก็ไม่ใช่เธอ...
ถึงแม้ว่าเธอจะตามมาทีหลัง...
แต่มันเหมือนว่าทุกสิ่งอย่างที่กำลังจะไปได้สวย
มันพังลงไปอย่างไม่มีเยื้อใยสักนิด
คนที่จะฝ่าฝันไปด้วยกัน ควรจะอยู่ด้วยกัน
ในระหว่างนั้น....ฉันต้องการเธอที่สุด......
แต่เธอติดงานนี่....เข้าใจ

สุดท้ายฉันก็ร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร
กับสิ่งที่สูญเสียไป
มันเหมือนโดนแรงกระแทกเข้าอย่างจัง ทำให้เราเดินไม่ตรง
รู้สึกว่าเสียงมันอื้ออึง จนฟังอะไรไม่รู้เรื่อง
รู้แต่ว่า...น้ำตา....มันทำงานเยอะมาก
หลายสิ่งมันประดังเข้ามา....

กลับมาที่เจนนี่....หลังจากที่เธอแท้งไปกับคนก่อน
เธอไม่ย่อท้อต่อการมีลูก
และไม่นาน....เธอก็ได้รับข่าวดี
และเกศินี ก็ดีใจไปด้วย
แต่ดูเหมือนว่า จอห์น จะไม่ค่อยอยากมีลูกเท่าไหร่นัก
ยังอยากอิสระ อยากเป็นนักข่าวอย่างที่ตั้งใจ
เหมือนที่เพื่อนของจอห์น ตระเวนไปเที่ยว
ในหลาย ๆ ที่ แลดูอิสระ และเป็นที่ปรารถนาของสาวๆ

แต่สุดท้ายแล้ว จอห์น ก็เป็นสามีที่ดี
ที่พร้อมดูแลคู่ชีวิตของเธอ ร่วมไปถึง ลูก ๆ
พร้อมกับเจ้ามาร์เล่ย์ ที่เปรียบเหมือนคู่ชีวิต
ของเขาทั้งสองด้วยเช่นกัน

แต่กระนั้นความเป็นปีศาจในตัวเจ้ามาร์เล่ย์
ก็ไม่เคยลดละ...จนทำให้เจนนี่ เริ่มเครียด
กับการที่ไหนจะต้องดูแลลูกๆ
ความเหนื่อยล้าของเธอ มีผลให้ต้องทะเลาะกับจอห์น
จนอยากที่จะเอามาร์เล่ย์ไปไว้ที่อื่น....
(ระหว่างนั้น ฉันก็น้ำตาไหลอีกรอบ)

แต่พอเธอสงบ และมีเวลา เธอก็รู้ว่า
มาร์เล่ย์ เองก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเธอที่จะต้องรับผิดชอบ

แต่สำหรับ ฉัน แล้ว....ฉันยังเด็กเกินกว่า
ที่จะรับผิดชอบเจ้าปุยฝ้าย เพียงลำพังกับแม่
แม่บอกว่า แม่ไม่ไหว แม่ไม่มีเวลาเลี้ยงมัน
และแม่ก็ไม่ได้มั่งมีขนาดนั้น สงสารมัน
ส่วนฉันเอง ก็ได้แต่ไปเรียน และเล่น
บางครั้งก็ไม่ได้ใส่ใจเจ้าปุยและฝ้ายนัก
และพ่อ...ก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน

การตัดสินใจของแม่ครั้งนั้น....
เลยเป็นผลต่อชีวิตโยมาก
แม่เลือกที่จะเอาหมาไปอยู่วัด
ฉันกับแม่ต้องพามันไปส่งวัด
แม่อุ้มเจ้าปุย เพราะตัวมันใหญ่กว่า
ส่วนโยอุ้มเจ้าฝ้าย
ระหว่างที่ไปวัดนั้น ....เจ้าปุยฝ้ายเหมือนจะรู้
ทั้งคู่นิ่งอย่างที่มันไม่ควรจะเป็น
และโยมองตามัน.....น้ำตามันไหล
โยรีบบอกแม่ แม่บอกว่าแม่ก็เสียใจ
แต่ถ้าแม่ไม่มีอะไรให้มันกิน และต้องเห็นมันทรมาน
แม่จะเสียใจยิ่งกว่า
แม่ไม่ผิด ที่แม่ต้องเลือก....โยเข้าใจ
น้ำตาของเด็กประถม....ต้องไหลพรากในใจ
ไม่อยากเสียเจ้าปุยฝ้ายไป...
แล้วโยจะเล่นกับใคร.....ความคิด ณ ตอนนั้น

นับแต่นั้นมา....เลยเป็นเหตุให้โยตั้งปณิธานไว้ว่า
จะไม่เอาหมามาเลี้ยงเอง ถ้าโยไม่พร้อม...
แต่พ่อเองก็ยังหามาอีก มาให้แม่เลี้ยงอีกเช่นเคย

ช่วงนึงที่เจ้ามาร์เล่ย์ เริ่มแก่ ต้องพาไปหาหมอ
หมอเองก็บอกให้ทำใจ
แต่จอห์นบอกว่ามันไม่เหมือนหมาทั่วไป
มันเป็นหมาที่พิเศษ มันแกร่ง
หมอเอาเลขอ้างอิงจากหมาทั่วไปมาวัดมันไม่ได้...

จอห์นบอกกับมันว่า อย่าไปเชื่อใครแม้แต่สักวินาทีเดียว
ที่บอกว่า แก เป็นหมาปีศาจ แกไม่ใช่เลย
เจ้ามาร์เล่ย์ยังคงนอนนิ่ง

และไม่พลาด....เกศินี ...น้ำตาไหล

ลูก ๆ ของเจนนี่และจอห์น ระหว่างกลับจากโรงเรียน
ต่างเริ่มกังวลกันว่า....เจ้ามาร์เล่ย์ จะมาเฝ้าตรงที่ ๆ เดิมไหม
ลูกชายบอกว่า...มันต้องมาซิ เพราะมันเป็นหมาที่ดี
แล้วทั้งคู่ก็พากันเฮลั่น เมื่อเห็นเจ้ามาร์เล่ย์ ยังคงรอคอย ณ ที่เดิม

Photobucket

เจ้ามาร์เล่ย์ก็เริ่มแก่ขึ้นมาก เริ่มที่จะไม่ไหว
ลูกๆ ของเจนนี่ ที่อยุ่ด้วยกับมันมาตั้งแต่เกิด
ต่างก็พากันปลอบใจ เจ้ามาร์เล่ย์
เจ้าตัวเล็กให้ตุ๊กตาเพื่อแสดงความห่วงใยกับเจ้ามาร์เล่ย์

โยชอบฉากนี้
และโยก็เชื่อว่า จริงๆ แล้ว เด็ก ๆ อยู่กับเจ้าหมาตั้งแต่เล็กๆ
จะทำให้เรียนรู้อะไรได้หลาย ๆ อย่าง

ไม่รู้ว่าเล่าข้ามไปรึเปล่า
มีฉากนึงที่จอห์นกลับมาหลังจากพาเจ้ามาร์เล่ย์ไปหาหมอ
แล้วเห็นเจนนี่ นั่งอ่านคอลัมน์ของจอห์นที่เขียนลงประจำ
เธอบอกว่า...บางครั้งที่เธอเศร้า หรือเธอเหนื่อย
เธอมานั่งอ่านเรื่องนี้ แล้วเธอมีความสุข
ในทุก ๆ ตอนที่จอห์นเขียน มันคือมีมาร์เล่ย์
มันคือทุก ๆ อย่างที่ผ่านมา
บางครั้ง การมานั่งอ่านอะไรเก่า ๆ ที่เราเขียนไว้
มันก็ทำให้นึกขำ แล้วกลับไปมอง ณ จุด ๆ นั้น
ความสดใส ความเศร้า ในช่วงนั้น มันกลับมาให้เราได้มอง
อย่างมีความสุข

