บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ

เป็นที่รู้กันว่าผู้กำกับภาพยนตร์คู่บุญที่สร้างเรื่องบุญชูมาแต่แรกคุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ท่านได้จากพวกเราแฟนหนังไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2552 ที่ผ่านมาเกือบจะครบปีแล้วที่ท่านได้สร้างบุญชู มาทั้งสิ้น 7 ภาค (บุญชู ภาค 3 และ 4 รวมอยู่ในบุญชู 5) จนในที่สุดผลงานภาพยนตร์เรื่องใหม่นี้คือ บุญชู  จะอยู่ในใจเสมอ จึงเป็นการกำกับภาพยนตร์โดย ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ ที่ร่วมกับผู้เกี่ยวข้องทุกคนผลักดัน บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ ออกมาเพื่อระลึกถึงผู้กำกับใหญ่ที่ได้จากไป ไม่มีวันกลับ ซึ่งท่านเป็นผู้ซึ่งสร้างชื่อสร้างเสียงให้กับทุกๆคนได้เกิดเป็นตำนานภาพยนตร์ประดับไว้แก่วงการภาพยนตร์ไทย

ในตอนใหม่นี้จะเป็นการไปผจญกับปัญหาในทางภาคเนือสุดของประเทศคือ จังหวัดเชียงรายที่เป็นฉากหลังของท้องเรื่อง และแน่นอนว่านักแสดงหลักทุกคนก็จะมาสร้างรอยยิ้มให้กับคุณผู้ชมทุกท่านให้ชื่นบานชื่นใจล่ะครับ ผู้กำกับภาพยนตร์เกียรติ กิจเจริญพยายามทำสำเนาบุญชูตอนใหม่นี้ให้เป็นแบบต้นฉบับของยอดผู้กำกับภาพยนตร์บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ให้มากที่สุดเพื่อคงบรรยากาศของ  บุญชูเอาไว้  ซึ่งทำออกมาได้ในระดับที่ค่อนข้างสูงตามที่ต้องการ ในตอนใหม่นี้เรื่องราวหลักเทมาทางฝั่งผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นอย่างตอนที่แล้ว จัดสรรเกลี่ยบทบาทระหว่างรุ่นบุญชู กับรุ่นบุญโชคให้พอๆกัน

ผู้กำกับฯเกียรติ กิจเจริญ กำกับงานหนังเรื่องแรกนี้ได้อย่างน่าพอใจ หากต้องไปเทียบกับงานบุญชูในตอนก่อนๆหน้านี้ก็จะดูด้อยลงอย่างเห็นได้ชัดในส่วนของเรื่องราวควรที่จะเข้มข้นกว่านี้ เพราะตอนล่าสุดนี้ในส่วนของบทฝ่ายตัวร้ายดูขาดน้ำหนักรองรับอย่างมาก ตัวละครค่อนข้างเป็นตัวละครที่มาจากการ์ตูนที่ไม่เข้ากับเนื้อเดียวกับหนังเลยทั้งปวง หรือเป็นเพราะบทภาพยนตร์ที่มีการเขียนถึง 3 คนซึ่งแน่นอนว่าบทแรกเริ่มต้องเป็นของยอดผู้กำกับภาพยนตร์บัณฑิต ฤทธิ์ถกลผู้ล่วงลับ และอีก 2 คนที่เหลือคือยอดผู้กำกับภาพยนตร์อีกท่านคุณอิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์และคุณเกรียงไกร อมาตยกุล (เป็นนักแสดงด้วย) ผมเองรู้สึกว่าบทภาพยนตร์เรื่องนี้ค่อนข้างไม่เป็นเอกภาพ จึงส่งผลต่อตัวหนังที่ควรจะไหลลื่นเลยเหมือนขาดอะไรไปในองค์รวม บทหนังเรื่องนี้ก็ยังมีอะไรที่สร้างความประหลาดใจด้วยเช่นกันแม้จะดูอ่อนในบางจุด ซึ่งขอชมเชยที่ผู้กำกับภาพยนตร์เกียรติ กิจเจริญ ทำหนังออกมาได้จากบทภาพยนตร์แบบนี้ที่ไม่ลงตัว และที่ผู้กำกับพร้อมทีมงานทำได้ดีอีกจุดคือการเลือกเอาภาพในบุญชูตอนเก่ามาใส่ในหนัง เพื่อย้อนระลึกอดีตทำได้ดูมีพลังมากๆ ยิ่งแฟนหนังบุญชูนี่ต้องประทับใจกันเลยครับ

