|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
6 มีนาคม 2552
|
|
|
|
โมคคัลลานสูตร : พระวังคีสะสรรเสริญพระโมคคัลานะ
๑๐. โมคคัลลานสูตร
พระวังคีสะสรรเสริญพระโมคคัลานะ [๗๕๔] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ กาฬสิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด.
ได้ยินว่า ท่านพระมหาโมคคัลลานะตามพิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษ (จากกิเลส) อันหาอุปธิมิได้ ของภิกษุเหล่านั้นด้วยจิตอยู่.
[๗๕๕] ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะมีความคิดดังนี้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้านี้แลประทับที่กาฬสิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ กรุงราชคฤห์ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ให้ ประมาณ ๕๐๐ รูป ล้วนเป็นพระอรหันต์ทั้งหมด ท่านพระมหาโมคคลัลานะก็ตามพิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษ (จากกิเลส) อันหาอุปธิมิได้ของภิกษุเหล่านั้นด้วยจิตอยู่ อย่ากระนั้นเลย เราพึงชมเชยท่านพระมหาโมคคัลลานะ เฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาทั้งหลายอันสมควรเถิด.
ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะลุกขึ้นจากอาสนะ ทำผ้าห่มเฉวียงบ่าข้างหนึ่ง ประนมอัญชลีไปทางที่พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เนื้อความนี้ย่อมแจ่มแจ้ง กะข้าพระองค์ ข้าแต่พระสุคต เนื้อความนี้ย่อมแจ่มแจ้งกะข้าพระองค์.
พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เนื้อความนั่นจงแจ่มแจ้งกะเธอเถิด วังคีสะ.
[๗๕๖] ครั้งนั้นแล ท่านพระวังคีสะ ได้ชมเชยท่านพระมหาโมคคัลลานะ เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยคาถาทั้งหลายอันสมควรว่า
พระสาวกทั้งหลายผู้สำเร็จไตรวิชชา ผู้ละมฤตยูเสียได้ ย่อมนั่งห้อมล้อมพระมุนี ผู้ถึงฝั่งแห่งทุกข์ ซึ่งประทับนั่งอยู่ที่ข้าง แห่งภูเขา พระมหาโมคคัลานะผู้มีฤทธิ์ มาก ย่อมสอดส่องพระสาวกเหล่านั้น ด้วยจิต ตามพิจารณาจิตอันหลุดพ้นพิเศษ แล้ว อันหาอุปธิมิได้ของพระสาวกเหล่า- นั้นอยู่ พระสาวกทั้งหลายย่อมนั่งห้อมล้อม พระโคดม ผู้เป็นมุนี ซึ่งสมบูรณ์ด้วย พระคุณทั้งปวงอย่างนี้ ผู้ลงฝั่งแห่งทุกข์ ผู้ประกอบด้วยพระคุณเป็นอเนกประการ ดั้งนี้. -------------------------------------------------------------------- อรรรถกถาโมคคัลลานสูตร
ในโมคคัลลานสูตรที่ ๑๐ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ :-
บทว่า สมนฺเวสติ ได้แก่แสวงหา คือพิจารณา. บทว่า นคสฺส ได้แก่ ภูเขา. บทว่า มุนึ ได้แก่พุทธมุนี. บทว่า ทุกฺขสฺส ปารคุ ได้แก่ผู้ถึงฝั่งแห่งทุกข์. บทว่า สมนฺเวส ได้แก่พิจารณาอยู่. บทว่า เอว สพฺพงฺคสมฺปนฺน ได้แก่สมบูรณ์ด้วยคุณทั้งปวง ด้วยอาการอย่างนี้. บทว่าอเนการสมฺปนฺน ได้แก่ ประกอบด้วยคุณมากมาย.
จบอรรถกถาโมคคัลลานสูตรที่ ๑๐
Create Date : 06 มีนาคม 2552 |
Last Update : 6 มีนาคม 2552 8:21:41 น. |
|
0 comments
|
Counter : 401 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
สัก ณ ศรีสิขเรศวร |
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
สมัยเด็ก ๆ เคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า จะรวบรวมประวัติท่านพระมหาโมคคัลลานะไว้เยอะ ๆ ด้วยความชอบในทางอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ นับว่า เทคโนโลยีปัจจุบัน ช่วยทำให้สัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองสมัยเด็ก ๆ นั้นเป็นจริงขึ้นมาได้
ผมไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจธรรมะมากมายน่ะครับ ได้แต่พยามรวบรวมพระสูตร อรรถกถาต่าง ๆ ที่มีท่านพระโมคคัลานะเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมดมาไว้ใน blog นี้ ให้ได้มากที่สุด หลาย ๆ พระสูตรก็เกินปัญญาที่จะให้เข้าใจได้แม้จะอ่านทวนซ้ำหลายรอบแล้วก็ตาม
ถ้าท่านผู้ใดที่ผ่านไปผ่านมา อ่านแล้วเกิดแง่คิด มุมมองใด ที่จะฃ่วยเสริมสร้างความเข้าใจในเรื่องราวนั้นขึ้นมาได้อีก โปรดอย่าลังเลที่จะเสนอและให้ความเห็นน่ะครับ ขอบพระคุณล่วงหน้าขอรับ
อีกอย่างถ้าช่วยแนะนำพระสูตร หรือเรื่องราวอื่น ๆ ที่ผมยังหาไม่เจอให้ด้วยจะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงน้อครับน้อ
|
|
|