แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2549
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
19 พฤศจิกายน 2549
 
All Blogs
 

ไปเที่ยวนาริตะกัน มามะมามะ...

เด็กที่รอคอยชาติที่แล้วน่ากลัวจะเกิดเป็นอังศุมาลิน ไปทำกับโกโบริเอาไว้มากจนนรกชังฤาสวรรค์แกล้ง … ชาตินี้เลยเป็นเวรเป็นกรรมกับไอ้เจ้านาริตะนี่ไม่รู้จักจบจักสิ้น


งวดที่แล้วมา ก้อติดพายุ ต้องเปลี่ยนแผนการเดินทางกลางอากาศ(จริงๆ) โดนจองจำอยู่ในนาริตะ อดกลับตามกำหนด


งวดนี้กำลังนอนอยู่ดีๆก้อโดนแจ้ง ... เด็กที่รอคอยเอ๋ย เจ้าจะรีบกลับบ้านไปไยมี จงไปฮ่องกงต่อเสียวันนึงแล้วค่อยย้อนกลับมาที่นี่ใหม่ข้าจึงจะยอมให้เจ้ากลับบางกอกนะ ... เหอ เหอ เหอ..... .... เอ่อ เวรจริง สั่งให้ไปไหนก้อไปให้ทั้งนั้นแหละ แต่อย่าสั่งแบบกระทันหันปัจจุบันทันด่วนยังกับเป็นยักษ์ในตะเกียงอะลาดินยังงี้สิฟระ ตรูเอาเสื้อผ้ากะเครื่องแบบมาแค่ชุดเดียวเองนะเฟ้ย!!


ที่แย่ยิ่งกว่านั้น ...

เงิน ก้อเอามากะติ๊ดนึง เครดิตการ์ดเกิดมาไม่เคยพก
ของกิน ก้อเอามาแค่พออยู่ 27ช.ม ... ยาที่หมอสั่งให้กินให้ครบ ... แน่นอน เอามาแค่เท่าที่จะกินน่ะสิ! แล้วนี่แก้วหูตรูจะหายอักเสบสนิทมั้ยล่ะวะเนี่ย?!

ชะล่าใจมากไป ... ซวยจริงๆเลยให้ตายเหอะวะ!

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

แต่ในความโชคร้ายนั้น ก้อยังคงมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง เพราะไม่ว่าจะยังไง เด็กที่รอคอยก้อกระเสือกกระสนออกไปวิ่งเล่นข้างนอกจนได้


มีคนในรุ่นมาชวนไปเที่ยวในโตเกียวเหมือนกัน แต่เด็กที่รอคอยต้องบอกปัดไปเพราะได้กลายสภาพเป็นบุคคลล้มละลายไปแล้วตั้งกะโดนแจ้งว่าโดนเปลี่ยนกำหนดการเดินทาง ต้องเจียมเนื้อเจียมตัวเป็นพิเศษ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเค้าไปเที่ยวกะใครรึเปล่าเพราะโอกาสแบบนี้นานน๊านนนน มันจะมีสักที ... คิดแล้วก้อเสียดายเหมือนกัน


แล้วเด็กที่รอคอยไปไหน?






ปกติคนไทยมาไฟล์ทเดียวกันเค้ามักจะพยายามเกาะกลุ่มกันไปเที่ยวไหนๆด้วยกัน แต่เด็กที่รอคอยเป็นโดดเดี่ยวผู้น่ารัก โผไปโน่นโผมานี่คนเดียวประจำ (เพราะพอคนอื่นเค้าจับได้ว่าเด็กที่รอคอยบ้า เค้าก้อไม่คบ...) งวดนี้ก้อเลยตัดสินใจไปเที่ยวชมวัดตามลำพัง พอตื่นอาบน้ำแต่งตัวแล้วก้อไปรอรถวนฟรีของทางโรงแรมเพื่อเดินทางไปวัดตามที่ตั้งใจไว้ ตอนนั้นก้อคงประมาณใกล้เที่ยง

... ไอ้ตั้งใจน่ะ ตั้งใจจริงอยู่หรอก ...

