พาชิม อาหารทะเล ที่ร้านวิเชียรโภชนา เขาสามมุข จ้ะ
เส้นทางโคจร :
ออกจากบางแสน ไปยังแหลมแท่น เลยไปอีกหน่อยก็จะถึงเขาสามมุข จ้า

แต่ไม่ต้องขึ้นไปบนเขานะคะ เลียบๆมาตามริมเขา ก็พอ



มาถึงก็ค่ำซะแล้ว ^^'
ร้านอยู่ตรงข้ามศาลเจ้าแม่สามมุขจ้ะ



นี่ค่ะ ป้ายร้าน


หน้าร้าน


ในร้าน ...เพื่อนร่วมโต๊ะ นั่งรออยู่ก่อนแล้วค่ะ


มองไปนอกร้านด้านนึง จะเห็นเรือประมงอยู่ไกลลิบๆ หลายลำ


มองไปอีกด้าน พระอาทิตย์กำลังลับฟ้าค่ะ สวยๆ


ม่ะ..สั่งอาหารกันเต๊อะ


นี่ก่อนเลย น้ำอัดลมเย็นเจี๊ยบ ชื่นจาย


น้ำจิ้มลิ้ม ^^'


จานแรกมาแล้วค่ะ "เนื้อปูผัดผงกะหรี่"


ต้มยำกุ้งน้ำใส เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด


ตักแบ่งใส่ถ้วยจ้ะ


ข้าวค่ะข้าว รีบๆยกมาเรยค่ะ
"ข้าวผัดปูจานใหญ่" จ้า


ปลากระพงทอดน้ำปลา มุมซ้าย


ปลาตัวเดิม แต่มุมขวา


ปูม้านึ่งค่ะ ในเมนูบอกว่าราคาตามน้ำหนัก
ก็เลยกำชับกับพนักงานในร้านไปว่า อย่าหนักมากนะ ^^''


หมึกแดดเดียวทอด จ้ะ


กินกันสามคน ก็ยังวู่วาม สั่งซะเต็มโต๊ะ ^^''


หนึ่งชั่วโมงผ่านไป กับข้าวกับปลา ยังไม่พร่องไปเท่าไหร่



ถึงเวลาจ่ายจ้ะ ทั้งหมดก็ 1,355 บาท
แอบตกใจในราคาปูเล็กน้อย กิโลละ 450 แน่ะ

ก่อนออกจากร้าน ก็แวะถ่ายภาพปลากระพง สดๆเป็นๆ (ตามสโลแกนที่อยู่ตรงป้ายร้าน)

ดูเหมือนปลาทุกตัวเกาะกลุ่มรวมตัวกันไว้
ขืนฉายเดี่ยวเดี๋ยวโดนตักไปกินง่ายดาย ^^'



ส่วนอ่างนี้ ก็ปลาเก๋า สดๆเป็นๆ เช่นกันจ้า


จบแล้วค่ะ มื้อเย็นที่แสนจะอิ่มหนำสำราญ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมจ้า



Create Date : 10 มิถุนายน 2550
Last Update : 10 มิถุนายน 2550 2:23:09 น.
Counter : 3304 Pageviews.

14 comments
  
อะโห แพงเหมือนกันนะคับเนี่ย
อาหารก็เป็นอาหารทะเลธรรมดาไม่น่าแพงขนาดนนี้
เอ..หรือว่า..เค้าบวกค่าชื่ชมบรรยากาศด้วยคับ?
โดย: เก่งกว่าผมตายไปหมดแล้ว วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:15:48:34 น.
  
บรรยากาศดีมากค่ะ
อาหารก็ท่าทางจะอร่อย
ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ
โดย: ฝากเธอ วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:19:26:00 น.
  
ร้านนี้ ร้านโปรด ผม เลยอ่ะครับอยากกลับไป ชิม อีกครั้งอ่ะ
โดย: แมท (everything on ) วันที่: 10 มิถุนายน 2550 เวลา:22:01:11 น.
  
