Gravity อะไรคือแรงโน้มถ่วงของเรื่องนี้?
สปอยล์แน่นอน เข้าโรงไปด้วยความอยากดู Sandra Bullock และ GeorgeClooney ปะชันฝีมือกัน ก็มืออาชีพทั้งคู่ และเป็นขวัญใจทั้งคู่ จะพลาดได้ยังไง แล้วก็สมหวัง (สมหวังเกินคาดด้วยซ้ำ) ได้ดูพี่แกทั้งเรื่องเลยไม่มีคนอื่นมาขัดจังหวะให้เสียอารมณ์แม้แต่น้อย เล่นแสดงกันอยู่ 2 คน โดยเฉพาะ Sandra ไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะเป็นคนแบกทั้งเรื่องขนาดนี้ เพราะ 4/5ของเรื่องคือเธอคนเดียวเลย และต้องขอบอกว่า เอาอยู่เก่งจริงๆ คุมทั้งเรื่องโดยที่แทบจะไม่ต้องพูดอะไรเลย (นึกไปถึงเรื่อง Before sunset, Before sunrise ที่เป็นหนังซึ่งดำเนินโดยคนเพียงแค่2 คน แล้วก็ไม่มีองค์ประกอบอื่นใดเลย คือคุยกันทั้งเรื่องแต่ทั้งสองเรื่องนี้ก็เยี่ยมมาก) กลับมาที่ gravity มีบางขณะที่ดูด้วยความจับผิดว่า Sandra จะแสดงสีหน้าท่าทางในสถานการณ์นั้นๆ ออกมาอย่างไรถึงจะสมจริงและน่าเชื่อ แว้บแรกคิดว่าเธอแสดงออกมาได้ไม่สุดเธอนิ่งเกินเฉยเกิน สถานการณ์ต่าง ๆมันกดดันและน่ากลัวมาก จนควรจะต้องมีท่าทีที่มากกว่านี้ แต่พอคิดว่าตัวละครนี้คือด็อกเตอร์ผู้เคร่งขรึมที่คงจะต้องผ่านการทดสอบการควบคุมสถานการณ์ต่างๆ และควบคุมอารมณ์มามากมายก่อนที่จะขึ้นไปอวกาศก็เข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำน่ะ ถูกแล้วพอดีแล้ว ไม่เห็นต้องมากหรือน้อยไปกว่านี้ คือมีอารมณ์ร่วมกับสถานการณ์แต่ขณะเดียวกันก็ต้องคุมอารมณ์ตลอดต้องพยายามมีสติ จะละอะไรไม่ได้เลย ต้องบอกว่าบทนี้ต้องระดับนางเอก Oscar เนี่ยแหละคู่ควรหน้าที่ใหญ่หลวงเวอร์ ๆ แบบนี้ ส่วนอีกคน George Clooney ซึ่งโผล่มาน้อยกว่าที่คิดไว้มาก แต่ก็ใช่ว่าจะลืมนะเป็นบทที่น่าจดจำทีเดียว ความขี้เล่นแต่คุมสติได้ตลอดเวลาแบบนี้เล่นยากเหมือนกันนะ แต่ George Clooney ถ่ายทอดออกมาได้ดี รู้สึกผ่อนคลายและสนุกไปกับตัวละครนี้ มันทำให้โทนหนังไม่ดราม่าเต็มร้อย เป็นตัวละครที่ขับเคลื่อนหนังที่มีสีสันมาก และถ้าไม่ใช่ระดับ George Clooney ก็อาจจะกร่อยไปเลยเหมือนกัน สรุปนักแสดงเรื่องนี้เวิร์ก เก่ง การแคสนักแสดงมานี่สำคัญ รอดไม่รอดอยู่กับการแสดงซักเกือบ 50% และผู้กำกับก็เก่งมากที่พาคนดูอิน ลุ้นได้ตลอดขนาดนี้ ทำให้รู้ว่าบางทีการอิน มันไม่ต้องมีประสบการณ์ร่วม ก็รู้สึกไปด้วยอย่างมากได้
