อะกาลิโกสุขุมวิท51 ความสุขที่ไร้กาลเวลา...
ได้หัวขโมยแห่งบารามอสมาอีกสามเล่ม แสนจะดีใจเพราะไม่ต้องซื้อก้อมีคนเอามาให้โดย ก๊บน่อย สาวน้อยน่ารักคล้ายๆเคโระเคโระเคโระปิ...
เล่มแรกก้อไม่ต้องซื้อเพราะกบน้อยให้ เล่ม สองสามสี่ ก้อได้ฟรีอีก โอ้!อะไรมันจะเปรมขนาดนั้น นี่ถ้ากบน้อยเป็นคนเขียน Lord of the ring กับ Harry Potter ด้วย..ชีวิตฉันคงสมบูรณแบบเป็นแน่แท้ (...ไม่ได้งกนะ แค่สมมติเฉยๆ...)
ดีใจมากมายที่ได้เจอกันวันนี้เพราะคนในกลุ่มมีตติ้งการ์ตูนเป็นชนกลุ่มที่ทำให้เรามีความสุขได้โดยอัตโนมัติ เป็นความรู้สึกดีที่พูดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ว่าทำไม เราเข้าอกเข้าใจกันดีและพร้อมจะให้คำปรึกษาการ์ตูนเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างไม่กั๊ก.... แต่มีเรื่องเดียว ที่พวกเราพร้อมจะตีกันตาย
แย่งชิงการ์ตูนเรื่องเดียวและเล่มเดียวกัน...
เพราะนั่นไม่ใช่แค่ที่เค้าขายๆกันโดยทั่วไป ของแบบนี้มันมี sense กันได้เองหากคว่ำหวอดในวงการนี้มานานพอสมควรแล้ว ... มันต้องการ์ตูนประเภทของหายากคล้ายสิ่งมหัศจรรย์ 7 อย่างของโลก อย่าง Orange Road เงี้ย ตอนนี้จะไปหาที่ไหนที่สภาพดีเริ่ดประเสริฐศรีไม่มีบุบสลายและครบทุกเล่ม?
วันนี้พี่ปุ๋ยดันได้ อารามิส83 ไป โอ้โห!! โลกแทบถล่มทลาย! นี่เป็นการ์ตูนที่ฉันเฝ้าเพียรตามหามานานนับ 20 ปี ตกไปอยู่มือพี่แกซะแล้ว ฮือๆๆๆ! แต่กบน้อยได้ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปแล้วโดยการ เอามันไปสะแกนเพื่อความสุขของชาวโลกทุกคนโดยเท่าเทียมกัน สะแกนแล้วพวกเราทุกคนก้อจะได้อ่านกันอย่างทั่วถึงผ่านจอคอมฯนี่แหละ
เอาวะ... สะแกนก้อสะแกน ของมันหาไม่ได้อีกแล้ว ไอ้ที่หามาได้ก้อสภาพ น้องๆกระดาษชำระที่ช้ำชอกมาสุดฤทธิ์แล้วล่ะจะบอกให้!
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
อะกาลิโก สุขุมวิท51 มาเกี่ยวอะไรด้วย? ... เกี่ยวสิ เพราะพวกเรายกพวกไปกินที่นี่กันมา ชื่อร้านมันน่ารักดีนะ ใครได้ยินก้อบอกว่า ...จะไปไหว้คาถาอิติปิโสฯที่ไหนกันเรอะ?
-_-' ไม่...ไม่ใช่ค่ะ คือมันเป็นคอฟฟี่ช็อปง่ะ ... เจ้าของร้านบอกว่า "อะกาลิโก แปลได้ว่า ที่ๆไม่มีกาลเวลา" กบน้อยบอกฉันตอนนั่งอยู่ในรถว่า ไม่มีเวลา...ก้อต้องงานยุ่งสิ?! เออ ก้อถูกอีก แต่วันนี้ที่เราจำต้องไปกินไอ้โกกันก้อเพราะว่า แชงกรีล่าทำปัญหาหนักอกให้กับทุกฝ่าย พี่ปุ๋ยเล่าให้ฟังว่า โทร.ไปจอง ไฮทีบุฟเฟต์ที่แชงฯ กำลังคุยกันถูกคอกับพนักงานและตั้งใจจะสำรองโต๊ะไว้
"ค่า...อยากได้โต๊ะสำหรับห้าคนน่ะค่ะ ไฮทีบุฟเฟท์ค่ะ"
"ได้เลยครับไม่มีปัญหา ช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่พอดีเชียวครับ นับว่าคุณโทร.มาจองได้ถูกเวลามากครับ" พี่ปุ๋ยคิดในใจ อะฮ้า..! มามากกว่าสี่คนได้ลด50% แน่นอนเลย "ช่วงนี้เราจัดโปรโมชั่นไฮที บวกลีลาศครับ!"
