กุมภาพันธ์ 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
 
 
สัมภาษณ์ โน๊ต อุดม แต้
Archive for June 5th, 2006
เรื่องสุข-เศร้า ของ “หนุ่มจมูกโต” โน้ต…อุดม แต้พานิช
“จริงๆ แล้ว ผมทำผิดมหันต์เลยนะ ที่เป็นคอมเมเดี้ยน เป็นทั้งตลก นักแสดง และศิลปิน ในร่างเดียวรุ่นพี่หลายคนบอก ไอ้โน้ต…มึงซวยแล้วล่ะ เพราะชีวิตนี้คนจะเข้าถึงได้ยากมาก ก็คนเราพอมันมีหลายองค์ในคนๆ เดียว ทุกอย่างจะยุ่งเหยิงไปจนวันตาย”

หนุ่มโน้ตพูดเปิดประเด็นอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเฉลยให้ฟังว่าในช่วงที่หายหน้าหายตาไปนั้น แอบไปทำอะไรมา

“ผมก็ไม่ได้หายหน้าหายตาไปไหนนะ หลังจากจบจากเดี่ยวไมโครโฟนครั้งที่ 5 แค่รู้สึกว่า อยากไปลองทำอะไรที่ไม่เคยได้ทำเท่านั้นเอง เล่าให้ฟังก็ได้ว่า ผมไปสอนศิลปะเด็กประถมที่ จ.เชียงใหม่”
แล้วเป็นยังบ้างคะ
“อู้ย…เป็นอะไรที่ปวดกบาลมากๆ ขอบอก…อย่าได้ไปยุ่งเชียวกับเด็ก ป.2 คือไม่ใช่ว่าเด็กไม่น่ารักนะ แต่ผมความอดทนสั้น แต่เด็กประถมเป็นยิ่งกว่า ไม่สามารถบอกให้วาดรูปได้นานๆ เลย แล้วดุไม่ได้ด้วยนะ เด็กๆ บอก…คุง-ครูหน้าตลก อ้าวจบกัน”
สอนเด็ก ป.2 ชั้นเดียวรึเปล่า
“ตอนแรกก็ว่าจะสอนชั้นเดียว แต่ตอนหลังอาจารย์ที่โรงเรียนมาบอกให้ไปช่วยสอนเด็ก ป.6 ด้วยอีกห้อง เพราะเด็กๆ อยากเรียนมาก ความแตกต่างน่ะมีชัวร์ๆ เด็กป.6 ไม่มีปัญหา อาจจะมีวี๊ดว้าย กระตู้ฮู้ แต่พูดรู้เรื่อง”
แล้วสอนอะไรนักเรียนบ้างคะ…คุณครูอุดม
”เด็ก ป.2 นี่ไม่รู้จะสอนยังไง ทั้งที่เตรียมการสอนแบบเป็นการเป็นงานด้วยนะ ยังตลกตัวเองไม่หายที่นั่งทำสื่อการเรียนการสอน แต่พอถึงเวลาสอนจริง เด็กไม่มีสมาธิที่จะนั่งฟังได้นานๆ ไง มีเรื่องตลอดชั่วโมง เดี๋ยวคนนี้แกล้งคนนี้ เดี๋ยวก็ปวดฉี่ ขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำ แล้วเคยเจอมั้ย…อารมณ์ประมาณเพื่อนปวดฉี่ ต้องปวดด้วย ทีหลังเลยต้องยกห้องไปเข้าห้องน้ำทีเดียว ใครปวดไม่ปวดไม่รู้ไปพร้อมกันหมด…ไฟท์บังคับ เพราะครูเบื่อแต่เรื่องวาดรูปไปบังคับเค้าไม่ได้นะ ใครอยากวาดอะไรเลยปล่อยให้วาดไป แต่เราต้องใช้เกมนำล่องนะ ไม่งั้นยุทธวิธีการสอนจะไม่ประสบความสำเร็จ
ส่วนเด็ก ป.6 ค่อยสบายขึ้นมาหน่อย จัดให้เรียนแฟชั่นดีไซน์ ให้เด็กสนุกกับการใช้จินตนาการ กับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้ากับวัสดุที่มีอยู่จำกัด ซึ่งพอถึงเวลาพรีเซ็นต์เด็กๆ จะใส่ความคิดและลีลาโชว์ผลงานกันเต็มที่ทั้ง ดีไซเนอร์และตัวนางแบบ-นายแบบ ใครชนะรางวัลคือ กินขนมจีนกับครูอุดมข้างล่าง”
สอนอยู่นานมั้ยคะ
“ประมาณเดือนกว่าๆ …แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ตอนนั้นผมได้ทำอะไรที่อยากจะทำจริงๆ อยู่เชียงใหม่นอกจากจะสอนเด็กๆ แล้วยังสวมวิญญาณอาร์ตติสสุดๆ”
ติสท์ยังไง…
“ก็หากิจกรรมทำไปตามประสาคนติสท์เข้าสิง เช่าบ้าน สร้างผลงานประติมากรรม อ็อกเหล็กหลายชิ้นวันๆ ไม่ต้องคิดยาวมาก อยากทำอะไรก็ทำ ตอนเย็นเตะฟุตบอลไปเรื่อยเปื่อย”
ท่าทางชีวิตที่เชียงใหม่สุขสันต์น่าดู
“ใช่…มีความสุขมากๆ คนที่นั่นใจดี พูดเพราะ อาหารอร่อย บรรยากาศดี ผมชอบทุกอย่างที่เป็นเชียงใหม่และคิดว่ายังไงบั้นปลายชีวิตก็คงไปตายที่นั่นแน่นอน ตอนนี้กำลังดูทำเลซื้อที่ดินอยู่”
กะจะปลูกบ้านเลยหรือ
”ก็ไม่ขนาดนั้น ผมอาจจะซื้อเป็นทาวน์เฮาส์หลังเล็กๆ ก็ได้ เพราะบ้านที่อยู่ทุกวันนี้ก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร”

