1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
เหตุเกิดที่ร้านเรา...
คืนวันศุกร์ - นรกแตก รับ Take away ไม่ได้ หนึ่งช.ม ครึ่ง เพราะลูกค้าที่ร้านเต็ม พวกสั่งเทคโฮมก้อล้น รับจนรับไม่ได้ต้องประกาศหยุดรับ... มีเก้น แฟนสาวของไอ้เด็กเวลล์นามว่า อดัม เข้ามาปรึกษาปัญหาเรื่องงานกับเด็กที่รอคอย มีใครจำ อดัมได้มั้ย ถ้าไม่ได้จะเท้าความให้ว่า เป็นเด็กที่มีปัญหากับเด็กที่รอคอยจนอยากจะกระทืบมันให้จม teen เลย (และสำหรับ กบ ...เด็กคนนี้คือไอ้เด็กเวลล์ที่ทำให้กบต้องลุกมาคุยกะอ้อนคืนนั้น ) ส่วนมีเก้น เป็นเด็กในร้านซึ่งเริ่มจากงานล้างจานเพราะหล่อนทำอะไรไม่เป็นเลย ... เชื่อมั้ยว่าแค่แม่มาเล่าให้ฟังว่าเด็กคนนี้มาทำงานวันแรก ก้อชะเง้อคอมองพวกเด็กเสิร์พที่ทำงานกันอยู่ด้านนอก แล้วมาขอไปทำด้านนอกกะเค้าบ้าง ไม่อยากทำล้างจานแล้ว .... เด็กที่รอคอยก้อเชื่อว่า เด็กคนนี้มันต้องเป็นคนมีปัญหาเยอะแน่ เริ่มงานด้านนอกได้พักนึง หล่อนก้อมาขอรับออร์เดอร์แทนเป็นเด็กวิ่งส่งอาหาร ... เอ้าได้ เราก้อให้เมนูไปอ่าน ย้ำว่าให้อ่านเพราะไอ้เปรียบจากการเป็นเด็กวิ่งเพราะจะได้เห็นหน้าตาอาหารได้รู้ว่ามันเป็นยังไงก้อจริง แต่หลายอย่างที่แจกถามแล้วเราต้องตอบให้ได้ก้อควรรู้ ...รับปากอย่างดี เลยถามคำถามที่แขกมักจะถามบ่อยๆ อย่างเช่นว่าน้ำจิ้มทอดมันเป็นยังไง ตอบไม่ได้........ ทั้งๆที่เสิร์พประจำ เอ้าไม่เป็นไร เด็กที่รอคอยใจเย็น ก้อถามๆคำถามยอดฮิตไป (ตอบไม่ได้ซักคำถาม) แต่ก้อให้เทคออร์เดอร์สองสามโต๊ะโดยมีคนตามประกบก้อพอจะรอดมาได้ ก่อนกลับ ให้ไปอ่านเมนูมาเพิ่มนะ เพราะวันนี้ตอบอะไรไม่ได้เลย รับคำ งวดต่อมา ก้อไม่ถามเค้า ให้ไปฝึกเทคออร์เดอร์โดยมีคนประกบอีก ลองดูสองสามโต๊ะพอยุ่งๆแล้วก้อให้กลับไปวิ่งส่งอาหารเหมือนเดิม ก่อนกลับย้ำให้ไปอ่านเมนูเพิ่ม รับคำ รอบล่าสุด ให้รับออร์เดอร์โดยไม่มีคนประกบ ....ไอ้ ...ไอ้.... ไอ้...... ha เอ๊ยยยย!!! ลูกค้าถามคำถามเดียวกับที่เคยถามเลย แต่เดินกลับมาถามเราที่กำลังเปิดขวดไวน์อยู่สี่ขวด เบียร์อีกสอง "ลูกค้าถามว่าข้าวผัดมีแบบไหนบ้าง?" จากที่กำลังเปิดไวน์อย่างเมามันส์(หน้ามืด) เด็กที่รอคอยหยุดกึกพร้อมเบี่ยงหน้าไปทาง มีเก้น ราว 35องศาพร้อมด้วยสายตาที่พร้อมจะแผดเผา แต่น้ำเสียงเบาทว่าแฝงไว้ด้วยความอำมหิตที่ปราศจากคำพูดร้ายแรงใดๆ ว่า..."What did you just