กันยายน 2555

 
 
 
 
 
 
1
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
นวนิยาย..วาดรักกลางตะวัน {บทที่ ๑}

แดดสีทองจางส่องลอดคาคบไม้มายังร่างระหงที่นั่งอยู่บนเครือเถาวัลย์ซึ่งเกี่ยวกระหวัดเป็นเกลียวเชือกทอดตัวลงมาจากไม้เต็งต้นใหญ่เสียดสล้าง

 

ต่ำลงไป หญิงสาวอีกคนนั่งอยู่บนโขดหิน เธอผูกกล่องฝ้ายไว้กับเอว กำลังนั่งสาละวนกับการปั่นด้ายเกี่ยวใยเข้ากับตะขอซึ่งเกาะไว้กับต้นขาพลางฮัมเพลงด้วยภาษาประจำเผ่าอย่างอารมณ์ดี

 

แดดเริ่มลับทิวเขาทางด้านหลัง แสงสีทองเจือจางทอดตัวไกลออกไป เธอทั้งสองจึงพากันลุกขึ้น ก้าวตามทางเดินแคบๆ ซึ่งมีดอกหญ้าต้นสูงทว่าบอบบางเรียงรายอยู่เป็นทิวแถว

 

ดวงตากลมโตของผู้เดินนำหน้าจับจ้องไปยังดอยสูงอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านผากิ่วแล้วคลี่ยิ้มจางๆ

 

“อามิว่าจะหาคอมพิวเตอร์มาให้เด็กๆใช้ละอาลูผะ”

 

“จะไม่ลงทุนสูงไปหน่อยเหรออามิ” คิ้วยาวเรียวของผู้ฟังเลิกขึ้นสูงขณะหันขวับไปมองเพื่อน

 

 

“ยังไงก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงพ่อกาเนหรอกน่า” ผู้ถูกเรียกว่าอามิหันกลับไปมองและยักคิ้ว

 

อาลูผะหยุดเดินเสียดื้อๆ ก่อนเอื้อมไปจับมือเรียวเฉลาของเพื่อนมากุมไว้

 

“พ่อของอามิใจดีจังเลยนะ”

 

“เฮ้อ” มาลินหรือในชื่อพื้นเมืองว่าอามิเบะปากทำท่าเหม็นเบื่อ “พ่อก็ใจดีอยู่หรอก แต่ไม่รู้ว่าทำไมพ่ออยากให้อามิเป็นคนเมืองจัง ถึงได้เลี้ยงดูไม่เหมือนคนอื่นๆในเผ่าเรา”

 

“ลุงกาเนคงจะมีเหตุผลแหละ ทุกคนในเผ่าเราถึงเชื่อถือลุงของอามิมากไง” อาลูผะแก้ต่างให้

 

มาลินสั่นหน้า ไม่เห็นด้วยกับการคาดเดาของเพื่อน หญิงสาวเติบโตขึ้นท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาและเข้าใจมาตลอดว่าตนเองเป็นชนเผ่าอาข่า อีกทั้งภาคภูมิใจในเชื้อสายของตนอยู่เสมอ แม้จะถูกส่งไปเรียนต่อในกรุงเทพฯจนจบมหาวิทยาลัย เธอก็ไม่เคยปกปิดชาติกำเนิดของตนเอง แต่บิดากลับพยายามให้เธอทำตัวเป็นคนเมืองอยู่ตลอดเวลา เปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามให้ใหม่ว่า ‘มาลิน’ ทั้งยังสอนให้รักษามารยาทเหมือนคนกรุงเทพฯ ทำให้มาลินคิดว่าพ่อภาคภูมิใจในความเป็นคนเมืองของแม่มาก จึงต้องการให้ลูกสาวคนเดียวดำเนินรอยตามบ้าง นานวันเข้าเธอก็ยิ่งมั่นใจว่าตนเองคิดไม่ผิดเลยแม้แต่น้อย

 

“ลุงกาเนคงอยากให้อามิมีอนาคตที่ดี เจอผู้ชายดีๆ ไม่ต้องมาทำสวนทำไร่เหมือนคนเผ่าเราละมั้ง” อาลูผะเดา

