[บรรยากาศ ที่ท่าน้ำ จังหวัดนนทบุรี ยามค่ำคืน]

 มนต์เสน่ห์ท่าน้ำจังหวัดนนทบุรี (ฝั่งหอนาฬิกา)

ถ้าพูดถึงท่าน้ำ นนท์ ก็อยู่ไม่ไกล จากบ้านผมเท่าไหร่  ประมาณ ไม่เกิน 6-7 กิโล แต่ก็น้อยครั้ง ที่จะมานั่งเล่น หรือมาเดิน  เล่น ในตอนกลางคืนแบบนี้ ไม่ใช่เพราะมีอันตรายอะไรหรอกนะครับ อาจจะเป็นเพราะ อยู่ใกล้ไปหรือปาว เลยมีความคิดที่ว่า มาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ก็ไม่ได้มาสักที 

    ฝั่งที่ผมยืนอยู่นี่ ก็คือ ฝั่งที่อยู่ทางด้านหอนาฬิกา ถ้าข้ามไปฝั่งโน้น ก็เป็นฝั่งบางศรีเมือง ซึ่งบริเวณท่าเรือฝั่งโน้นก็มีของขาย เยอะแยะมากมายเช่นกัน เอาไว้ถ้าข้ามไปฝั่งบางศรีเมืองจะเก็บภาพมาฝากนะครับ

    แต่วันนี้ ขอพูดถึง ของทานบริเวณท่าน้ำนนท์ ฝั่งหอนาฬิกาก่อน ตอนนี้ ก็ประมาณ 2ทุ่มกว่า ละ ผู้คนทยอยกันกลับบ้าน ถ้าเรายืนอยู่ตรงท่าเรือก็จะเห็น เรือข้ามฝาก ซึ่งทยอยรับส่งคนอยู่ครับ....

[ท่าขึ้นเรือ ฝั่งหอนาฬิกา]

   ดูจากในภาพ คนก็ยังเยอะอยู่พอสมควร นะครับ คนที่ทำงานอยู่ฝั่งบางศรีเมือง ก็จะข้ามกลับมาเพื่อกลับบ้านเหมือนกัน หรือ ไม่ก็ข้าม มาหาของทาน แถวฝั่งหอนาฬิกา เด๋วสักพักผมจะพาไปชม ว่ารอบๆ ท่าน้ำนนท์ คึกคัก และ พอมีของทานอะไรบ้าง ในเวลาค่ำคืนแบบนี้ครับ

สมัยก่อน ท่าน้ำนนท์ จะเป็นแหล่ง นักท่องเที่ยว ที่มา เที่ยวชม วัดต่างๆ ทางเรือมากมาย กว่าทุกวันนี้ ปัจจุบันลดน้อยถอยลงไป ผมคิดว่าอาจเป็นเพราะ ความเจริญซึ่งเข้ามา ถนนหนทาง รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำ ก็เกิดขึ้น ทำให้

    นักท่องเที่ยว หันไปใช้บริการทางรถยนต์เป็นส่วนมาก ผมเองมีเพื่อนๆ และคนรู้จักที่ ทำงานเกี่ยวกับ ขับเรือหางยาวและเรือสองตอน อยู่บริเวณท่าน้ำ อยู่หลายท่านเชียวครับ ก็เลยพอจะทราบข้อมูลมาบ้าง .......... 

[โป๊ะ สำหรับเทียบเรือ จังหวัดนนทบุรี]

 ผมหันกลับไปมองด้านขวา ก็เห็น ผู้คน มานั่ง บริเวณโป๊ะ จอดเรือกัน ซึ่งโป๊ะทางด้านนี้ จะไว้สำหรับ จอดเทียบเรือ หางยาวและเรือสองตอน แต่เวลานี้ หมดเวลาของเรือดังกล่าวแล้ว

     ผู้คนก็เลย มานั่งคุยกัน หาอะไรมาทานกัน ใกล้ๆ แม่น้ำ คงเย็นสบายดี กันครับ ดูไปนี่ก็คือ วีถีชีวิตของคนที่ติดแม่น้ำ น่าอิจฉาจริงๆ เพราะได้รับลมเย็นๆ อากาศสดชื่น

 [ภายในศาลา ท่าน้ำ จังหวัดนนทบุรี ฝั่งหอนาฬิกา] 

หลังจากยืนชมวิว ยามค่ำคืนบริเวณท่าเรือ ก็เขยิบเข้าด้านในครับ บริเวณศาลา ท่าเรือ ได้ปรับปรุงใหม่เมื่อไม่นานนี้เอง เปิดไฟสว่างไสว สะอาดทีเดียว ถ้าเป็นช่วงเช้า หรือ

