Bahrain Grand Prix 2014 - Race Day ไนท์เรซครั้งแรกของบาห์เรนและเรซที่ 900 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันมีเหตุการณ์มากมาย ถือได้ว่าเป็นครั้งที่สนุกที่สุดจากการมาเยือนที่นี่ทั้งหมด 10 ครั้งจนถึงวันนี้ ผลการแข่งขันรายการบาห์เรน กรังด์ปรีซ์ ผู้ทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุด (fastest lap): นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 1:37.020 - รอบที่ 49 อันดับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด คลิกที่นี่ ข้อมูลการเข้าพิต คลิกที่นี่ *สภาพสนาม: แห้ง สภาพอากาศ: ท้องฟ้าสดใส อุณหภูมิ: 24 องศา ไฮไลท์ เรื่องราววันนี้เป็นการจับคู่ต่อสู้กันระหว่างเพื่อนร่วมทีมเป็นหลัก เริ่มจากเมอร์เซเดสที่ไม่ต้องห่วงหลังนับตั้งแต่สตาร์ท ลูอิส แฮมิลตัน ทำได้ดีกว่านิโค รอสเบิร์ก คนได้โพล และระหว่างที่ทั้งคู่ทิ้งกลุ่มออกไปเรื่อยๆ พวกเขาก็มีจังหวะสวนกันไปมาเพื่อแย่งตำแหน่งผู้นำจนกระทั่งถึงช่วงท้าย รอสเบิร์กพยายามเอาคืนทุกจังหวะที่มีโอกาส แต่แฮมิลตันเหนียวเกินกว่าจะแย่งคืนมาอย่างถาวร เขาเข้าเส้นชัยเป็นคันแรกและมีทีมเมทตามติดมาเป็นสนามที่ 2 ติดต่อกัน ยังนับเป็นชัยชนะครั้งแรกของแชมป์โลกปี 2008 ในสนามแห่งนี้อีกด้วย อีกสองคู่ที่ตามเมอร์เซเดสมาในช่วงแรกคือคู่ของวิลเลียมส์และฟอร์ซอินเดีย ซึ่งใช้เครื่องยนต์เมอร์เซเดสเช่นกัน แต่การที่วิลเลียมส์เลือกกลยุทธ์เข้าพิต 3 ครั้งทำให้พวกเขาเสียเปรียบ รวมทั้งฟอร์ซอินเดียเร็วบนทางตรงอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้เซอร์จิโอ เปเรซ ค่อยๆ ขยับอันดับขึ้นมาจนสามารถเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ซึ่งเป็นโพเดียมที่ 2 ของฟอร์ซอินเดียต่อจากผลงานอันดับที่ 2 ของจิอันคาร์โล ฟิซิเคลล่า ในสนามสปาเมื่อปี 2009 อย่างไรก็ตาม งานของเปเรซไม่ง่ายนัก นอกจากต้องขับเคี่ยวกับนิโค ฮูลเคนเบิร์ก เพื่อนร่วมทีมแล้ว ช่วงท้ายยังต้องทนแรงกดดันจากแดเนียล ริกเคียร์โด้ ซึ่งถึงแม้นักขับออสซี่จะถูกปรับกริดสตาร์ท 10 อันดับ ไปสตาร์ทจากกริดที่ 13 แต่เขาก็ไล่อันดับขึ้นมาอย่างไม่ย่อท้อ ช่วงแรกเขาวิ่งตามติดเซบาสเตียน เวทเทล จนกระทั่งรถของเพื่อนร่วมทีมเร้ดบูลมีปัญหากับ DRS เวทเทลจึงปล่อยให้เขาแซงขึ้นไป ต่อมาหลังการเข้าพิตตามแผนทั้งหมดและถึงแม้ DRS ของแชมป์โลกคนปัจจุบันจะกลับมาใช้งานได้แล้ว แต่ความเร็วรถของเขาลดลงโดยเฉพาะทางตรง ในที่สุดริกเคียร์โด้ก็แซงได้อีกครั้ง รวมทั้งแซงฮูลเคนเบิร์กขึ้นไปเป็นอันดับที่ 4 ก่อนจบการแข่งขันเพียงไม่กี่รอบ สำหรับเวทเทลเองก็ถูกกดดันจากคู่นักขับของวิลเลียมส์ที่นำโดยเฟลิเป้ มาสซ่า ในช่วงสุดท้าย แต่หลังจากมาสซ่าพยายามแซงเวทเทลแต่ไม่สำเร็จก็ต้องหันกลับมารักษาตำแหน่งของตนจากวาลท์เทรี่ บอตทาส มากกว่า ตามมาติดๆ ด้วยสองนักขับจากเฟอร์รารี่ เฟอร์นันโด อลอนโซ่ และคิมี่ ไรค์โคเน่น ทำอะไรไม่ได้มากในคืนนี้จากการที่สูญเสียกำลังเครื่องยนต์ระหว่างการแข่งขัน