แล้วทำไมตัดสินใจบินไปอเมริกาซะล่ะคะ
“ผมตั้งใจไปซ่าก่อนเมนส์หมด…ไม่ใช่ ผมอายุใกล้ 35 แล้ว ถ้าจะทำอะไรที่มันหลุดโลกก็ต้องเป็นช่วงนี้แหละ เริ่มเข้าสู่วัยทองแล้ว คิดได้ดังนั้นก็ลัดฟ้าไปอเมริกาเลย”
ชีวิตที่อเมริกาเป็นอย่างไรบ้าง
“คราวนี้ผมไปนิวยอร์ค หลังจากที่เคยไปเคานต์ดาวน์เละๆ ที่ซานฟรานซิสโกมาแล้วครั้งนึง การเดินทางครั้งนี้เป็นอะไรที่สบายกว่าการไปครั้งแรกเยอะเลย ช่วง 3 เดือนที่โน่น มีคนช่วยเหลือตลอด คงเป็นเพราะเห็นว่าเราเป็นตลกด้วยแหละ คงไม่ไปฆ่ารัดคอใคร แต่ก็เหงานะเพราะคนที่นั่นไม่มีใครเอาใคร ต่างคนต่างอยู่”
แล้ววันๆ ในต่างแดนทำอะไร…
“อยู่กับศิลปะตลอด จนจะอ้วกออกมาเป็นศิลปะแล้ว…เหมือนคนบ้าเลยตอนนั้น เอาแต่ซ้ออุปกรณ์วาดรูป ตื่นเช้ามาก็วาดรูปจนอพาร์ทเม้นท์เละไปหมด ตกบ่ายอุดมไปดูนิทรรศการศิลปะ ไปตามหอศิลป์ต่างๆ ได้ไปเห็นความพิสดารพันลึกของศิลปินแต่ละคน ดูแล้วตื่นตาตื่นใจ ตอนดึกๆ ไปดูหนังอาร์ต ฟังรู้เรื่อง ไม่รู้เรื่อง ขอให้ได้ดู”
จัดการกับความเหงาของตัวเองยังไง
“ก็ไปดูสาวแถวโซโห…ไม่ก็นอนดูทีวีขาว-ดำ ที่ได้รับการเอื้อเฟื้อจากน้องคนไทยใจดี เค้ายกให้ วาดรูปไปก็ฟังละครทีวีฝึกภาษาอังกฤษไปเรื่อย แต่ฟังไม่ค่อยรู้เรื่องหรอก”
คิดว่านิวยอร์กเป็นยังไง
“ผมว่านิวยอร์กไม่น่ากลัวเหมือนที่คิดไว้ตอนแรก เพียงแต่เป็นเมืองที่ไม่มีวัฒนธรรมของตัวเอง ทุกคนพยายามคิดหาอะไรแปลกใหม่ ไม่ซ้ำใครมาแสดงตลอดเวลา ประมาณว่า จอมยุทธ์มุ่งมาประลองฝีมือ มาปล่อยของอะไรเทือกๆ นั้นแหละ”
หลายคนบอกว่าโน้ตรวยแล้ว
“ใช่…นั่นคือ สิ่งที่คนทั่วไปคิด แต่เป็นความคิดที่ผิดมาก ทุกคนคิดว่าจบเดี่ยวไมโครโฟนแล้วผมบินไปเที่ยวพร้อมเงินทอง แต่ไม่มีใครรู้ว่า บ้านผมถูกปล้นมาแล้ว 5 ครั้ง จับโจรไม่ได้สักที แล้วใครจะรู้บ้างว่า ผมถูกโกงเงินจากการทำเดี่ยวฯ ไปเท่าไหร่”
โดนโกงยังไงบ้าง
“มันบอกไม่ได้ตายตัวว่า โกงยังไง จุดไหน เพราะทำเดี่ยวไมโครโฟนแต่ละครั้งผมาถูกโกงด้วยรูปแบบต่างกันไป ครั้งที่หนักที่สุดคือ ถูกผู้จัดการส่วนตัวเชิดเงินไปเกลี้ยงบัญชีเลย ด้วยความที่เราเป็นคนไว้ใจคนก็ให้เค้าจัดการเรื่องเงินๆ ตอนเราบินไปอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน โอ้โห…กลับมาคราวนั้นลมแทบใส่ เงินสูญไปหมด”