say...?" .... ไอ้น้อง ก. ไวพอตัว (อยู่ข้างๆกำลังเปิดขวดของมันอยู่เหมือนกัน) รีบตอบให้ก่อนจะมีวิสามัญฆาตกรรม "มีข้าวผัดไก่ กับ ข้าวผัดกุ้ง!" เห็นมันทำหน้าหยองๆ แบบเนี้ย>>> ถ้าน้อง ก. ไม่คิดอยากช่วยมีเก้นคงดับสูญจากโลกนี้ไปในคืนนั้น... แต่เมื่อคืนมาแนวใหม่ครับท่านผู้ชม เมื่อคืนหล่อนเดินเข้ามาถามว่า ทำไมเค้าได้ทำงานแค่กะเดียวต่ออาทิตย์เอง เข้าใจว่าแฟนมันเสี้ยมกันมาให้มาพูดแล้วก้อจับอารมณ์เราได้ว่า เรากำลังไม่สบอารมณ์มันเช่นกันเพราะมันเล่นมาสายได้สามอาทิตย์ติดกันโดยไม่มีคำขอโทษ แถมยังลงเวลาว่ามาตรงอีก อะฮ้า! ตอนนี้เด็กที่รอคอยเลยต้องทำตามที่เคยพูดไว้ว่า "วันใดยังพูดเตือนวันนั้นเธอปลอดภัย แต่ถ้าวันไหนฉันไม่คิดพูดขึ้นมาเนี่ย ...ระวังหลังไว้ให้ดี" .... พอถึงตอนนี้อดัมมันคงรู้ล่ะว่าเรากำลังคุกับมันอยู่ เลยเสี้ยมสอนมีเก้น สวยสิ.... เจอกันหน่อย "มีเก้น เมื่อวาน(วันพฤหัสฯ) ฉันโทรเรียกเธอรึเปล่า? เธอบอกเธอไม่ว่างฉันก้อหาคนอื่น กะของเธอมันวันศุกร์อยู่แล้ว ในใบสัญญาตามที่กฏหมายร่างไว้เธอเป็นพนักงานชั่วคราว หมายถึงว่าฉันในฐานะนายจ้างจะเรียกเธอมาทำงานเมื่อไหร่ก้อได้ ถ้าเธอว่างก้อมา เธอไม่ว่างฉันก้อช่วยอะไรไม่ได้ เพราะคนอื่นเค้าก้อมีกะของเค้าอยู่ ความผิดฉันเรอะที่ทำให้เธอได้ทำงานแค่กะเดียว?" ... เงียบไป เหมือนจะโดนไปจนจุก เพราะที่พูดนั่นก้อเป็นความจริงนะ จริงอยู่เราหมั่นไส้แฟนเค้าและก้อไม่ได้เอ็นดูอะไรเค้าเป็นพิเศษ แต่เรื่องเนื้องานมันก้อเป็นอย่างที่พูดจริงๆ ตัวเองทำไม่ได้ แล้วทำไมต้องให้คนอื่นมาคอยหาเวลาเพิ่มให้ในวันอื่น? ถ้าทำงานเก่ง เป็นที่ต้องการจะเป็นอีกเรื่อง แต่นี่ไม่ใช่ เหมือนจะเข้าใจ แต่ก่อนกลับมาถามอีก "ถ้า..shift มันไม่พอให้คนทำงานอย่างทั่วถึง แล้วทำไมต้องประกาศรับสมัครพนักงานใหม่อีกล่ะ?" โอ้โห...!!! ครั้งนี้ฉุนขาดจริงๆค่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยตบหน้าผู้หญิงเลย(เคยแต่ตบผู้ชาย ) ต้องพยาย๊ามมม พยายามข่มใจตัวเองสุดชีวิต ยิ้มพอประมาณแล้วตอบไปอย่างเยือกเย็น"I don't think I have to answer that question.But if you'd really want to know,go ask my father" นั่นแหละ.... จึงเป็นเงียบในที่สุด! ใครจะรู้มั่งว่าภายในใจเด็กที่รอคอยคิดอยากตอบอะไรออกไปบ้าง? ทายถูก มีรางวัลการ์ตูน "ด้วยมนตราแห่งรัก" หรือ "Virgin Blue" ซึ่งครั้งนี้พี่ปุ๋ยเป็นสปอนเซอร์ให้ ตามที่ได้ประกาศไว้ว่า "หามือหนึ่งคงยากแล้วล่ะค่ะ คงต้องหาเอาตามร้านขายการ์ตูนมือสองสภาพโทรมๆ ประมาณนึงจะเอาไหมล่ะคะ ของเราเอง เราไม่ค่อยประทับใจเรื่องนี้เท่าไหร่ ^^ ถ้าอยากได้ ยกให้ฟรีค่ะ แต่ต้องมาเอาเอง แฮ่ " @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ คืนวันเสาร์ - นรกทะลัก แขกล้นหลามร้าน อัดเป้นปลากระป๋อง แถมมีเดินหน้าเศร้าออกไปเพราะไม่ได้จองโต๊ะไว้ล่วงหน้า (บ้าหรือโง่วะ? คืนศุกร์เสาร์ไม่จองไว้ก่อน วิถีคนกล้ามากเลยนะหล่อน!) คราว อดัม บ้าง มาไม่สายครับวันนี้ อะฮ้า! (แต่สามอาทิตย์ที่ผ่านมา เมิงงงงสายตลอดเลยนะ มาแก้ตัววันนี้ก้อสายไปแล้วไอ้เด็กเมื่อวานซืน ) ต่างฝ่ายต่างแยกไปทำงาน ไอ้เราก้อพยายามไม่แสดงออกว่ากำลังเซ็งมันเข้าไส้ ไม่ได้ไปพูดกับใครเรื่องมันเล๊ยเรื่องมัน นอกจากไอ้เจ้าน้อง ก. ซึ่งเป็นแนวหนุนหลังของเด็กที่รอคอย ซึ่งก้อกำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดีแม้ว่าร้านมันยุ่งหน่อยลูกค้าเยอะ อดัม ทำ จนได้ ทำงานมาสองปี ไอ้อาหารชุด Banquet ชุดใหญ่สุดที่รวมขนมกับกาแฟเนี่ย สั่งแล้วสอนแล้วว่า นอกจากกาแฟขาวกาแฟดำ ชา และชาจีน ต้องคิดเงินต่างหาก และขนมก้อต้องไปบอกในครัวก่อนว่าจะมีกี่คนสั่ง(เพราะบางทีก้ออิ่มเกินจะกินยกมาให้แล้วไม่กินก้อเสียของเปล่า) บอกในครัวแล้วเค้าจะบอกให้อีกทีว่า เค้าจัดอะไรไว้ให้เลือกบ้าง อีนี่มันจัดการเองคนเดียว ยกขบวนเจ๊งshipหายวายป่วงหมด! กาแฟคัปปูชิโน่ โกโก้ร้อน ลาเต้ ...แถมยังมีเรื่องขนมอีกว่า เค้าจะต้องได้ไอติมทอดกันคนละก้อน เอ้า!ทำไมไปทำยังงั้นล่ะ ในครัวเค้าก้อไล่ออกมาว่า มันไม่รวมนะ เพราะไม่ได้จัดไว้ให้ .... เค้าก้อเริ่มมึนครับท่านผู้ชม ออกมาเจอเด็กที่รอคอยอีก "กาแฟแบบนี้ต้องคิดเงินเพิ่ม ไม่ใช่ที่จัดไว้ให้" สองดอก ... เห็นทำท่าเก่ง กลับไปเจรจากับลูกค้า แต่ทางนั้นเค้าเจนจัดกว่า (แถมตอแหลอีกด้วย) มันก้อเลยทำให้เค้ายอมรับว่าจะจ่ายไม่ได้ เกิดอาการ "ไปไม่ถูกทิศ" ขึ้นมาทันใด แต่ระหว่างทีอดัมอาการเบลอ ที่ปรึกษา(ตำแหน่งกิตติมศักดิ์ค่ะ ปกติก้อ G.B นี่แหละ)ผู้ซึ่งกำลังคุอย่างเต้มที่เพราะรู้ถึงเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว เดินย่างสามขุมหน้าโหดเสียงดังเข้าไปถามมันว่า "ลูกค้าคนไหนที่ไปพูดด้วย ไหนมาชี้ให้ดูซิ!" แว่บนั้นแหละ ที่เห็นว่าเด็กมันหน้าเสียไปเลย (ปกติพยายามวางมาดเท่ห์ซะเต็มประดา ทั้งที่หน้าตาไม่ค่อยผ่าน อ.