Bloggang.com : begine : ทริปเที่ยวเมืองจันทบุรี : ใน 1 วัน ( 2552-2553)

ทริปเที่ยวเมืองจันทบุรี : ใน 1 วัน ( 2552-2553)

เที่ยวจันทบุรี ใน 1 วัน

ประวัติเมืองจันท์
เป็นรูปพระจันทร์เต็มดวง เปล่งประกายแสงเป็นรัศมีอยู่โดยรอบ
ตรงกลางดวงเป็นรูปกระต่าย นั่งหันข้างไปทางด้านซ้าย แสงจันทร์
หมายถึง ความสวยงามเยือกเย็น ละมุนละไม เปรียบได้กับความสงบรื่นรมย์ และร่มเย็น เป็นสุข ของภูมิภาคนี้
รูปกระต่ายเป็นสัญลักษณ์ส่วนหนึ่งของดวงจันทร์ ซึ่งชาวไทยเชื่อว่ามีอย่าเช่นนั้นมาแต่ดึกดำบรรพ์ เช่นเดียวกับ เมืองจันทบุรี เป็นเมืองโบราณมีชื่ออยู่ในพงศาวดารมาตั้งแต่แรกสร้างกรุงศรีอยุธยา
(สังเกตเดินตลาดริมน้ำจันทบูร จะเห็นเสา บอกชื่อซอย จะเป็นรูปกระต่ายยืนชมจันทร์ บังเอิญสังเกตุเห็นแต่ไม่ได้ถ่ายมาให้ดู มาทราบประวัติทีหลัง)

ขอรวมทริปของเมืองจัน ฮิ รวบยอดทีเดียวเลยนะคะ เพราะเมื่อวานนี้เพิ่งมีโอกาสได้ไปเที่ยวเมืองจันฯ กันเต็ม ๆ เพราะมีเวลาแค่ 1 วัน ซึ่งมีสถานที่น่าสนใจหลายๆ แห่ง ดังนี้ค่ะ

นมัสการรอยพระพุทธบาทบนยอดเขาคิชฌกูฎ

เมื่อช่วงต้นปีระหว่างเดือน ปลายเดือน มกราคม – มีนาคม ของทุกๆ ปี จะมีนมัสการรอยพระพุทธบาท เขาคิชฌกูฎ ของจังหวัดจันทบุรี หากใครเคยไปก็จะทราบว่าเป็นอย่างไร จากเมื่อ ปีที่แล้ว 2552 จนถึงปี 2553 นี้ได้ไปสัมผัสมา 2 ปีซ้อนก็ได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น เพราะ ปี 53 มีที่จอดรถกว้างขวาง ขยับขยายมากขึ้น และยังบริการ มีรถรับส่งถึงทางขึ้นอีกด้วย การเดินทางไปบนยอดเขา จะมี 2 ช่วงคือ ขาไป และขากลับ จะต้องต่อรถถึง 4 เที่ยว คือ รถขึ้นเขา 2 เที่ยว และขากลับ 2 เที่ยว จะต้องซื้อคูปองในราคาเที่ยวละ 50 บาท รถที่ใช้คือ รถกะบะต่อคอกและเบาะนั่ง น่าจะบรรทุกได้เกือบ 10 คน ได้ และ ขอบอกว่าการนั่งรถขึ้นเขาในครั้งนี้ต้องมีกำลังแขนที่แข็งแรงเพื่อยึดเกาะ และหวาดเสียวสุดๆกับการนั่งในพิกัด 45 องศา ใครอยากจะงัดกล้องขึ้นมาถ่ายก็อย่าดีกว่าเพื่อความปลอดภัย ระหว่างทางนั้นก็ตื่นเต้นดีโดยเฉพาะเวลาที่รถเปลี่ยนเลน จากปกติขับซ้ายไปขวามา บางทีอาจจะโยกขวาไปซ้าย ข้ามเลนซะงั้น แต่เมื่อมีรถสวนกัน ลงเขามาก็แทบตกใจ แต่คนขับรถเข้ารู้กันแต่เรา โอยจะเป็นลมใครไม่ชินก็ หลับตาซะ
หากใครจะไปขอแนะนำว่าไปในช่วงเวลา 15.30 – 18.00 น. ก็จะดีเพราะไม่ร้อน และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบๆได้ และช่วงตะวันตกดินก็จะสวยมากและอากาศเย็นสบายดี ส่วนปี 53 ขึ้น 19.00 น ลง 21.00 น ระหว่างนั้นจะมีรถผู้แสวงบุญมากันเรื่อยๆ จริงๆขึ้นช่วงค่ำก็ดีเหมือนกันไม่ต้องฝ่าผู้คนและอากาศเย็นสบายดีด้วย
ปี 53 นี้เตรียมตัวมาอย่างดีทั้งแรงกายและแรงใจ ดื่มยา ชูกำลังก่อนขึ้นแม้ระยะทางแค่ 3 กม. กว่า เตรียมเสื้อผ้ายืด ใส่สบายๆ กางเกงสบายๆรองเท้าผ้าใบ เกาะพื้นอย่างดี เพราะปีที่แล้วไปเจอฝนตกก่อนหน้านั้น ทางลื่นเลอะดินไปหมด แต่ 2 ปีที่ผ่านมา เสียดายไม่เคยได้ไปด่านผ้าแดงเลย ปีหน้าขอแก้ตัวใหม่ค่ะ

