จากไป 23 ปี "ไอร์ตัน เซนน่า" ชื่อนี้ยังอยู่ในหัวใจ
วันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันครบรอบการจากไปของไอร์ตัน เซนน่า ครบ 23 ปี จากอุบัติเหตุในการแข่งขันรายการซานมารีโน่ กรังด์ปรีซ์ ปี 1994 แต่แม้ผ่านมากว่า 2 ทศวรรษแล้ว ชื่อของอดีตแชมป์โลก 3 สมัยผู้นี้ยัง 'ขายได้' พอๆ กับเมื่อครั้งที่เขามีชีวิตอยู่ และยังมีส่วนช่วยเหลือผู้คนในบราซิล ประเทศบ้านเกิดของเขาอีกมากมาย
ไอร์ตัน เซนน่า ยังเป็นที่รักของชาวบราซิล
ไม่กี่เดือนภายหลังการเสียชีวิตของเซนน่า วิเวียน พี่สาวของเขาได้ก่อตั้ง "มูลนิธิไอร์ตัน เซนน่า" ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนเพื่อสาธารณประโยชน์หรือเอ็นจีโอ เงินส่วนใหญ่ที่ใช้จ่ายในมูลนิธิมาจากการจัดการแบรนด์ "เซนน่า" และสิ่งที่เป็นมรดกตกทอดจากตัวตนของเขา เนื่องจากทุกวันนี้ชื่อของเขายังเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุดแบรนด์หนึ่งในโลก ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิหาเงินได้ประมาณ 1 พันล้านเรอัลบราซิล (ประมาณ 250 ล้านปอนด์หรือ 320 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยขณะที่วิเวียนเป็นซีอีโอของมูลนิธิ เบียงก้า ลูกสาวของเธอก็รับหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายตราสินค้า มูลนิธิได้ใช้จ่ายไปในการสนับสนุนโครงการเพื่อการศึกษา ถือเป็นงานหลักของพวกเขาในขณะนี้ "ปกติแล้วบริษัทต่างๆ จะมีโครงการช่วยเหลือสังคมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ แต่มูลนิธิของเราทำในทางกลับกัน เราเป็นเอ็นจีโอเดียวเท่าที่ฉันรู้ ที่มีบริษัทแบรนด์กีฬาซ่อนอยู่ในนั้น" เบียงก้ากล่าว
วิเวียน เซนน่า ซีอีโอของมูลนิธิไอร์ตัน เซนน่า
จะว่าไปแล้ว ชื่อ "ไอร์ตัน เซนน่า" ยังคงเป็นเหมืองทองให้ขุดได้ในแง่ของการตลาด ตลาดใหญ่ที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของเซนน่าคือ บราซิล สหราชอาณาจักร และอิตาลี จากงานวิจัยเมื่อปี 2015 ของบอสตันคอนซัลติ้งกรุ๊ป แสดงให้เห็นว่าชื่อเซนน่าอยู่ในระดับเดียวกับโรเจอร์ เฟรเดอเรอร์ นักเทนนิสชื่อดัง และไมเคิล จอร์แดน ตำนานนักบาสเก็ตบอล ในด้านศักยภาพทางการตลาด ส่วนงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่สำรวจจากนักกีฬาชาวบราซิเลียน ซึ่งเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกที่ริโอเมื่อปีที่แล้ว ทั้งที่หลายคนเด็กเกินไปไม่ทันดูเซนน่าแข่งขัน แต่พวกเขาเลือกให้เซนน่าเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เหนือกว่าไอดอลในอดีตและปัจจุบันอย่างเปเล่และเนย์มาร์
