นิโค รอสเบิร์ก สตาร์ทจากกริดที่ 3 และนำม้วนเดียวจบหลังจากแซงลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมเจ้าของตำแหน่งโพลไปได้ตั้งแต่โค้งแรก ซึ่งแชมป์โลกปี 2008 ไม่ได้เพียงสูญเสียตำแหน่งจากการออกตัว แต่รถของเขามีปัญหากับเครื่องยนต์จนต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่รอบที่ 3 ทั้งนี้ ชัยชนะของรอสเบิร์กนับเป็นชัยชนะครั้งที่ 100 ในฟอร์มูล่าวันของเครื่องยนต์เมอร์เซเดส
แดเนียล ริกเคียร์โด้ ออกตัวจากแถวหน้าเป็นครั้งแรกในฟอร์มูล่าวันและทำได้ดีเยี่ยมโดยผ่านเส้นชัยเข้ามาในอันดับที่ 2 แม้รถเร้ดบูลจะยังดูเสียเปรียบกลุ่มรถเครื่องยนต์เมอร์เซเดส แต่เขาก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะป้องกันตำแหน่งจากเควิน แม็กนุสเซน นักขับน้องใหม่ของแม็คลาเรนในช่วงท้าย อย่างไรก็ตาม เร้ดบูลต้องเหลือรถเพียงคันเดียวที่จบการแข่งขัน เนื่องจากเครื่องยนต์ในรถของเซบาสเตียน เวทเทล ไม่มีกำลังส่งตั้งแต่แรกเริ่มและเขาต้องออกจากการแข่งขันตามหลังแฮมิลตันไม่นาน
สำหรับแม็คลาเรนที่ประสบปัญหามากมายในปีก่อน นักขับของพวกเขาไม่แม้แต่ได้ขึ้นโพเดียมสักครั้ง แต่ในสนามแรกของปีนี้พวกเขาทำได้ดีทั้งสองคัน แม็กนุสเซนเกาะติดกลุ่มหน้าได้ตั้งแต่แรกจนคว้าอันดับบนโพเดียมได้นับตั้งแต่แข่งขันในฟอร์มูล่าวันครั้งแรก ขณะที่เจนสัน บัตตัน แม้จะสตาร์ทจากแถว 5 แต่เขาก็สามารถไต่ขึ้นมาได้ถึงอันดับที่ 4 หลังการเข้าพิตครั้งที่สอง แซงเฟอร์นันโด อลอนโซ่ และนิโค ฮูลเคนเบิร์ก ที่วิ่งคู่กันมาตลอดทั้งการแข่งขัน โดยในช่วงสุดท้าย วาลท์เทรี่ บอตทาส แซงขึ้นมาคั่นกลาง ซึ่งก่อนหน้านั้นตั้งแต่เริ่มการแข่งขันได้ไม่นาน นักขับฟินน์ขับรถวิลเลียมส์ไปกระแทกกำแพงระหว่างโค้ง 10 กับ 11 ทำให้ยางล้อหลังขวาแตก และจากจังหวะนั้นเซฟตี้คาร์ก็ออกมานำการแข่งขัน โชคดีที่ประคองรถกลับไปยังพิตได้และโครงสร้างช่วงล่างยังไม่เสียหาย เขาจึงได้รับการเปลี่ยนยางและออกไปแข่งขันต่อ
นอกจากนั้นใน 10 อันดับแรกยังมีคิมี่ ไรค์โคเน่น ที่ประเดิมสนามในการกลับมายังเฟอร์รารี่ได้อย่างพอเอาตัวรอด หลังจากประสบปัญหาล้อล็อกตลอดการแข่งขัน และทั้งสองคันของโตโร รอสโซ ก็สามารถเก็บแต้มได้ โดยเฉพาะดาเนียล คัฟยาต ทำสถิติเป็นนักขับฟอร์มูล่าวันที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถจบการแข่งขันแบบมีคะแนน โดยในวันนี้เขามีอายุ 19 ปี 322 วัน เฉือนเวทเทลเจ้าของสถิติเดิมไป 27 วัน
ในขณะที่บอตทาสเก็บแต้มได้ แต่เฟลิเป้ มาสซ่า โชคร้ายที่ต้องออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่โค้งแรกพร้อมกับคามุย โคบายาชิ ที่กลับมาแข่งขันเป็นสนามแรกหลังเว้นไป 1 ปี หลังจากรถแคเทอร์แฮมของฝ่ายหลังมีอาการล้อล็อกและหลุดไปกวาดเอารถวิลเลียมส์ลงบ่อกรวดไปด้วยกัน
มีอีกหลายคันที่ไม่ผ่านเส้นชัยในวันนี้ ฌูลล์ เบียงคี่ สตาร์ทจากพิตเลนหลังรถมีปัญหาก่อนสตาร์ท เช่นเดียวกับโรแมง โกรส์ฌอง ที่ต้องสตาร์ทจากพิตเลนเพราะมีการปรับปรุงรถหลังรอบควอลิฟาย ทว่าทั้งสองคันต้องจอดก่อนครบรอบการแข่งขัน และต่อมา พาสเตอร์ มัลโดนาโด รวมทั้งมาร์คุส เอริกสัน ต่างก็จอดกลางแทร็คหลังผ่านครึ่งทางของการแข่งขันไปไม่นาน
บทลงโทษหลังการแข่งขัน
แดเนียล ริกเคียร์โด้ ถูกริบผลการแข่งขันอันดับที่ 2 จากการที่รถเร้ดบูลมีอัตราการไหลเข้าของน้ำมันเชื้อเพลิงเกินกว่า 100 กก./ชม. ตามกฎการแข่งขันข้อที่ 5.1.4 ทำให้อันดับที่ 2 และ 3 บนโพเดียมตกเป็นของเควิน แม็กนุสเซนและเจนสัน บัตตัน ตามลำดับ
ผลการแข่งขันปรับปรุงใหม่
สรุปคะแนนสะสม 5 อันดับแรกหลังจากจบสนามที่ 1ประเภทนักขับ1. นิโค รอสเบิร์ก (เมอร์เซเดส) 25 คะแนน
2. เควิน แม็กนุสเซน (แม็คลาเรน) 18 คะแนน
3. เจนสัน บัตตัน(แม็คลาเรน) 15 คะแนน
4. เฟอร์นันโด อลอนโซ่(เฟอร์รารี่) 12 คะแนน
5. วาลท์เทรี่ บอตทาส (วิลเลียมส์) 10 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภทนักขับทั้งหมด
คลิกที่นี่ประเภททีมผู้สร้าง1. แม็คลาเรน 33 คะแนน
2. เมอร์เซเดส 25 คะแนน
3. เฟอร์รารี่ 18 คะแนน
4. วิลเลียมส์ 10 คะแนน
5. ฟอร์ซอินเดีย 9 คะแนน
- อันดับคะแนนสะสมประเภททีมผู้สร้างทั้งหมด
คลิกที่นี่นี่เป็นแค่การเริ่มต้น หนทางการไล่ล่าแชป์ปีนี้ยังอีกยาวไกล แต่หากทีมไหนปล่อยเวลาให้สูญเปล่า พวกเขาจะต้องลำบากในตอนสุดท้ายท้าย มีเวลาอีก 2 สัปดาห์ให้ได้ตั้งตัวกันใหม่ แล้วพบกันสนามต่อไปในรายการมาเลเซียน กรังด์ปรีซ์ วันที่ 28-30 มีนาคม นะคะ
*ข้อมูลจาก autosport.com/f1 / formula1.com / gpupdate.net
ภาพจาก formula1.com