ในส่วนของงานการแสดงคุณสันติสุข พรหมศิริ กับคุณจินตรา สุขพัฒน์ ทำงานกันได้รู้หน้าที่ทุกประการไม่มีอะไรยากเลยกับการแสดงของนักแสดงคู่ขวัญคู่นี้  บุญโชค(ธนฉัตร ตุลยฉัตร) กับ จันทร์หอม(เกล้าแกล้ว สินเทพดล) คู่ลูกรุ่นเล็กที่ทั้งสองคนแสดงกันได้น่ารักมากๆ ในตัวของธนฉัตร ตุลยฉัตรให้พัฒนาการทางการแสดงที่ดีขึ้นกว่าตอนที่แล้วมากดูมีเสน่ห์ในแบบฉบับเดียวกับบุญชู ต่างตรงมีความกรุ้มกริ้มเพิ่มเข้ามา ทั้งยังบทพูดที่ส่งเสริมทำให้ธนฉัตรดูโดดเด่นอยู่หลายฉาก  ณัฐฐาวีรนุช ทองมี ในบทพี่สาวที่ชื่อจันทร์ผา เธอแสดงได้ยังไม่น่าเชื่อเท่าใดนัก ที่เธอจะเก่งกาจมากมายขนาดนั้นเป็นบทบาทที่เธอแสดงได้ธรรมดามากเมื่อเทียบกับงานหนังเรื่องอื่นๆก่อนหน้าอย่าง บังเอิญรักไม่สิ้นสุด คริตกะจ๋าบ้าสุดๆเป็นต้น เหมือนการมาปรากฎกายแล้วแสดงตามหน้าที่เท่านั้นเอง ทั้งที่ตัวละครตัวนี้ถือว่าสำคัญในเรื่องนี้เลย บทกลับไม่สามารถส่งตัวละครตัวนี้ให้เกิดได้เหมือนเช่นตัวละครน้องสาว ผมถึงว่าบทภาพยนตร์เรื่องนี้มีจุดบกพร่องอยู่จึงเป็นที่น่าเสียดายต่อบทบาทของณัฐฐาวีรนุช ทองมี ในเรื่องนี้   ตัวละครอีกตัวที่สร้างเสียงฮาคือ นะโม ทองกำเหนิดในบทพี่หมอรุ่นพี่ ที่แสดงได้เกิดมากจากบทบาทที่รับ ต่างจากเรื่องก่อนมากที่แสดงใน อนึ่งคิดถึงเป็นอย่างยิ่ง เขาแสดงได้อารมณ์ความเป็นรุ่นพี่ที่มีต่อรุ่นน้องและมีลูกเล่นกวนๆถือเป็นสีสันที่น่าจดจำในหนัง เช่นเดียวกับคุณวิทยา เจตะภัย ในบทมะขิ่น ตัวละครตัวนี้ถือเป็นเซอร์ไพรซ์ของไคลแมกซ์เลยตัวหนึ่งที่ทำให้คนดูต้องทึ่งเลย และนักแสดงท่านอื่นๆอย่างผู้กำกับภาพยนตร์เกียรติ กิจเจริญ(หยอย) คุณวัชระ ปานเอี่ยม(ไวยากร) คุณอรุณ ภาวิไล(นรา) คุณกฤษณ์ ศุภระมงคล(คำมูล) คุณนฤพนธ์ ไชยยศ(เฉื่อย) คุณเกรียงไกร อมาตยกุล(ประพันธ์) คุณสมเกียรติ คุณานิธิพงศ์(พี่ปอง) เหล่านี้ล้วนคุ้นเคยกันดีกับแฟนๆ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่การแสดงในฉากโต๊ะอาหารในตอนนี้ยังไม่สะเด็ดมากพอเท่ากับตอนก่อนๆหน้านี้ และในการมาทำร้านอาหารที่เชียงรายของพี่ปองของพวกเราดูอ่อนเหตุผลมาก มันควรที่จะคิดนอกกรอบบ้างในบางจุด โดยอาจจะเชิญพี่ปองมาด้วยกัน แล้วมาทำอาหารให้กินในที่พักก็ได้ประมาณนี้ ซึ่งควรจะคิดสร้างสรรค์มากขึ้นแทนที่จะย่ำในบทเดิมจนเกินไปที่ต้องย่ำอยู่กับพ่อครัวร้านอาหารแบบนั้นนะครับ 