ย.) ไอ้น้อง ก. มันก้อมาบอกเหมือนกัน ...พี่ๆ อดัมหน้าเสียไปเลยอ่ะตอนนั้น ... พอบอกให้ว่าคนไหน เด็กที่รอคอยเดินเข้าไปหาที่โต๊ะเลย ถามหา organizer ของโต๊ะนั้นแล้วเรียกคุยเลยว่าขนมไม่รวม ยัง!! ยังจะมีหน้ามาตอแหลว่าเด็กของเราบอกว่าจัดอันนี้ไว้ให้ ที่จริงถ้ามันบอกว่า อดัมเป็นคนบอก อดัมต้องตายคาที่วันนั้นแน่เพราะจะเรียกมาตรงนั้นเลยให้มาพูดกับแขกต่อหน้าเราเลยว่าใครกันแน่ที่ตอแหล แต่เผอิ๊ญ! แขกต่อแหลว่า ไอ้น้อง ก. พูด เด็กที่รอคอยเลยได้ฉะกับแขกว่า ไม่จริง เด็กคนนี้ทำงานกับฉันมาเป็นปี ไมได้ทำBanquet ครั้งแรกในชีวิต ไม่โง่ขนาดไม่จำสิ่งที่สอน (ตอนนั้นอารมณ์มันพาไปน่ะอย่าไปคิดมาก จริงๆแล้วคนเก่งแค่ไหนมันก้อต้องมีพลาดกันมั่งเรื่องใดเรื่องนึง ) เถียงกลับจนแขกมันกลบเกลื่อนว่า ไม่เป็นไรจะจ่ายก้อแล้วกัน แต่เรื่องกาแฟเนี่ยอดัมเป็นคนผิด เด็กที่รอคอยก้อพูดปาวๆตรงนั้นนะว่า เรื่องกาแฟอันนี้ยอมรับว่าผิดที่เด็กชั้นเอง ทำมาสองปี แต่ยังโง่อยู่ ก้อจะทำให้โดยไม่ต้องจ่ายก้อแล้วกัน ... ระหว่างนั้นแขกยังพยายามเถียงเสียงดังด้วยว่า อันนั้นเค้าไม่ผิด แต่เด็กที่รอคอยก้อไม่ยอมแพ้เสียง เสียงเราดังแต่ไม่ตวาด จำได้เลยว่าพูดออกไประหว่างที่เค้ากำลังเถียงว่า "Listen to me!" ..... เป็นอันว่า เรื่องราวจบได้ด้วยการที่แขกคนนั้นมาจ่ายเงินค่าอาหารและขนม แต่กาแฟนั่นเรายกผลประโยชน์ให้ ด้วยความที่เด็กที่รอคอยพยายามอธิบายให้เข้าใจกันโดยถ้วนหน้าทั้งโต๊ะก่อน และเสิร์พเองด้วยอารมณ์และสีหน้าอย่างผู้ให้บริการด้วย(ไม่โหดอย่างตอนออกไปเถียง) ทั้งโต๊ะก้อยังพอจะมีไมตรีให้บ้างเล็กน้อย ส่วนใครที่มันดักดานนัก(มีผู้หญิงวัยดึกอยู่สองสามคนในกลุ่ม) ก้อปล่อยมันไปเหอะ... โกหกตอแหลหน้าด้านๆไม่อายปาก พระเจ้าลงโทษไม่รู้ด้วยนะเว้ย! เกิดอะไรขึ้นกับอดัมหลังจากนั้น? ... เดินสวนกับเด็กที่รอคอย แล้วพูดเบาๆเหมือนเสียไม่ได้ "ฉันน่าจะถามเธอก่อน ขอโทษ..." โอ้โห!