ลีลาศ.... ลีลาศ... ลีลาศ...?!
พี่ปุ๋ยได้ยินเสียงตัวเองเอ็คโค่อยู่ภายในหลายต่อหลายหนคล้ายไม่เชื่อหูตัวเอง ... ไหนเค้าบอกกันว่า เสาร์-อาทิตย์ไม่มีลีลาศ แล้วไหงอยู่ดีๆมันจะดันมามีโปรโมชั่นขึ้นมาฟะ?? "เอ่อ.... งั้น... เดี๋ยวขอปรึกษาเพื่อนๆก่อนนะคะ แล้วจะติดต่อกลับมาอีกทีค่ะ"
พูดจบพี่ปุ๋ยก้อวางสาย แล้วไม่ได้โทรกลับไปอีก เพราะรู้ดีอยู่ในใจว่า พวกเราไม่มีทางได้ไปกินแชงฯเป็นแน่แท้ แม้จะมีตังค์เพื่อกินน้ำชายามบ่าย แต่เราคงไม่สามารถเปลี่ยนใจพนักงานให้ล้มฟลอร์ลีลาศเพื่อเปลี่ยนเป็นฟลอร์รำวงได้แน่นอน จากที่ลงคะแนนโหวตไปกินแชงฯ คะแนน 3-2 เลยกลายเป็นว่า ร้านไอ้โกมาชนะขาดลอยอย่างฟลุ๊คๆในตอนท้ายนี่เอง
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ตู่น้อยขับเลี้ยวเข้าไปหลงอยู่ในซอย 51 อยู่พักนึง น่าแปลกที่สายตาสิบคู่ดูไม่ออกว่า ตู่น้อยน่ะเลี้ยวผิดทางแทนที่จะเลี้ยวต่อซอย 51 ดันเลี้ยวเข้าซอย 49 หน้าตาเฉย เลยได้นั่งดูบ้านเศรษฐีแถวนั้นกันไปพลางๆระหว่างที่ตู่น้อยกลับรถขับวนกลับมา
อะกาลิโก เป็นร้านที่น่านั่งมากๆ ฉันเองก้อชอบบรรยากาศอย่างสุดแสน พูดง่ายๆว่าไปกินบรรยากาศกันเลยล่ะเพราะขนมยังไม่เจ๋งพอที่จะเอามาคุยอวด ดูเหมือนว่า คีชไส้แฮมจะเป็นที่ถูกปากของ พี่ปุ๋ยตู่น้อยและโบ่โบ๊ (ที่จริงเค้าชื่อน้องโบว์นะ เรียกเค้าให้น่ารักขึ้นโดยไม่ขออนุญาตเค้าเลยวุ๊ยตู...)
แอบเปิ้ลคัมเบิ้ลยังไม่เป็นที่น่าพอใจเพราะไม่มีครีมซอสราดมาเลย มันเลยแห้งเกินไป
sconeก้อเนื้อแน่นเป็นเค้กมากไปหน่อย ครีมกับแยมให้น้อย และที่สำคัญครีมเหลวมากแม้จะเป็นครีมกระป๋องสำเร็จรูปที่ไม่ได้เอามาเขย่าเองแบบสตาร์บั๊คส์ ... ขนมเค้กอัลมอนด์คาราเมลอร่อยดี แต่เค้กช๊อคตู่น้อยบอกว่ามันขมไป ...
