อย่างที่ได้อ่านรีวิวมา (รีวิวของพี่ไอซ์ค่ะ)

.

.

โอ้ ! การรีวิวหนังสือภาษาอังกฤษครั้งแรกในชีวิต แหะๆ

.

.

ร็อบ กับ แอชลี่ย์ เป็นแฟนกันมาหลายปี โดยทั้งคู่อยู่คนละเมือง

ร็อบทำงานเป็นกราฟฟิค ดีไซน์เนอร์อยู่ทีู่่ลอนดอน และแอชลี่ย์เป็นหมออยู่ที่แมนเชสเตอร์

ทั้งคู่ใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์เดินทางข้ามเมืองเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกัน

แต่พอถึงจุดหนึ่ง แอชลี่ย์ก็เหนื่อยกับความสัมพันธ์ระยะไกลแบบนี้

จึงยื่นคำขาดให้ร็อบเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับเธอ หรือเลิกกัน

ร็อบเองยังไม่อยากย้าย แต่เขาก็รู้ดีว่าจะอยู่ลอนดอนไปตลอดชีวิตไม่ได้ เพราะเมืองนี้ "แพง" เกินไป

และเขารักแอชลี่ย์มากพอที่จะยอมทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เสียเธอไป

ร็อบจึงตัดสินใจจะย้าย แม้ว่าจะต้องปรับตัวใหม่หมดทุกอย่าง นั่นรวมไปถึงหาเพื่อนใหม่ด้วยเช่นกัน

มันไม่ง่ายเลยสำหรับผู้ชายวัยสามสิบกว่าๆ...

ตอนแรกร็อบไม่มีเพื่อนเลย แม้ว่าแอชลี่ย์จะพยายามแนะนำใครต่อใครให้รู้จัก

แต่ก็ไม่มีซักคนที่จะเข้ากันได้ จนขนาดว่าต้องไปนัดบอดกับหนุ่มๆ ( ? )

ก็ยังไม่ได้เพื่อนอยู่ีดี... แล้วในปาร์ตี้นึงเขาก็ได้พบกับโจ

หลังจากเดินไปซื้อบุหรี่ด้วยกันเสร็จ ร็อบก็ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก

แต่ไม่นานหลังจากนั้น โจ ก็กลายมาเป็นเพื่อนสนิทคนใหม่ของร็อบ

ถึงอย่างนั้น อะไรๆก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางอยู่ดี

แอชลี่ย์จะคิดยังไง เพราะ Jo ไม่ใช่ Joe...

เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ ผู้ชาย

.

.

เป็นเรื่องที่อ่านแล้วติดมากค่ะ การจะวางหนังสือลงแต่ละครั้งมันยากมากๆ

อาจจะเพราะเนื้อหาเป็นอะไรที่ "สมจริง" มาก มันเกิดขึ้นกับตัวได้ตลอดเวลา

(ดีไม่ดี เกิดแล้วแต่ไม่รู้ตัวก็ได้น้าาา *^^*)

เรื่องเพื่อนสนิทเนี่ย เป็นอะไรที่ทุกคนน่าเจอเคยผ่านมาบ้างซักครั้งในชีวิต

ขนาดยังไม่จบ ม.ปลาย ยังเคยเจอเลย (เป็นช่วงวัยด้วยเนอะ)

ในหนังสือก็ได้บอกมุมมอง ของทั้งผู้ชายและผู้หญิงเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนต่างเพศไว้

ซึ่งก็มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยนะคะ อาจจะเพราะวัยด้วย

ยังได้เห็นอะไรไม่มากเท่าไหร่ เลยคิดได้ไม่หลากหลาย

- เพื่อนรัก...กลายเป็น รักเพื่อน : เป็นอะำไรที่เกิดได้ง่ายอยากเหลือเชื่อ

ถ้าเคยคิดแต่ว่า เราไม่ชอบคนยังงี้หรอก

หรือ รู้จักกันขนาดนี้แล้ว จะชอบเข้าไปได้ยังไง ...มันก็ไม่แน่เสมอไปนะคะ

ไอ้ที่รู้จักกันดี ใกล้ชิดกันมากเนี่ยแหละ

ตัวการตัวเอ้เลยล่ะ TTwTT เศร้าใจ

- ด้วยความที่ ตัวเองอยู่วงโยฯด้วย เป็นนักกีฬาด้วย (จริงๆเป็นกีฬาที่คิดว่าผู้ชายคงเล่นไม่เยอะ

ที่ไหนได้ มีผู้หญิงอยู่นิดเดียว ลองทายดูดีกว่ากีฬาอะไร

>> เฉลยค่ะ หมากกระดาน นั่นเอง 555+)

ก็เลยมีเพื่อนสนิทเป็นผู้ชายอยู่บ้าง แล้วช่วงไม่นานนี้ คุยกับเพื่อนคนนึงมากเป็นพิเศษ

