เช็ดไม่ออกหรอกหยาดน้ำตาเทียน (บันทึก..วัดมเหยงคณ์)
1. แดดเช้า.. ส่องกระทบซากเจดีย์หักพังและผนังโบสถ์เป็นสีอิฐอุ่น ฉันเดินจงกรมไปตามทางเดินช้าๆ น้ำตาเทียนหลังคืนเวียนเทียนยังคงจับแน่นบนแผ่นศิลาพื้นโบสถ์โบราณ อีกไม่นานก็คงจะค่อยๆหลุดหายไปทีละนิดๆตามกาลเวลา แต่น้ำตาเทียนที่ยังเกาะแน่นอยู่ในใจของฉันนี่ซิ ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไรถึงจะหลุดออกมาได้
น้ำตาเทียนหยดลงบนหลังมือยังเจ็บปวดมากมาย แล้วถ้าน้ำตาเทียนหยดลงบนหัวใจล่ะ..จะเจ็บปวดขนาดไหน อะไรทำให้ฉันจินตนาการ...ไปได้ไกลขนาดนั้นนะ
เผลอคิดถึงตรงนี้..เสียงคำสอนของหลวงพ่อให้เพียรมีสติ ตามรู้ปัจจุบันก็ดึงฉันกลับมาอีกครั้ง บ่อยครั้งและบ่อยครั้งที่ฉันมักจะฟุ้งเผลอคิดวนเวียนซ้ำซาก อยุ่กับเรื่องเดิมๆจนแทบจะถอดใจออกจากความเพียร และออกจากการปฏิบัติหลายต่อหลายครั้ง
แต่ก็ยังโชคดีที่ไปสะดุดตาปกหนังสือเล่มเล็กๆที่หลวงพ่อเขียนเอาไว้ว่า ขอให้เรามีกำลังใจว่าเรามีบุญแล้วที่เข้ามาถึงระดับนี้ได้ ถ้าไม่ปฏิบัติเสียตอนนี้ โอกาสที่เราจะมาเกิดเป็นมนุษย์ มีศรัทธา มีเวลา มีโอกาสแล้วได้พบกับพระพุทธศาสนามีคำสอนอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
เมื่อรวมกับการได้ฟังคำสอนเรื่องการเจริญสติของหลวงพ่อ ตลอดระยะเวลา 5 วันก็ยิ่งทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ้นว่า ฉันมีบุญแล้วที่ได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่
2.
ฉันได้ยินชื่อวัดมเหยงคณ์มานานแล้ว... เคยคิดจะมาปฏิบัติธรรมที่นี่หลายครั้งแต่ก็พลาดทุกครั้ง อาจเป็นเพราะยังไม่ถึงช่วงเวลาและจังหวะของฉันก็เป็นได้ กว่าจะได้มาจริงๆก็ล่วงเลยมาจนถึงวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นช่วงที่มีคนมาปฏิบัติธรรมกันมากมาย แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างปฏิบัติ
ฉันกลับรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสร่วมสวดมนตร์ ฟังธรรม เวียนเทียน และปฏิบัติธรรมตลอดทั้งคืน กับผู้คนมากมายในสถานที่อันศักดิ์สิทธิ สวยงาม และเก่าแก่ท่ามกลางสายฝนพรำในค่ำคืนนี้
.. ...
กลิ่นดอกพิกุลลอยตามลม ฉันเดินจงกรมไปตามทางเดินช้าๆ เผลอบ้าง รู้บ้าง ฟุ้งบ้างไปตามสภาวะ เถอะนะ....ขอเพียงฉันยังมีลมหายใจ และมีโอกาสสร้างความเพียรในการปฏิบัติอีกต่อๆไป สักวันหนึ่งน้ำตาเทียนก็คงจะลบเลือนหายไปจากใจของฉันได้เอง
Create Date : 29 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2553 19:09:22 น. |
Counter : 1587 Pageviews. |
|
|
|