โอย ... หน้ามืด ตาลาย คล้ายๆจะเป็นลม

เห็นแล้วหิวววววว ... ท้องร้องจ๊อกๆๆๆ

ทุกเมนูนี่ของโปรดผมทั้งนั้นเลยครับผม
โดย: esprit_pawin วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:20:27:38 น.
  
ร้านนี้อย่าไปกินตอนน้ำทะเลขึ้นนะ รับรองเปียกเหมือนเล่นสงกรานเลยแต่เค้าก้อมีผ้าใบกันให้ อาหารที่อร่อยก้อ มีพวก กั้งนึ่ง พวกหอย ไข่ตุ๋นซีฟู้ดก้ออร่อยนะส่วนเรื่องราคาก้อ ขึ้นอยู่กับอาหาร

จบข่าว
โดย: เด็กดื้อ IP: 124.120.99.125 วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:12:08:57 น.
  
ขอรูป กรรเชียงปูอ่ะครับ
โดย: แมท (everything on ) วันที่: 16 มิถุนายน 2550 เวลา:10:00:50 น.
  
โดย: " นั่งดูจัง " (Mr.Swat_D ) วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:10:24:17 น.
  
" เข้ามานั่งดูแล้วน่ะครับ "




โดย: " นั่งดูจัง " (Mr.Swat_D ) วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:10:27:13 น.
  
อิอิ ผมก็พึ่งไปแถวนั้นมา
โดย: I.Brother วันที่: 17 มิถุนายน 2550 เวลา:11:28:50 น.
  
ก๊อก ก๊อก ก๊อก

มาแอบกระซิบถามว่ายังพอจะมีปลากะพงทอดน้ำปลาเหลืออยู่ไหมครับ

จะขอแบ่งสักคำประทังหิว เพราะตอนนี้หิวอย่างแรงเลยครับ




ปล. มาเชิญไปฟังเพลงสากล (เก่าๆหน่อย) อ่ะครับ
คือจะเชิญไปลงนามเป็นเกียรติเป็นศรีอะครับ

ขอบคุณมากๆครับ
โดย: esprit_pawin วันที่: 18 มิถุนายน 2550 เวลา:11:43:26 น.
  
เง้อ ... ไม่ยอมอัพบล็อกอีกแล้ว

กะมาฝากท้องที่นี่นะครับเนี่ย

จะทำไงดีเนี่ย ท้องก็ร้องด้วยความหิว

ไม่รู้แหละ ครั้งหน้าต้องอัพบล็อกด้วยนะครับผม

คิดถึงคุณเซียวลี้ฯ กะอาหารหน้าตาน่าอร่อยมากๆนะครับ




ปล. ถ้าว่างขอเชิญไปเหงา เศร้า และคิดถึงที่บล็อกผมนะครับ
โดย: esprit_pawin วันที่: 19 มิถุนายน 2550 เวลา:22:45:41 น.
  
น่าอร่อยนะ
โดย: may IP: 58.147.58.168 วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:17:49:43 น.
  
วันก่อนก็ไปกินแต่ไปกินร้านริมทะเลซีฟู๊ดร้านเดียวกับร้านวิเชียรอร่อยทุกอย่างจริง ๆ วันนั้นกินปูม้านี้งสดมากๆ น้ำพริกไขปู ยำตะไคร้กุ้ง ปลากระพงทอดน้ำปลา กุ้งผัดกระเทียมโทน ทอดมันกุ้ง น้ำจิ้มซีฟู๊ดอร่อยมาก ไปแล้วไม่ผิดหวังค่ะ เพราะอร่อยทุกอย่าง อยากให้เพื่อนลองมาชิมแถมบรรยากาศดีมาก ขอเน้น
โดย: ชอบของอร่อย IP: 125.27.5.155 วันที่: 19 สิงหาคม 2552 เวลา:19:30:24 น.
  