ในการแข่งขันมีเซฟตี้คาร์ออกมานำครั้งหนึ่งจากอุบัติเหตุของเอสเตบัน กูเตียร์เรซ ซึ่งโดนพาสเตอร์ มัลโดนาโด ที่เพิ่งออกจากพิตเลนมาชนเข้ากลางลำที่โค้ง 1 ในรอบที่ 41 รถเซาเบอร์พลิกตลบกลับมาตั้งหลักบนพื้นได้ โชคดีที่นักขับเม็กซิกันไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ส่วนมัลโดนาโดรับโทษหยุดในพิต 10 วินาที (10-second stop-go penalty) ทันทีหลังจากกรรมการพิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นอกจากต่อสู้กันในทีมแล้ว บางทีมยังต้องออกจากการแข่งขันเป็นคู่อีกด้วย เควิน แม็กนุสเซน พลาดเก็บคะแนนเป็นสนามที่ 3 ติดต่อกันหลังจากรถมีปัญหาเช่นเดียวกับเจนสัน บัตตัน เพื่อนร่วมทีมแม็คลาเรนในการลงสนามครั้งที่ 250 ในฟอร์มูล่าวัน รถขอเขาช้าลงจนต้องเข้าจอดเก็บทั้งที่เหลือแค่ 2 รอบสุดท้ายเท่านั้น ส่วนเซาเบอร์ นอกจากกูเตียร์เรซแล้ว อาเดรียน ซูทิล ก็ไม่ผ่านธงตราหมากรุกเช่นกันหลังกระแทกกับฌูลส์ เบียงคี่ ซึ่งฝ่ายหลังรัต้องรับโทษขับผ่านพิตเลน (drive-through penalty)รวมทั้งมาร์คุส เอริกสัน ของแคเทอร์แฮม และฌอง-เอริก แวนญ์ ของโตโร รอสโซ ก็ไม่จบการแข่งขันเช่นกัน บทลงโทษหลังการแข่งขัน - พาสเตอร์ มัลโดนาโด ต้องรับโทษปรับกริดสตาร์ท 5 อันดับในการแข่งขันสนามหน้าที่เซี่ยงไฮ้ รวมทั้งได้รับคะแนนโทษ 3 คะแนนในใบอนุญาตแข่งขันจากกรณีไปชนรถเซาเบอร์ของเอสเตบัน กูเตียร์เรซ - ฌูลส์ เบียงคี่ ได้รับคะแนนโทษอีก 2 คะแนนในใบอนุญาตแข่งขันจากจังหวะไปชนกับอาเดรียน ซูทิล ทำให้เขามีคะแนนโทษสะสมในฤดูกาลนี้รวมแล้ว 4 คะแนน ซึ่งหากครบ 12 คะแนนก็จะถูกห้ามลงแข่งขัน 1 สนาม สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 3 ประเภทนักขับ 1. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 61 คะแนน 2. ลูอิส แฮมิลตัน (เมอร์เซเดส) 50 คะแนน 3. นิโค ฮูลเคนเบิร์ก (ฟอร์ซอินเดีย) 28 คะแนน 4. เฟอร์นันโด อลอนโซ่ (เฟอร์รารี่) 26 คะแนน 5. เจนสัน บัตตัน (แม็คลาเรน) 23 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด คลิกที่นี่ ประเภททีมผู้สร้าง 1. เมอร์เซเดส 111 คะแนน 2. ฟอร์ซอินเดีย 44 คะแนน 3. แม็คลาเรน 33 คะแนน 4. เร้ดบูล 35 คะแนน 5. เฟอร์รารี่ 33 คะแนน - อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด คลิกที่นี่ ยิ่งผ่านไปยิ่งเห็นได้ว่าวินาทีนี้เมอร์เซเดสไกลเกินกว่าใครจะเอื้อมถึง ทีมที่เหลือในกริดต้องพัฒนารถของตนอย่างเร่งด่วนแล้วล่ะค่ะ ไม่อย่างนั้นคงเหลือแย่งแชมป์กันสองคนแน่นอน ต่อจากนี้มีเวลาให้ตั้งตัวอีก 2 สัปดาห์จนกว่าจะพบกันอีกครั้งในรายการไชนีส กรังด์ปรีซ์ วันที่ 18-20 เมษายนค่ะ *ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / formula1.com / gpupdate.net ภาพจาก formula1.com   Create Date : 06 เมษายน 2557 7 comments Last Update : 20 เมษายน 2557 17:30:47 น. Counter : 2007 Pageviews. Share Tweet