    ช่วงกลางวันๆ บริเวณนี้ ผู้คน จะคึกคักมากเลย เพราะ เป็นทางสัญจร คนข้ามเรือ ไปมา บางท่านก็ เป็นจุดนัดหมาย เพื่อมานั่งคุยกัน ยิ่งช่วงวันหยุด คนก็จะมากเลยทีเดียว

     ถ้าเรามองตรงไปข้างหน้า จะเห็นลานกว้างๆ ที่เป็นพื้นสีออกแดงๆ นั่นแหละครับ บริเวณนั้น เขาปรับปรุงใหม่ ให้คนมา นั่งพักผ่อนหย่อนใจกัน เพราะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ลมพัดเย็นสบาย

     จากภาพมองไปเห็นตึกขาวๆ นั่นคือ สถานีดับเพลิงครับ ซึ่งเป็นสถานีดับเพลิงทางน้ำ  ดูแล้วก็กว้างขวางพอสมควร เหมาะสำหรับมายืนชมวิว รับลมจากแม่น้ำเจ้าพระยากันเลยทีเดียว

**มุน บริเวณด้านนอกศาลา ก็ปลูก เฟื่่องฟ้า ไว้สวยงาม

[ลานกว้าง ท่าเรือ จ.นนทบุรี]

     เราเดินออกมาจากศาลาท่าน้ำ  ซ้าย-ขวา เขาทำเป็นลานกว้างๆ ให้คนมานั่งพักผ่อน ฃมวิว ติดแม่น้ำครับ ก็สวยงามสะอาดตาดี ที่เห็นในรูปเป็นสีเขียวๆ นั่นแสงที่ทางจังหวัด เขาติดไฟ ให้ดูมีสีสัน

     ก็สวยดีนะครับ ส่วนมากคนที่มานั่งพักผ่อนกัน ในยามค่ำคืน บริเวณนี้ ก็น่าจะเป็นคนที่อยู่แถวๆนี้ อาจมีนักท่องเที่ยว ต่างชาติ อยู่บ้าง ที่เปิดที่พักใกล้กับแม่น้ำ และก็ออกมาเดินเล่นกัน....นั่งคุยกัน เพราะทางจังหวัด เขาจัด เก้าอี้ยาว ให้นั่งกัน ครับ

ส่วนท่านที่ ไม่ได้นำรถส่วนตัวมา ส่วนมาก ก็พักอยู่บริเวณนี้ ก็จะมีบริการ รถตุ๊กๆ หรือสามล้อเครื่อง ตลอด24 ชม. กันเลยทีเดียวครับมาถึงนี้ อดคิดไม่ได้ว่า รถสามล้อถีบ ซึ่งเป็นเสน่ห์ ของ จังหวัดนนทบุรี ทำไมถึงไม่ได้จอดบริเวณนี้ น่าเสียดายครับ ที่ความเจริญเข้ามาแทรก วัฒนธรรมเก่า เกือบหมดสิ้น

    ผมเลยไม่ได้ถ่ายภาพสามล้อถีบให้ชมกันครับ แต่ไม่เป็นไรครับ เราเดินต่อไป เพื่อไปดูบรรยากาศ รอบๆ บริเวณ หอนาฬิกากันครับ ตามผมมาอีกครับ เราเดินจากศาลาท่าน้ำลง มาด้านล่าง ก็จะพบ กับป้ายสีแดงๆ....

ทางไปศาลเจ้าแม่ทับทิม ถ้าเดินเข้าไปสัก 50เมตร ก็จะพบกับ ศาลากลางเก่า ซึ่งในซอยนี้ มีของให้ท่าน เลือกรับประทานได้มากมายเลยทีเดียวครับ เดินๆ ไปก็อดใจไม่ไหวเหมือนกัน นะครับ เด๋วแวะทาน ก๊วยเตี๊ยวเย็นตาโฟ ของคุณป้า กันก่อนครับ อร่อยดีนะ เย็นตาโฟ ป้าเขา.. เราเดินออกมา

    จากซอยศาลแจ้าแม่ทับทิมครับ ผ่านหอนาฬิกาไป ก็คือฝั่ง ทางขวา ของนาฬิกานั่นเอง ไปดูกันครับ เขามีอะไรขายอีก ยามค่ำคืน ดูเวลาตอนนี้ ก็ สามทุ่มครึ่งได้แล้ว จะมีอะไรอีกไหม แถวๆ ท่าน้ำนนท์  ..............