ในส่วนงานด้านภาพก็จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีครับกับภาพในบรรยากาศของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และทิวทัศน์โดยรอบจังหวัดเชียงรายซึ่งหน้าที่นี้ดูแลกำกับภาพโดยคุณธีรวัฒน์ รุจินธรรม  แล้วที่ขาดไม่ได้ก็เพลงประกอบภาพยนตร์บุญชูที่นำพาเรื่องราวในตอนต้นเป็นตัวเปิดเรื่องได้เข้าท่าดี ที่คุณยืนยง โอภากุลรับผิดชอบ ตั้งแต่ต้นจนจบ

ถามว่าคุ้มไหมก็คุ้มครับแม้ไม่ดีมากแต่น่าพอใจครับ กับการได้มาดูมาระลึกถึงบรรยากาศดีดีในหนังเรื่องนี้จากหนังไทยที่เป็นหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ไทย ที่ทีมงานผู้เกี่ยวข้อง และผู้ชมอย่างเราทุกคนจะร่วมกันจดจำในหน้าประวัติศาสตร์หนังไทยเรื่องนี้กับ...บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ...ตอนล่าสุดนี้ ทั้งยังเป็นการร่วมระลึกถึง คุณบัณฑิต ฤทธิ์ถกล ยอดผู้กำกับใหญ่ผู้ให้กำเนิดภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วยครับ

คะแนนความพึงพอใจ      6/10

ความยาวภาพยนตร์ :  ประมาณ 102 นาที

ระดับวัยของผู้ชม :  5 ปีขึ้นไป มีฉากอันตรายบ้างที่ผู้ใหญ่ควรให้คำแนะนำ

ผู้กำกับภาพยนตร์ :  เกียรติ กิจเจริญ

บทภาพยนตร์ :  บัณฑิต ฤทธิ์ถกล, อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์, เกรียงไกร อมาตยกุล

ผู้อำนวยการสร้าง :  เจริญ เอี่ยมพึ่งพร

นักแสดง :  สันติสุข พรหมศิริ, จินตรา สุขพัฒน์, ธนฉัตร ตุลยฉัตร, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี, เกล้าแกล้ว สินเทพดล, นะโม ทองกำเหนิด, เกียรติ กิจเจริญ, วัชระ ปานเอี่ยม, อรุณ ภาวิไล, กฤษณ์ ศุภระมงคล, นฤพนธ์ ไชยยศ, เกรียงไกร อมาตยกุล, สมเกียรติ คุณานิธิพงศ์, วิทยา เจตะภัย, สุธีรัชย์ ชาญนุกูล, ธีรวัฒน์ ทองจิตติ, สมจิตร จงจอหอ

ผู้กำกับภาพ :  ธีรวัฒน์ รุจินธรรม

Create Date : 08 สิงหาคม 2553
Last Update : 8 สิงหาคม 2553 1:44:00 น.		6 comments
Counter : 886 Pageviews.
Share Tweet