เหนือฟ้า พาไป@FlywithMoM
ภารกิจเหนือฟ้า เมืองคอน(รอบสอง) #1



ได้ฤกษ์มาเล่าทริปที่เป็นที่มาของชื่อ "เหนือฟ้า พาไป" ซะที....เป็นทริปวันที่ 23-27 มีนาคม 2550 ( มี.ค. 50 ลงไปเดินป่าเมืองคอนตั้ง 2 ทริป แล้วก็ พ.ค. 50 ก็ลงไปเดินอีก 1 ทริป แต่ทั้ง 3 ทริปนั้นเส้นทางไม่ซ้ำกันเลย...สงสัยชาติที่แล้ว เราเป็นทาร์ซานแน่ๆ เข้าป่าบ่อยจัง)

ทริปนี้เป็นความอยากเดินป่าต่อเนื่องจากเดินเมื่อต้นเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเดินแทบจะทุกเดือนแต่หยุดไป ...พอไปเริ่มเดินใหม่ก็เริ่มผาเหยียบเฆม ยอดฝามี เขาหลวง (ทริปเมืองคอน รอบแรก) ซึ่งป่าใต้จะเป็นป่าโบราณ ดิบชื้น พืชพันธุ์ไม้แปลกตา หลังจากนั้นติดใจ หลงเสน่ห์เต็มทรวงเลย...ทีนี้พอเส้น..ทีนกระตุกหยุดไม่อยู่ ลองหาดูในเวบที่มีการเที่ยวแบบหารเฉลี่ยไปเดินป่า ...และสะดุดตรงทริปนี้ที่พี่คนเมืองคอนแต้ๆ เขาลงไว้ว่า...หาคนร่วมหารเฉลี่ยเดินป่าลากสายมงคลขึ้นยอดเขาหลวงเดินต่อไปยอดพรหมโลก 3 วัน 2 คืน ...แค่ชื่อทริปก็น่าสนใจแล้ว....แต่มีเวลาให้คิดแค่ 3 วัน ...ตัดสินใจเดี๋ยวนั้น โทรไปคุยกะพี่ที่เค้าลงหาคน ..ชื่อพี่วาร์ (เห็นปุ๊บ รู้ปั๊บ คนใต้พัน% 555+ ) พี่เค้าบอกว่านึกว่าไม่มีใครไปด้วยแล้ว ตอนนี้มีแค่สามคนเอง รวมป้าตาด้วยนะ...เห็นเวลาเตรียมตัวน้อยเลยไม่รู้จะชวนใคร ไปคนเดียวก็ได้ฟร่ะ...นัดเจอพี่วาร์ และน้องเอ็กซ์ (อีกหนึ่งหนุ่มที่หลงมาด้วย) ที่สายใต้ ...ทริปนี้บอกว่า 3 วัน 2 คืน (เลยลางานแค่วันเดียว)

พบปะคนที่ต้องเดินร่วมทางกัน 3 วัน ครั้งแรกที่สายใต้ ..แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราไปคนเดียวแล้วไปแจมกับคนอื่น จึงเป็นการง่ายสำหรับการเริ่มมิตรใหม่ๆ พูดคุยกันพอรู้ว่า เราไม่น่าจะไปเป็นภาระของพวกพี่ๆ ที่ต้องไปทำภารกิจกันบนยอดเขาหลวง

ครั้งนี้ ป้าตา มาเดินป่ากับทีมบ้านคีรีวงเป็นครั้งแรก แต่มาบ้านคีรีวงเป็นครั้งที่สอง (ทริปแรกนั้นเป็นทีมงานทาร์ซาน) ไปขออาศัยนอนที่ขนำของพี่เล็ก ...บรรยากาศดีมากๆ ไม่มีไฟฟ้า มีลำธาร น้ำตก สวนมังคุด ทุเรียน ภูเขาโอบล้อม