แนะนำร้านอาหาร พัทยา ชื่อ ร้านอาหาร ป.มีชีวิต (นามสมมุติ)
ชายหาด จอมเทียน

มีคนแนะนำมา ว่าเป็นร้านอาหารชื่อดัง ของหาดจอมเทียน ไหนๆก็มาพัทยาแล้ว เลยขอแวะ ก่อนกลับสักหน่อย

สั่งอาหารไปมากมาย อาหารจานแรกก็ถูกยกมาเสริฟ เมนู พนักงานเสริฟแนะนำ เมี่ยงปลา เป็นอาหารขึ้นชื่อ ของร้าน เขียนในเมนูด้วยว่า อาหารคนรักสุขภาพ

แต่กินไปสามสี่คำ กลายเป็นเมี่ยงแมลงวัน เพราะ แมลงวันเยอะมากๆ ต้องคอยใช้มือโบกไล่แมลงวันตลอดเวลา ถามพนักงาน ว่าทำไมแมลงวันเยอะขนาดนี้ เค้าบอกว่า “นี่เป็นหน้าแมลงวัน นะคะ ให้ทำใจ”

ทำใจ กินไปมือปัดเป็นพัลวัน ปัดไปได้สักพัก อาหารที่สั่งทยอยมาวาง กองทัพแมลงวันก็เริ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว เริ่มรู้สึกว่ามือเดียวปัดไม่พอ ปัดทางซ้าย ทางขวาก็มา ปัดไม่ทัน สู้กับมันไม่ไหว ปัดกันจนเหนื่อย ก็ไร้ประโยชน์

ต้องใช้ใบผักกาดขาวที่ให้มาเป็นกาบๆมาโบกไล่ พอหยุดปัด จะหันมากินบ้าง แมลงวันก็พร้อมใจกัน เข้าไปตอม ในอาหารอยู่ดี นึกถึงหนอนแมลงวัน เลยต้องปลง รับประทานไม่ลง เดินไปคุยกับเจ้าของร้าน ว่าเรากินไม่ได้เลยแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆ

เจ้าของร้านบอกว่า “คุณต้องทำใจ คนไทยกับแมลงวันเป็นของคู่กันไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้ ”???? ตกใจมากที่ได้ยินคำตอบแบบนี้

แล้วร้านเรามันเป็นแบบ open นะถ้าไม่อยากให้มีเลย คุณต้องไปกินในห้าง

(ประเด็น คือ มันเยอะเกินเหตุ ค่ะ )

“คุณดู ทำไมโต๊ะอื่นเค้ายังกินกันได้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย ผมเปิดร้านมา สามสิบกว่าปีแล้ว”

เออจริง ด้วย … เราเริ่มสงสัย ว่าเราผิดปกติหรือป่าว

หันไป มองโต๊ะอื่นเขา กินกันอย่างเอร็ดอร่อย เอ๊ะ! ทำไมมันบุกมา
ตอมแต่โต๊ะเรา เราลอง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ

พระเจ้าช่วย !!! เห็นชัดๆว่า เค้านั่งกินกัน ท่ามกลางหมู่แมลงวันที่ตอมอาหาร เราลืมตัว เอามือไปโบกที่อาหารเค้า ฝูงแมลงวันก็บินฮือ ออกมาจากอาหารที่เค้ากำลังกินกันอยู่

บางตัวก็ ไต่ตอมอยู่ที่ปากหลอดดูดน้ำ บางกลุ่มก็ไต่ตอม อาหารในจานของโต๊ะนั้น เห็นเขานั่งกินไปปัดไป

ตกลงนี่ เราบ้า หรือ พวกเขา เมา กันแน่ เนี่ย

คงเป็นเพราะตอนนั้นมีกันอยู่แค่ สอง สาม โต๊ะ แมลงวันเลยรุมกันเป็นพิเศษ ถ้าเราโชคดี มาในวันที่มี ลูกค้าหลายๆโต๊ะ คงจะช่วยแชร์ๆ แมลงวัน กันไป คนละ สิบ ยี่สิบตัว

แต่ที่แน่ๆ เราไม่กล้ากินอาหารที่มีแมลงวันตอมมากมายขนาดนั้น ถ้าคุณ คิดว่าสี่ห้าตัว คุณกำลังคิดผิด เพราะมันมีเป็นร้อย แล้วในครัวจะขนาดไหนเนี่ย
เจ้าของร้านบอกว่า
“คุณช่วยบอกวิธีกำจัดแมลงวันให้ผมหน่อย ถ้าตอบได้ ผมให้แสนนึง”
แหม อย่างกับเล่นเกมโชว์….