ปี 2552

ช่วงเวลา 15.30 - 18.00 น.

ปี 2553

ช่วงเวลา 19.30 - 22.30 น.

เจอหมอก ตลอดทาง

ภายในวัดเขาสุกิม มีหุ่นขี้ผึ้งเกจิอาจารย์ ชื่อดัง หลาย ๆ ท่าน

อ่าวคุ้งกะเบน

เป็นป่าชายเลนที่มีความสมบูรณ์และสวยงาม มีพันธ์สัตว์น้ำและพันธ์ไม้ป่าชายเลนมากกว่า 30 ชนิด

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

ป่าชายเลน

หาดเจ้าหลาว

หาอาหารทะเลอร่อยๆ กิน

อนาสนาวิหารพระนางมารีอาปฎิสนธิ

วัดโรมันคาทอลิก เป็นสถาปัตยกรรมตะวันตกแบบโกธิก ภายในตกแต่งด้วยกระจกสี มีประวัติยาวนานถึง 299 ปี

ประวัติ

ชุมชนคาทอลิกจันทบุรี ถือกำเนิดจากกลุ่มคาทอลิกชาว ญวน 130 คนซึ่องอพยพหนีภัยจาการเบียดเบียนศาสนาในประเทศเวียดนาม มาตั้งภูมิลำเนาที่จันทบุรี ก่อนปี พ.ศ. 2254 ปลายรัชกาลสมเด็จพระเจ้าท้ายสระ สมัยกรุงศรีอยุธยา พระสังฆราชบีออง เดอ ซีเซ ได้มอบหมายให้บาทหลวงเฮิ้ต เป็นผู้ดูแลกลุ่มคริสต์ชนนี้

แม่พระประดับด้วยพลอยแท้ของเมืองจันทบุรี

พิเศกแม่พระประดับพลอย เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2552 นี่เอง

ฝั่งตรงด้านหน้าโบสถ์จะมีสะพานข้ามไปยัง

ชุมชนตลาดริมน้ำจันทบูร

ชุมชนตลาดริมน้ำ จันทบูรได้อนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิต รวมศาสนา 2 ศาสนา ที่สำคัญคือ ศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ มีทั้งชาว ไทย ณวน และจีน ปะปนอยู่รวมกัน หากได้เดินชมรอบๆชุมชนจะพบเห็นศิลปะ ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศส จีน ไทย ผสมผสานกัน ซึ่งแต่ละบ้านจะออกแบบลวดลายต่างกัน เช่น ระบายชายคาไม้ฉลุแบบขนมปังปิ้ง ช่องลม ฉลุลายไม้ เถาดอกไม้ ราวระเบียงเห,กหล่อลวดลายสวยงาม ลูกกรงหน้าต่างบางบ้านฉลุลายจีน เป็นต้น

หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

//www.chanthaboonriver.com

เดินไปจนสุดตลาดน้ำ หากจะย้อนกลับไปยังโบสถ์ก็ถือว่า ระยะทางไกลพอสมควรเลยตัดสินใจเดินเที่ยวกันต่อที่

ศาลากลางเก่า กับสมเด็จพ่อ ร. ๕

ได้ชมความงามแค่เพียงด้านนอกไม่ทราบว่าเปิดให้ชมด้านในหรือป่าว หากใครสนใจก็ลองถามคนขายดอกไม้ ธูปเทียน ตรงนี้ได้เลย ส่วนด้านตรงข้ามจะเห็น ศาลหลักเมือง และศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินก็เดินข้ามถนนไปได้เลยไม่ไกลกันนัก