ปี 50 ...จตุคามเริ่มมีชื่อเสียงดังมาก ชาวบ้านคีรีวงเลยต้องการจะทำการปลุกเสกเหรียญจตุคามตามสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ตามความเชื่อ) และการขึ้นยอดเขาหลวงนี้เป็นสถานที่สุดท้าย เพื่อทำพิธีปลุกเสกเหรียญจตุคามและรายได้ค่าเช่าเหรียญจะนำมาบูรณะวัดบ้านคีรีวง ..ทีมเดินป่าบ้านคีรีวงจึงได้รับหน้าที่นี้... มีพี่เนตร พี่เล็ก น้องบ่าว น้องทัศน์ ที่ต้องเดินลากสายมงคลจากจุดเริ่มเดินขึ้นยอดเขาหลวงไปจนถึงยอดพรหมโลก. 3 วัน แล้วเช้าวันที่ 27 มี.ค. จะมีพิธีปลุกเศก สองจุด คือ จุดแรกเริ่มเดินขึ้นยอดตรงที่เราเริ่มผูกสายมงคล จุดสองเป็นทางลงจากยอดพรหมโลกซึ่งเป็นที่สิ้นสุดของสายมงคล และทำพิธีพร้อมกัน...ขอย้ำ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ซึ่ง..ป้าตา นั้นหลงใหลป่าใต้ต้องการจะเดินขึ้นยอดเขาหลวงเป็นจุดมุ่งหมายหลัก เลยขอเดินร่วมทางกะเค้าด้วย...ถือว่าได้รับความมงคลกับชีวิตไปด้วย



**การจะเดินป่าหรือพักค้างคืนในเขตอุทยานแห่งชาติ จะต้องมีเจ้าหน้าที่หรือคนจัดทริปที่ได้รับอนุญาตจากอุทยานฯ เดินไปกับเราด้วย ต้องแจ้งรายละเอียดเส้นทาง จำนวนวัน รายชื่อจำนวนคนในกลุ่มกับทางอุทยานฯ และปฏิบัติตัวในการเดินป่าตามกฎของอุทยานฯ หรือผู้นำทริปแนะนำ อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง ค่าใช้จ่ายจัดทริปแล้วแต่ทางอุทยานฯ กำหนด หรือทีมผู้จัดทริปกำหนด**


ทริปนี้ได้ผู้หญิงมาร่วมเป็นเพื่อนป้าตาอีกหนึ่งคน คือป้าแต๋ว จากพังงา ....ตำนานเดินป่าอีกหนึ่งคน แต่กว่าเราจะได้เดินกันก็เสียเวลาต้องไปเอาสายมงคลเพิ่มอีกกลัวจะหมดระหว่างทาง แล้วใครล่ะจะลงเขาแล้วแบกขึ้นไปอีก...เอาไปเหลือดีกว่าขาด แต่ น้องๆ เค้าต้องแบกสายมงคลใส่เป้คนละไม่ต่ำกว่า 20 กิโลกรัม ที่ไหล่ได้แผลกันถ้วนหน้า...ป้าตา ขอแบกเบาๆ เช่น ผัก มาม่า กระดาษชำระ (ตอนนั้นทำตัวใสซื่อ หน้าใหม่ ...พอทริปหลังๆ มานรู้ทันน้องๆเลยให้แบกข้าวสาร)

เริ่มเดินกันก็ปาไปเกือบบ่ายสองโมงแล้ว ก็เลยต้องนั่งรถมอไซต์ซิ่งขึ้นเขา...ไปส่งที่ขนำตรงจุดเริ่มเดิน ..เราจะเดินขึ้นกันทั้งหมด 8 คน แต่แล้วต้องเพิ่มทีมงานอีก 4 คน เพราะถ้าแบกเป้ใส่สายมงคลหนักอึ้ง พร้อมกับต้องเดินพันต้นไม้ ผู้ผ้ายันต์ไปด้วยคงถึงเที่ยงคืนกันแน่ ...คนขึ้นยอดจึงมีทั้งหมด 12 คน





น้องบ่าว น้องทัศน์ นอกจากต้องแบกสายมงคลหลายกิโลแล้วก็ต้องรับภาระดูแล ป้าตา น้องเอ็กซ์ด้วย ...ประกบเดินคู่เลย เพราะมีแค่สองคนนี้ที่ไม่เคยเดินเส้นนี้ ส่วนป้าแต๋ว เดินขึ้นเขาหลวงไม่รู้กี่รอบแล้ว ...ทางช่วงแรกดิ่งขึ้นตลอดเหนื่อยมาก แต่การเดินลากสายมงคลพันต้นไม้ไปด้วยทำให้ป้าตา ได้อู้พักเหนื่อยบ้าง...