ไปดูแบบ 3D (เสียดายไม่ยอมไปดู 4D คงจะตื่นเต้นตื่นตากับอวกาศมากกว่านี้)ความสมจริงของภาพก็เวิร์ก อย่างนึงคือไม่เคยออกนอกอวกาศไม่รู้จะเปรียบเทียบกับอะไร แต่รู้ว่าให้ความรู้สึกเคว้งคว้างล่องลอย เวิ้งว้าง ว่างเปล่า จินตนาว่าถ้าต้องออกไปข้างนอกแบบนั้นก็คงเกาะติดกับยาน ไม่กล้าออกไปไหนแน่
แอบสงสัยว่าเค้าถ่ายทำกันยังไง คงอยู่แต่ในสตูดิโอทั้งเรื่อง งานประณีตละเอียดมากทีเดียว ดูแล้วเชื่อว่าอวกาศคงเป็นแบบนั้น แต่ตอนดูนี่ ดูไปอ๊อกซิเจนคนดูนี่แหละจะหมดแทน นางเอกเหลือ Oxygen 10% แต่คนดูจะหมดแล้วค่าาาาา หายใจไม่ออก 555 และยังเหนื่อยกับการหลบเศษยานนู่นนี่พุ่งเข้าหน้า พยายามสะกดตัวเองไว้หลายทีเหมือนกันว่า นี่หนังนะ นี่หนัง มันไม่มีอะไรหลุดออกมาหรอก เหอะ ๆ ปลื้มกับภาพหนังเรื่องนี้มาก
มีจุดติคือบางส่วนของเรื่องยังไม่ค่อยสมจริงเช่นการเคลื่นไหวของตัวนักบิน พออยู่ในลำทำไมแหวกว่ายผ่านประตูหรือช่องนั่นนี่ได้พอดิบพอดี ไม่ชนกับอะไรเลยยังกะอยู่ในน้ำที่มีขาตีช่วยพยุงควบคุมอยู่ด้านหลัง แต่นี่มันยานอวกาศนะคะ ทำไมเธอควบคุมการเคลื่อนไหวได้เป๊ะขนาดนั้นหรือว่าฝึกมาดีมาก 555 อันนี้พูดในแบบคนที่ไม่เคยออกนอกโลก และเห็นตามภาพนู่นนี่มา ถ้าพูดอะไรผิดไปก็ขออภัยด้วย ในเรื่องของพล็อตและบท ขอชื่นชมบทพูดแทบไม่มี แต่คุมโทนเรื่องได้น่าตื่นเต้น น่าติดตามทั้งเรื่อง พล็อตดี ไม่เรื่อยเปื่อยเละเทะ ตอนท้ายที่ตัวเอกแทบจะถอดใจแล้วก็ยังมีจุดหักให้กลับมาอย่างน่าสนใจทำให้ได้ฉุกคิดอะไรบางอย่าง เสียงบนโลกนาทีนั้นคงเป็นอะไรที่เพราะสุด ๆ สำหรับดร.ไรอัน และฉากสุดท้ายที่เธอสัมผัสโคลน แอบน้ำตาคลอตาม ออกมาจากโรงด้วยความทึ่งว่าตัวเรื่องมันไม่ได้มีอะไรเยอะแต่จบออกมาแล้วมีอะไรให้นึก ให้คิด ตอนนี้รู้สึกจินตนาการแล่นและอยากใช้ชีวิตบนโลกนี้ให้คุ้ม และอย่ายอมแพ้ต่ออะไรง่าย ๆ เพราะบางทีเฮืกสุดท้ายก็สำคัญต่อชีวิตที่เหลือทั้งชีวิต วันนี้ดู 2 เรื่องคือ Gravity และ Rush ยอมรับว่าเรื่องความสนุกยกให้ Rush เหนือกว่าแต่... พอกลับมา นึกถึง Gravity และอยากเขียนถึงมาก หลังจากที่ไม่ได้เขียนมาเป็นปี ส่วน Rush เดี๋ยวว่าจะไปหาอ่าน biography เค้าซะหน่อยนี่แสดงว่า Gravity มีแรงโน้มถ่วงอะไรใช่มั้ย??? 9/10 ค่ะ
Create Date : 06 ตุลาคม 2556 |
|
2 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2556 19:47:24 น. |
Counter : 1660 Pageviews. |
|
|
|