Bloggang.com : begine : เที่ยวสวนผึ้ง ( รอบที่ 2 )

เที่ยวสวนผึ้ง ( รอบที่ 2 )

ทริปนี้เพิ่งไปเมื่อต้นเดือนค่ะ หนีฝน ไปภาคตะวันตกกันดีกว่า

ถัดจากครั้งที่แล้วผ่านมา 1 ปี สวนผึ้งมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากขึ้นเลย เช่น รีสอร์ท สวยๆ ขึ้น หลายแห่ง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวที่เราเคยไปมาแล้วก็มีการเลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ชวนให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ หลงเสน่ห์ มาอีกครั้งจนได้

เริ่มต้นด้วยเส้นทาง ผ่านนครปฐม เข้าตัวเมือง ราชบุรี ครั้งที่แล้วเราเข้าแยกแรกที่ไป ทางอ.จอมบึงแต่ครั้งนี้เราขอสั่งตรงไปสวนผึ้งเลย

เส้นทาง จากแยกที่ 2 ให้เลี้ยวขวา ซึ่งแยกนี้สังเกตุให้ด จะมีโอ่ง เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ค่ะ

จากแยกนี้ห่างจากสวนผึ้งประมาณ 48 กม ได้

จุดแรกที่ขอแวะพักรถคือ ร้านกาแฟ coffee me

ร้านนี้จะตั้งอยู่ห่างจากอำเภอสวนผึ้งประมาณ 2 กม ครั้งที่แล้วเราหาไม่เจอ แต่ครั้งนี้ไม่ยอมพลาด เพราะว่าเส้นทางนี้ จะไปทาง อ.บ้านคา ถ้าคุณเจอจุดวงเวียน ดูจะทำให้เวียนวน ถ้ามาจากถนน เส้น อ.เมือง มา อ.สวนผึ้ง เจอวงเวียน 5-6 แยก เนี่ยก็ให้ไปเส้นแยกแรก ขัยมาไม่เกิน 10 กม ก็จะเห้น ป้ายร้านติดกับ รีสอร์ท เดือนล้อม

แต่วันนี้เป็นวันอังคาร ร้านปิด ซะ

เอากระป๋องนมทาสี หวาน ๆ ตกแต่งได้น่ารักดี

จากนั้นก็กลับเส้นทางเดิมไปเจอวงเวียน ตรงนี้ระวัง งง และหลง นะคะ ดูป้ายๆ ดี ต้องไปทางสวนผึ้ง

จากตรงนี้ไม่กี่ร้อยเมตรก็เจอถนนอีกเส้นนึงให้เลี้ยวซ้าย ไป อ.สวนผึ้ง จำแยกตรงนี้ไว้นะ ขวากลับจะได้ไม่เลย แยกนี้กลับตัวเมืองราชบุรี

จากนั้นจุดต่อไปที่เรา ขอแวะเก็บภาพ อย่างไม่ควรพลาด

หนนี้มีการปรับปรุงอีกแล้ว หลักกิโลเมตรยักษ์หน้า โรงพยาบาล สวนผึ้ง ปีก่อน ก็สวยอยู่แล้วปีนี้สวยกว่าเดิมอีกค่ะ

ตัวหนังสือจากสีขาวเป็นสีแดง พื้นปูทางเดินอย่างดี ทำเพื่อให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูป สะดวก

รูปนี้ถ่ายจากฝั่งตรงข้าม

แล้วก็ไม่ลืมข้ามอีกฝั่งถนน คือ รังผึ้งขนาดใหญ่

สัญลักษณ์ ประจำอำเภอเขาล่ะ

จุดต่อไป คือ บ้ามหอมเทียน

ตามเส้นทางเดิม ณ ตรงนี้ เมื่อก่อน เข้าฟรี นะ แต่ตอนนี้ทางบ้านหอมเทียนเข้าปรับปรุง กว้างขวางขึ้นเยอะ