~ ที่บ้านไม่ได้สั่งไม่ได้สอนให้รู้จักผิดแล้วก้อยอมรับผิด ต้องขอโทษเค้าอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยนะน้อง ... ถึงบ้านจะแตก ถึงแม่จะปากตลาด ถึงพ่อจะมีเมียใหม่ ถึงโดยส่วนตัวแล้วเมิงงงจะฮาร์ดคอร์เจาะนั่นเจาะนี่ ทำเท่ห์อวดหญิงแต่ไม่มีใครเอา(นอกจากน้องหนูผู้เบาปัญญาผู้นั้น) ... แต่เมิงงงง หัดขอโทษ "นายจ้าง" อย่างรับผิดชอบในความผิดตัวเองมั่งเหอะว๊า!! ได้ยินขอโทษลอยๆแค่นั้นแล้วอยากถีบให้ลอยกระเด็นไปจากประตูหน้าร้านเลย! จากนั้นสถานการณ์เริ่มกลับมาเงียบอีกครั้ง แขกเริ่มจะไปกันหมดตอนห้าทุ่ม พนักงานกลับไปหมดแล้วเหลือเด็กที่รอคอย น้อง ก. และลูกค้าอยู่อีกโต๊ะนึง ก้อเลยให้น้อง ก. นั่งพัก แล้วเราเดินเอาขวดน้ำไปตั้งให้ที่โต๊ะลูกค้า (ร้านนี้ไม่ไล่ลูกค้าค่ะ อยู่กันไปจนปิดนั่นแหละถ้าอยากอยู่ ) ปรากฏว่าเกิดเรียกเด็กที่รอคอยคุยเล็กน้อยแล้วอยากสั่งขนมกิน (ห้าทุ่มกว่าแล้วนา...) แต่ก้อบอกเค้าไปว่าทำให้ได้แค่พวกไอติมเพราะนอกนั้นครัวเค้าเก็บหมดแล้ว เค้าก้อโอเค มีกันสามคน ผู้หญิงฝรั่งหนึ่ง ผู้หญิงสไตล์แขกหนึ่ง แล้วก้อผู้ชายฝรั่งอีกคนแต่ท่าทางไม่ใช่ชายแท้(แต่หน้าตาดีนะฮ๊า) แล้วก้อดันมาถามว่า ถ้าเป็นเรา เราจะเลือกกินขนมอันไหนในเมนู เด็กที่รอคอยก้อตอบยิ้มๆไปว่า เลือกไม่ได้ค่ะเพราะกินแล้วอ้วนทุกอัน ตอนนี้ลดอยู่ ร้องกันทั้งโต๊ะว่า ไม่อ้วน! พี่เกย์หนุ่มหน้ามนก้อพูดอีกว่าฉันไม่ชวนเธอออกเดทหรอกเพราะเธอผอมไป โอ๊ยยยก๊ากกก!! ไม่เชื่อโว้ยยยย!! น้ำหนักตรู ไม่ได้เหมือนสาวกรุงเทพฯน่อ เดินเมืองไทยฉันก้อคือยักษ์ดีๆนี่เอง(แล้วที่ไม่ไปเดทเนี่ย เพราะว่าฉันไม่อ้วน หรือเพราะพี่เป็นเกย์คะพี่ขา?) เล่าให้เค้าฟังคร่าวๆว่าเคยทำแอร์ไลน์ แต่ก้อเคยโดนบอกให้ไปลดน้ำหนักเพราะไม่งั้นจะเดินแล้วทำให้ทางเดินบนเครื่องเกิดการตันขึ้นมา แต่ที่ออกมาก้อไม่ได้เสียใจอะไรเรามันอ้วนด้วย บ้าด้วย เค้าก้อหัวเราะกัน.... แล้วอยู่ดีๆคุณสาวฝรั่งก้อถามขึ้นมาว่า มีแฟนรึยัง เด็กที่รอคอยก้อตอบไปว่า ไม่มี นึกว่าจะจบแค่นั้น ...ที่ไหนได้ สาวฝรั่ง : งั้นจะมีแน่ ไม่เกินหกเดือนนี้ ... ผู้ชายตัวสูงโปร่งผมสีดำหรือน้ำตาลเข้ม เค้าอยู่ไม่ไกลแล้วล่ะแต่เค้ายังไม่เจอเธอ แล้วถ้าเจอ เค้าจะรักเธอมากรักในแบบที่เธอเป็นเธอทุกวันนี้ คนนี้แหละคู่เธอ ............ อะไรหว่า เด็กที่รอคอยคงทำหน้าไม่ต่างจาก emoicon เพื่อนเค้าอีกสองคนเลยพูดขึ้นมาพร้อมๆกันว่า "She knows something that we don't know just by looking at you" อ๋อ.... คงคล้ายหมอดู(เดา?)ชนิดนึง เออ อยู่ดีๆก้อทัก ตกใจหมด แล้วเห็นเค้าจ้องเด็กที่รอคอยเหมือนเพ่งๆอยู่พักนึงอย่างไม่แน่ใจ สาวฝรั่ง : เธอเรียนเกี่ยวกับอะไรมา...Sociology? Psychology? History? ...