ดูเหมือนโชคร้ายบนความโชคดี
“พระท่านเคยดูทางใน แล้วบอกว่า ชาติก่อนผมไปทำคนอื่นไว้เยอะ กรรมมันหนาต้องค่อยๆ ใช้กันไปใครที่ไม่เคยถูกโกง หรือถูกขโมยปล้นบ้านติดกันหลายครั้ง ไม่มีวันรู้หัวอกผมหรอกครับ”
เปลี่ยนเรื่องมาคุยงานเดี่ยวครั้งใหม่ดีกว่า
“อยากทำอะไรที่มันพิเศษนะ แต่ความพิเศษของผมคือ ความธรรมดาสุดๆ ทำเรื่องธรรมดายากกว่าทำเรื่องพิเศษอีกนะ ขอยืนยัน”
ทำไมถึงชื่อ “ตูดหมึก”
“คิดว่าเป็นคำที่เก๋ดี ตูดหมึกเป็นคำไทยที่ไม่มีคำแปล แต่แปลกที่มันให้ความรู้สึกว่า ไม่เอาไหน แต่คนพูดเอ็นดู ให้อภัยอะไรสักอย่าง เลยเอามาใช้ซะ”
ข่าวว่าจบงานครั้งนี้จะหยุดยาว
“ช่ายแล้ว…จะหายหน้าไป 5 ปีเลย รับรองไม่กลืนคำพูดแน่นอน มาเจอกันอีกทีตอนผมอายุ 40 กว่า ส่วนเหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก อยากหายไปลองทำอะไรที่ไม่เคยทำ อยากเจอประสบการณ์ด้านใหม่ๆ บ้าง”
ถามเรื่องส่วนตัวได้มั้ย
“ขอไม่พูดพาดพิงถึงคุณป็อป-อารียา สิริโสภา และคุณเข็ม-กฤตธีรา อินพรวิจิตร นะครับ เดี๋ยวครอบครัวเค้าจะไม่พอใจไปกันใหญ่ มีข่าวออกมามากๆ คุณแม่ของป็อปเค้าตึงๆ ใส่ผมเลยนะ เพราะคุณแม่เค้าเป็นครู แต่คุณแม่ของเข็ม จะสบายๆ กว่า เพราะจบศิลปากร จะสนุกสนานอารมณ์ดี”
แล้วตกลงความรักเป็นอย่างไรบ้าง
“ก็ยังโสดสนิทครับ…ไม่มีแฟน ใครจะอยากมาคบคนโรคจิตอย่างผมล่ะ โอ.เค…ผู้หญิงคิดว่าผมสนุกอารมณ์ดี เหมือนมองเห็นพระจันทร์สวย ดูแล้วสบายตา แต่จริงๆ พระจันทร์มันมีหลุม มีบ่อ มันไม่มีอากาศให้หายใจ ซึ่งตัวผมเป็นแบบนั้น อยู่กับแฟนผมก็ไม่ขำ ไม่รู้ทำไม มีข้อจำกัดบ้าๆ บอๆ ผู้หญิงจะเอือมระอาไปเอง”
พยายามประคับประคองสัมพันธภาพรึเปล่า
“ความเห็นแก่ตัวมันเป็นสันดานไปแล้วครับ ผมเป็นคนสม่ำเสมอ ไม่เอาใจ ไม่รับ-ไม่ส่งใครเกิน 10 กิโลเมตร แต่จะพยายามปรับเป็น 20 กิโลเมตร และข้ามจังหวัดได้ในไม่ช้า