แต่พอเอาเข้าให้จริงๆ ... ทำไม๊ ... มันเถลไถลไถเถือกไปเรื่อยเปื่อยก้อหาทราบไม่ (ที่จริงมันก้อเป็นสันดานเด็กที่รอคอยเองนั่นแหละ) ออกจากโรงแรมเที่ยงหน่อยๆ แต่กว่าจะถึงวัดเลยปาเข้าไปบ่ายสามนู่นเพราะเดินหลงทาง


แม้ว่าจะหลงทาง แต่เด็กที่รอคอยก้อยังอุตส่าห์โผล่ออกมาเจอวัดจนได้ ชาวบ้านเค้าคงนั่งรถอีกสายนึงที่เป็นรถวนแต่ว่าเสียตังค์ค่าโดยสาร ... เด็กที่รอคอยเดินมั่ว ไปเจอศูนย์เอื้ออำนวยนักท่องเที่ยว ได้เล่นเน็ตฟรี(อยู่โรงแรมต้องเสียเงิน 100เยน ต่อ 10นาที โฆษณาว่าเป็นบรอดแบนแต่ช้าประดุจเต่าเพิ่งหัดเดิน ) แล้วสุดท้ายเค้าก้อบอกทางเดินไปวัดให้ซึ่งไม่ได้ไกลเลย อยู่ใกล้ๆนี่เอง


ระหว่างทางที่เดินไปก้อมีร้านรวงเต็มไปหมด มีตั้งกะร้านมินิมาร์ท ร้านขายดอกไม้ ร้านขายของถูกทุกอย่าง100เยน(คล้ายร้าน ทุกอย่าง60บาทบ้านเรา) ร้านอาหารตั้งแต่ราคาย่อม ไปจนราคา(โคตร)แพง ผับแบบฝรั่ง ร้านเหล้าธรรมดา ร้านขายของชำ ร้านขายของที่ระลึก ร้านขายขนมหวานแบบพื้นเมือง

























แล้วก้อมีดงที่ขายพวกอาหารขึ้นชื่ออย่างพวกของดองของหมักแล้วก้อข้าวเกรียบ

เด็กที่รอคอยพูดกะคนญี่ปุ่นไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ทำหน้าสนอกสนใจไปขอชิมของเค้ามารองท้อง ... (ตลกบริโภคนั่นเอง) เค้าปิ้งข้าวเกรียบกันสดๆตรงนั้นเลย แล้วก้อซื้อเค้ามาห่อนึง ราคา 105เยน มีอยู่ห้าชิ้น อร่อยดีเหมือนกัน หน้าตาเหมือนข้าวเกรียบในหนังสือการ์ตูนที่พวกแม่บ้านหรือคนแก่ๆนั่งกินกับน้ำชายามบ่าย ... แต่กินหมดไปแล้วลืมถ่ายรูปไว้ แฮ่ะๆ ...


แล้วก้อไปเสียเงินชิมข้าวหน้าหมูทอดที่ทำโดยน้ำมือคนญี่ปุ่น ซึ่งก้อต้องขอบอกว่า รสชาติเหมือนกับร้านประจำที่ไปกินบ่อยๆมื้อกลางวันที่เมืองไทยเลย ยอมรับแล้วล่ะว่าร้านนั้นญี่ปุ่นทำ และรสญี่ปุ๊นญี่ปุ่นจริงๆ





บรรยากาศภายในร้าน เด็กที่รอคอยเป็นลูกค้าเพียงคนเดียวในตอนนั้น เรากินร้านบ้านๆ สบ๊ายสบายฮ่ะ ...


เจ้าของร้านน่ารักมาก พอเห็นเด็กที่รอคอยเมียงมองอยู่นานโข ก้อเดินออกมาต้อนรับด้วยภาษาญี่ปุ่นตามประสา พอตามองตาสายตามาจ้องมองกัน เจ้าของร้านก้อสามารถไอเด็นติฟายได้ว่า ฟาย เอ๊ย! เด็กที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นคนต่างชาติ .... เท่านั้นแหละหล่อนก้อยิ้มให้อย่างสุภาพแล้วผายมือให้ไปอีกทาง

ไม่ได้ไล่ค่ะ ฮ่วย ....

แต่หล่อนให้ไปชี้ให้ดูตรงหน้ากระจกที่มีดิสเพลย์รูปอาหารว่า จะกินไรดีจ๊ะหนู?

