Bloggang.com : begine : สังขละบุรี เมืองเล็กๆ ที่แสนประทับใจ

สังขละบุรี เมืองเล็กๆ ที่แสนประทับใจ

เพิ่งว่างมีโอกาสได้มาอัพบล็อคเสียที

หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาหลายวันกับวันหยุดยาวที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 28- 29 พฤษภาคม 2553 นี้ก็เลยคิดโปรแกรมด่วนๆ

ไว้ว่าอยากจะไปสังขละบุรีสักครั้งในชีวิตแต่ติดด้วยภาระกิจหลายประการ
นึกขึ้นมาได้ว่าเราตั้งใจจะไปตั้งแต่ต้นพฤษภาคมที่ผ่านมาแต่ก็อด
พอหนนี้ได้หยุดยาวอีกครั้งก็เลยขุดโปรแกรมนี้ขึ้นมาอีกเลยลองชักชวน

เพื่อนกรุ๊ปเดิมๆ โทรปุ๊ปโอเคกันปั๊บเลย
จากนั้นก็ลองโทรหาที่พัก (โทรวันนี้พรุ่งนี้ไปเลย)
โทรไป2 ที่ก็เต็มหมด เอาล่ะความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่
นั่นที่สุดท้ายพอหาได้ที่พักว่างพอดี 2 ห้อง
ก็เลยไปกันเลยแทบเก็บเสื้อผ้าไม่ทัน

ตื่นกันแต่เช้ามืด เก็บเสื้อผ้าเท่าที่เก็บได้ ก็ไปรับเพื่อน งานนี้เราขอเริ่มต้นที่
อ.เมือง จังหวัดสระบุรี หลังจากที่ไปรับเพื่อนร่วมกรุ๊ป ร่วมทริป รวบรวมมา
ได้รวมกัน 4 คน ก็ออกเดินทาง 6.30 น. โดยใช้เส้นทาง สาย อ่างทอง
วิเศษชัยชาญ สุพรรณบุรี อู่ทอง เส้นทาง 324

จากจุดแรกที่แวะพักและทานข้าวเช้าคือ วัดถ้ำเสือ ที่อำเภอท่าม่วง

ทางเข้า ที่ง่ายๆคือ สี่แยกทางเข้าอำเภอท่าม่วงเลยสัก 100 เมตรเจอปั๊ม
น้ำมัน ปตท เลี้ยวเข้าปั๊มแล้วผ่านทะลุไปเจอโลตัสเอ็กเพรส จะเห็นถนนเส้น
ไป วัดถ้ำเสือ เลาะเลียบคลองระบายน้ำจะผ่าน เขื่อนแม่น้ำแม่กลอง จะเห็นเจดีย์ตั้งเด่น บนเขาได้ชัดเลย

10.00 น. หลังจากออกจากวัดถ้ำเสือเราก็มุ่งตรงไป อ.เมือง ผ่านแยกไป อ.ไทรโยค แต่ขอแวะ ที่น้ำตก ไทรโยคน้อยสักนิด เพื่อเติมพลังก่อนเดินทางไกลระยะยาว

มีน้ำตกน้อยไปนิด คนส่วนใหญ่จะมานั่งปูเสื่อ ปิคนิค พักผ่อนมากกว่าเพราะอากาศเย็นดี ต้นไม้เขียวร่มรื่น

ออกจากน้ำตกก็เกือบบ่ายกว่าๆๆ

และอีกจุดที่อยากแวะและเป็นทางผ่านด้วยคือ น้ำตกหินดาดและน้ำพุร้อนหินตาด

ตรงนี้เราขอแวะพักเท้าด้วยการแช่น้ำพุร้อน ห้านาที แรกๆๆก็ร้อนแต่พอผ่านไปสักพักเหมือนเลือดหมุนเวียนดีติดใจเลยขอแช่ต่ออีกสักนิดหายเมื่อยเลย
ค่าเข้าคนละ 10 บาท แต่ถ้าใครอยากนอนแช่น้ำพุร้อนก็คนละ 50 บาท

มองจากสะพานจะเห็นด้านบนเป็นน้ำพุร้อน
ส่วนด้านล่างเป็นน้ำตกที่น้ำพุร้อนไหลผสมรวมกันด้นล่างจะเป็นน้ำเย็น
ถ้าใครได้แช่แล้วจะรู้สึกสบายตัว หายปวดเมื่อยดีค่ะ

ออกจากน้ำตกหินดาดก็เกือบบ่ายสองเราก็ต้องรีบทำเวลาเพราะจากนี้ต่อไปอีกเกือบ 175 กม จะต้องรีบไปให้ถึง อำเภอสังขละบุรีก่อนค่ำเพราะได้มีฝนตั้งท่าจะตกอากาศเริ่มครึ้มๆเราไม่อยากเสี่ยงในการขับรถเพราะทราบว่าทางไปโหดน่าดูน้องๆๆที่ อ.ปายเลยล่ะ

ทั้งชันทั้งโค้งหลุดขอบ

ระหว่างทางก็มีทั้งรถโดยสาร รถทัวร์จาก กทม รถตู้บ้าง
จากเมืองกาญฯ ถึง สังขละ และด่านเจดีย์สามองค์