ประมาณ 5 โมงเย็น เดินมาถึงจุดพักที่แรก เจอเจ้าหน้าที่อุทยานฯ พานักท่องเที่ยวมาพักกันอยู่หนึ่งกลุ่ม เลยแวะพักเหนื่อยทักทาย ตรงนี้จะมีทาก แต่ไม่มากเพราะเป็นที่ชื้นมีน้ำไหลผ่าน แต่เราไม่พักกันที่นี่ จะเดินต่อไปพักอีกจุดหนึ่ง...





เดินกันต่อมาอากาศเริ่มเย็น ฟ้ามืดครึ้ม แล้วก็ถึงจุดพักชื่อ ลานดอกเตอร์ ค่ำพอดี ...ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งจับจองที่พักกันแล้ว ทีมงานเลยบอกหาที่ผูกเปล หุงข้าวกินดีกว่า ...ตรงนี้เดินไปหาน้ำดื่ม อาบน้ำ ต้องลงเนิน กลับขึ้นมาก็เหนื่อยกันพอดี (คือแค่จะบอกว่า ป้าตาไม่อาบน้ำ) ....พี่วาร์ ชวนไปสำรวจป่า ปีนป่ายน้ำตก ก้อนหิน โอ้ย เหนื่อยฟร่ะพี่กลับเหอะ





อาหารฝีมือพี่เนตร หมดเกลี้ยง อร่อยจริงๆ นะ ...แล้วก็นั่งจิบน้ำสีขาวพื้นบ้านแก้หนาวสักหน่อย อาหารหวานก็ต้มถั่วดำ เห็นในกลุ่มนักท่องเที่ยวมีชาวต่างชาติมาด้วยคนหนึ่ง ป้าแต๋วกับพี่เล็กเลยไปชวนมาคุยด้วย ...อิ่มหน่ำสำราญใจ แก้มแดงๆ หน้าร้อนๆ ก็เข้านอนกันเถอะ ....

รุ่งเช้า หน้าที่เราแค่เก็บเปลของตัวเอง พี่เนตรโชว์ฝีมือทำอาหารแกงใต้สุดยอดเลย กินกันไม่เคยเหลือ ส่วนนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มเริ่มเดินขึ้นเขากันแล้ว ...พวกเราค่อยๆ เดินตาม เพราะต้องลากสายมงคลไปด้วย บางทีก็หยุดแก้สายจากม้วนแล้วมาพันกิ่งไม้เพื่อจะได้ดึงง่ายขึ้น นึกๆ ไปเหมือนพวกทอผ้ามานั่งพันๆ สายไหมยังงัยไม่รู้... เหนื่อยก็พัก ต้มน้ำชงกาแฟกินกัน เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ เราไม่รีบ 555+





*จุดนี้พักกันอีกรอบ แต่จำบ่ได้ว่าชื่อว่าอาราย...แต่จะมองเห็นวิวทิวเขางามๆ น้ำตกไกลๆ มีเรื่องให้ตื่นเต้นนิดหน่อย คือน้องผู้หญิงในกลุ่มที่เดินขึ้นมาก่อน น้องไปยืนพิงต้นไม้ ซึ่งด้านหลังคือเหว น้องคงจะเมื่อยขาจากการเดินขึ้นเขามา (เพราะทราบว่าทริปนี้เป็นการเดินป่าขึ้นเขาของทุกคนในกลุ่ม เลือกทริปแรกได้โหดดีจัง ) ทำให้เหยียบต้นไม้พลาด ตัวหงายหลังหลุด ผลุบลงไป โชคดีมีต้นไม้รองรับไว้ และพี่ๆ เพื่อนๆ ก็รีบคว้าข้อเท้าน้องไว้ แล้วให้น้องพยายามยื่นมือขึ้นมา แต่น้องเค้าคงกลัวแล้วเกร็งมาก กว่าจะดึงขึ้นมาได้เล่นเอาคนช่วยลุ้นแทบแย่*



