|
ความแตกต่างประหว่างภาษาอังกฤษและภาษาสเปน (Diferencias entre el inglés y el español)
คนไทยเราเรียนภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองซะส่วนมาก พอเรารู้เรื่องภาษาอังกฤษบ้าง แล้วได้มาเรียนภาษาสเปน ก็เป็นธรรมดา ที่จะต้องเกิดการเปรียบเทียบกันระหว่าง 2 ภาษานี้ มาคราวนี้ จะลองเปรียบเทียบคร่าว ๆ ให้ดูในบางมุม สำหรับคนที่เพิ่งจะมาสนใจภาษาสเปน เผื่อเกิดความสงสัย
รูปแบบประโยคในภาษาสเปน
คนที่เพิ่งจะมาเรียนภาษาสเปนเลย อันดับแรก ต้องเกิดคำถามแน่นอน ว่ารูปแบบของประโยคเป็นอย่างไร จะเหมือนกับภาษาอังกฤษหรือไม่ มา ๆๆๆ ดูโครงสร้างประโยคในภาษาอังกฤษกันก่อน อย่างน้อย ถ้าเรียนภาษาอังกฤษมา ก็จะมีพื้นฐานโครงสร้างประโยคลาตินติดอยู่ในหัวบ้าง ต่อไป ก็ไม่ยากแล้วนะจ้า
ภาษาอังกฤษ
ประธาน กริยา กรรม I love you
เห็นกันจะ ๆ ต่อมา มาดูภาษาสเปนกัน
กรรม กริยา Te amo
ฮ่า ๆๆ เริ่มสับสนกับชีวิตกันแล้วยัง ในภาษาสเปน กรรมมาก่อนกริยา เนื่องจากว่า ในภาษาสเปน นิยมใช้ "กรรมวาจก (Passive voice) ซึ่งประธานเป็นผู้ถูกกระทำมากกว่า กัตตุวาจก (Active voice) ที่ประธานเป็นผู้กระทำ
อันดับแรกเลย ที่สังเกตเห็นชัด ๆ ในรูปประโยคของภาษาสเปน คือ ไม่มีประธาน? อันนี้เป็นเพราะในภาษาสเปนนั้น ประธาน จะถูกบ่งชี้อยู่ในรูปของกริยาที่ผันแล้ว เอาง่าย ๆ คือ ในภาษาสเปน จะต้องมีการผันกริยาให้สอดคล้องกับประธาน ซึ่งโดยมาก พอเห็นกริยาที่ผันแล้ว จะสามารถบอกได้ทันทีว่าประธานคืออะไร เนื่องจากรูปของกริยาที่ผันตามประธานนั้น ๆ จะไม่ซ้ำกับกริยาที่ผันกับประธานตัวอื่น ๆ นั่นเอง อย่างในตัวอย่าง
amo = I love หรือ ฉันรัก
จะว่าไปแล้ว จะใส่ประธานไปด้วยก็ไม่ว่ากัน แต่ในภาษาสเปน จะใส่ไว้ เมื่อต้องการจะเน้นย้ำประธาน
ตัวอย่างเช่น จะพูดว่า I am Thai. ฉันเป็นคนไทย ในภาษาสเปน จะใช้ว่า Soy Tailandesa*. (*ผู้พูดเป็นผู้หญิง อิอิ ถ้าผู้ชาย ก็ใช้ Tailandes) ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว จะไม่พูดว่า Yo soy Tailandesa. (ประธาน Yo /กริยา Soy/ คุณศัพท์Tailandesa)
เข้าใจอ๊ะยังงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่ยากนะ
ตอนหมีเรียนภาษาสเปนใหม่ ๆ ก็พบสิ่งที่ยากอย่างหนึ่ง ก็คือว่า กรรม จะมาก่อนกริยาได้ อ๊ากกกส์ เป็นไปได้ยังไง แต่ก็เป็นไปแร้ววววววววว ดังจะเห็นได้จากประโยค ฉันรักเธอด้านบน แล้วถ้าเอาภาษาสเปนมาแปลเป็นภาษาอังกฤษ Te amo ก็จะเป็น you I love เอ้อ เอากะมันจิ แต่เรียนไปซักพัก ก็จะชินไปเอง แหะ แหะ
กระนั้น จะว่าไปแล้วการลำดับคำในภาษาอังกฤษนั้นค่อนข้างเข้มงวดกว่าภาษาสเปนเยอะเลยล่ะ
คำกริยาในภาษาสเปน
หน้าตาของคำกริยาในภาษาสเปนจริง ๆ แล้วดูดี อิอิ แถมดูเหมือนง่าย เพราะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มเอง คือ กลุ่มที่ลงท้ายด้วย -AR / -IR และ -ER ซึ่งมีลักษณะเป็นวิภัตร-ปัจจัยด้วย อันหมายถึงว่า คำกริยาแต่ละคำ มีรากที่มาเดียวกัน แล้วค่อยผันโดยเปลี่ยนส่วนท้ายคำเอา ทำให้เราทราบว่ากริยาที่ผันแล้วนั้น มาจากกริยาดั้งเดิมอะไร จากนั้น เราก็จะทราบความหมายได้ เนื่องจากความหมายไม่เปลี่ยนจ้า
ตัวอย่าง
รากคำ ท้ายคำ ความหมาย
Trabaj- ar การทำงาน Trabaj- o ฉันทำงาน Trabaj- é ฉันได้ทำงาน (อดีตกาล) Trabaj- aré ฉันจะทำงาน
ไม่งงกันนะ ต่อมา มาดูอีกรูปแบบที่ใช้กันเยอะมาก
ประโยคคำถามในภาษาสเปน
ในภาษาอังกฤษ เราสลับตำแหน่งประธานและกริยา เพื่อทำให้เป็นประโยคคำถาม
ตัวอย่าง
They have eaten. - Have they eaten?