เราตอบได้โดยไม่ต้องขอใช้ตัวช่วย ว่า คุณต้องรักษาความสะอาด ให้มากที่สุด ปิดถังขยะให้มิดชิด พยามกำจัดทุกวิถีทาง ให้มันเหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ มันอาละวาด จนน่าเกลียด แบบนี้

เค้ากลับไม่ฟังและบอกว่า “ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้มันต้องมี มันมาของมันเอง ผม ห้ามไม่ได้ ไม่ได้สั่งให้มันมาตอมอาหารคุณ มันมาเอง มันเป็นธรรมชาติ เหมือนคุณห้ามไม่ให้เมืองไทยมียุงคุณทำได้ไหม”

เราบอก นี่มันอาหารนะ ลูกค้าต้องอดทนเหรอ เค้าบอกว่า “คุณเข้าใจมั้ยผมไม่ได้แกล้ง” (ตอบไม่ตรงคำถามเลย แล้วที่สำคัญเราแกล้งคุณเหรอ ที่กินไม่ได้) “ผมไม่สามารถ สั่งห้ามแมลงวันไม่ให้มาตอมอาหารคุณได้”

(แต่เราก็ไม่สามารถกินอาหารที่มีแมลงวันตอมได้เหมือนกัน คุณครูสอนมาตั้งแต่อนุบาล) เจ้าของร้านบอกว่า “คุณจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณลองบอกผมสิ” เราพูดว่า ถ้างั้นคุณบอกลูกค้าสิว่าแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆนะครับ รับกันได้มั้ย

( แต่จริงๆในใจเราอยากพูดว่า ให้ ติดป้าย บอกลูกค้าไปเลย
ว่า ร้านนี้แมลงวันเยอะมากๆ อยู่คู่กับครัวเรามานาน
บอกก่อนเข้าร้าน ลูกค้าจะได้ทำใจล่วงหน้า หรือ เตรียมตัวรับมือกับแมลงวันร้านคุณ
เช่น หัดกินข้าวเคล้ากับแมลงวัน มาล่วงหน้า ให้ชิน หรือเตรียม ซื้อมุ้งมาคลุมโต๊ะ ซื้อไม้เทนนิส ช๊อตแมลงวัน อะไร ก็ว่าไป)

เจ้าของร้านบอกว่า “ แล้วถ้าคุณเป็นผมหล่ะ คุณจะบอกลูกค้ามั้ย”

(เราได้แต่เถียงในใจว่า…อ้าว แล้วนี่คุณหลอกให้เราสั่งอาหารมากมาย แนะนำ ให้เราสั่งอาหารมาหลายเมนู วางเต็มโต๊ะให้แมลงวันร้านคุณ มารุมแย่งกิน หรอเนี่ย เวรกรรม)

เราเชื่อว่าถ้าคุณบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ แมลงวันจะต้องน้อยลง จนเราพอกินอาหารได้บ้าง อย่างแน่นอน เราลองหา ในgoogle มีวิธีกำจัดแมลงวันมากมาย ถ้าคุณพยายามมันต้องลดลงบ้าง เพราะเท่าที่เคยทานร้านอาหารทะเลมาก็ยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้

แต่นี่ดูเหมือนคุณชินและทำใจรับสภาพ ว่าแมลงวันมันคู่กันกับอาหารทะเล ทั้งๆที่ความสะอาด สำคัญกว่ารสชาติของอาหาร คุณกลับไม่ยอมให้ความสำคัญ ไม่ยอมจัดการอะไรเลย

ลูกค้าต้องทนรับสภาพอย่างเดียว ถ้าคุณทำใจให้เป็นธรรม เห็นใจลูกค้าบ้าง คุณจะเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อคืออะไร

