ความจำเป็นในการปรับกริดแฮมิลตัน
วันนี้มาดึกหน่อยนะคะ เจ้าของบ้านเองก็เพิ่งมีโอกาสอ่านข่าววันนี้เหมือนกัน แล้วก็มาเจอข่าวหนึ่งซึ่งเป็นคำสัมภาษณ์ของกรรมการเอฟไอเอเกี่ยวกับการปรับกริดของลูอิส แฮมิลตัน นักขับแม็คลาเรนในการแข่งขันที่คาตาลุนย่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เลยนำมาเล่าสู่กันฟังก่อนนอนค่ะ
จากเหตุการณ์ภายหลังการควอลิฟายซึ่งแฮมิลตันคว้าตำแหน่งโพลมาได้แล้ว แต่แม็คลาเรนพลาดด้วยการใส่น้ำมันให้รถของเขาน้อยเกินไปจนต้องวิทยุบอกให้นักขับหยุดรถกลางคันในรอบที่กำลังจะวิ่งกลับพิตหลังผ่านเส้นชัย ถือเป็นการละเมิดข้อบังคับของเอฟไอเอที่รถจะต้องวิ่งกลับพิตมาให้ได้เว้นแต่เหตุสุดวิสัย ซึ่งการเติมน้ำมันไม่พอนั้น เอฟไอเอไม่ถือว่าเป็นกรณีสุดวิสัย และแฮมิลตันโดนลงโทษด้วยการปรับอันดับสตาร์ทจากตำแหน่งโพลลงไปอยู่เป็นกริดสุดท้าย
เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่คาตาลุนย่าเป็นข้อถกเถียงถึงวันนี้
แม็คลาเรนเองค่อนข้างแน่ใจตั้งแต่ตอนให้แฮมิลตันจอดรถกลางแทร็คว่าจะต้องได้รับโทษ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าโทษจะหนักถึงขั้นถอยไปไกลเป็นลำดับสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีหลายคนสงสัยว่าเรื่องเกิดขึ้นเฉพาะใน Q3 ทำไมจึงไม่ทำเพียงแค่ลบเวลาของแฮมิลตันใน Q3 ซึ่งก็น่าจะเพียงพอแล้ว
ทั้งนี้ ชาร์ลี ไวติ้ง ผู้อำนวยการการแข่งขันของเอฟไอเอกล่าวว่า "เราไม่มีทางเลือก หากมีการละเมิดกฎ มันหมายความถึงทั้งช่วง ไม่ใช่เพียงแค่ Q3 เพราะการควอลิฟายเริ่มตั้งแต่ Q1" โดยไวติ้งอธิบายเพิ่มเติมว่าหากแฮมิลตันสูญเสียเพียงแค่เวลาใน Q3 ซึ่งเป็นโทษขั้นเบาก็จะกลายเป็นตัวอย่างให้ทีมอื่นลองเสี่ยงวิ่งด้วยน้ำมันน้อยกว่าที่ควรเป็นใน Q3 บ้าง เพราะที่จริงแล้วเอฟไอเอจะสุ่มตรวจน้ำมัน 1 ลิตรจากทีมเพียง 1-2 ตัวอย่างหลังการควอลิฟายในแต่ละสนามเท่านั้น
นอกจากนี้เขายังได้อ้างถึงรายการเยอรมัน กรังด์ปรีซ์ ปีที่แล้วเป็นตัวอย่าง ซึ่งเซบาสเตียน บูเอมี่ ของโตโร รอสโซ โดนปรับไปอยู่กริดสุดท้ายเช่นกันหลังตรวจพบความผิดปกติของน้ำมันหลังการควอลิฟาย โดยเพราะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าทีมใช้น้ำมันที่ไม่ถูกต้องตามกติกาใน Q1 หรือ Q2 การลงโทษจึงต้องเป็นการลบเวลาการควอลิฟายของเขาหมดทั้งช่วง
*ข้อมูลจาก nextgen-auto.com ภาพจาก dailymail.co.uk
Create Date : 16 พฤษภาคม 2555 |
|
9 comments |
Last Update : 16 พฤษภาคม 2555 22:26:06 น. |
Counter : 1225 Pageviews. |
|
|
|