เส้นทางหวาดเสียวดีแต่ ดูแล้วสบายตา

เพราะข้างทางจะมีต้นสักปลูกตลอดทาง

ป่าสีเขียวสดชื่นดี

เจอแยกสาย 323 ตรงไป อ.ทองผาภูมิ ส่วนขวามือไป อ.สังขละบุรีอีก
160 กว่า กม. ค่ะ

ระหว่างนี้ก็สุดแสนจะโหดเพราะฟ้าเริ่มครึ้ม สลับกับฝนตกมา ปรอยๆ
ตกแล้วก็หยุดแล้วก็ตก แบบนี้มาตลอดทาง

จนมาถึงจุดพักรถ สะพานข้ามแม่น้ำรันตี พอดีฝนเพิ่งหยุดเลยขอแวะพัก
สูดอากาศเสียหน่อย ชมวิวสวยๆงามๆ

ป้ายบอกทางหลังจากนั้นก็เดินทางต่ออีกเกือบ 14 กม สุดท้ายจากจุดนี้
คือวัดผาเสด็จ ขอบอกว่าทางสุดชัน ที่รู้สึกว่าไกลเหลือเกินเพราะเราจะต้องไปถึงวัดวังก์วิเวกการาม ตรงลูกศรที่ชี้นี่แหละค่ะ จากเขาลูกนี้ไปถึงอีกเขาลูกหนึ่งจากจุดนี้จะมองเห็นเจดีย์สีเหลืองอร่ามไกลๆๆ

ที่ลูกศรชี้คือปลายทาง ของวัดวังก์วิเวกการาม ถึงกับข้ามเขาคนละลูกเลย

จากทางเข้าวัดจะเจอแยก ซ้าย และขวา แยกซ้ายคือเจดีย์พุทธคยา ส่วนขวาคือ วัดวังก์วิเวกการาม หรือวัดหลวงพ่ออุตตมะ เราขอเลี้ยวซ้ายก่อนจะผ่านหมู่บ้านชาวมอญ บริเวณเจดีย์จะมีร้านค้าขายของ ของชาวมอญ

วัดวังก์วิเวกการาม
ชาวบ้านเรียกว่าวัดหลวงพ่ออุตตมะ เป็นวัดประจำหมู่บ้านมอญ โดยหลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้สร้างวัดเมื่อ พ.ศ. 2499

ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้มรณภาพแล้วแต่ชาวบ้านได้บรรจุร่างของท่านไว้ที่ปราสาทแห่งนี้

อย่าลืมรับวัตถุมงคล คือ สร้อยลูกประคำ เพื่อให้แคล้วคลาดกับอันตรายใดๆๆ

ตอนแรกว่าจะไปสะพานมอญต่อสักหน่อย
พอไปถึงทางเข้าฝนก็ตกลงมาพอดีเลย (ช่างไม่เป็นใจ)
ก็เลยต้องเข้าตลาด หาอาหารเย็น ก่อนเข้าที่พัก

ที่พักของเราอยู่ตรงใกล้ๆ สะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย

อีกมุมหนึ่งสามารถมองเห็นสะพานมอญได้ไกลๆๆ สังเกตุน้ำลด เหลือน้อยมาก จนเดินข้ามผ่านได้

ถ้าอยากจะได้ที่พักใกล้ๆสะพานมอญคือ สามประสบรีสอร์ท
แต่เต็มเสียก่อนไม่งั้นก็ได้พักใกล้ๆๆเลย ต้องจองล่วงหน้านะคะที่นี่
แต่ดูมุมของเรานี้ไปก่อน
ทางลงสะพานข้างๆ สามประสบรีสอร์ท

ตื่นกันแต่เช้า อากาศดีๆๆ เริ่มต้นที่สะพานมอญหรือสะพาน
ไม้อุตตามานุสรณ์กันก่อนเลย
เพราะเริ่มมองเห็นคนเริ่มไปเดินกันแล้ว

สะพานไม้ ชอบจุดนี้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
สังขละบุรี เมืองเล็กๆ ที่เงียบสงบ จนอยากมาอีกสักครั้ง

ส่วนด้านล่างมีเรือนแพที่พัก ริมน้ำถ้าใครชอบ

สายๆเราจะเห็นชาวมอญ ขนสินค้ามาขายที่ตลาดโดยใช้ศรีษะ
เป็นพวกของพื้นเมืองบ้าง ผัก บ้าง มาขายที่ตลาดเช้า เดินข้ามสะพานมอญมาลักษณะแบบนี้เห็นกันบ่อยๆๆ

อีกหนึ่งมุมมองด้านที่สร้างสะพานใหม่เยื้องๆๆกัน

ทริปนี้เราไม่ได้เช่าเรือเที่ยวโบสถ์กลางน้ำเพราะว่าน้ำลดลงมากๆ

จากนี้อีก 29 กม ไปด่านเจดีย์สามองค์

สินค้าส่วนใหญ่มีไม้ แกะสลัก เครื่องประดับ ทำจากพลอย
ราคาถูกมากๆๆๆๆ นี่ถ้าเอารถบรรทุกมาคงขนไปได้เยอะ
ต้องต่อราคากันบ้างนะ แต่ก็ลดได้ไม่เกิน 10-20 บาท