อะไรกันน่ะ มันสับสนไปหมดแต่มีเกี่ยวกับพวกนี้แน่ๆ คำตอบ = Asian Studies ซึ่งทั้งหมดที่เค้าพูดนั่นน่ะ เป็นวิชาที่เด็กที่รอคอยลงเรียนมาแล้วทั้งนั้น สาวฝรั่ง : เธอกำลังเหนื่อยมากนี่ หน้ายิ้มแต่จริงๆแล้วเศร้าอยู่ข้างใน ... เหนื่อยแบบไม่อยากลืมตาขึ้นมาอีกแล้ว แต่ไม่เป็นไรนะอย่าเพิ่งท้อ อีกหน่อยจะดีขึ้น พลังชีวิตเธอแรงมากแต่พุ่งไปในอนาคตราว 5ปี 10ปีจากนี้ ใจเธอไม่อยู่ตรงนี้เลย ใช้จังหวะชีวิตช้าลงหน่อยสินะตอนนี้น่ะ อยู่กับสิ่งที่มีก่อน ถึงแม้จะห้ามไม่ให้คิดถึงอนาคตไม่ได้แต่เธอก้อช้าลงหน่อยก้อแล้วกัน... เธอมองไปที่ไหนกันนะ เหมือนว่ามันกว้างใหญ่ เหมือนกับว่าจะออกไปไกลๆเวิ้งว้างจนไม่รู้ว่าเธออยากไปไหน ...ทั่วโลกเลยรึเปล่า? คำตอบ = ถูกต้อง(ทั้งหมด) สาวฝรั่ง : แม่เธอ...ไม่ต้องตอบนะ ฉันขอเดา... ฉันว่าแม่เธออยู่ใกล้ๆนี่เอง คำตอบ = กำลังล้างพื้นอยู่ในครัวด้านใน สาวฝรั่ง : เธอไม่เคยอยู่เป็นที่ ตั้งแต่ก่อนจะไปได้งานการบินนั่นแล้วใช่มั้ย คำตอบ = ถูกต้อง เพื่อนเค้าก้อถามเหมือนกันเรื่องแฟนเก่า ว่าเป็นใคร เป็นฝรั่งหรือเปล่า แต่เค้าห้ามไม่ให้เราพูดแล้วบอกเอาเองว่าไม่ใช่ฝรั่ง คนที่เค้ารักมากมาก่อนไม่ใช่ฝรั่ง... อาจจะเป็นคนทางเอเซียด้วยกัน พม่า...หรือว่ามีเชื้อ แต่มีคนที่เคยมาติดพันเค้าเป็นฝรั่งแต่ไม่ใช่คู่กัน คนนั้นไม่ดีพร้อมหรอก แต่เค้าตัดไปแล้ว คำตอบ = ถูกต้อง ...เฮ้ย เดาถูกขนาดนี้ตรูก้อเริ่มกลัวๆแล้วนะ ก้อเลยถามเค้าไปว่า ...แล้วฉันจะได้กลับไปทำงานการบินอีกมั้ยล่ะ ...เค้าก้อว่า คงไม่มั้งยังไม่เห็นเลย (เพราะฉันอ้วนใช่มั้ยยยย!!)แต่ว่าถ้าเรียนต่อนะรุ่งมาก น่าจะเรียนต่อ อย่าเพิ่งคิดเรื่องอนาคตที่ไกลขนาดห้าปีสิบปีให้ตัวเองพักผ่อนบ้าง (ก้อถ้าอยุ่ร้านนี้ หนูจะพักได้ไงล่ะคะ) อยุ่ที่นี่เธอทำเงินได้เยอะมากกว่าที่ทำการบิน แล้วผุ้ชายคนที่ฉันว่าก้อกำลังจะมาพบเธอไม่เกินหกเดือนนี้แหละ เล่าให้ฟังคร่าวๆ ถือเป็นอะไรสนุกๆละกัน เด็กที่รอคอยไม่เชื่อเค้าเท่าไหร่หรอก(ถึงจะเดาถูกก้อเหอะ...แถมยังเดาอีกว่าบ้านอยู่ไม่ไกลที่ทำงาน แล้วก้ออยู่ใกล้มากๆด้วย ฮ่วย!ถูกอีก) มาดูกันก้อแล้วกัน... โถ...