เราได้กระทำการสนิทชิดเชื้อด้วยทันที ประโยคอื่นเด็กที่รอคอยอาจไม่สามารถขุดมันกลับขึ้นมาได้ในความทรงจำ แต่เรื่องของกินมักจะไม่ค่อยพลาด แม้จะไม่มีภาษาอังกฤษโผล่มาให้เห็นแต่เด็กที่รอคอยชี้นิ้วไปที่ดิสเพลย์อันที่คุ้นเคยแล้วพูดทันทีว่า “คัตซึด้ง!”

เท่านั้นแหละ เจ้าของร้านก้อยิ้มแฉ่งกว่าเดิม พยักหน้าอย่างอารมณ์แล้วเชิญเข้าไปนั่งข้างในพร้อมนำน้ำชามาเสิร์ฟ


ถ่ายรูปมายืนยัน




คัตซึด้งอันแสนอาหย่อย (และเป็นข้าวมื้อแรกของวันนั้น ... จนจัด ไม่มีตังค์ซื้อข้าวกิน จะเป็นแบบนี้อีกนานมั้ยเนี่ย ... )



ดีใจจังที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่น ... อานิสงส์แรงเลยรอดมาได้ แฮ่!

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@


ทริป นาริตะ ยังไม่จบง่ายๆ โปรดติดตามตอนต่อไปกับการไปบุกวัดของเด็กที่รอคอย รูปเพียบ


ทิ้งท้ายด้วยภาพ ไอติมจากตู้กดอัตโนมัติ เคยกินตอนก่อนนู้นที่พนักงานภาคพื้นดินซื้อมาให้กินตอนตีห้า หิวซ่กลงมาจากเครื่องที่หวุดหวิดจะตกแหล่มิตกแหล่ ... ก้อหย่อยดีเหมือนกันนะ








เลือกรสได้ตามอัธยาศัยจ้ะ แท่งบักเอ้ง ...




 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2549
6 comments
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2549 1:50:45 น.
Counter : 4760 Pageviews.

 

คัทสึด้งงงงงงงงงงง
นั่นเดินหลงทางกี่รอบละนั่น

ไง ข้าวมันไก่เค้าอร่อยมะ

ตอนนั้นว่าอิ๊มอิ่ม บ่ายๆ กลับมาก็หิวอีกแล้วววว

 

โดย: ปป (=p o o k p u i= ) 20 พฤศจิกายน 2549 18:13:37 น.  

 

เอ่อ.... อ้อนกินไรไม่ลงยันค่ำเลยนะพี่ แต่ไก่นั่นเอามาผัดเผ็ดคงอร่อยดีเพราะมันเหนียว ไก่บ้านผัดไม่อร่อยอ่ะเนื้อยุ่ย นิ่ม

 

โดย: เด็กที่รอคอย 21 พฤศจิกายน 2549 23:14:07 น.  

 

ชอบบ้านเก่า ร้านค้าเก่า ชอบๆๆๆ ตอนที่ไปไม่ได้ไปนาริตะแหละ เพราะมันไกลจากตัวเมือง อันที่จริงแล้ว ชอปตูนอยู่แต่ในเมืองจนไม่สามารถโผล่หัวไปไหนต่อได้ นอกจากหมดเวลาแล้ว วิ่งขึ้นเครื่อง เกาะขอบบ๊อกรอดูรูปวัดต่อปายย

 

โดย: froggie IP: 125.24.185.99 23 พฤศจิกายน 2549 8:39:41 น.  

 

อ้อนสบายดีเน่อ...
ภาพถนนหนทางบรรยากาศดีมากจ้า

แต่แล้วก็ลงท้ายที่ของกินนิ

 

โดย: วีวี่ IP: 124.157.188.57 29 พฤศจิกายน 2549 3:15:11 น.  

 

สุขสันต์วันจันทร์ค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการเรียนและการทำงานค่ะ

 

โดย: BeNuTe23 4 ธันวาคม 2549 0:50:20 น.  

 

สวัสดีชาวโลก เราคือชาวต่างดาว

 

โดย: วง IP: 114.128.165.108 11 ธันวาคม 2552 12:55:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เด็กที่รอคอย
Location :
กรุงเทพ Australia

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี


"ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด"


ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก

(จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช)

สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539
ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง
ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ
ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า
โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
Friends' blogs
[Add เด็กที่รอคอย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.