ยอมรับว่าเป็นคนผิดเอง ทำให้เขาเสียใจ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เพราะผมเป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง ยากต่อการมีแฟน แต่สัญญาว่าจะทำตัวให้ดีขึ้นครับ เสียใจที่ทำตัวไม่ดี ผมไม่อยากเป็นคนแบบนี้หรอก แต่ผมไม่สูบบุหรี่ ไม่บ้าแฟชั่น ไม่ติดการพนัน เหล้ากินน้อยมาก ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จะเอาอะไรกับผมอีก”
ชีวิตนี้จะแต่งงานมั้ยเนี่ย
“โอ้ย…ผมเป็นโรคกลัวการแต่งงานขึ้นสมอง ชาตินี้คงไม่ได้แต่งงานแน่นอน และความคิดเรื่องนี้ไม่มีอยู่ในสมองของผมเลยด้วยซ้ำ ผมยังอยากแรดไปไหน มาไหนอยู่ รักอิสระสุดๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะมาทนอยู่ด้วยได้หรอก”
มีชื่อเสียง และแฟนสวยจนถูกหมั่นไส้
“อันนี้เป็นสัจธรรมครับ…มีคนรักก็มีคนเกลียด รู้สึกแย่นะเวลามีคนด่า ผมก็ยังเป็นคนทั่วๆ ไป มีความรู้สึก มีจิตใจ แต่ก็ต้องปล่อยๆ ไปบ้าง ขืนถูกชมอย่างเดียวคงเหลิงแย่”
ข่าวแรงสุดๆ ที่เคยเจอมา
“จากอินเทอร์เนต…ต้องข่าวนี้เลย บอกว่าผมไปซื้อเนื้อหมูมาสำเร็จความใคร่ โอ้โห…คิดได้ไงใช้เนื้อหมู…มันตายเลย ขอแก้ข่าวครับ…ผมใช้แตงโม
แล้วก็มีข่าวว่า ผมไปลูบขา อุ้ม-สิริยากร ในงานๆ นึง ซึ่งคนใกล้ตัวอย่าง พี่โหน่ง-วงศ์ทนง (บ.ก.แฮมเบอร์เกอร์) เป็นเดือดเป็นร้อนแทน เพราะงานนั้นเขาก็นั่งอยู่กับผม แล้วถาผมไปลวนลามอุ้มแบบนั้นจริงป่านนี้อุ้มเค้าคงไม่ทักทายผมแล้วล่ะ แต่นี่ก็ยังเป็นปกติสุขดีอยู่ เอาเป็นว่า…ถ้าเป็นปราบดา หยุ่น ผมลูบแน่นอน”
คำถามปราบเซียน…โน้ตเจ้าชู้มั้ย
“คำถามนี้ผมตอบไม่ได้ครับ…ต้องไปถามทนาย ผู้ชายตอบคำถามนี้อันตรายมาก ตอบเจ้าชู้ภาพที่ติดลบอยู่แล้วยิ่งแย่ แต่ถ้าตอบว่าไม่ ก็ไม่มีใครเชื่ออีก”
สรุปแล้วกับสองสาว ป๊อป-เข็ม เป็นอย่างไร
“ก็คบกันเป็นเพื่อนที่ดีนั่นแหละครับ เอาเป็นว่าการเป็นเพื่อนไม่มีวันเลิกรา เหมือนการเป็นแฟน เราเลยตกลงเซ็นสัญญาเป็นเพื่อนกันตลอดชีวิตไปเรียบร้อย”
นี่คือบทสัมภาษณ์ชีวิตของผู้ชายจมูกโต ซึ่งมีทั้งเรื่องสุข เศร้า เคล้าน้ำตา เบื้องหลังฉากที่หลายคนไม่มีวันได้รู้ถึงตัวตนของตลกคนนี้อย่างลึกซึ่ง!! ที่มา :: นิตยสาร ผู้หญิงไทย
ฉบับที่ 670 ปีที่ 28 ปักษ์แรก เดือนกันยายน พ.ศ. 2546
จาก //www.udomteam.com/?m=20060605