มูลนิธิพยายามอย่างดีที่สุดที่จะสำรวจความเป็นไปได้ทางการตลาด โดยการใช้ใบหน้าและชื่อของเซนน่าบนผลิตภัณฑ์หลายร้อยรายการ เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภค 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือแฟนฟอร์มูล่าวัน ที่มักจะซื้อสินค้าประเภทหนังสือ ดีวีดี หมวกกันน็อก และของที่ระลึกสำหรับเก็บสะสม กับอีกกลุ่มหนึ่งจะมีสินค้าสำหรับคนทั่วไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นแฟนฟอร์มูล่าวัน แต่ชื่นชอบเสน่ห์และคุณค่าความเป็นเซนน่า กลุ่มนี้รวมไปถึงของเล่น หนังสือการ์ตูนสำหรับเด็ก และไลน์อาหารที่ประกอบด้วยซอสมะเขือเทศ มัสตาร์ด และมายองเนส
ซอสมะเขือเทศ หนึ่งในผลิตภัณฑ์อาหารจากแบรนด์ "เซนน่า"
มากอส มาชาโด้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของบริษัทที่ปรึกษาท็อปส์แบรนส์ กล่าวว่าการเสียชีวิตของเซนน่าขณะมีชื่อเสียงอยู่กลายเป็นภาพแห่งผู้ชนะในสายตาของสาธารณชน ดาวดังในวงการกีฬาส่วนใหญ่จะไม่สามารถดึงดูดได้แล้วเมื่ออายุมากขึ้นหรือเลิกแข่งขัน แม้กระทั่งบางคนลดคุณค่าแบรนด์ของตนเองจากการมีข่าวอื้อฉาว "หากคุณให้เซนน่าเป็นแบรนด์หนึ่ง ผมคิดว่าเขามีคู่แข่งไม่มากนัก" มาชาโด้กล่าว ทั้งนี้ จุดแข็งหนึ่งของแบรนด์เซนน่าคือการที่ทำให้เห็นว่ารายได้จากลิขสิทธิ์ผันเข้าสู่การกุศล ไม่ได้นับเป็นกำไร
การศึกษาคือธุรกิจหลักของมูลนิธิ กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา พวกเขากลายเป็นเอ็นจีโอรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในบราซิล ช่วยเหลือเด็กๆ ถึง 1.9 ล้านคนและฝึกอบรมครู 60,000 คนต่อปี นอกจากนั้น พวกเขาได้ลงทุนอย่างหนักในการวิจัยเพื่อให้ได้ในสิ่งที่วิเวียนเรียกว่า "วัคซีน" นั่นคือการแก้ปัญหาอันชาญฉลาดที่นำไปใช้กับโรงเรียนหลายแห่งด้วยต้นทุนที่ต่ำ
เมื่อปีที่แล้ว ทางมูลนิธิบรรลุความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งกับโรงเรียนโคเลจิโอ ชิโก อนิซิโอ เป็นโรงเรียนของรัฐในริโอ เด จาเนโร ซึ่งนักเรียนมาจากครอบครัวที่มีรายได้น้อย โดยพวกเขาปรับปรุงหลักสูตรให้มีการอบรมนักเรียนในด้านทักษะทางสังคมและอารมณ์ เช่น ความยืดหยุ่น ความมีระเบียบวินัย และความตั้งใจ นอกเหนือจากเน้นไปที่วิชาดั้งเดิมอย่างคณิตศาสตร์หรือภาษาเพียงอย่างเดียว ทั้งยังมีการคิดเครื่องมือเฉพาะสำหรับวัดทักษะเหล่านี้ด้วย และจากการทดสอบนักเรียนในระดับชาติ โรงเรียนโคเลจิโอ ชิโก อนิซิโอ ได้รับการจัดให้อยู่ในอันดับที่ 5 สำหรับโรงเรียนที่มีระดับรายได้เช่นนี้