ศาลหลักเมือง

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน

ภายในประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีให้ความเคารพนับถือ

เดินมาจนหมดแรงจะเดินกลับก็ไม่ไหวซะแล้ว มองไปเห็นมอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงศาลาพักผู้โดยสารพอดีกับมีรถสองแถวรับจ้างแถวนั้นโบกมือเรียก คงมองเห็นว่าเป็นนักท่องเที่ยว เลยเหมาให้ไปส่งที่โบสถ์คริสต์จักร เสียเลยด้วยสสนนราคา 40 บาท นั่งรถเมลล์เที่ยวก็ได้บรรยากาศดีเหมือนกันนะ

จากนั้นก็ไปที่รถเดินทางต่อไปยังวัดวัดมังกรบุปผาราม ออกจากโบสถ์เลี้ยวขวากับไปทางสามแยกเลี้ยวขวาไปถนนเส้น ( 3347 )จ.ตราด ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10 กม กว่าได้ จะเป็นวัดมังกรบุปผาราม อยู่ติดริมถนน ใกล้ๆกับทางเข้า น้ำตกพลิ้ว

วัดมังกรบุปผาราม

ไปในช่วงเทศกาลกิจเจพอดีขอไหว้พระวัดจีนเสียหน่อย (10/10/2010)

จากนั้นก็เดินทางกลับกันเลยไม่ได้แวะน้ำตกพลิ้วเลยค่ะเพราะเห็นเมฆฝนก่อตัวมาแต่ไกล

รวมทั้งเคยมาเมื่อ 6 ปี ก่อนก็เลยขอผ่าน

มาเที่ยวครั้งนี้ก็ถือว่าคุ้มเพราะไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนว่าจะไปที่ไหนบ้างแต่ยังไรเสียก็ขอขอบคุณชาวจันทบุรี ที่ได้ให้ข้อมูลท่องเที่ยวเมืองจันทบุรี ชาวตลาดริมน้ำ มา ณ ที่นี้ ด้วย ค่ะ ประทับใจจริงๆ

ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายสถานที่ เช่น น้ำตกพลิ้ว , ศูนย์อัญมณีและเครื่องประดับ (สถานที่จำหน่ายสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่มีคุณภาพของประเทศ) , น้ำตกเขาสอยดาว , หาดแหลมสิงห์ , โอเอซีส ซีเวิร์ล , ตลาดชายแดนไทย กัมพูชา , โป่งน้ำร้อน , หาดคุ้งวิมาน-อ่าวคุ้งกระเบน-ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ –หาดเจ้าหลาว ,วัดสวนแก้ว (เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี ภายในพิพิธภัณฑ์แสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ในแบบสามัญชน) } อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสิน มหาราช-ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ปล เส้นทางการเดินทาง

จาก กทม สายถนนสุขุมิวท (3) - ระยอง - จันทบุรี
หรือ
สระบุรี – หินกอง – บ้านนา สามแยก เลี้ยวขวาไป เจอถนนเส้น อ.องครักษ์ – รังสิต เจอสามแยกเลี้ยวซ้ายไป อ.องครักษ์ ไป อ.บางน้ำเปรี้ยว จนถึง เข้าเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านตลาด 100 ปี บ้านใหม่ หรือวัดจีนประชาสโมสร เจอสี่แยกให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง เจอ สี่แยกห้างตะวันออกคอมเพล็ก ให้ตรงไป อ.พนัสนิคม ไม่กี่ กม ก็เจอสี่แยกแรกให้เลี้ยวซ้ายเพื่อลัดไปถนนเส้น 331 กบินทร์ – สัตหีบ - พัทยา - ชลบุรี จากนั้นขับไปเรื่อย ผ่านไป 2 – 3 แยกเล็กแต่เมื่อถึงสี่แยก อ.วังจันทร์ ให้สังเกตมีสะพานข้ามแยกตัดถนนสายนี้ให้เลี้ยวซ้าย (จะมีทางเบี้ยงก่อนถึงแยก) ไป อ.หนองใหญ่ ไป อ.แกลง จ.ระยอง ถึง สามแยก อ.แกลง ให้เลี้ยวซ้ายไปเส้นจันทบุรี (3) จนสุดสาย เจอสามแยกเลี้ยวขวาไป จันทบุรี หากจะไป อาสนาวิหาร ก็จะเจอสามแยกแรกเลี้ยวเข้า อ.เมือง ประมาณไม่ถึง 5 กม จะเห็นยอดโบสถ์ และป้ายบอกทางเข้าชัดเจน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปไม่ถึง 200 เมตร เจอ โบสถ์

สุดท้ายขากลับ ก็เจอพายุฝนจนได้