*** Special Guest (3) : ณัฏฐ์ หงษ์ดิลกกุล
*** Special Guest (3)
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=1411581095789627&set=a.1396840517263685.1073741828.1396807653933638&type=1&theater

สวัสดีทุกคนนะครับ ผมชื่อ ณัฏฐ์ หงษ์ดิลกกุล

ตอนนี้เป็นนักศึกษาปริญญาเอก และทำงานเป็นผู้ช่วยสอน (Teaching Assistant: TA) คณะเศรษฐศาสตร์ Simon Fraser University ประเทศแคนาดาครับ วันนี้ผมจะขอเล่าเรื่องราวในชีวิตของผมว่ามาสู่จุดนี้ได้อย่างไรนะครับ

ผมเป็นคนที่เรียนดีมาสม่ำเสมอตลอดตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ผมจึงคาดหวังให้ผมเป็นหมอ ซึ่งผมก็ตั้งเป้าหมายว่าอยากเป็นหมอมาตั้งแต่เด็ก

เป้าหมายของผมเปลี่ยนไปตอนผมเรียนอยู่ประมาณ ม.5 ตอนนั้นเป็นปี พ.ศ. 2541 ซึ่งประเทศไทยกำลังประสบวิกฤติเศรษฐกิจ ผมจึงมีความฝันแบบวัยรุ่นว่าการเป็นหมอทำให้เราช่วยคนได้แค่ครั้งละคน แต่ถ้าผมเป็นนักเศรษฐศาสตร์และมีบทบาทในการวางนโยบายเศรษฐกิจผมสามารถช่วยคนทั้งประเทศในครั้งเดียว แน่นอนว่าหลายคนรอบข้างไม่ได้เห็นด้วยกับการตัดสินใจของผม โดยเฉพาะคุณพ่อของผมนั้นเราถกเถียงกันหลายรอบในระยะเวลากว่าสองปี โดยคุณพ่อของผมพยายามจะเห็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์อยู่ดี

ด้วยความขัดแย้งเรื่องอาชีพในอนาคตกับคุณพ่อ และด้วยแรงฮึดในการทำตามความฝัน ผมจึงตั้งใจการสอบเอ็นทรานซ์อย่างเต็มที่ จนกระทั่งผมสามารถสอบเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่งของนักศึกษาเข้าใหม่ทั้งหมดในปีพ.ศ. 2543

ระหว่างการเรียนปริญญาตรีนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมต้องการค้นพบตัวเองอีกครั้ง เป็นช่วงที่ผมทำกิจกรรมต่างมากมาย ทั้งการทำกิจกรรมของคณะ การจัดงานวิชาการ และการเป็นกรรมการค่ายอาสาพัฒนาชนบท การเรียนผมไม่ได้เป็นเลิศที่สุด แต่ก็ยังดีพอที่สามารถเรียนจบได้ด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง

หลังเรียนจบปริญญาตรี ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าในอนาคตจะทำอะไรดี จึงตัดสินใจเรียปริญญาโทต่อที่คณะและมหาวิทยาลัยเดิม

การเรียนปริญญาโทปีแรกนั้นจะต้องเรียนวิชาพื้นฐานโดยเฉพาะด้านคณิตศาสตร์หลายวิชาซึ่งมีความเข้มข้นทางวิชาการมาก จนผมต้องปรับตัวในการเรียนอย่างมาก ผมต้องทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนักอย่างไม่เคยทำมาก่อน ในการเรียนปีต่อๆ มาเปลี่ยนจากการเรียนรายวิชาเป็นการเขียนวิทยานิพนธ์ ซึ่งทำให้มีเวลาว่างมากขึ้น ผมจึงได้ทำงานอื่นทั้งการเป็นอาจารย์พิเศษในการสอนนักศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยและการเป็นนักวิจัยในสถาบันวิจัย

การที่ผมทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กันเป็นดาบสองคม เพราะในแง่หนึ่งผมได้ประสบการณ์ทำงานในหลายๆ ด้าน รวมถึงมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ผมละเลยงานที่สำคัญกว่า นั้นก็คือการเขียนวิทยานิพนธ์ให้เสร็จอย่างมีคุณภาพและรวดเร็วที่สุด ผมผัดผ่อนการเขียนวิทยาพนธ์จากหนึ่งวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือน จากเดือนเป็นเทอม และสุดท้ายจากเทอมเป็นปี จนสุดท้ายผมตัดสินใจหยุดทุกอย่างและตั้งหน้าตั้งตาจมตัวเองกับวิทยานิพนธ์แม้เวลาจะเหลือเพียงไม่กี่เดือน ผมสอบเสนอวิทยานิพนธ์เพียงห้าสัปดาห์ก่อนเดดไลน์ และเสร็จสิ้นกระบวนการเขียน การสอบ แก้ไขและตีพิมพ์เล่มวิทยานิพนธ์จนสุดท้ายอาจารย์ที่ปรึกษาเซ็นอนุมัติวิทยานิพนธ์ในวันเดดไลน์ของการส่งวิทยานิพนธ์พอดี

หลังจากจบปริญญาโท ผมตัดสินใจทำงานด้านวิจัยต่อ การทำงานวิจัยนั้นทำให้ผมได้เอาทฤษฎีที่เรียนมาเพื่อประยุกต์วิเคราะห์ปัญหาและสถานการณ์จริงในปัจจุบันของประเทศไทย รวมถึงการออกแบบนโยบายทางเศรษฐกิจ การได้เห็นและวิเคราะห์ปัญหาจริงของประเทศทำให้ผมเห็นข้อด้อยซึ่งผมเรียกว่าเป็น “จุดคานงัด” ของเศรษฐกิจไทย และเห็นถึงข้อจำกัดของตัวเองในการวิเคราะห์ บวกกับความฝันที่อยากจะมีประสบการณ์การในการศึกษาวัฒนธรรมที่แตกต่างไปจากเมืองไทย ผมจึงเกิดแรงบันดาลใจที่จะเรียนต่อปริญญาเอกในต่างประเทศ

