งานเกษตรแฟร์มาถึงแล้วค่ะ งานจัดระหว่างวันที่ 26 ม.ค.- 3 ก.พ. 2550 นะคะ สำหรับคนรัก ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง และการช้อปปิ้งก็เชิญได้เลยนะคะ เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ก็เลยจะชวนเพื่อนๆมารู้จักกับไม้ดอกชนิดต่างต่างๆ
มาเริ่มที่ดอกแรกกันเลยนะคะ
<ทิวลิป ดอกไม้สัญลักษณ์ของประเทศฮอลแลนด์ชนิดนี้ ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงพันธุ์จนมีรูปแบบที่หลากหลายทั้งกลีบเดี่ยวกลีบซ้อน รวมถึงมีสีสันสวยงามมากมายหลายเฉดสี แต่ก่อนในบ้านเราก็มีการนำเข้าหัวพันธุ์มาทดลองปลูกในตู้เย็น ขอย้ำว่าตู้เย็นจริงๆค่ะ เพราะเคยปลูกเองกับมือเลย แต่มีปัญหาว่าก้านดอกจะเปราะมากๆ กว่าจะได้ดอกสวยๆมาดู ต้องประคบประหงมแทบแย่ แต่ตอนนี้ถ้าใครอยากชมดอกทิวลิปสวยๆ ลองไปแวะชมได้ที่ดอยผาหม่นนะคะ
ดอกต่อไป
<ว่านสี่ทิศ
ดอกไม้ชนิดนี้เป็นไม้ดอกประเภทหัว ชื่อที่ได้มานี้ก็เนื่องจากช่อดอกหนึ่งมักมี 4 ดอกหันไปรอบๆ ดอกจะออกก็ต่อเมื่อได้รับการกระตุ้นให้สร้างตาดอกเสียก่อนนะคะ ถ้าตามธรรมชาติ ว่านสี่ทิศที่เลี้ยงทิ้งๆขว้างๆในช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อนก็จะไม่มีการรดน้ำหลายๆเดือน ใบของว่านจะเหี่ยวลง ใครหลายคนก็จะนึกว่าตายซะแล้ว ขุดทิ้งกันเป็นการใหญ่ แต่จริงๆแล้วการทิ้งใบของว่านสีทิศเป็นการลดการใช้อาหาร ดังนั้นอาหารจะถูกสะสมไว้ในหัว พอได้รับน้ำฝนก็จะกระตุ้นให้แทงช่อดอกขึ้นมาอวดสวยกันต่อไป ดอกว่านสี่ทิศมีทั้ง สีแดง ส้มแดง ชมพู ขาว ขาวขลิบแดง ฯลฯ ในบ้านเรามักจะเป็นดอกขนาดเล็ก สีส้ม ใช้ในการปลูกประดับสวน แต่ในต่างประเทศมีดอกขนาดใหญ่และมีการนำมาใช้เป็นไม้กระถางประดับในอาคารด้วยนะ
ดอกที่สาม
ไฮยาซิน
เป็นไม้ดอกประเภทหัวอีกชนิดหนึ่งนะคะ สีสันสวยงาม การปลูกไฮยาซินให้ออกดอกสวยงามเนี่ยทำได้ง่าย เพียงแค่ เอาขวดแก้วปากกว้างที่สามารถวางหัวไฮยาซินไว้ได้พอดี (เหมือนเราปลูกหัวหอมกันตอนเด็กๆ อ่ะคะ) จากนั้นก็ใส่น้ำเกลือลงในขวด ให้โคนหัวสัมผัสกับน้ำพอดี ไม่กี่วันหัวไฮยาซิน ก็จะแตกรากออกมาให้ชื่นชม แล้วย้ายลงกระถาง มีเคล็ดลับในการปลูกมาฝากนิดนึงว่า พอปลูกไฮยาซินตามที่ว่าแล้วต้องนำหัวที่ปลูกด้วยวิธีที่บอกไปเก็บไว้ในที่มืดเพราะว่าจะทำให้ช่อดอกไฮยาซินยืดยาวออกมาสวยค่ะ
ดอกที่ 4
<ชบา...
