|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
น้ำท่วมผ่านไป
น้ำท่วมพ้นไปหลายเดือนแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คนยังคงอยู่ และอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมที่ผ่านไป อาจไม่รุนแรงเท่าหลายคน แต่ก็ทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนแปลงไม่ใช่น้อย
ช่วงก่อนน้ำท่วม ผมทำงานอยู่ที่โรงงานใหญ่แห่งหนึ่งในสวนอุตสาหกรรมบางกะดี พักอยู่หอพักแถวตลาดรังสิต การใช้ชีวิตทั้งการทำงานและความเป็นอยู่เป็นไปอย่างราบรื่นและมีความสุข แม้ช่วงที่ข่าวน้ำท่วมแพร่สะพัด ชีวิตการทำงานของผมก็ยังคงราบรื่น มีความสุข และมั่นใจว่าน้ำท่วมที่เดินทางมาถึงจะไม่มีผลกระทบอะไรมากมายนัก ในคืนที่น้ำท่วมถึงหัวเข่า วันนั้นผมยังเข้าไปทำงานที่บริษัทและช่วยกันขนข้าวของขึ้นที่สูง โดยมั่นใจว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยกพื้นในพื้นที่การผลิตขึ้นมาสูงจากพื้นประมาณ 2 เมตร กลับมาหอพัก น้ำท่วมถึงหัวเข่าแล้ว แต่ก็ยังไม่คิดว่าน้ำจะขึ้นสูงไปกว่านั้น จนกระทั่งสองวันถัดมา น้ำขึ้นมาจนถึงขาอ่อน จึงต้องย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น
หลังจากน้ันมาน้ำไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย ข่าวไม่ดีจากคนในบริษัทเริ่มแพร่กระจาย โต๊ะทำงานผมจมอยู่ใต้น้ำ เครื่องจักรที่ผมดูแลก็จมน้ำแล้วเช่นกัน อนาคตของบริษัทกำลังกลายเป็นสิ่งไม่ชัดเจน ...
ระหว่างที่รอให้น้ำลดและรอข่าวคราวจากบริษัท ผมกับเพื่อนและน้องอีกคนจึงเดินทางไปเล่นดนตรีต่างจังหวัด แต่เล่นได้ไม่นานนัก ก็กลับมา กทม เพื่อนผมต้องกลับไปทำงาน เพราะว่า กทม ชั้นในน้ำลดแล้ว ส่วนผมก็กลับมาอยู่บ้านรอฟังข่าวคราวและไปเรียนภาษาญ๊่ปุ่นพื้นฐานจนกระทั่งวันเวลาล่วงเลยไปอีกเดือน
น้ำย่านปทุมธานีลดลงไปสักพัก หัวหน้าก็โทรมาแจ้งให้เข้าไปที่บริษัท ไปช่วยกันทำลายเครื่องจักรทั้งหมด เนื่องจากเป็นความลับของบริษัท จึงจำเป็นต้องทำลายทิ้ง ผมเข้าไปทำลายเครื่องจักรด้วยความคิดที่ทั้งสลดใจ และไม่มั่นใจในอนาคตของตัวเองกับบริษัท เพราะข้าวของเสียหายทั้งหมด จนไม่สามารถเริ่มต้นใหม่ที่นี่ได้ แล้วพนักงานล่ะ บริษัทจะทำอย่างไร
วันที่ 25 มกราคม 2555 บริษัทเรียกพนักงานทุกคนเข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงนโยบาย และทิศทางการประกอบกิจการของบริษัท โดยสรุปได้ว่า ทางบริษัทจำเป็นที่จะต้องย้ายการผลิตไปอยู่ ณ จังหวัด สมุทรปราการ โดยสามารถจ้างพนักงานไปทำงาน ณ สถานประกอบการแห่งใหม่ได้ประมาณ 600 คน ส่วนที่เหลืออีกสองพันกว่าคนนั้น ทางบริษัทจะจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย พร้อมทั้งค่าชดเชยตามระยะเวลาการทำงานให้อีกส่วนหนึ่ง โดยที่พนักงานที่จะได้ไปทำงาน ณ สถานประกอบการแห่งใหม่นั้น ทางบริษัทจะเป็นผู้คัดเลือกโดยให้ผู้ที่มีความประสงค์จะย้ายตามไปสมัครเข้าคัดเลือก หากผู้ใด้ไม่ได้รับเลือกทางบริษัทจะจ่ายค่าชดเชยต่างๆ ให้ตามปกติ
ผมลงชื่อสมัครใจไปทำงานต่อกับบริษัท ณ สถานประกอบการแห่งใหม่ แต่สุดท้ายแล้วโควต้าในแผนกของผมนั้นมีที่ไม่พอสำหรับผม ผมจึงกลายเป็นผู้ที่ต้องออกจากงานในที่สุด
การออกจากงานในคราวนี้เป็นการออกจากงานที่มีผู้ร่วมชะตามากมาย เป็นคนส่วนใหญ่ของบริษัท ดังนั้นจึงไม่รู้สึกเหว่ว้าแต่ประการใด แต่รู้สึกใจหายมากกว่า คิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมงานกัน และคิดถึงบรรยากาศของการทำงานด้วยความสุข ได้แต่คิดว่าจะมีที่ไหนที่ทำงานได้มีความสุขขนาดนี้อีกมั้ย และอีกอย่างคือผมก็มีคนที่แอบชอบที่ทำงานอยู่ที่บริษัทด้วย จึงยิ่งใจหายเมื่อคิดว่าต่อจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว สะเทือนใจไม่น้อยเลย
พอขึ้นเดือนกุมภาพันธ์ก็เริ่มหางานใหม่ด้วยใจระทึก เพราะบริษัทหลายแห่งปิดตัว หลายแห่งยังไม่ฟื้น และมีคนที่ต้องออกจากงานมาหางานใหม่กันมากมาย ผมจึงไม่มั่นใจว่าจะหางานได้ภายในเวลาอันรวดเร็วหรือไม่ รองานอยู่ราวๆ หนึ่งเดือน สุดท้ายผมก็ได้งานใหม่จากการแนะนำของรุ่นน้องที่สนิทคนหนึ่ง เป็นการย้ายกลับไปทำงานย่านสมุทรปราการและเริ่มต้นการทำงานในแบบพนักงานบริษัทอีกครั้งหนึ่ง
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้คิดทบทวนใหม่ ผมทำงานอยู่ในบริษัทที่คิดว่าความมั่นคงสูง เพราะเป็นบริษัทใหญ่ระดับโลก เป็นที่รู้จักของทุกๆ คน แต่สุดท้ายแล้วความมั่นคงที่คิดไว้นั้นก็สามารถถูกทำลายได้ด้วยสิ่งที่ไม่คาดคิด ผมจึงต้องเริ่มเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตใหม่ ต้องเริ่มสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของเราด้วยตัวเราเอง เพราะไม่มีใครรู้ได้ว่าเมื่อไรจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้นอีกครั้ง
น้ำท่วมพ้นไปหลายเดือนแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับหลายๆ คนยังคงอยู่ และอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล ...
Create Date : 15 เมษายน 2555 |
|
2 comments |
Last Update : 15 เมษายน 2555 14:44:55 น. |
Counter : 544 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Shirotsuki (Tsukishiro ) 17 เมษายน 2555 11:35:13 น. |
|
|
|
| |
|
|
บางก็ท้อ แต่ไม่เคยถ้อยเลยจริงๆจ้า