 

“อยู่แบบนี้อามิก็ไม่ต้องทำสวน คอยรับซื้อของในไร่ไปขาย หรือทำสัมปทานป่าไม้แบบพ่อก็ได้นี่นา” มาลินเถียง

 

“เอาเถอะน่า ผู้ใหญ่ต้องมองการณ์ไกลกว่าเราสิ ลุงกาเนรักอามิมาก ไม่งั้นตอนส่งอามิไปเรียนต่อในกรุงเทพฯคงไม่ลงทุนให้อาลูผะตามไปด้วยหรอก อาลูผะคงไม่มีวันลืมบุญคุณของคุณลุงกาเนได้เลย”

 

ปัง! ปัง!

 

เสียงปืนดังขึ้นกลางป่าลึก หญิงสาวทั้งสองเงียบเสียงลง จ้องหน้ากันอยู่ครู่ใหญ่ มาลินจึงเอ่ยขึ้นก่อน “ใครล่าสัตว์อีกแล้ว”

 

“นั่นสิ หรือจะเป็นลองกา” อาลูผะหมายถึงเพื่อนสนิทของเธอทั้งสองซึ่งเป็นนักล่าสัตว์ตัวยง เนื่องจากชายหนุ่มดำเนินรอยตามหู่ลอง บิดาผู้เป็นพรานป่าและหมอประจำเผ่า

 

“ใครจะล่าสัตว์ก็ช่าง เราไปที่น้ำตกกันเถอะ อยากอาบน้ำเต็มแก่แล้ว” มาลินเปลี่ยนเรื่อง

 

“อ้าว แล้วทำไมอามิไม่กลับไปอาบน้ำที่บ้านล่ะ” เพื่อนท้วง ด้วยรู้ดีว่าลุงกาเนนั้นหวงลูกสาวเพียงใด จึงห้ามมาลินออกไปอาบน้ำที่น้ำตกดังชาวอาข่าคนอื่นๆ ทั้งยังสร้างห้องอาบน้ำอันหรูหราเอาไว้ในบ้านหรือจะเรียกให้ถูกคือคฤหาสน์กลางป่าของเธอกับมารดาอีกด้วย

 

“ไม่ละ วันนี้อามิอยากอาบน้ำที่นี่”

 

“ดื้อจริงๆ”

 

                “ช่วยไม่ได้ ก็อามิไม่เห็นว่าการที่เราดำเนินชีวิตแบบชาวอาข่าจะผิดตรงไหนนี่”

 

                “จ้ะ แม่คนรักถิ่นเกิด งั้นก็รีบไปกันเถอะ ถ้าแดดลับ น้ำคงจะเย็นมากขึ้น หน้าฝนแบบนี้น้ำไม่อุ่นไอดินเหมือนหน้าหนาวนะอามิ”

 

                มาลินยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่เล็กๆเรียงเป็นระเบียบสวย ก่อนเดินแกมวิ่งตามแสงแดดอ่อนลงจากดอยไปด้วยความพึงพอใจ

 

 

สายน้ำอันไหลเรื่อยกระเซ็นเป็นฟองฟู่เมื่อพ้นจากหน้าผาสูงร่วงหล่นลงสู่ชะง่อนหินเบื้องล่าง เสียงน้ำสาดซ่าแทรกเจือด้วยเสียงกรีดปีกของแมลงฟังดูคล้ายมโหรีซึ่งบรรเลงด้วยฝีมือแห่งธรรมชาติ นานๆทีจะมีเสียงหัวเราะสดใสประสานกันคิกคักดังขึ้นจากสองสาวผู้กำลังเริงร่าอยู่ท่ามกลางสายน้ำ

 

                “ใกล้ค่ำแล้ว กลับกันหรือยังอามิ” อาลูผะชวนเมื่อเห็นว่าดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมเขาไปนานแล้ว

 

                “กำลังสนุกเลยอาลูผะ” มาลินค้านอย่างเอาแต่ใจ พลางวักน้ำใส่เพื่อนจ้าละหวั่น

 