เริ่มขึ้นที่สูง อากาศเริ่มเย็น เริ่มเป็นป่าโบราณ มีต้นบิโกเนียอวบๆ แดงๆ ให้ป้าตา เด็ดก้านมาเดินเคี้ยวกิน (ก้านเป็นยาระบายอ่อนๆ ) ก่อนถึงยอดเขาหลวง 1835 เมตร มีจุดพักชมวิว แต่ยังไม่ทันชื่นชม สักพักก็มีฝนโปรยปรายลงมาแล้ว ต้องรีบจ้ำอ้าวเดินขึ้นยอดกันเลย ...แต่กว่าจะถึงบนยอด ฝนก็ตกหนัก น้องๆ กลุ่มที่เดินขึ้นมาก่อนเราเค้ากางเต้นท์กันเสร็จเรียบร้อยได้ที่หลบฝนอย่างดี แต่พวกเราซิเปียกฝนหนักเลย ต้องรีบกางฟลายชีทหลบฝน เอาไว้ก่อไฟหุงข้าวทำอาหารกิน ส่วนเป้ก็วางไว้อย่างนั้นแหละ (ในเป้แพคกันฝนเรียบร้อย) แล้วก็หาถุงขยะดำหนาๆ มารองรับน้ำฝนเอาไว้ใช้ จะได้ไม่ต้องเดินลงไปตักน้ำข้างล่างให้เหนื่อย...อิอิ





ฝนเริ่มหยุด เราไปผูกเปลจองที่นอนกันก่อน ..แล้วก็ไปปีนป่ายต้นไม้เพื่อดูวิวทิวเขา (บนยอดเขาหลวงมีต้นไม้ขึ้นปกคลุมไม่ใช่ลานโล่ง เวลาจะดูวิวต้องปีนต้นไม้เอา...) ปีนไปกิ่งโน้น กิ่งนี้จนลื่นเพราะต้นไม้เปียก แต่ยังทรงตัวทัน...อิอิ แต่ที่ไม่ทันคือ เป้ากางเกงป้าตา ขาดยาวเลยต้องปีนต้นไม้ลงมาแบบหุบขาหน่อย อายจัง ..แล้วเปลี่ยนใส่ผ้าถุง นั่งเย็บเป้ากุงเกง ...







ลมหนาวเย็นมาก ต้องมาสุมหัวกันที่กองไฟ จิบน้ำขาวพื้นบ้านแก้หนาว พร้อมกับเพลงเพื่อชีวิต...สุขใจจิง ๆ

แล้วก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวายนิดหน่อย ..มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มที่นอนเต้นท์ เกิดอาการแพ้ มีผื่นขึ้นตามตัว ตัวบวม หน้าบวม ซึ่งเค้าไม่เคยเป็น น่าจะไปโดนต้นไม้มีพิษหรือขนอารายไม่ทราบเพราะเพิ่งเกิดอาการตอนเย็น....ส่งป้าแต๋ว ผู้มีประสบการณ์มากที่สุด มุดเต้นท์เข้าไปสำรวจร่างกายน้องผู้หญิง ส่วนพี่เล็กเโทรไปถามหมอที่ในเมืองเล่าอาการ(สัญญาณมือถือยังพอมี พิเศษถ้าเป็นดีแทคต้องปีนยอดต้นไม้) ...แก้ปัญหาขั้นแรกด้วยการ เช็ดตัว ทาแป้งฝุ่น ทานยาแก้แพ้ ยาพารา...บอกว่าถ้าไม่ดีขึ้นเดี๋ยวให้พี่ๆ แบกไปส่งข้างล่าง....( แต่พอตอนเช้ามาน้องดีขึ้น หน้าบวมก็ยุบลงสวยเหมือนเดิม ดีนะที่เค้าจะลงกันเช้านี้แล้ว คงได้ไปหาหมอดูอาการอีกที )