โปสเตอร์ ดาราของพม่า
ร้านอาหารตามสั่ง นี้ติดๆชายแดนพม่า เลย

ถ้าจะข้ามไปฝั่งพม่าต้องเตรียมเอกสาร สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนรถยนต์ หรือ พ.ร.บ. รถยนต์ ห้ามถ่ายรูป พกกล้อง ฯลฯ เนื่องจากเวลาเหลือน้อยเราเลยไม่ได้ข้ามไป

แวะชมวิวที่เขื่อนเขาแหลม อุทยานแห่งชาติ ที่จุดชมวิว ป้อมปี่
สามรถกลางเต้นท์นอนพักที่ อุทยานได้ ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ก่อน

ก่อนกลับไปทางอำเภอทองผาภูมิขอแวะเขื่อนวชิราลงกรณ์

แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าตอนนี้ปิด ไม่สามารถเข้าไปได้ เลยเลี้ยวรถกลับกันหลายคัน
ได้ชมแค่สวนต้นไม้ด้านหน้าเขื่อนฯแทน

แวะที่สุดท้ายคือ สถานีรถไฟ

ถ้ำกระแซ
อดีตเคยเป็นถ้ำที่พักของเชลยศึก เมื่อครั้งเกิดสงคราม
ภายในถ้ำมีพระพุทธรูป ประดิษฐานอยู่ จากปากถ้ำและรางรถไฟจะมองเห็นน้ำ แม่น้ำแควน้อยด้านหน้า

เราได้จังหวะมีรถไฟมาพอดีเลย

สุดท้ายประทับใจในการเที่ยวครั้งนี้มาก

เพราะไม่เคยขับรถได้ไกลขนาดนี้แถมขึ้นเขาด้วย

คนเดียวสุดๆๆๆระยะทาง เกือบ 940 กม ได้

คิดว่าอาจจะได้กลับมาเที่ยว สังขละบุรีอีกครั้ง

เพราะประทับใจวิถีชีวิต ที่เงียบสงบของชาวบ้านที่นี่ เป็นมิตรดีค่ะ

Create Date : 01 มิถุนายน 2553

Last Update : 13 มิถุนายน 2553 12:08:53 น.

10 comments

Counter : 4047 Pageviews.

ตามมาเที่ยว สังขละบุรีด้วยคนค่ะ น่าไปมากๆๆเลยอ่ะ

เป็นอีก 1 ทริป ที่น่าสนใจ

โดย: kwan_3023

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:7:25:09 น.

ไปด้วยคนนะคะ

โดย: nice day in my life

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:8:19:55 น.

ตามไปเที่ยวสังขละด้วยคนจ้า...

โดย: เช้าวันใหม่กับใจดวงเดิม

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:11:53:43 น.

อยากไปเที่ยวเดินเล่นบนสะพานไม้บ้าง
วิวสวยมากๆ

โดย: pragoong

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:16:54:36 น.

แวะกันหลายที่แต่ขอคัดมาแค่นี้

รูปเกือบพันใบค่ะ

โดย: begine

วันที่: 2 มิถุนายน 2553 เวลา:22:30:28 น.

น้ำแร่น่าแช่มากๆเลยนะคะ...

โดย: noinanai

วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:10:35:00 น.

หนึ่งในที่เที่ยวที่อยากไปจังเลยค่ะ...ไปที่ไรได้แค่พุร้อนเอง...แนะนำคราวหน้าถ้าไปอีกแวะน้ำตกหินดาดด้วยน่ะค่ะสวยมากๆๆเลยค่ะ

โดย: ฟ่องฟ่อง

วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:14:09:51 น.

โอ้โห....สะพานไม้นั่นน้ำแห้งลงไปมาก อย่างน่าตกใจเลยนะคะ jujastar ไปที่นี่มาเมื่อสองปีที่แล้ว น้ำยังเยอะอยู่เลย อากาศก็ไม่ร้อนแบบนี้ด้วย กลัีบไปใหม่อีกรอบเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็เลยไปด่านเจดีย์สามองค์อย่างเดียวเลย ไม่ได้แวะที่สะพานไม้แต่อากาศร้อนนนนนนนนแบบจะบ้าตายเลยอ่ะค่ะ

โดย: Jujastar

วันที่: 3 มิถุนายน 2553 เวลา:14:53:38 น.

ไปช่วงหน้าร้อน น้ำแห้งมากๆๆ

ไปช่วงหน้าน้หลากถ้าจะดี แต่เจอฝนตกนี่สิ

อดเที่ยวเลย

โดย: begine

วันที่: 4 มิถุนายน 2553 เวลา:23:30:26 น.

วิวสวยคุ้มค่ากับการเดินทางค่ะ

โดย: ไอติมถ้วยกรอบ IP: 119.160.218.194 วันที่: 4 มกราคม 2556 เวลา:16:21:47 น.