กฎข้อนี้มักใช้กับนักขับที่กำลังขึ้นแซงแล้วหลุดแทร็คออกไป และเป็นที่ชัดเจนว่าเขาจะต้องคืนตำแหน่งให้คู่แข่ง อย่างกรณีที่นิโค รอสเบิร์ก พยายามแซงเฟอร์นันโด อลอนโซ่ แต่ในบางจังหวะที่รถคันหน้าหลุดไปเพราะความกดดันจากด้านหลัง แล้วกลับเข้าแทร็คเพื่อนำต่อ ก็ตัดสินได้ยากกว่า

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าจังหวะที่ริกเคียร์โด้ออกจากชิเคนแล้วสามารถเข้าใกล้แฮมิลตันมากกว่าที่เคย จึงสันนิษฐานได้ว่าแฮมิลตันไม่ได้ "ยื้อเพื่อได้เปรียบ" ในข้อนี้เขาจึงไม่ต้องรับโทษและไม่ได้ถูกสั่งให้เปิดทางแก่ริกเคียร์โด้

ประเด็นที่ 2 คือข้อสงสัยว่าแฮมิลตันบล็อกริกเคียร์โด้หรือไม่ ขณะที่ออกจากชิเคนแล้วเบียดไปทางขวา ซึ่งข้อนี้กรรมการพิจารณาเข้มข้นกว่ากรณีแรก เนื่องจากดูว่าเขาอาจเหลือพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับรถอีกคันขณะป้องกันตำแหน่งที่โค้ง 11

หากกระทำผิดในจังหวะนี้จะถือเป็นการผิดกฎการแข่งขันข้อที่ 27.6 ซึ่งระบุไว้ว่า "ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนทิศทางมากกว่า 1 ครั้งในการป้องกันตำแหน่ง หากนักขับคนใดดึงรถกลับเข้าไปในเรซซิ่งไลน์โดยก่อนหน้านั้นป้องกันตำแหน่งนอกไลน์ เขาจะต้องเหลือความกว้างอย่างน้อยหนึ่งคันรถระหว่างรถของตนกับขอบแทร็คขณะจะเข้าโค้ง"

เมื่อกรรมการพิจารณาในจุดนี้แล้วก็พบว่าแฮมิลตันเหลือพื้นที่ให้ริกเคียร์โด้ 1 คันรถจริง มันอาจดูแทบไม่พอ เมื่อรวมกับว่ามีแบร์ริเออร์ตรงนั้น รวมทั้งมีส่วนริมแทร็คที่ยังเปียกซึ่งริกเคียร์โด้ไม่สามารถใช้พื้นที่ที่เหลือนั้นได้เต็มที่ แต่เมื่อแฮมิลตันปฏิบัติตามกฎการแข่งขัน ทุกอย่างจึงผ่านพ้นไปได้










*ข้อมูลจาก motorsport.com