มีเหมือนแอบเปิ้ลทาร์ตอยู่หนึ่งชิ้นอันนั้นหมดไปโดยลืมให้คะแนน
ส่วนชาพีชและชาวนิลลา คะแนนยังไม่ผ่านค่ะ ไม่รู้ว่าคาปูชิโน่เย็นของพี่ปุ๋ยเป็นยังไงไว้ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีกรอบค่อยลองไปชิมดูอีกที
ข้างนอกเป็นสวนหย่อมที่งดงามสไตล์บาหลี มีต้นไม้ดอกไม้มากมาย มีลั่นลมร่วงสู่พื้นเป็นระยะๆ มองเห็นต้นจามจุรีและต้นไทรย้อยอยู่ไม่ไกล กล้วยไม้นานาพันธุ์ bird of paradise เป็นหย่อมๆ
มีน้ำพุรายล้อมบริเวณ และมีห้องคล้ายศาลาหกเหลี่ยมแต่เป็นห้องกระจกสามารถเปิดแอร์ใช้เป็นห้องมีตติ้งย่อยๆสำหรับสิบคนได้ เครื่องเรือนเป็นพวกเก้าอี้โซฟาผ้าฝ้ายและหวายสีขาว โคมไฟเป็นแชนดาเลียร์ห้อยระย้า
มีกล้องโพลารอยด์แบบเก่ายืนตั้งตระหง่านอยู่หน้าประตูทางเข้า
ปราสาทสีขาวโปร่งคล้ายโมเดลชนิดนึงอยู่อีกมุมของร้านซึ่งทำให้บรรยากาศของร้านดูสวยงามประหลาดตา และต้นเฟิร์นที่ประดับไว้ในร้านก้อทำให้รู้สึกรื่นรมณ์
พวกเราอยู่กันตั้งแต่ประมาณบ่ายสองละมั้ง ... จนกระทั่งห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว พี่ปุ๋ยถึงได้สะกิดๆว่า ...ร้านนี้เค้าปิดหกโมงเย็นนะ พวกเราจึงค่อยขยับก้นเพื่อถอนรากออกจากเก้าอี้เสียที ฉันน่ะหนักกว่าเพื่อนเพราะได้เก้าอี้โซฟายาวแบบนอนลงไปได้เลย เกือบลุกไม่ขึ้นเพราะวันนี้ฝนตกซะด้วย หลังคาและกระจกของร้านก้อทำให้มองเห็นสายฝนที่โปรยปรายลงมา ด้านนอกก้อมีลั่นทมบานสู้กับสายฝนเย็นฉ่ำ
โอ้พระเจ้ายอด... มันจอร์จมากเลยล่ะ...
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
วันนี้โรแมนติคจัง เป็นอะไรเอ่ย?
ฉันคงกำลังคิดอยู่ล่ะมั้งว่า ถ้าหากว่าหลินฮุ่ยมาเมืองไทยได้จริงๆเดือนหน้า และถ้าฉันยังอยู่ ... ฉันอาจจะอยากพาเขามานั่งร้านนี้อย่างสบายอารมณ์อีกครั้ง ไม่ต้องมีคำพูดก้อได้ ขอแค่ได้นั่งอ่านหนังสือด้วยกันเงียบๆอย่างมีความสุขกันทั้งคู่ นั่นก้อเพียงพอแล้วล่ะ
ถ้าหากจะมีวันนั้น และมีฝนตกแบบวันนี้... ก้อคงดีนะ
ราตรีสวัสดิ์ หลินฮุ่ย... :)
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ห่างไกลกันเหลือเกิน สุดฟ้าไกล... อยู่ที่ไหนฉันมองไม่เห็นหน้าเธอเลย ฝากดวงดาวทุกดวง บอกว่าฉันคิดถึงเธอ...อยากจะรู้ได้ยินหรือเปล่า?
อยากให้มาใกล้กันอย่างเหมือนเคย เอ่ยคำว่ารักกัน ได้เห็นแววตา เอื้อมมือไปก้อเจออย่างนั้นทุกเวลา อยู่ตรงหน้าฉันคงไม่เหงา...
หลับตาลงเลยคนดีไม่ต้องกลัว ห่างแค่ไหนดวงใจเราจะพบกัน ภาพความหวานเก่าๆที่เคยมองเห็น คือฉันคนเดิมคนนี้
หลับตาลงเลยคนดีจะไม่เหงา... ที่ไกลจะใกล้เพียงลมหายใจ
หากใจถึงกัน...ขอบฟ้าก้อคงแคบลง
Create Date : 04 เมษายน 2548 |
|
24 comments |
Last Update : 5 เมษายน 2548 16:10:49 น. |
Counter : 1893 Pageviews. |
|
|
|
สอนที ใส่รูปยังไงอ่ะ แง๊ จาลงรูป จาลงรูปง่ะ นี่อุตส่าห์เตาะแตะมาต่อสู้กับการทำบล๊อคได้ด้วยตนเองแล้วนะ