ในปีนี้ มูลนิธิกำลังแจกจ่าย "วัคซีน" ให้กับโรงเรียนอีก 20 แห่งทางภาคใต้ของบราซิล ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของสหภาพครูหลายแห่งที่ร้องเรียนว่าทักษะทางสังคมและอารมณ์เป็นคุณสมบัติส่วนบุคคล ไม่ใช่ทักษะที่นำมาวัดกันได้ และคิดว่ามูลนิธิเห็นโรงเรียนและครูเป็นธุรกิจมากเกินไป แต่วิเวียนไม่เห็นด้วย "ถ้ามีใครสักคนจากศตวรรษที่ 19 เดินทางมาปัจจุบันนี้ เขาคงไม่เห็นความแตกต่างของชั้นเรียน แต่ส่วนอื่นของโลกต่างก้าวผ่านวิวัฒนาการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาแล้ว และไม่ใช่แค่จัดหาแท็บเลทและมือถือให้นักเรียน แต่ต้องให้ทักษะทางสังคมและอารมณ์กับพวกเขาเพื่อเผชิญกับโลกของเราด้วย"
แม้จะประสบความสำเร็จมาบ้าง แต่ระดับการศึกษาของบราซิลตกลงไปเมื่อไม่นานมานี้จากการจัดอันดับโลกของโครงการประเมินผลนักรียนในระดับนานาชาติ (Programme for International Student Assessment - Pisa) บราซิลมีนักเรียน 50 ล้านคนในโรงเรียน อายุระหว่าง 6-16 ปี แต่มีเพียง 1 ใน 5 เท่านั้นที่จบการศึกษาจากระดับมัธยม ที่เหลือหลุดวงโคจรไปไม่ถึงฝั่ง
ชั้นเรียนนอกเวลา "การทำรหัส" โปรเจกต์วิชาคอมพิวเตอร์ของมูลนิธิไอร์ตัน เซนน่า ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของบราซิล
ในอนาคตมูลนิธิยังมีเรื่องท้าทายอีกมาก งานที่พวกเขาทำเกี่ยวกับโรงเรียนต้องได้รับการเห็นชอบจากทั้งรัฐบาลและผู้บริหารระดับท้องถิ่น แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้การเงินของบราซิลกำลังล่มสลาย ส่วนด้านของแบรนด์ "เซนน่า" ก็ต้องทำให้ความสนใจในตัวแบรนด์ยังมีต่อไป ซึ่งนับว่าเป็นงานที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างที่กำลังก้าวผ่านวันเวลา มาชาโด้กล่าวว่า "ที่ผ่านมาทางมูลนิธิทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม และความสนใจในเซนน่ายังคงมีต่อไป แต่ไม่ใช่ตลอดกาล เราต้องอยู่กับความเป็นจริง วันหนึ่งเซนน่าจะยิ่งอยู่ไกลออกไปสำหรับความทรงจำของเด็กรุ่นใหม่ เราสามารถทำให้ชื่อของเซนน่ามีชีวิตได้ แต่ไม่ได้ตลอดไป"
ในสนามแข่ง ไอร์ตัน เซนน่า ทำให้ชื่อของตนเองเป็นนักขับที่มักทำในสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ มูลนิธิที่เป็นชื่อของเขาก็พยายามสานต่อเอกลักษณ์แห่งตัวตนนั้นต่อไปเช่นกัน
*******************************************
ไอร์ตัน เซนน่า นักขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลก แชมป์ฟอร์มูล่าวัน 3 สมัย ปี 1988 1990 และ 1991 สตาร์ทการแข่งขัน 161 ครั้ง ชนะ 41 ครั้ง ตำแหน่งโพล 65 ครั้ง แข่งขันครั้งแรก - บราซิเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 1984 ชัยชนะครั้งแรก - ปอร์ตุกีส กรังด์ปรีซ์ ปี 1985 ชัยชนะครั้งสุดท้าย - ออสเตรเลียน กรังด์ปรีซ์ ปี 1993 แข่งขันครั้งสุดท้าย - ซานมารีโน่ กรังด์ปรีซ์ ปี 1994
*ข้อมูลและภาพจาก bbc.com
Create Date : 07 พฤษภาคม 2560 |
|
1 comments |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2560 1:35:10 น. |
Counter : 1981 Pageviews. |
|
|
|