เพราะเค้าเพิ่งเลิกกับแฟนเลยพูดมากเป็นพิเศษ 55+

คือเพื่อนคนนี้อยู่แคนาดา ส่วนตัวเองอยู่เยอรมนี

Timezone จะห่างกันน้อยกว่า เพื่อนๆที่อยู่ไทย

ก็เลยได้คุยกันมากหน่อย แล้ววันนึงคุยเรื่องเก่าๆตอน ม.1

อยู่ๆก็พูดกันเรื่องสนิทกับใครมากที่สุดในวงโยฯรุ่นเดียวกัน

ก็บอกไปว่านอกจากเพื่อนผู้หญิงแล้ว

(ทั้งหมดมี ญ 2 ช 8 ค่ะ) ก็สนิทกับเค้านั่นแหละ

แล้วเค้าก็แบบ ไม่ได้นะ ต้องสนิทกับคนอื่นมากกว่าเรา

...ก็แบบ เอ๊ะ ก็แกนิสัยดีสุดนะ ทำไมล่ะ

เพราะว่าถ้าสนิทกันมากไป อาจจะชอบกันก็ได้ เดี๋ยวเสียเพื่อน

เป็นเพื่อนสนิท แต่ไม่สนิทที่สุดจะดีกว่า ...ก็เลย ตามใจคุณพี่อ่ะค่ะ ฮ่าๆ

.

.

ตอนจบของเรื่อง ส่วนตัวแล้ว คิดว่า จบได้เหมาะมากๆ

แต่มันก็เป็นแค่ืทางเดินหนึ่งในหลายๆทาง ที่ร็อบกับโจจะเลือกได้

ในชีวิตจริง อาจจะต่างออกไปก็ได้... แต่ถ้าสำหรับหนังสือเรื่องนี้แล้ว

จบได้ น่ารัก และ อบอุ่น >w<,,

ตอนแรกแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเขียนเป็นผู้ชาย

เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 6 ที่เค้าเขียน

ถ้ามีเงินก็คงจะไปหาเรื่องอื่นๆมาอ่านแหละค่ะ

รอคนอ่านแล้วมารีวิวก่อนดีกว่า *ฮา*

.

.

ข้างล่างจะแอบสปอยล์นะคะ

ใครที่อ่านแล้ว หรือ ไม่คิดจะอ่านก็เลื่อนลงไปได้เลยค่ะ

แต่จริงๆก็แค่ ตัดคำพูดในส่วนที่ชอบมาลงเอง แหะๆ

.

.

อ่านตรงนี้แล้วขำกลิ้งเลยค่ะ แต่เราก็คิดแบบนั้นด้วยอ่ะ

Rob คือ พระเอก Phil คือ เพื่อนสนิท ค่ะ

ไม่ใช่เป๊ะๆแบบในหนังสือนะคะ เปิดหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ

หรือจริงๆมันจะไม่มีน้อ แหะๆ สงสัยต้องอ่านทั้งเล่มใหม่่ถึงจะเจอ

Rob : "It's pretty gay, isn't it ?"

Phil : "No, it's very gay, beyond gay. The new level of gayness !"

ขำกลิ้ง...แหะๆ

.

.

อันนี้อยู่ตอนบทท้ายๆแล้วค่ะ อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย

"How much do you hate me ?"

"About as much as you deserve"

โอ๊ย...เจ็บแทนง่ะ

.

.

จบแล้วรีวิวนิยายภาษาอังฏฤษเล่มแรก *O*

ต่อเล่มสองเลยนะคะ อิอิ

.

.

10. The tales of the Beedle the Bard - J.K.Rowling

อ่านจบแล้ว อยากบอกว่า "แอบเซ็ง" ช่วงท้ายๆแทบจะเรียกได้ว่า "ทนอ่าน"

คงเพราะว่า แฮร์รี่ เป็นวรรณกรรมเยาวชนอยู่แล้ว แล้วเล่มนี้เป็นนิทานเด็กของโลกเวทมนตร์

มันก็ต้องเด็กเข้าไปใหญ่ (เหตุผลแย่เนอะ...แหะๆ)

แล้วยิ่งเรื่องสุดท้าย ไม่ไหวแล้ว คุณป้าคะ เอาเรื่องเกามาเล่าใหม่ทำไมอ่า

เสียดายตังค์ TTwTT

บทวิจารณ์ของ ศ.ดัมเบิลดอร์ ที่เสริมท้ายเรื่องทุกๆเรื่อง ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่

นอกจากดึงเอาข้อคิดที่มีในเรื่อง มาให้เห็นชัดๆ แต่เด็กๆ (แบบที่ัยังไม่วัยรุ่น) ที่อ่านไม่เข้าใจคงมีอยู่บ้าง

(แต่ถ้าอ่าน "ปุลากง" ตั้งแต่ตอน 10 ขวบแล้วพอเก็ท คำบรรยายกระจ่างแจ้งขนาดนั้นก็ไม่ต้องการอ่ะค่ะ)