                อาลูผะทำตาม แล้วจึงว่ายหนีกลับขึ้นฝั่ง มาลินหัวเราะคิกคักก่อนจะชะงักเมื่อเห็นต้นจำปีป่าไม่ไกลจากที่อาลูผะกำลังแต่งตัวสั่นไหวราวกับมีใครมาเขย่า ดวงตากลมโตจดจ้องอย่างระมัดระวังยามที่เห็นร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงสีดำ สะพายกระเป๋าเป้ใบใหญ่เซถลามาปะทะต้นประดู่โดยแรงจนฟ้ามุ่ยช่อโตบนคาคบสั่นสะเทือน

 

                มาลินใช้สองมือโอบร่างกลมกลึงของตนแน่น ราวกับมือน้อยจะสามารถอำพรางเรือนร่างเปล่าเปลือยเอาไว้ได้ ยิ่งยามที่ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหันมา สายตาคมปลาบคู่นั้นยิ่งทำให้หนาวเยือกเข้าไปในอก ทว่าเมื่อหญิงสาวกวาดตามองทั่วร่างของเขากลับพบว่า บริเวณไหล่ซ้ายของชายหนุ่มเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด

 

อา…เพราะเสียงปืนเมื่อครู่นั่นเอง




Create Date : 02 กันยายน 2555
Last Update : 2 กันยายน 2555 6:52:00 น.
Counter : 1319 Pageviews.

5 comments
  
เขียนได้น่าสนใจดีค่ะ พระเอกกับนางเอกพบกันแล้วด้วยบุพเพฯ ฮิฮิ ขอแนะนำสักนิดได้ไหมคะว่าไม่ควรใช้พิ้นสีดำ เพราะอ่านลำบาก และเวลา comment เขียนไปก็ไม่เห็นตัวอักษรเลย ติเพื่อก่อ หวังว่าคงไม่โกรธนะคะ จะติดตามอ่านต่อไปค่ะ
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 2 กันยายน 2555 เวลา:19:42:44 น.
  
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ พอดีเพื่อนทำบล็อกให้น่ะค่ะ ตัวเองเขียนนิยายเป็นอย่างเดียว เดี๋ยวรอให้เพื่อนว่างๆจะให้เขามาแก้นะคะ^^

โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 2 กันยายน 2555 เวลา:21:02:26 น.
  
มีเรื่องอยา่กถามสองเรื่องนะคะ

1. พยายามจะแอดคุณเป็นเพื่อนบ้าน เพื่อจะได้เข้าติดตามอ่านได้สะดวกขึ้น แต่ก็ add ไม่ได้ค่ะ

2. พยายามจะเข้าไปอ่านนิยายเก่าๆที่คุณเขียนไว้ก็เข้าไม่ได้เหมือนกัน ไม่ทราบว่าล้อคไว้หรือเปล่า

ขอบคุณมากนะคะ
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 2 กันยายน 2555 เวลา:21:14:02 น.
  
สำหรับการแอดนี่เดี๋ยวจะลองถามผู้รู้ค่ะ ไม่ได้ตั้งอะไรไว้เลยนะคะ เดี๋ยวจะลองเข้าไปปรับ ลองเข้าไปเปลี่ยนทีมแล้ว จะลองเช็คดูนะคะ

ส่วนที่บอกว่าเข้าไปอ่านเรื่องเก่าๆไม่ได้นี่ หมายถึงคลิกลิงค์เข้าไปไมได้ใช่ไหมคะ มีคนมาถามอยู่เหมือนกันค่ะ ไม่ได้ล็อกอะไรเลย เดี๋ยวลองเข้าไปดูอีกทีนะคะ

ถามบ้างดีกว่า คุณดอยสะเก็ด คนเชียงใหม่ใช่ไหมคะ
โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:5:43:12 น.
  
เทส
โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:5:50:22 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผู้หญิงเลือดเย็น
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ใครเล่นเฟซบุ๊คไปคุยกันได้
ในแฟนเพจ "บ้านน้ำฟ้า"นะคะ