ไม้ดอกธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ถ้าใครไม่รู้จักดอกไม้ชนิดนี้ รับรองได้ว่าคนนั้นต้องอายุไม่เกิน 5 ขวบ แน่นอน เพราะดอกชบานับว่าเป็นดอกไม้ที่มีคุณค่าต่อการศึกษาอย่างยิ่ง สมัยเราเป็นเด็กประถม พอคุณครูสั่งให้นำดอกไม้มาเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เรื่องพืช รับรองได้ว่าร้อยละ 90 เด็กส่วนใหญ่จะนำดอกชบามา เพราะสีก็สวย รูปร่างดอกก็เหมาะแก่การเรียนเป็นอย่างยิ่ง เห็นเป็นดอกสามัญธรรมดาอย่างนี้ ทราบมั้ยค่ะว่า ดอกไม้ชนิดนี้เป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และประเทศ โวโวโว่..เย้ จาไมก้าค่ะ รวมถึง ฮาวายก็ใช้ดอกไม้นี้เป็นดอกไม้ประจำมลรัฐเช่นกัน คนในมาเลเซียจะนำเมือกเหนียวบนดอกมาใช้ขัดรองเทา เลยเรียกว่า shoe flower ความโดดเด่นของดอกไม้ชนิดนี้คงไม่พ้น เกสรตัวผู้ที่เชื่อมติดกันเป็นหลอดยาวหุ้มเกสรตัวเมีย จนนักถ่ายภาพหลายๆท่าน อดใจที่จะเก็บภาพความอ่อนหวานนี้ไม่ไหวกันเลยทีเดียว การปลูกชบานั้นก็ทำได้แสนง่าย โดยการตัดกิ่งที่มีขนาดพอเหมาะมาปักลงในดินที่ร่วนซุย ไม่กี่วันเจ้าชบาต้นน้อยก็จะแตกราก และทรงต้นอยู่ได้
ดอกสุดท้ายสำหรับวันนี้
กล้วยไม้รองเท้านารี (Lady's Slipper)
กล้วยไม้สกุลนี้มีความสวยงามและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ จึงมีการลักลอบนำกล้วยไม้ชนิดนี้ออกจากป่ากันค่อนข้างมาก และเป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง เพระนับวันกล้วยไม้สกุลนี้ก็ยิ่งใกล้สูญพันธุ์มากขึ้นทุกที คนที่ไม่เข้าใจไม่มีจิตสำนึกจะอุดหนุนคนที่นำของป่ามาขาย คนเหล่านั้นก็จะยิ่งไปเอาของป่ามาขายมากขึ้น บางคนอาจจะเถียงว่าไม่ใช่จากป่าไทย แล้ว ไม่เป็นไรหรอก (เพราะว่าของไทยน่ะ หมดไปตั้งนานแล้ว) แม้ว่าจะมาจากลาว หรือพม่า แต่ก็อย่าลืมว่าพืชพันธุ์เหล่านี้ก็ยังเป็นทรัพยากรที่มีค่าต่อคนทั้งโลกอยู่ดี ถ้าคนที่ไม่เข้าใจสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติของกล้วยไม้รองเท้านารี มักจะนำไปปลูกเช่นเดียวกับกล้วยไม้ชนิดอื่นๆ รองเท้านารีที่น่ารักเหล่านี้เลยโบกมือลาตายกันไปเป็นแถบๆ (เคยเห็นมากับตา เอารองเท้านารีไปผูกกับต้นมะม่วงเฉยเลย) กล้วยไม้ชนิดนี้ ในสภาพธรรมชาติจะขึ้นตามพื้นดิน หรือซอกหินที่มีซากใบไม้ผุๆ และค่อนข้างโปร่ง ดินอุดมสม บรูณ์ มีไม่กี่ชนิดที่ขึ้นตามกิ่งไม้เหมือนกล้วยไม้อื่นๆ
(ดังนั้น ควรศึกษาให้ดีก่อน)
เลยได้เล่าถึงกล้วยไม้นิดเดียวของขึ้นไปซะก่อน แย่จัง เดี๋ยวคราวหน้าจะนำดอกไม้ชนิดอื่นๆ พร้อมเกร็ดความรู้มาฝากกันต่อไปนะคะ
Create Date : 27 มกราคม 2550 |
Last Update : 27 มกราคม 2550 1:28:44 น. |
|
8 comments
|
Counter : 1373 Pageviews. |
|