ส่วนกลุ่มพวกเรา...มีเรื่องให้คบคิดอีกล่ะ เพราะมีคำสั่งจากผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านให้เปลี่ยนจุดหมายปลายทางจากที่เราต้องเดินจากยอดเขาหลวงไปยอดพรหมโลก....มาเป็น...จากยอดเขาหลวงเดินไปลงหน่วยย่อยบ้านเหนือฟ้า ซึ่งมันคนละเส้นทางกับตอนแรกเลย และอาจจะต้องนอนเพิ่มในป่าอีกหนึ่งคืนจากเดิม 3 วัน 2 คืน ..เปลี่ยนเส้นใหม่เป็น 4 วัน 3 คืน ....ซึ่งผู้ที่ต้องลาจากกันบนยอดเขาหลวงนั้นก็คือชาวบ้านคีรีวง 4 คนที่ช่วยลากสายมงคลกันมา เค้ามีภาระหน้าที่ต้องกลับ ...เหลือแค่ ทีมพี่เล็ก พี่เนตร น้องบ่าว น้องทัศน์ 4 คนนี้ยังงัยก็ต้องทำภารกิจให้เสร็จสิ้น

ป้าแต๋ว บอกว่าลางานมาแค่วันเดียวต้องกลับ แม้จะอ้อนวอน ข่มขู่ตลอดทั้งคืนก็ไม่เปลี่ยนใจ

พี่วาร์ บอกไปโลด เพราะที่กรุงเทพไม่มีอารายทำอยู่แล้ว

เจ้าเอ็กซ์ จะเริ่มงานใหม่ 1 เม.ย. บอกไปไหนไปด้วยคร้าบ..ทั้งๆ ที่เจ็บเข่า

สุดท้าย..ป้าตา ลางานมาแค่วันเดียว แต่ใจหนึ่งอยากไปให้สุดสิ้นทาง เห็นเราลังเล ทุกคนเลยกรอกหูตลอดว่า..เส้นเหนือฟ้า มีน้ำตกสวยใหญ่มาก เส้นทางก็วิวงามโค ตร ๆ ...เอาฟร่ะ ไหนๆ ก็มาแล้วไปก็ได้ เดี๋ยวเที่ยงๆ ค่อยโทรลางาน แล้วบอกว่าตกรถทัวร์ (อุ้ย...เจ้านายจะเข้ามาอ่านหรือป่าวเนี่ย)



แล้วฝนก็ตกกระหน่ำทั้งคืน นอนหนาวอยู่บนเปล เหมือนเป็นการบอกอารายบางอย่าง ในการตัดสินใจของเรา...ว่าเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย




ขอบคุณ BG สวยๆ จาก ป้ามด


Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2552 13:23:14 น. 12 comments
Counter : 1926 Pageviews.

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาบอกว่าช่วยไปรับแทคมาทำต่อจากตะไคร้หอมด้วยนะจ้ะ

ไปอ่านได้ที่บล็อคเลยจ้ะ แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ


โดย: ตะไคร้หอม วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:59:31 น.  

 
ป้าตาเป้าขาดยังจะปีนต้นไม้อีกไม่สงสารคนข้างล่างเลยอ่า ไข่แมงมุมแปลกๆนั่น ผมเดาว่าแมงมุมหลังหนามอ่ะ ผมกลัวป่าดึกดำบรรพ์เมืองใต้ที่สุดเลย มันอึมคลึมน่ากลัว ฮิๆ กลัวผีป่า


โดย: endless man วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:08:02 น.  

 
กลัวทากด้วย


โดย: endless man วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:09:06 น.  

 
ลุยมากๆ เลยค่า แต่ขอแค่ส่งใจไปเที่ยวด้วยละกัน


โดย: photch วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:55:54 น.  

 
แวะมาอ่านทุกตัวอักษร..เพราะเคยไปเมืองอคนแค่"น้ำตกพรหมโลก"เอง
เป็นการเดินป่าที่สนุกสนานตื่นเต้น
ได้บรรยากาศมากๆ..มีตกใจเล็กน้อยกับอากาณแพ้ของเพื่อนร่วมทาง..ชีวิตได้สัมผัสรสชาติจริงๆ
หวังว่าป่านนี้เธอคงมีห้าตาสวยงามดังเดิมแล้ว
ขอบคุณที่..นำมาฝากกันค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:58:45 น.  