เมื่อตัดสินใจเรียนต่อนั้น ก็พบว่าข้อด้อยของผมคือด้านภาษาอังกฤษ ในการศึกษาที่ผ่านมาของผมไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษมากนัก หรือถ้าใช้ก็ใช้ทักษะการอ่านและการเขียนมากกว่าการสื่อสารในชีวิตประจำวัน แต่ในการสมัครเข้าปริญญาเอกนั้นผมต้องใช้ทั้งผลการสอบ TOEFL ซึ่งต้องมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษประจำวันทั้งการฟัง พูด อ่านและเขียน และผลการสอบ GRE ซึ่งมีทักษะการเขียนที่สละสลวยในเวลาจำกัด รวมถึงการรู้คำศัพท์ในระดับสูงที่แม้แต่คนที่พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักจำนวนมากก็ไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งการเรียนและการใช้ชีวิตที่ต่างประเทศให้ได้อย่างดีก็จำเป็นต้องมีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว

ผมจึงตัดสินใจทุ่มเทเวลามากกว่าหนึ่งปีเพื่อการพัฒนภาษาอังกฤษ ทั้งการเรียนที่จำลองการเรียนในสถาบันสอนภาษา AUA ในหลายๆ หลักสูตร ทั้งหลักสูตรธรรม หลักสูตรเข้มข้นที่จำลองการเรียนมหาวิทยาลัย และการฝึกการสนทนาในภาษาอังกฤษ (conversation club) อย่างสม่ำเสมอ และใช้เวลาวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ทั้งหมดกว่าครึ่งปีในการเรียนในโรงเรียนภาษาอังกฤษของ อ. สงวนเพื่อเตรียมตัวการเรียนศัพท์ภาษาอังกฤษระดับสูงเพื่อการสอบ GRE

สำหรับการเลือกมหาวิทยาลัย ผมก็ค้นหาข้อมูลของคณะเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวนมาก โดยพิจารณาในด้านต่างๆ ทั้งโอกาสที่มหาวิทยาลัยจะรับเข้าเรียน ความเชี่ยวชาญของอาจารย์กับความสนใจของผม ค่าใช้จ่ายและการให้ควาช่วยเหลือด้านทุนการศึกษา รวมถึงความน่าอยู่ของเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัย

และในที่สุดโอกาสของผมก็มาถึงเมื่อ Simon Fraser University (SFU) ตอนเข้าผมเข้าสมัครในการเรียนระดับปริญญาโท SFU เป็นมหาวิทยาลัยเป็นมีชื่อเสียงในวิชาการในระดับสูง (โปรแกรมเศรษฐศาสตร์ของ SFU อยู่ใน TOP 100 ของโปรแกรมเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยทั่วโลก) แม้จะไม่ใช่ระดับเลิศที่สุด (TOP 50) แต่ก็มีจุดเด่นหลายอย่างที่ทำให้ผมตัดสินใจสมัคร มีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งของคณะที่มีความเชี่ยวชาญในงานวิจัยด้านในการประยุกต์ใช้ทฤษฎี mechanism design เพื่องานวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์การพัฒนา ซึ่งปัจจุบันศาสตราจารย์ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของผม ในด้านการเงิน คณะเศรษฐศาสตร์ของ SFU มีการประกันด้านการช่วยเหลือด้านการเงิน ด้านรับประกันว่านักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกทุกคนจะเป็นงานเป็นผู้ช่วยสอน (TA) ซึ่งมากพอที่จะจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ผมไม่จำเป็นของใช้เงินเก็บสุดตัวหรือดิ้นรนหาเงินช่วยเหลือจากภายนอก

สุดท้ายด้านที่ตั้งมหาวิทยาลัยก็อยู่ในเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลก ด้วยอากาศที่เย็นสบาย ไม่หนาวเกินไป หรือร้อนเกินไปตลอดทั้งปี มีระบบขนส่งที่ดี มีความปลอดภัยสูง มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และมีชื่อเสียงในด้านของความสวยงามของภูมิประเทศ

และนี่คือเรื่องราวของเส้นทางชีวิตของผมสู่การเป็น “นักเรียนนอก” ครับ



Create Date : 22 พฤษภาคม 2557
Last Update : 22 พฤษภาคม 2557 17:05:23 น.
Counter : 749 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

onceuponatime
Location :
  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



ชีวิตของผู้หญิงไทยในต่างแดนคนหนึ่ง ที่เป็นทั้งคุณแม่ลูกสามที่มีดีกรีด๊อกเตอร์จากประเทศเยอรมนี เปิดบันทึกเพื่อเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ผจญภัยที่แสนจะตื่นเต้นของเธอในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น การสอบเข้าและเรียนปริญญาเอกที่สุดหิน ความรักข้ามขอบฟ้าที่แสนโรแมนติก การสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แถมพ่วงด้วยลูกเล็กอีกสามที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีอย่างเหลือเชื่อ พร้อมทั้งแบ่งปันเคล็ดลับและแรงดลบันดาลใจที่นำไปสู่ความสำเร็จแบบ
"นกอินทรีต้องบินสูง" ของเธอ
พฤษภาคม 2557

 
 
 
 
1
2
3
4
8
10
11
12
16
17
18
19
20
23
24
25
26
29
31
 
All Blog