เจ้าของร้านบอก “คุณโกรธอะไรมาใช่ไหม แล้วมาลงที่ผมใช่ไหม”

จะบ้าตายนี่เราหยุดงาน มาเที่ยวพักร้อน เพิ่งตื่นนอนมาหาไรกิน อารมณ์ดีๆอยู่แท้ๆ เพิ่งจะมาอารมณ์บูดกัน ตอนรัวมือปัดแมลงวันจน จะเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ที่ร้านคุณ เนี่ยล่ะ

แสดงว่าคุณเจ้าของร้านไม่ได้ รู้สึกเลยสินะว่ามันสกปรกมาก กลายเป็นเราที่เป็นคนแปลก ประหลาด ในสายตาคุณ

สุดท้ายเราทนเถียงกับคนแบบนี้ไม่ไหว ต้องยอมจ่ายเงินทั้งๆที่ไม่ได้กินอาหารเลย เจ้าของร้านดูบิลแล้วบอกว่า “เงินแค่นี้คุณมีปัญหาทำไม” พร้อมเอามือชี้ที่หัว พลางพูดว่า “คิดให้ดีก่อนมีปัญหานะ คิดให้ดีๆ” …..

อืม..ก็นั่นน่ะสิ เงินแค่นี้ จะมีปัญหาทำไม แต่เราคิดว่าคำพูดนี้น่าจะเป็นคำพูดของเรา ที่ใช้พูดกับคุณมากกว่า อีกอย่าง เงินไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะบ้านเราไม่ได้ยากจน เรามีงานทำ เราหยุดงานมาเที่ยว มีเงินมาจ่าย เราไม่ใช่คนเร่ร่อน มา หลอกกินอาหารฟรี ( เราเพิ่งกิน เมี่ยงปลา อาหารจานแรก ไป สองสามคำเองด้วยซ้ำ หลังจากนั้น ก็ ปัดแมลงวัน จนไม่ได้กินอีกเลย)
และ เราก็ไม่ได้อยากหาเรื่องขอส่วนลดใดๆทั้งสิ้น

แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่างหากที่ถูกคุณเอาเปรียบกันแบบนี้ เจ้าของร้านบอกว่า “คุณเข้าใจมั้ยของผมทำออกมาแล้ว ผมลงทุนไปแล้ว” เราพยักหน้าบอก ค่ะเราเข้าใจ
เจ้าของร้าน กลับพูดว่า
“คุณไม่เข้าใจหรอก คุณคิดถึงแต่ตัวเอง” ( อ้าว แล้วทีคุณหล่ะจะให้เรากินอาหารที่มีแมลงวันบ้าเลือด ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารแข่งกับเราหล่ะ ถ้าเราท้องเสีย ท้องร่วง เข้า โรงพยาบาล หล่ะ ใครๆก็รู้เข้า นอนโรงพยาบาล ที ไม่ต่ำกว่าหมื่น )

คุณก็ไม่เข้าใจเราเหมือนกัน เพราะคุณคิดถึงแต่ตัวเอง รู้แต่ว่าของคุณทำออกมาแล้ว เป็นตายยังไง ลูกค้าไม่พอใจ ยังไง คุณก็ไม่แคร์ ไม่สนใจความรู้สึกของลูกค้า เพราะ คุณคิดแค่ว่า จะไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด แม้เรื่องเล็กน้อย

ถ้าเป็นเมืองนอก ร้านคุณโดนสั่งปิดแน่

แต่จนใจ นี่เป็นประเทศไทย Thailand only T_T


อยากถามว่า ถ้าคุณซื้อแอร์มาใช้ที่บ้าน เกิดมันไม่เย็นขึ้นมา พอคุณถามคนขาย คนขายบอกว่า คุณต้องทำใจ เมืองไทยมันเป็นเมืองร้อน เปิดไปก็ไม่เย็นหรอก ผมไม่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิโลกได้ คุณจะรู้สึกยังไง คุณจะถามเค้ามั้ย ก็ในเมื่อคุณรู้ว่าแอร์เปิดแล้วมันไม่เย็น แล้วทำไมไม่บอกกันก่อน เราเสียเงินซื้อไปแล้วก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ คุณจะมาแนะนำ จะหลอกขายมาทำไม ให้เสียความรู้สึกกัน ให้บาดหมางกัน เปล่าๆ

