Life in the biG World
(... is beautiful)
|
|||
ว่าด้วย "ความอยากรู้อยากเห็นและความสามารถในการเรียนรู้" ของเด็กเล็ก ตอนที่ 1 รบกวนไลค์เพจนี้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ https://www.facebook.com/aDiaryofaMomofThreeGirls/ ว่าด้วย "ความอยากรู้อยากเห็นและความสามารถในการเรียนรู้" ของเด็กเล็ก ตอนที่ 1 - " การเคลื่อนไหว" ของเด็กเล็ก เปิดประตูสู่การเรียนรู้ในโลกกว้าง - การเจริญเติบโตในเด็กเล็กนั้น ประกอบด้วย 2 กระบวนการหลักที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิด นั่นคือ การเจริญเติบโต หรือ Growth ซึ่งหมายถึง การพัฒนาและเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และกระบวนการที่สองเรียกว่า การเรียนรู้ หรือ Learning อันหมายถึง กระบวนการที่มีผลทางจิตใจ ซึ่งรวมถึง การฝึกหัดด้านศีลธรรม และการพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิตต่างๆ ความสำเร็จของเด็กในช่วงวัยเด็กเล็ก คือ ความสามารถในการเดินและเคลื่อนไหวตนเอง และน่าอัศจรรย์ใจที่กระบวนการการเติบโตของร่างกายได้เชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับกระบวนการพัฒนาด้านจิตใจที่มี "ความอยากรู้อยากเห็น" เป็นหลักภายใน ว่าด้วยการเคลื่อนไหวของเด็กเล็กนั้น ย่อมไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยอย่างที่เราทราบกัน ส่วนใหญ่เด็กเล็กก็จะเริมต้นการเคลื่อนไหวของพวกเขาด้วยการสำรวจพื้นในลักษณะที่เรามักเรียกว่า "กระดึ๊บๆ" ก่อน หลังจากนั้นก็จะเริมต้น "คลาน", ลุกขึ้น "ยืน" และในที่สุดก็เคลื่อนไหวขาของพวกเขาด้วย "การเดิน" จากที่หนี่งไปสู่อีกที่หนึ่ง และไปสู่ที่ที่พวกเขาสนใจที่จะไปมากขึ้นและมากขึ้น ทั้งนี้ การเดิน คือ พัฒนาการก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถอีกระดับที่เด็กเล็กสามารถก้าวไปสู่โลกแห่งความอิสระเสรีของพวกเขา รวมถึงทำให้พวกเขาได้ผจญภัยสิ่งใหม่ๆ บทบาทของพ่อแม่สำหรับเด็กในช่วงก้าวเดินนั้น คือ ไม่ควรที่จะให้พวกเขาเดินหรือเคลื่อนไหวโดยห่างไกลสายตาหรือการควบคุม หรือ Safety concerns และการสอนสิ่งที่พวกเขาควรทำหรือไม่ควรทำระหว่างการผจญภัยในสิ่งใหม่ๆ หรือที่เรียกว่า Moral concerns ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ลูกน้อยของเราอาจกลายเป็นคนที่ทำให้หนังสือที่มีค่ากลายเป็นที่วาดเขียนหรือหนังสือที่ว่างเปล่าไปในบัดดล หากพวกเขาเดินไปสำรวจโลกกว้างที่ห้องนั่งเล่น หรือ การกดโทรศัพท์เล่น หรือ การดื่มน้ำจากอ่างอาบน้ำ หรือ การเล่นกับมีดในห้องครัว หรือ การไปหลบนอนอยู่ในที่ใดสักแห่งที่เราไม่ปรารถนาให้ไป แน่นอนว่า เด็กในวัยนี้ยังไม่มีความสามารถที่จะเข้าใจในสิ่งที่ซับซ้อน แต่พ่อและแม่จะต้องสอนและแสดงให้พวกเขาดูว่า อะไรที่เขาทำได้และไม่ได้ เพื่อฝึกพวกเขาให้เรียนรู้และผจญภัยในขอบเขตที่กำหนด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเองด้วย นอกจากนี้ การสร้างสิ่งแวดล้อมที่ป้องกันเด็กเล็กจากอันตรายที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน เป็นที่แน่นอนว่า คุณแม่ของเด็กเล็กในวัยเริ่มหัดเดินนี้ ย่อมจะเหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชายที่คุณแม่จะต้องบวกพลังงานเสริมให้มากกว่าเด็กผู้หญิงไปอีก 50% ประสบการณ์ส่วนตัวของเราในฐานะแม่ของเด็กหญิงทั้ง 3 คนนั้นเรียกได้ว่า มีความหลากหลาย ทั้งนี้เพราะในกรณีอันนา ลูกสาวคนแรกนั้น หลังจากที่เธอกระดึ๊บๆ บนพื้นนั้น เธอก็ลุกขึ้นนั่ง แต่เธอก็ไม่เคยคลานให้เราเห็นเลย ตอนแรกก็กังวลว่าลูกของเรานั้นปรกติหรือเปล่า อย่างไรก็ดีเท่าที่สังเกตก็ดูเหมือนความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งใหม่ๆ ของเธอก็แสดงให้เห็นว่าเธอน่าจะปรกติดี เพียงแต่เราในฐานะคุณแม่นั้นก็ไม่ต้องระวังมากเท่าไหร่ว่าเธอจะหายไปไหน หรือไปทำอะไรแปลกๆ ทำลายข้าวของหรือไม่ พอเธออายุได้ 16 เดือน (ซึ่งถือว่านานนะกว่าจะเดินได้) เธอก็ลุกขึ้นเดิน สำหรับลูกสาวคนที่ 2 และ 3 นั้น ใช้เวลาเร็วกว่าอันนามาก คือ เมื่อพวกเธออายุได้ประมาณเกือบ 1 ปี ก็เริ่มต้นเดินกันแล้ว และก็เป็นอันว่า ชีวิตที่ดูเหมือนสงบเหมือนสมัยของอันนาก็เปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งนี้เพราะทั้งเลาร่าและโซเฟียนั้นเป็นเด็กที่เต็มไปด้วยพลังที่สามารถเคลื่อนไหวไปที่นู่นที่นี่ได้ตลอดทั้งวัน พรุ่งนี้รออ่านบทความที่เกี่ยวกับ พัฒนาการของเด็กเล็กและความอยากรู้อยากเห็น ตอนที่ 2 ด้วยกันค่ะ Have a wonderful day! |
onceuponatime
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] ชีวิตของผู้หญิงไทยในต่างแดนคนหนึ่ง ที่เป็นทั้งคุณแม่ลูกสามที่มีดีกรีด๊อกเตอร์จากประเทศเยอรมนี เปิดบันทึกเพื่อเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ผจญภัยที่แสนจะตื่นเต้นของเธอในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น การสอบเข้าและเรียนปริญญาเอกที่สุดหิน ความรักข้ามขอบฟ้าที่แสนโรแมนติก การสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แถมพ่วงด้วยลูกเล็กอีกสามที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีอย่างเหลือเชื่อ พร้อมทั้งแบ่งปันเคล็ดลับและแรงดลบันดาลใจที่นำไปสู่ความสำเร็จแบบ "นกอินทรีต้องบินสูง" ของเธอ Group Blog All Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |