การผจญภัยกับชีวิตหลังแต่งงานในช่วงแรก & การอวยพรเรื่่อง ''บ้าน''
See some more stuffs at : Life is a Beautiful Journey
https://www.facebook.com/saneyaha?ref=hl

งานแต่งงานของเราได้จัดขึ้นตามคำสัญญาที่มีไว้กับพระเจ้า ผู้นำคริสตจักร และครอบครัว ภายหลังจากที่ข้าพเจ้าได้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสตุ๊ทการ์ท ประเทศเยอรมนีได้เป็นเวลา 1 ปี

จำได้ว่า เราได้เลือกเอาวันที่ 3 ตุลาคม เป็นวันจัดพิธีแต่งงาน ทั้งนี้เพราะในวันนี้ของทุกปีเป็นวันหยุดแห่งชาติของประเทศเยอรมนีเนื่องจากเป็นวันระลึกถึงการรวมชาติของประเทศ หรือในภาษาอังกฤษ The Day of German Unity หรือ ในภาษาเยอรมัน Tag der Deutschen Einheit นั่นเอง ดังนั้น ในทุกปี เราก็จะมีเวลาฉลองวันครบรอบแต่งงานทั้งวันhehheeh

ก่อนจัดงานแต่งงาน เราก็ได้ประกาศกับเพื่อนๆ พี่น้องที่คริสตจักรและมาร์คุสก็มอบแหวนแบบง่ายๆ แต่มีคุณค่ามากทางใจระหว่างเราเป็นแหวนหมั้นและเราก็ต้องวางแผนกันต่อไปว่าจะจัดงานแต่งงานในลักษณะใดให้เหมาะสมกับฐานะของการยังคงเป็นนักศึกษาของเรา เนื่องจากมาร์คุสเองในช่วงเวลาเดียวกันก็ตัดสินใจเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเดียวกันกับข้าพเจ้าเพื่อจะได้ประกาศนียบัตรประกอบอาชีพครูอีกหนึ่งใบหลังจากที่ได้ปริญญาสาขาวิศวกรรมศาสตร์ตามหลักสูตร Diploma ของประเทศเยอรมนีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ข้าพเจ้าก็เคารพการตัดสินใจของเขา แม้ทั้งรู้ว่า ภายหลังการแต่งงานเราอาจจะต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจบ้างอันเนื่องมาจากรายได้เพียง 50% ที่มาจากมาร์คุสเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ความรักก็เป็นสิ่งที่มีค่าเหนือทรัพย์สินหรือสิ่งใดๆ รวมถึงพระเจ้าก็เป็นศูนย์กลางและทุกสิ่งในชีวิตของเราที่เรารู้ว่าพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งเราเลยสักครั้ง

สิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้นของเราคือ การวางแผนและอธิษฐานให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ จากที่วางแผนว่าจะจัดงานแบบเล็กๆ ทางครอบครัวของมาร์คุสก็สนับสนุนให้เชิญคนสำคัญและเพื่อนๆ ของเราได้ถึงในระดับ 100 คน รวมทั้งซื้อแหวนทองคำเกลี้ยงให้เราทั้งสองคนอีกด้วย ตรงนี้ต้องอธิบายพื้นฐานความคิดของคนเยอรมันให้ฟังนิดหนึ่งว่า ปรกติแล้วคนเยอรมันจะพึ่งตนเองก่อนในการทำตัดสินใจหรือทำบางอย่าง ครอบครัวมีอิสระที่จะสนับสนุนหรือไม่ก็ได้ รวมถึงค่านิยมในการจัดงานแต่งงานก็จะแตกต่างจากบ้านเราหรือประเทศในเอเชียที่นิยมเชิญแขกเหรื่อจำนวนมาก บางครอบครัวของที่นี่เชิญเพียงญาติและเพื่อนสนิทเท่านั้น ดังนั้นในกรณีของเราที่เชิญครอบครัวและเพื่อนๆ คนสำคัญถึงจำนวน 100 คนที่จะมาเป็นสักขีพยานให้เราในวันแต่งงานนี้ก็ถือว่าเป็นอะไรที่พิเศษมาก

ประสบการ์ณภายหลังการแต่งงานก็ยิ่งทำให้เรามีความมั่นใจว่าพระเจ้านั้นอยู่กับเรา ทั้งนี้เพราะในช่วง 6 เดือนแรกหลังจากแต่งงาน ข้าพเจ้าก็ย้ายไปอยู่ในอพาร์ทเมนต์ของมาร์คุส ซึ่งในอพาร์ทเมนต์นี้เป็นลักษณะการเช่าร่วมกับนักศึกษาปริญญาตรีชายชาวมาเลเซียอยู่ก่อน หรือที่เรียกเป็นภาษาเยอรมันว่า Wohngemeinschaft หรือ WG นั่นเอง !!! ตอนแรกข้าพเจ้าก็รู้สึกแปลกๆ แต่มิตรภาพก็เกิดขึ้นได้เปรียบเหมือนครอบครัวเล็กๆ กับน้องชายคนหนึ่งที่อยู่และเรียนรู้ร่วมกันในระยะเวลาหนึ่ง

ในระหว่างนี้พระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐานของเราเรื่องหนึ่ง นั่นคือ การให้เรามีลูกทันทีหลังแต่งงาน และด้วยเหตุนี้ทำให้เราต้องวางแผนเรื่องที่อยู่อาศัยเสียใหม่ เพราะว่าจะอยู่อิสระแบบสองคนวัยรุ่น (ตอนปลาย) คงไม่ได้แล้ว 555 จำได้ว่าที่หนักสุดคือ เราสองคนนอนยัดบนเตียงเล็กๆ ด้วยกัน ผลัดกันตกเตียง สนุกดี

อย่างไรก็ตามป้ญหาที่ตามมาของความคิดที่จะขยับขยายครอบครัวก็คือเรื่องของการเงินที่ควรเตรียมพร้อมสำหรับอพาร์ตเมนท์ใหม่และสำหรับอันนา ลูกสาวคนแรกที่กำลังจะเกิดอีกไม่นานในเวลานั้น

การหาที่อยู่ใหม่ในใจกลางเมืองสตุ๊ทการ์ทด้วยราคาที่ย่อมเยาว์เนี่ยเป็นอะไรที่ยากมาก แต่พระเจ้าทรงประทานหนทางให้แก่ผู้ที่รักพระองค์เสมอ นั่นก็คือก่อนที่เราจะได้อพาร์ทเมนต์ใหม่นั้น มาร์คุสก็ได้รับการติดต่อให้เป็นผู้จัดการด้านการควบคุมคุณภาพให้กับบริษัทแห่งหนึ่งด้วยรายได้ต่อชั่วโมงที่สูงทีเดียว และที่สำคัญเป็นการทำงานในลักษณะฟรีแลนซ์ที่เขาสามารถบริหารเวลาจนกระทั่งเรียนจบได้ประกาศนียบัตรการเป็นครูจนได้

พอเริ่มสร้างฐานะได้จากการอวยพร การวางแผนและการเก็บออม เราสองคนก็เริ่มวาดฝันด้วยกัน หนึ่งในความฝันนั้นคือ การมีบ้านและสวนเป็นของตนเองโดยมาร์คุสบอกข้าพเจ้าว่า เพื่อลูกๆและโดยเฉพาะข้าพเจ้าจะรู้ว่าที่นี่คืออีกหนึ่งบ้านเกิดที่เราจะผูกพันอยู่ด้วยกันตราบชั่วลูกหลาน เรารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มา แต่เราก็รู้และมั่นใจว่า พระเจ้ารักเราและไม่เคยทอดทิ้งเรา ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้คือ มีความเชื่อ และดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่บนความหวังและอธิษฐานกับพระองค์ต่อไป

จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 2011 คุณแม่ของมาร์คุสก็โทรศัพท์มาหาเราว่า บ้านของคุณปู่และคุณย่าของมาร์คุสที่อยู่ต่างเมืองว่างลง เนื่องจากพวกท่านได้เสียชีวิตลงแล้ว พวกเราสนใจจะย้ายไปอยู่ไหม !?!

ตอนแรกข้าพเจ้าก็ลังเลเพราะการอยู่ในเมืองใหญ่อย่างสตุ๊ทการ์ทนั้นเป็นความคุ้นเคยและสะดวกสบายกับข้าพเจ้าในฐานะคนต่างชาติอย่างมาก แต่สามีของข้าพเจ้าก็ปลอบข้าพเจ้าว่านี่คงไม่บังเอิญ ลองไปอยู่ก่อนดีไหม ถ้าข้าพเจ้ารู้สึกไม่ดี เราก็ย้ายกลับมา

ดังนั้น ข้าพเจ้าก็ตัดสินใจย้ายไปในบ้านหลังใหญ่พร้อมสวนสวยในฝัน ที่ตั้งอยู่บนเขา อากาศดี เพื่อนบ้านน่ารัก และใช้เวลาเดินจากบ้านเพียงสามนาทีไปถึงโรงพยาบาลและโรงเรียนอนุบาลของอันนาและเลาร่า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ไม่เคยรู้สึกผิดหวังเลยที่ได้ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่

สำหรับเรื่องหน้าที่การงานพระเจ้าก็จัดสรรอย่างดีให้กับมาร์คุสในฐานะผู้จัดการเต็มเวลาด้านการควบคุมคุณภาพของบริษัทในเมืองใกล้เคียงแห่งหนึ่ง ที่นี่มาร์คุสได้รับการยกชูอย่างมาก รวมถึงได้ทำงานในระดับผู้นำ หรือ Leadership ในเวลาอันรวดเร็ว

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกการจัดสรร เรารู้ว่าเส้นทางชีวิตคงไม่สิ้นสุดเพียงเท่านี้ เพราะเรายังคงต้องเผชิญบททดสอบบทต่อไป แต่เราก็อุ่นใจที่เรารับรู้ว่าพระเจ้านั้นอยู่กับเราและเดินเคียงข้างเราเสมอ รวมถึงครอบครัวของเราก็เป็นความรักและพลังให้แก่กันและกัน

ขอเป็นหนึ่งในกำลังใจให้กับเพื่อนๆ ทุกๆ คนเช่นกันค่ะ
Have a nice day!

PS: หากใครยังไม่ได้อ่านเส้นทางความรักอันอัศจรรย์และเต็มไปด้วยการอวยพรของเรา เชิญอ่านได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/saneyaha/posts/1403637926583944




Create Date : 27 พฤษภาคม 2557
Last Update : 27 พฤษภาคม 2557 19:40:29 น.
Counter : 1316 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

onceuponatime
Location :
  Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



ชีวิตของผู้หญิงไทยในต่างแดนคนหนึ่ง ที่เป็นทั้งคุณแม่ลูกสามที่มีดีกรีด๊อกเตอร์จากประเทศเยอรมนี เปิดบันทึกเพื่อเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ผจญภัยที่แสนจะตื่นเต้นของเธอในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น การสอบเข้าและเรียนปริญญาเอกที่สุดหิน ความรักข้ามขอบฟ้าที่แสนโรแมนติก การสร้างครอบครัวที่อบอุ่น แถมพ่วงด้วยลูกเล็กอีกสามที่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีอย่างเหลือเชื่อ พร้อมทั้งแบ่งปันเคล็ดลับและแรงดลบันดาลใจที่นำไปสู่ความสำเร็จแบบ
"นกอินทรีต้องบินสูง" ของเธอ
พฤษภาคม 2557

 
 
 
 
1
2
3
4
8
10
11
12
16
17
18
19
20
23
24
25
26
29
31
 
All Blog