อาหารที่ทำออกมาแล้ว มีแมลงวันมาตอมอาหารมากมาย จนลูกค้ากินไม่ได้ก็ไม่ต่างกัน

เข้าใจว่าคุณลงทุนทำอาหารออกมาแล้ว แต่แมลงวันร้านคุณมันตอม จนสกปรกไปหมด กินก็กินไม่ได้ คุณยังจะกล้าขายให้เราอีกหรอ ทางร้านอ้างว่าเป็นความผิดเรา ที่เราเข้ามาสั่งอาหารเอง ถ้าเราไม่สั่งเขาก็ไม่ทำออกมาวาง และแมลงวันก็จะไม่มาตอม อาหารเรา

สรุป คือ เรา อยากมาสั่งเอง ทำมาวางให้แล้ว กินกันไม่ได้เอง ก็ช่วยไม่ได้

เฮอะ!!…. ป่วยการจะเถียงกับคนแบบนี้

ถ้าเจ้าของร้าน อยากจะขายอาหาร อย่างเดียว คิดว่าสภาพแวดล้อมบรรยากาศ ความสะอาด ในระหว่างการทานอาหารในร้าน ไม่สำคัญ หรือ ไม่มีปัญญาจัดการกับแมลงวัน พาหะนำโรค แล้วล่ะก็ อย่าเปิดร้าน ให้คนนั่งทานจะดีกว่า ควรจะให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไม่ใช่ปล่อยให้นั่งกินท่ามกลางฝูงแมลงวันแบบนั้น น่าจะมีจรรยาบรรณ สงสารสุขภาพลูกค้าบ้าง

ตอนแรกเราโกรธจนไม่อยากจ่ายเงินอยากแจ้งความมากกว่า แต่ คิดดูอีกทีคุณคงจะขาดทุนมากมาย อย่างที่คุณว่า เลยยอมจ่ายเงินไป อาหารเรา ก็ต้องทิ้งไปทั้งหมดแบบนั้น เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร หรือ ห่อกลับไปฝากใครได้ แมลงวันมันรุมตอมอย่างบ้าคลั่ง ขนาดตัวเรา ยังไม่กล้ากิน

ก่อนกลับเราถ่ายรูปป้ายร้าน เจ้าของร้านมีการขู่เรา ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปโพสลง Internet เขาจะฟ้องเราแน่ ( เขาจบทนาย มา -_-!)

เราเลยย้อนไปว่า

ไหน คุณ บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไง?!?

คุณเจ้าของร้าน คุณบอกเราเอง ว่า ร้านคุณต้องมีแมลงวัน และ เป็นธรรมดาที่ลูกค้าต้องทนนั่งกินอาหารท่ามกลางฝูงแมลงวัน แมลงวันกับคนไทยเป็นของคู่กัน แล้วคุณจะกลัวอะไร คุณ บอก ว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรอ จะกลัวความจริงไปทำไม ในเมื่อคุณคิดว่า เรางี่เง่าเองที่กินข้าวท่ามกลางแมลงวันตอมเหมือนโต๊ะอื่นเขาไม่ได้

ถ้าคุณ คิดว่า ไม่ใช่ความผิดของร้านคุณ ถึงเราโพสไปคนอื่นก็ต้องเข้าใจร้านคุณ ถูกไหมคะ

จะมากลัว มาห้ามไม่ให้เราโพส ทำไม

( หรือ ที่ห้ามเรา ไม่ให้โพส แปลว่า ลึกๆแล้ว ในใจคุณเจ้าของร้าน คุณรู้ดี ว่าอะไรถูก อะไร ผิด ใช่ไหม )