เหตุผลที่เลือก/ความคิดที่เลือกเหตุผลนั้นๆ
‘ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะเลือกบทสัมภาษณ์ของ โน้ต อุดม หรอก คิดว่าจะเลือกบทสัมภาษณ์ของ พี่โหน่ง วงศ์ทนงเพราะเค้าเคยมาworkshop ให้ที่ม.บูรพาตอนผมอยู่ปี2 ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเค้าน่าสนใจมาก ทางด้านความคิด การใช้ชีวิต อดีตและปัจจุบันของตัวพี่โหน่งล้วนแต่น่าค้นหา แต่พอดีsearch หาในwww.google.com ไปเจอ บทสัมภาษณ์ของ โน้ต อุดม แล้วพอได้อ่านดู ชีวิตของเลือดเนื้อเชื้อไขชาวชลบุรีคนนี้ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เค้าไม่ใช่ ดาราตลกเพียงอย่างเดียว เค้ายังเป็น ดารา เป็น ช่างศิลปะ เป็นครู หลากหลายอาชีพที่เค้าอยากจะเป็นหรือโดนจับให้เป็น โดยส่วนตัวผมรู้จักโน้ต อุดม จากการโชว์เดี่ยว ไมโครโฟนโดยชมจากวีดีโอ ซีดี แล้วติดใจในมุขตลกที่เค้าเล่น คนๆเดียวยืนให้คนเป็นพันเป็นหมื่นหัวเราะได้ ผมคิดว่าโด่งดังแค่ประเพณีวิ่งควายเพียงอย่างเดียวยังมีบุคคลที่เก่งและสามารถด้วย ทางด้านหนังผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบหนังไทยแนวรักกุ๊กกิ๊ก ในเรื่อง โคตรรักเอ็งเลย โน้ต อุดม แสดงได้ดีมาก จากภาพพจน์ที่เป็นคนตลก สามารถแสดงออกทางอารมณ์เศร้าได้เข้าถึง ทำให้อารมณ์คล้อยตามได้ ทางด้านหนังสือผมว่าเค้าเป็นคนที่เขียนหนังสือรู้เรื่อง แต่โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือของโน้ต อุดม เท่าไหร่ เพราะผมคิดว่าเค้าจงใจ ที่จะให้มันตลก มันเลยไม่ตลก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบผลงานทางด้านหนังสือของตัวเค้า ทางด้านบทเพลง เค้าก็ร้องเพลงไว้หลายเพลง เช่น รักหลับ เพื่อนมีเยอะแล้ว และอีกไม่กี่เพลง แต่เค้าทั้งร้องทั้งแต่งเอง มีหลายคนที่อยากจะได้เพลงของเค้า เพราะ เนื้อทำนองเข้าใจง่าย ความหมายลงตัว และตลก ซึ่งเพลงของโน้ต อุดม ก็หายากอยู่เหมือนกัน ทางด้านศิลปะ ผมก็รู้ว่าเค้าเป็นคนที่ชอบศิลปะ เคยเห็นตุ๊กตาที่เค้าทำที่ไหนสักแห่ง เป็นตุ๊กตาที่ออกแนวเด็ก เด็กที่พยายามจะปั้นดินน้ำมันให้เป็นสัตว์สักชนิดแต่มันก็ คล้ายๆ ไม่เหมือน และมันก็ดีที่ไม่เหมือนเพราะสิ่งที่คนโตทำได้ดีคือสิ่งที่เหมือน ไม่ใช่เพียงแค่คำว่าคล้ายๆ และสุดท้ายหน้าตาของ โน้ต อุดม คุณเคยเห็นหน้าใครสักคนแล้วรู้สึกว่า หน้าเค้าตลกไหมล่ะ? นั้นแหละคือความรู้สึกผมที่มีต่อ โน้ต อุดม แต้พานิช สิ่งที่สาทยายมานี้คือ เหตุผลที่เป็นแรงจูงใจให้เลือก บุคคล คนนี้เป็นบทสัมภาษณ์’
วิเคราะห์พร้อมทั้งบอกข้อดีข้อเสีย/คุณลักษณะต่างๆของบทสัมภาษณ์
(ในแง่คิด/ความเห็นและเหตุผลส่วนตัว)
ข้อดี
-ก็รู้สึกดีที่ผู้ถาม ถามได้อย่างทะนุถนอมหัวใจของโน้ต อุดมเรื่องความรัก
-ผมคิดว่าผู้ถามคงจะศึกษเรื่องข้อมูลส่วนตัวของโน้ตมาเรียบร้อยดีแล้ว
-ผู้ถามคิดคำถามได้ตรงดี
ข้อเสีย
-ผู้ถาม ถามคำถามที่พอจะมองออกว่า โน้ตจะตอบว่าอย่างไร
จะสัมภาษณ์อะไรเพิ่มเติม
-ได้กลับไปเยี่ยม แม่ที่จังหวัดชลบุรีบ้างหรือเปล่า?
-จะใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป ถึงเมื่อไหร่คับ?
-คิดว่าในตัวเองมีอะไรที่แปลกไปจากบุคคลอย่างอื่นอีกมั้ย?
-อยากเล่นกีฬาอะไรอีกนอกจาก แตะฟุตบอล
-อยากให้เล่าถึงวิธีการใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างละเอียด
-อีก3เดือนข้างหน้าจะทำอย่างไร?
-เดี่ยว7 นี่จะมีวิธีรักษาความปลอยภัยของเงินที่ได้มา อย่างไรไม่ให้ถูกโกงเหมือนครั้งก่อนๆ
-จบเดี่ยว7 อีก3เดือนจะทำอะไรต่อ
-และสุดท้ายอยากให้บอกว่าตัวเองอยู่ไปเพื่ออะไร สิ่งจูงใจให้มีวันนี้ ความหมายของชีวิต