เหมือนกับเมื่อคืน มานั่งดูๆ บล็อกเก่า ๆ ที่เขียนไว้
ก็อืมนะ บางครั้ง เราก็ลืม ๆ รายละเอียดอะไรไปบ้าง
พอได้อ่าน ภาพหลาย ๆ อย่างก็เริ่มกลับเข้ามา
มันอยู่ในส่วนนึงของเรา ซึ่งบางครั้งเราอาจจะลืมมันไป
ลืมช่วงเวลาที่สุข ที่ทุกข์ แต่ทุกอย่างมันทำให้เรายืนอยู่ได้ในวันนี้

สุดท้าย หนังก็เป็นไปตามที่คาดไว้
เจ้ามาร์เล่ย์ตาย....
แต่ไม่เคยตายจากความทรงจำดี ๆ ของเค้าทั้งคู่แน่นอน

หนังเรื่องนี้ ...น่ารักมาก
จริงๆ แล้วหนังเรื่อง หมา หมา มีอีกหลายเรื่อง
และแน่นอน อะไรที่ทำร้ายหมา เกศินี เป็นน้ำตาแตก
แต่สุดท้าย ก็ได้ความสุข และความประทับใจล่ะ
ขอบคุณหนังเรื่องนี้ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจดูมาก
เพราะจะต้องรีดผ้าไปด้วย
แต่ก็ชอบมากมาย

บันทึกนี้ก็คงจะเก็บไว้อ่านในอนาคตเช่นกัน

สวัสดี


Create Date : 10 เมษายน 2554
Last Update : 10 เมษายน 2554 9:33:15 น. 3 comments
Counter : 2563 Pageviews.

 
เรื่องนี้เราดูแล้วเราร้องไห้ไปด้วย
หลายตอนมากเลยค่ะ เรียกว่า
ทุกตอนแม้อาจจะไม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่
คุณโยเคยเจอแต่ว่ามันก็ค่อนข้างทำให้
คนรักหมา เจอเหตุกับหมาๆ อย่างนี้
"อิน" ได้เหมือนกันค่ะ



โดย: JewNid วันที่: 11 เมษายน 2554 เวลา:22:35:17 น.  

 
แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี


โดย: koreaserie (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:8:48:20 น.  

 
ขอบคุณหนังเรื่องนี้ ที่ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจดูมาก
เพราะจะต้องรีดผ้าไปด้วย
แต่ก็ชอบมากมาย
สงสัยจะชอบรีดผ้าทากมาย..


โดย: ปีศาจวสันต์ วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:51:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

FreakGirL
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




FreakGirL ผู้หญิงประหลาด ๆ คนนี้ หลายคนมองว่า เซอ ซ่า บ้า เปรี้ยว(ไม่เชื่อมาดมจุ๊กกาแร้ดูดิ อิอิ)

บางครั้งก็ เงียบ ซะจนได้ฉายาว่า เด็กหญิงอมทุกข์ เป็นคนชอบฟังมากกว่าพูด รักสันโดษ แต่เที่ยวเล่นเป็นบางเวลา
ตอนนี้อยากขอบคุณท้องฟ้าที่ทำให้เราได้เจอกัน....


เกโย นั้นเกิดปีลิง หน้าตาจิ้มลิ้ม ตุ่งแช่ ตุ่งแช่
เกโย เป็นเด็กฮิพฮอพ จะจริงหรือหลอก ตุ่งแช่ ตุ่งแช่
เกโย เป็นคนบ๊องๆ ใครเชื่อก็ต๊อง ตุ่งแช่ ตุ่งแช่

ฮ่าๆๆๆ บ้าไปแล้น
ปล. กรุณาเขย่าขวดก่อนกินยา ไม่ง้านอาจบ้า ตุ่งแช่ ตุ่งแช่ เย้้ยยย
New Comments
Friends' blogs
[Add FreakGirL's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.