แต่ในภาษาสเปนง่ายยยยยยยยยยยยยกว่าเยอะ คือ ไม่ต้องสลับตำแหน่งคำไปมาให้งงงงงงงงงงงงงง แค่ออกเสียงท้ายประโยคบอกเล่าเป็นเสียงสูง ก็กลายเป็นประโยคคำถามได้เลยทันที ไม่ต้องคิดมาก อ้อ แถมให้ว่า เวลาเป็นภาษาเขียน ต้องเติมเครื่องหมายปรัศนี หรือ เครื่องหมายคำถามกลับหัว อันเป็นเอกลักษณ์ของภาษาสเปนไว้ด้วย
ตัวอย่าง
¿Tienes fuego? เตียนเนส ฟวยโก๊? คุณมีไฟไม๊ (ขอไฟหน่อยคร่า)
แล้วก็ยืนยันว่าไม่มีทางอื่นที่จะสร้างประโยคคำถามในภาษาสเปนนอกจากที่บอกไปแล้ว ฉะนั้น สบายใจได้เรยยยยยยยย อิอิ ส่วนในภาษาอังกฤษ ยุ่งยากกว่าเยอะ เพราะมีไอ้เจ้า Tag Question หรือ คำถามท้ายประโยคอีกตัว เอ้อ เอากะมานนนนนน
ตัวอย่าง
You like cookies, don’t you?
แถมต้องนั่งนึกกริยาช่วยอะไรอีกมายมาย อ๊ากกกกกส์ ปวดเฮดดดดด อิอิ ว่าแล้วเพิ่งนึกออก ในภาษาสเปน จริง ๆ แล้วก็มีคำถามท้ายประโยคเหมียนกัน แหะ แหะ แต่ง่ายกว่าในภาษาอังกฤษ คือ เติมคำว่า "verdad" เบอรดาด ที่แปลว่า จริงอะ หรือคำว่า "no" โน ต่อท้ายประโยค แล้วขึ้นเสียงสูงท้ายประโยค เช่น
¿Vives en España, verdad? บิ๊เบ่ส เอน เอสป๊าญ่า เบอรด๊าด?
หรือ
¿Vives en España, no? บิ๊เบ่ส เอน เอสป๊าญ่า โหน๊?
ประโยคปฏิเสธในภาษาสเปน
โอ้ว อันนี้ยิ่งง่ายไปใหญ่เรย ภาษาสเปนใครว่ายาก เชอะ ชิ ชะส์ การทำประโยคบอกเล่าในภาษาสเปนให้เป็นปฏิเสธ แค่เติม “no” ที่แปลว่า ไม่ ไว้หน้าคำกริยา เช่น
บอกเล่า vivo en Bangkok. บิ๊โบ่ เอน บางกอก ฉันอาศัยอยู่ในกรุงเทพ
ปฏิเสธ No vivo en Bangkok. โน่ บิ๊โบ่ เอน บางกอก ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ในกรุงเทพ
แถมท้ายด้วย
การใช้คำคุณศัพท์ในภาษาสเปน
ในภาษาอังกฤษจะวางคำคุณศัพท์ไว้หน้าคำนาม ส่วนภาษาสเปนจะเหมือนภาษาไทย คือ วางไว้หลังคำนาม ฮี่ ๆๆๆๆ มาดูตัวอย่าง
ภาษาอังกฤษ A red shirt = แดง สีเสื้อ ภาษาไทย เสื้อสีแดง ภาษาสเปน una camisa roja = เสื้อสีแดง
เอิ้กกส์ ง่าย ๆๆๆ เห็นป่าว กระนั้น อย่าลืมว่าในภาษาสเปนนั้น คำนามทุกคำ มีเพศ ซึ่งต้องผันตามกันไปทั้งคำกริยา คำคุณศัพท์ แถมต้องดูด้วยว่า คำนามนั้น เป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ แหะ แหะ
จบแร้ว บริหารเซลล์สมองกันได้เยอะหรือเปล่าจ๊ะ ฮี่ ๆๆๆ
Create Date : 03 มกราคม 2549 |
Last Update : 31 มกราคม 2550 1:05:10 น. |
|
23 comments
|
Counter : 9840 Pageviews. |
|
|
|
โดย: หุหุ IP: 202.5.83.240 วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:14:49:39 น. |
|
|
|
โดย: L-twin วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:15:19:15 น. |
|
|
|
โดย: ตี๋สีชมพู วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:15:21:16 น. |
|
|
|
โดย: รักดี วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:17:51:55 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:19:40:50 น. |
|
|
|
โดย: ชายคา วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:19:40:54 น. |
|
|
|
โดย: ปลายเทียน วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:21:24:25 น. |
|
|
|
โดย: kreechai วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:21:34:53 น. |
|
|
|
โดย: PADAPA--DOO วันที่: 3 มกราคม 2549 เวลา:22:45:46 น. |
|
|
|
โดย: Cymry วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:11:58:31 น. |
|
|
|
โดย: erol วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:12:00:59 น. |
|
|
|
โดย: ตี๋สีชมพู วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:12:40:45 น. |
|
|
|
โดย: one (onebeauty ) วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:13:03:07 น. |
|
|
|
โดย: LittleLulu วันที่: 4 มกราคม 2549 เวลา:13:26:02 น. |
|
|
|
|
|
|
ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด
|
|
|
|
|
|
เข้ามามึนตึ๊บ....