Ferrari ช้ามากๆเลยครับ งงเลย โดน FORCE INDIA แซงแบบนิ่มๆ แทบหาปี๊บคลุมเลยทีเดียว * หรือเพราะได้เครื่องเทพ จาก Mercedes มาสินะครับ   โดย: 7-june-14 IP: 27.55.23.113 7 เมษายน 2557 4:39:56 น.

ไม่เข้าใจประธานทนดูอยู่ได้ยังไง พูดก็พูดเถอะว่ารถเฟอห่วยตามหลังชาวบ้านมาหลายปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ถ้าเจอประธานเนี๊ยบๆนะ ป่านนี้โดนเด้งตั้งแต่ทีมบอสไล่ไปจนถึงวิศวกรทีมงานออกแบบรถแล้ว อันนี้ก็มีแต่หน้าเดิมมๆ ใจคอจะพึ่งแต่ความสามารถนักขับอย่างเดียวเลยรึไง T^T ถ้าปีนี้ยังห่วยปีหน้าย้ายหนีมันแพ็คคู่เลยมั๊ยโซ่กับคิม อิอิ   โดย: fame IP: 180.183.136.21 7 เมษายน 2557 8:22:44 น.

น้องแดนตูเกือบได้ยืนแป้นแล้ว อิอิ   โดย: runtaro IP: 114.109.137.51 7 เมษายน 2557 13:31:50 น.

F14-T ถือว่าเร็วนะครับ เร็วเป็นอันดับ 5 บนแทรค   โดย: Dead Man IP: 113.53.27.122 7 เมษายน 2557 14:24:22 น.

ฮิๆฮุๆโฮะๆ แม่ยกแฮมฟิน   โดย: แฮมเทล IP: 182.53.243.185 7 เมษายน 2557 14:38:35 น.

สอบถามผู้รู้หน่อยครับว่า เจ้าจมูกหน้าตัวกินมดแบบนี้ มีไว้งัดจริง ๆ หรือครับ เห็นจังหวะที่พาสเตอร์ มัลโดนาโดพุ่งชนด้านข้าง มันดูปลอดภัยเพราะแทบไม่มีอะไรพังกระจายจากทั้งสองคัน เสียตรงคันที่ถูกชนพลิกแบบไม่เป็นท่า และก็พังเพราะการพลิกคว่ำนั่นเอง   โดย: BreezE IP: 180.180.161.129 8 เมษายน 2557 15:45:14 น.

มีไว้เพื่อความปลอดภัยครัช และ คิดว่าน่าจะเปลี่ยนกฏทาง Aerodynamic เพื่อกันความได้เปรียบเสียเปรียบ ครับ   โดย: W IP: 27.145.54.146 8 เมษายน 2557 20:49:50 น.