รวมทั้งเสียค่าเข้า คนละ 25 บาท นำคูปองไปแลกซื้อสินค้าด้สนในได้

สวยขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย

ทางเข้าจำหน่ายคูปอง จะมีพนักงานขายคูปองอยู่ด้านหน้า

มีหลายมุมมากๆๆ ถ่ายรูปสวย ๆ

ของฝาก ของที่ระลึก

ต้องไปพิสูตร กันเอง ว่าสวยงามมากแค่ไหน

กว้างขวางขึ้น

เดินขึ้นไปบ้านบน จะมีที่สอนทำเทียน ค่ะ

ออกจากบ้านหอมเทียน ก็ไปต่กันที่ the scenery resort ไปเลี้ยงแกะกัน

ตรงนี้ก็เปลี่ยนแปลงด้านที่จอดมาอยู่ด้านหน้า สะดวกขึ้นกว้างขวางขึ้น ย้ายคอกแะไปด้านใน และมีสวนสนุก ให้ด้วย

ค่าเข้าราคาเดิม 40 บาท

รอบนี้ไม่ค่อยโดนรุมเท่าไหร่ รู้สึกแกะอ้วนขึ้น ท่าทางจะกินทั้งวัน นักท่องเที่ยวเยอะขึ้น

มุมสวนสนุก มีเกมให้เล่นหลายอย่าง

แต่ต้องซื้อคูปอง

มุมของที่ระลึกเพิ่มขึ้นหลายจุด

มันชื่อ หมารู-ด็อก

จากนั้นท้องเริ่มหิวเลยขอไปหาอะไร ทานก่อน

ว่าแล้วก็มีร้านชื่อดัง ครัวม่อนไข่

ภายในร้านกว้างๆ เก้าอี้ไม้ ทำให้ดูบรรยากาศโล่ง ลมเย็น ๆ วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

รายการอาหาร ลาบไข่ ยำผักกูด ต้มโคล้งปลาคลัง และปลาทับทิมราดยำมะม่วง

หน้าตา ลาบไข่

ปลาทับทิมตัวใหญ่ ๆ รสชาติถูกใจมาก

เห็นว่าเป็น ญ หญิง ตัวเล็กๆ ก็เถอะ คิดหรือว่าจะเหลือ

ข้างๆ ร้าน จะมีร้านขายของที่ระลึก แบบนี้ แล่นฉิว

มีสินค้ามากมายเหมือนกันนะ เช่น

เติมพลังแล้วกลับไปลุยต่อ

ผ่านตรงนี้ขอแวะถ่ายภาพ ไม่ได้แล้ว ที่นี่

ขอเก็บภาพด้านหน้าเหมือนเดิม

ชอบตรงป้ายนี้ละ

ส่วนอื่นๆ ที่เพิ่มมีร้านขายของที่ระลึกทั้งของส่วนรีสอร์ท เอง และด้านหน้ามีเต๊นท์เล็ก ของคนในพื้นที่มาขายตุ๊กตา เยอะแยะ มีแกะ เยอะสุด แทบทุกร้าน ถามแม่ค้าบอกว่าจะขายช่วงเย็น ๆ และจะมีเยอะสุดในวันหยุด เสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์

ผ่าน ตรงนี้เลยขอแวะ หากาแฟ กันเสียหน่อยเพราะ ตั้งแต่เช้าเรายังไม่ได้จิบกาแฟกันเลย

เห็นตรงนี้สวยดี เลยนึกถึงเขาใหญ่

Latoscana

เข้ามาด้านในบรรยากาศดีทีเดียว วิวสวย

จากนั้นก็ไปต่อกันที่ สวนผึ้งรีสอร์ท รีบก่อนที่ฝนกำลังจะมา

จ่ายค่าเข้าแล้วก็เดินเที่ยวยุคมนุษย์หินกันได้เลยแต่อย่าส่งเสียงรบกวนผู้เข้าพักที่รีสอร์ทนะคะ