เล่มนี้จะมีนิทาน 5 เรื่อง

- The Wizaed and the hopping pot

ออกแนวนิทานสำหรับเด็กทั่วๆไป คุ้นๆว่ามีในรวมเล่มเทพนิยายกริมม์ แต่จำไม่ได้อ่ะค่ะ แหะๆ

บทเสริมของ ศ.ดัมเบิลดอร์ : มีแค่บอกข้อคิด แล้วก้พูดถึงเรื่องล่าแม่มดนิดหน่อย

กับเรื่องความขัดแย้งของพ่อมดแม่มดที่ชอบและไม่ชอบมนุษย์

- The Fountain of fair fortune

คลาสสิคมากค่ะ แม่มดกับอัศวิน (ขาดแต่เจ้าหญิงเนี่ยแหละ)

คุ้นๆว่ามีคล้ายๆกันในเทพนิยายกริมม์อีกแล้ว

แต่อ่านแล้วก็คิดได้เลยว่า "เลยวัย" แล้วล่ะ

(ทั้งที่ยังลงท้ายด้วย teen อยู่แท้ๆ เฮ้อออออ)

Pay me the proof of your pain

Pay me the fruit of your labour

Pay me the treasure of your past

แค่อ่านภาษาอังกฤษออกก็เก็ทแล้วค่ะ ตัวละครก็งมโข่งกันจังเลยยยยย

เครียดแทน ...คาดว่าหลายๆคนคงรู้สึกเหมือนกัน ถึงจะเป็นเด็กๆสิบต้นๆก็เถอะ

(จขบ.กลายเป็นพวกสิบปลายๆซะแล้ว TT[]TT)

บทเสริมของ ศ.ดัมเบิลดอร์ : บอกข้อคิด และพูดถึงเรื่อง

การต่อต้านการแต่งงานของพ่อมดแม่มดกับคนธรรมดา

แน่นอนว่า ตระกูลมัลฟอยเป็นตัวตั้งตัวตีตามเคย อิอิ

- The Warlock's Hairy Heart

อ่านแล้ว อี๋ เลย ...หัวใจมีขน แล้วมีภาพวาดประกอบด้วย แง้ TTwTT

ไม่พูดมากนะคะ เนื้อหาก็ประมาณเดิมๆค่ะ กลายเป็นสปอยล์คนจะอ่านซะเปล่าๆ ^^"

- Babbitty Rabbitty and her Cackling Stump

อ่านเรื่องนี้ก็คุ้นๆอีกแล้ว แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าดีกว่าเรื่องแรกกับเรื่องที่สามนะคะ

ส่วนเรื่องที่สองมันคลาสสิค อ่านแล้วก็โอเคดีค่ะ

- The Tale of The Three Brothers

เรื่องเก่าเล่าใหม่ค่ะ ใครที่อ่านแฮร์รี่เล่มเจ็ดแล้วคงผ่านตาไปเรียบร้อยแล้ว

ก็คือเรื่องของพ่อมดสามพี่น้องที่ได้เจอกับ Death นั่นเอง

ซึ่งคนพี่ได้ขอ คทาที่เอาชนะทุกคนได้

คนกลางได้ ก้อนหินชุบชีวิต

ส่วนคนสุดท้อง ได้ผ้าคลุมล่องหนมานั่นเอง

อ่านแล้วแบบ...แง อย่าเอาของเก่ามาขายสิคะ อย่างน้อยเติมอะไรไปบ้างก็ดีน้า *^^*

.

.

ถ้าจะให้พูดตรงๆกับเล่มนี้ คงต้องบอกว่าผิดหวังค่ะ ราคาก็สูง

เนื้อหาก็น้อย แต่ว่าปกสวยเท่านั้นเอง

ใครที่ไม่ได้ตั้งใจจะสะสมชุดหนังสือที่เกีี่ยวกับ แฮร์รี่

แนะนำว่าหายืมมาอ่านจะดีกว่าค่ะ

.

.

โฮก... พิมพ์ยาว เจ็บนิ้วมากๆเลย

นิ้วโป้งโดนมีดบาดตอนทำกับข้าวเมื่อวันก่อน

ส่วนนิ้วกลางก็...ตัดเล็บลึกไปนิดนึง ตอนแรกไม่รู้สึกอะไร

มองอีกที ตายแล้ว เลือดไหลลงมาถึงข้อนิ้ว

(ข้อบนสุดน้า ถ้าถึงโคนนิ้วคงช็อกไปแล้ว แฮ่ๆ)

พิมพ์ไปเล่นเอ็มไป ไม่เจียมสังขารนิ้วเลย...แหะๆ

.

.

ไว้นิ้วอาการดีขึ้นแล้วจะ ลงรีวิวของเซ็ต Twilight นะคะ

Tschüss !