สัมภาษณ์ในแง่ไหนเพราะเหตุใด
- อยากสัมภาษณ์ในแง่การใช้ชีวิต วิธีคิดหากมีเรื่องที่กลุ้มใจ วิธีที่ทำให้ตัวเองประสบณ์ความสำเร็จต้องมีการฝึกซ้อมอย่างไรในการแสดงโชว์แต่ละครั้ง



Create Date : 14 กุมภาพันธ์ 2551
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2551 14:50:55 น.
Counter : 6169 Pageviews.

2 comments
  
อืม วิธีคิดของโน๊ตก็ไม่ธรรมดานะ

HAPPY VALENTINE’S DAY ka
โดย: ดา ดา วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:23:25 น.
  
อ่า...

เรื่องบทสัมภาษณ์ของโน๊ต ผมเคยอ่านในแพรวเล่มหนึ่ง สมัยที่เขายังคบกับแท่งอยู่

ตอนนั้นบทสัมภาษณ์จะเข้มข้น และมีครบทุกอย่าง เพิ่งบินกลับมาจากนิวยอร์คหรือไงเนี่ย จำไม่ค่อยได้

แต่ผมว่าในแง่ของการสัมภาษณ์มันค่อนข้างขึ้นอยู่กับ "ช่วงเวลา" ของการสัมภาษณ์

เพราะโน๊ต อุดม เป็นคนที่มีของเยอะ แต่เขาก็มีช่องทางในการปล่อยของเยอะเช่นเดียวกัน ก็อย่างที่เขาบอก เขามีหลายองค์ในคนๆ เดียว

แต่ถึงยังไง ผมว่าแพรวฉบับนั้นทำได้เยี่ยมสำหรับการสัมภาษณ์ อุดม แต้พานิช

ปล. ขอแชร์ด้วยความชอบในความเป็น "โน๊ต อุดม" ที่เราๆ รู้จัก แต่ไม่ใช่ "นาย อุดม แต้พานิช" ที่เราไม่มีวันได้สัมผัสอย่างแน่นอน

ปล2.ทั้งหมดเป็นความเห็นครับผม
โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:15:56:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เจ้าชายฟลุค
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



การเดินทางของเศษเสี้ยวกลไล เพื่อที่ผลักดันให้ตัวเองมีชิวิตเรียนรู้ คำว่าโลก