ขนาดคนที่เคยบอกรัก รักที่เราเป็นเรา รักที่เราไม่ได้รักเค้า(ในตอนแรก) รักจนขาดไม่ได้ รักจนขอหมั้น อยากแต่งงานมีครอบครัวมีลูกด้วยกัน เค้ายังฆ่าเราทั้งเป็นได้ในพริบตาเดียวด้วยการเปลี่ยนใจไปมีคนอื่น แล้วทำไมเหตุการณ์เดิมๆมันจะเกิดขึ้นอีกไม่ได้ เอาน่า! ไม่มีผู้ชายก้อไม่ถึงตายหรอก แต่ถ้าฉันทำงานอยู่แต่ที่นี่ไม่ได้ออกไปโลกกว้างอย่างนักเดินทางสิ ฉันจะตายเอาขอเวลาให้ฉันได้อยู่เห็นโลกนี้ที่ไม่เคยเห็นเสียหน่อย ก้อพอใจแล้วล่ะ ป.ล. สามคนนั่นไม่ใช่คนในท้องถิ่นนี้ สาวแขกมาจากซานดิเอโก้ หนุ่มเกย์มาจากแคนาดา ส่วนสาวฝรั่งอยู่อีกตำบลซึ่งไม่ใช่ตำบลละแวกบ้านเด็กที่รอคอย
Create Date : 11 ตุลาคม 2548
Last Update : 11 ตุลาคม 2548 3:23:07 น.
21 comments
Counter : 1103 Pageviews.
โดย: vee vee' วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:3:38:28 น.
โดย: Tumble วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:5:36:11 น.
โดย: froggie (Froggie ) วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:10:58:31 น.
โดย: เด็กที่รอคอยเป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหล (เด็กที่รอคอย ) วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:16:26:21 น.
โดย: too IP: 130.88.164.77 วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:17:51:22 น.
โดย: ชมทะเล วันที่: 11 ตุลาคม 2548 เวลา:22:21:49 น.
โดย: เอริ IP: 66.30.97.58 วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:2:25:01 น.
โดย: แค่อ้าปากจะด่าก็กลัวกันหัวหดแล้วมั้งนั่น IP: 61.91.143.83 วันที่: 12 ตุลาคม 2548 เวลา:22:50:23 น.
โดย: froggie IP: 203.188.25.98 วันที่: 13 ตุลาคม 2548 เวลา:10:34:01 น.
โดย: เพราะโลกหมุนเราจึงมาพบกัน IP: 58.8.184.6 วันที่: 17 ตุลาคม 2548 เวลา:0:11:03 น.
โดย: เพราะโลกหมุนเราจึงมาพบกัน IP: 58.8.188.96 วันที่: 18 ตุลาคม 2548 เวลา:22:27:10 น.
โดย: ดีขึ้น IP: 124.120.192.238 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:18:50 น.
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี "ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด" ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก (จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
เรื่องสาวฝรั่งแปลกจังเลยอ่ะค่ะ เรื่องอย่างนี้มีจริงๆ ด้วยเหรอเนี่ย หรือจะเป็นวิธีการดูหมออย่างใดอย่างนึง (ก็ดูดวงมันมีตั้งหลายแบบเนาะ ดูใบไม้ ดีดกีตาร์ทำนายดวง ฯลฯ)