เฮ้อ…คนเรา พูดมาแต่ละอย่าง เห็นแก่ตัว จนเราล่ะอึ้งจริงๆ

เข็ดจนตายจริงๆ เสียความรู้สึก มากๆ ต่อไปนี้ ก่อนไปทานอาหาร คงต้องระวังอย่างมาก หาข้อมูลให้ดีๆ ว่าร้านสะอาดไหม ใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าแค่ไหน ไม่ใช่ใช้มารยาทแย่ๆ คำพูดแย่ๆ แบบนี้

งานร้านอาหาร เป็นงานบริการ วันหยุดพักผ่อน มาเจอเรื่องแบบนี้ เรารู้สึกแย่กันอยู่แล้ว ยิ่งมาพูดจาไม่ดี ไม่มีมารยาท ไร้เหตุผล ข่มขู่เราอย่างไม่ให้เกียรติ ไม่แคร์ความรู้สึกลูกค้า สนแต่เรื่องเงินทอง เรื่องกำไร ขาดทุน อย่างเดียว เราจึงไม่หลงเหลือ ความรู้สึกที่ดี กับร้าน ป.มีชีวิต และ เจ้าของร้านนี้เลย แม้แต่นิดเดียว ทั้งๆที่คนรู้จักแนะนำมาให้มากินแท้ๆ (เดี๋ยวเราจะกลับไปด่ามัน)

ขอเลือกร้าน ที่สะอาด นิสัยดี เป็นหลัก อร่อยน้อยหน่อย ไม่เป็นไร ดีกว่า จะได้กินแบบสบายใจ ไม่ต้องคอยไล่แมลงวัน

ปล ชื่อร้านอาหารเป็นนามสมมุติ นะคะ กรุณาอย่ามาเดาให้ถูก นะค่ะ เจ้าของร้านเขากลัวคนอื่นรู้ ค่ะ เขาขู่ ไว้ เดี๋ยว ดิฉันจะเดือดร้อน
แต่ดิฉัน อยาก เสี่ยงตาย พลีชีพ มาเตือนพวกคุณ ไว้ก่อนค่ะ ส่วนจะคิดเห็นกันประการใด ก็แล้วแต่ วิจารณญาณ ของแต่ละบุคคลนะคะ

ส่วนคุณเจ้าของร้านคุณต้องรู้ตัวแน่ว่าเป็นคุณ คุณควรใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ปรับปรุง พัฒนาร้าน ให้สะอาดนะคะ แมลงวันจะได้น้อยลง
ไม่ใช่นั่งเอ้อระเหย ไปวันๆ นั่งนิ่งดู แมลงวันบุกร้าน ปล่อยให้ลูกค้า เผชิญกับฝูงแมลงวันนับร้อย ระหว่างนั่งทานอาหาร ภายในร้านของคุณเอง แบบนี้

เผื่อเจอลูกค้า รักสะอาด งี่เง่า กินอาหารที่มีฝูงแมลงวันตอมไม่ได้ แบบเรา คุณจะได้ ไม่ต้อง มีปัญหาอีก


(หรือถ้าหมดปัญญาจริงๆ เราแนะนำ ให้คุณเจ้าของร้าน มายืนปัดแมลงวัน จนกว่าจะลูกค้าจะกินเสร็จ มือเราจะได้ว่าง ทานอาหารได้บ้าง รับรอง คุณจะเข็ด จนไม่ยอมปล่อย ให้ฝูงแมลงวันบุกร้าน อีกเลย^^)


**เราขอสาบาน ว่า เรื่องที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ
ที่นำเรื่องมาเสนอ มีจุดประสงค์ ให้เจ้าของร้าน ได้รับทราบความคิดเห็น ของลูกค้า ทุกท่านที่เข้ามาคอมเม้นท์ต่อ ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้ **

นำเสนอเรื่องจริงโดย คุณ วอนนอนคุก
โดย: วอน นอน คุก IP: 10.0.1.12, 58.9.1.94 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:01:05 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เซี่ยวลี้ปวยตือ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับ และ เชิญนั่งยองๆ ตามสบายค่ะ ^_^@

มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
29
30
 
All Blog