 
ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ
จะให้เดินป่าขาลากแบบนี้คงไม่ไหวแล้ว
สังขารไม่ให้เหมือนสมัยยังสาวๆ


โดย: Yolanrita วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:01:43 น.  

 


พี่ป้าตา..สุดยอดค่ะ

ข้าน้อยขอคารวะ ทั้งแบกของ ทั้งเดินด้วยความลำบาก

แถมยังต้องลากสายมงคลด้วยอีก...นับถือค่ะพี่

กิ๊ฟท์แค่เคยเดินเช้าถึงค่ำก็เหนื่อยแล้วอ่ะค่ะ



โดย: merecat วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:25:40 น.  

 
Comment Hi5 Glitter


โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:04:09 น.  

 



ลำบากลำบนดีแท้ๆ...


โดย: นายรถซุง วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:31:53 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


สวัสดีจ้าพี่ตา รูปแรก artistic ดีแท้ ชอบจัง

ทริปนี้พี่ตาก็สมบุกสมบันอีกตามเคย พิมล่ะอายเลย พี่แจ๋วจริงๆ

แอบเห็นบอกคุณยุ้ยเรื่องล่องน้ำสะแกกรัง พิมเคยล่องตั้งแต่ 7 ขวบเลยล่ะจ้ะ และก็ต้องเอารถลงโป๊ะข้ามฝั่ง ข้ามไปข้ามมาบ่อยมากๆ น้ำเป็นสีเขียวมรกตเลยเชียว
เมื่อก่อนเค้าจะเล่าลือกันว่า มีจระเข้ตัวใหญ่มากอยู่ในถ้ำใต้น้ำ พิมก็เลยแอบกลัวไปนานเหมือนกัน

อย่าลืมหม่ำข้าวทั้งเที่ยงทั้งมื้อเย็นนะจ๊ะ

ป.ล. น่าแปลกที่หยุดสามวันนี้ พิมไม่มีแพลนไปไหนค่ะ เบื่อคนเยอะๆๆ ไปวัดดีกว่า


โดย: ม่านฟ้านาคราช วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:09:43 น.  

 
เดี๋ยวจะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่ว่า น้องตาขาลุย
นับถือๆ ไปแต่ละที่ ลุยๆ มันๆ ดีค่ะ
พี่ไม่เคยลุยป่าแบบนี้เลย...หลังจากที่เด็กๆ เคยตกเขาลงมา
เรียกตกเขาหรือเปล่าหนอ กลิ้งลงมาทางลาดๆ ของเขาค่ะ
เลยกลัวๆ ฝังใจไปหมดกับป่ารก...

แต่น้องตาขาลุย...เก่งจังเลย..ยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้วเลย..อิอิ

บล็อคใหม่คืนนี้จะอัพหล่ะจ้า...เฮ้อปาดเหงื่อ
บล็อคมาราธอนจริงๆ


โดย: Jiji&Kaka วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:25:17 น.  

 
ขาลุยจริง ๆ เดี๋ยวนี้เที่ยวชอบสบาย ๆ หน่อยค่ะ

ทานมื้อเย็นหรือยังคะ


โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:52:54 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เหนือฟ้า พาไป
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 12 คน [?]




เมื่อเธอยังอยู่... ทำไมไม่พูดคำว่ารัก
แต่เมื่อเธอจากไป... ทำไมอยากพูดคำว่ารัก
ทุกทุกวัน ทุกทุกชั่วโมง ทุกทุกนาที ทุกทุกวินาที
ณ เวลานี้ ฉันทำได้เพียงพาเธอไปกับฉันทุกทุกที่
เพราะฉันต้องการอยู่กับเธอ... ตลอดเวลา
...ณ ที่เหนือฟ้า ฉันจะพาเธอไปด้วยกัน...

Color Codes ป้ามด



Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
4 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เหนือฟ้า พาไป's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.