สายพันธุ์ ซานต้าโรซ่า (Santa Rosa plum)

ภาพจาก Internet (ประกอบการอธิบาย)

 ร้านแรก ทางฝั่งขวา อยู่หน้าธนาคารกรุงศรี มะม่วงมัน แบบสุกและก็ไม่สุก ปลอกให้เรียบร้อยเลยครับ ถุงละ 30บาท พร้อมน้ำจิ้ม แหมเห็นละก็น้ำลาย สอ เลยผม ต่อไปก็เป็น ผลไม้ต่างๆ ผมมาหยุดตรง ลูกไหน ก็พอจะทราบว่า จริงๆแล้ว ลูกพรุน (Prunes) / ลูกพลัม (Plum) / ลูกไหน ผลไม้ ทั้ง 3 ชนิดนี้คือ  

      ผลไม้ชนิดเดียวกัน เพียงแต่ลูกพรุนคือผลจากการนำลูกพลัมมาตากแห้ง ส่วนลูกไหน ก็เป็นชื่อที่คนจีนเรียกลูกพลัมนั่นเอง  และแล้วก็ซื้อลูกไหน ไปฝากแม่ ซะหน่อย ไม่รุ ว่าแม่ชอบทานหรือปาว ผมเองก็ครั้งแรกครับ

      เดินไป ก็มาเจอ อาหารยอดฮิต ในยามค่ำคืน นึกว่าจะไม่มีซะแล้ว "ลูกชิ้นทอด" ปลาหมึกย่าง และก็ร้าน ทำขนมปังต่างๆ น่าทานเชียว ไม่น่าเชื่อนะครับ ตอนนี้ เกือบ จะสี่ทุ่ม เข้าไปแล้ว

      ยังมีของทาน เยอะขนาดนี้ เราเดินต่อไปอีกหน่อยครับ ก่อนถึงทางแยกที่จะเลี้ยวซ้ายไปสนามบินน้ำ บรรยากาศ .... ก็ยังคึกคักพอสมควร ถึงแม้ว่า จะค่อนข้างดึกแล้วก็ตาม ผมเดินมาเรื่อยๆ ไม่ไกลนัก

ไม่น่าเชื่อ เวลาขณะนี้ ยังมีเสื้อผ้า ขายอีก ถามแม่ค้ากันซะหน่อย สอบถามแม่ค้า และ ก็ขอถ่ายรูป ได้ความว่า พึ่งจะมาขายที่นี่ได้ไม่กี่อาทิตย์เอง ย้ายมาจากอนุสาวรีย์ เนื่องจากการจัดระเบียบ ของรัฐบาล ด้วยความสงสัยก็เลยถาม เพราะปกติ ช่วงเวลานี้จะไม่มีเสื้อผ้าขายแล้ว ก็ได้รับคำตอบ กระจ่างแล้วครับ 

    เดินจนสุด ทาง บริเวณท่าน้ำละครับ มองไปข้างหน้า ก็ไม่มีร้านขายอะไรเท่าไหร่ละครับ ส่วนมากร้านค้าต่างๆ ปิดเรียบร้อยเกือบหมดละ ผมหมายถึง ร้านที่เป็นตึกแถวนะครับ ส่วนอาหารการกิน ก็คงจะมีบ้าง ได้เวลาต้องกลับบ้านแล้วครับ

    ขอสรุปไว้แบบนี้นะครับว่า...ท่าน้ำนนท์เวลาค่ำคืน ก็ยังคง เสน่ห์ มีมนต์ขลัง อยู่ไม่เสื่อมคลาย ถึงแม้ ความเจริญจะเข้ามาทำลายบรรยากาศบ้างก็ตามเถอะแต่ผมคิดว่า เสน่ห์ของท่าน้ำนนท์ อยู่ตรงที่ ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา อากาศ เย็นสบาย ลมพัดตลอด มีอาหารการกิน หลายๆ อย่าง แม้จะดึกดื่นแล้วก็ตาม

    ก็ขอเชิญขวนนะครับ สำหรับท่านที่ อยากจะมาสัมผัสกับบรรยากาศ ลมเย็นๆ สบายๆ ผ่อนคลาย ในค่ำคืน ส่วนท่านที่อยู่ต่างจังหวัดถ้ามีโอกาส มาพักแถวนี้ ก็เรียนเชิญด้วยนะครับ สำหรับวันนี้ ผมต้องขอตัว นำของฝากจากท่าน้ำนนท์ ไปฝากแม่ ก่อนนะครับ

สวัสดีครับ.........แล้วพบกันที่ ท่าน้ำนนท์