( 10 ) โอมโอม ได้กลับบ้านแล้วครับ
โอมโอมครับ แล้วความโชคดี (บนความโชคร้าย) ก็เกิดขึ้นในชีวิตหนูอีกครั้ง หลังจากที่คุณครูดาพยายามฝึกให้โอมโอมเคี้ยวข้าว แต่หนูไม่ยอมให้ความร่วมมือ คายข้าว 1 เม็ดทิ้งทุกครั้ง เป็นความบังเอิญที่โชคดีจริง ๆ ที่อาทิตย์ต่อมา ทางโรงพยาบาลมีสัมมนาเรื่องเกี่ยวกับกายภาพบำบัด มีอาจารย์ใหญ่มาจาก มช. มาอบรมให้กับนักกายภาพที่โรงพยาบาลนี้
คุณครูดาก็มาขอคุณแม่ จะพาโอมโอมไปให้อาจารย์หมอตรวจในห้องประชุม เป็นกรณีศึกษาว่าต้องฝึกอย่างไรเด็กถึงจะยอมเคี้ยวข้าว
โอมโอมครับ แม่จำได้ว่าวันนั้น แม่ซื้อขนมบัทเทอร์เค็ก 1 ชิ้น แล้วพาโอมโอมไปนั่งรอพวกพี่กายภาพประชุมอบรมกัน แม่ตื่นเต้นจัง อาจารย์จะช่วยโอมโอมได้ไหม พอได้เวลา คุณครูดาก็พาโอมโอมไปที่หน้าห้องประชุม มีพวกพี่กายภาพมารุมดูหนูกัน คุณครูดาก็บอกปัญหาเรื่องการไม่ยอมเคี้ยวข้าวให้อาจารย์ทราบ และขอคำแนะนำ
อาจารย์หมอก็เดินมาดูโอมโอม เอามือเข้ามานวดแก้ม นวดเหงือก (ก็ทำเหมือนที่คุณครูดาทำอยู่ทุกวัน) แล้วก็เอาขนมบัทเทอร์เค็กใส่เข้าไปในปาก ตรงกระพุ้งแก้ม โอ้ ! แม่กับคุณครูดาไม่อยากจะเชื่อเลย โอมโอมเคี้ยวขนมซะอย่างไร ใช้เวลาเพียงอึดใจเดียว เคี้ยวขนมหมดทั้งชิ้นเลย
อาจารย์หมอหันมาถามคุณครูดาว่า เด็กไม่เห็นเป็นอะไรเลย ก็เคี้ยวได้ปกติดี โอมโอมครับ แม่กับคุณครูดา ไม่อยากจะเชื่อเลยลูก ฝึกกันมาเป็นอาทิตย์หนูไม่ยอมเคี้ยว เจออาจารย์หมอจับปากทีเดียว เคี้ยวใหญ่เลย
เย็นวันนั้นเลย แม่รีบไปซื้ออาหารโปรดของหนู ข้าวผัดอเมริกัน เอสแอนด์พี มาให้คุณครูดาป้อน โอมโอมครับ หนูกินข้าวเกือบหมดกล่องเลยลูก แม่ดีใจจริง ๆ เลยครับ
เช้าวันรุ่งขึ้น โอมโอมก็ไม่ต้องกินอาหารเหลวปั่นอีกต่อไป หนูสามารถกินข้าวได้แล้ว ตอนกินข้าว มีทั้งอาจารย์หมอสมอง หมอฝึกหัด คุณพยาบาลมาดูโอมโอมกินข้าว ทุกคนแปลกใจและดีใจกับโอมโอมด้วย ที่สมองในส่วนของการกิน ไม่ได้ถูกทำลายไป
โอมโอมครับ เมื่อหนูสามารถกินข้าวได้แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราจะได้กลับบ้านเรากันแล้วลูก การฝึกเรื่องอื่น ๆ มันเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ จะดีขึ้นแค่ไหน หนูจะนั่งได้วันไหน เดินได้วันไหน พูดคุยสื่อสารกันได้เมื่อไหร่ ไม่มีใครตอบแม่ได้เลยลูก
โอมโอมครับ การที่ครอบครัวเราประสบเคราะห์กรรมอย่างนี้ ทำให้แม่รู้สึกถึงคุณค่าชีวิต มุมมองในการมองเห็นโลกกว้างขึ้นมาก บางครั้งแม่เศร้าใจเรื่องโอมโอมมากมาก แต่ถ้าแม่เดินออกจากห้องของหนู เพื่อน ๆ ที่มานอนป่วยอยู่ห้องข้าง ๆ ซึ่งมีจำนวนมาก เตียงเต็มแทบทุกวัน ทุกคนก็มีโรคภัยที่ไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นโรคที่รักษายาก ๆ กันทั้งโรคเลือด โรคหัวใจ โรคมะเร็ง หรือถ้าเราไปที่ห้องฝึกกายภาพบำบัด ก็จะมีเด็กที่พิการทางสมองตั้งแต่กำเนิดมาฝึกกันเป็นจำนวนมาก เด็กบางคนก็มีคุณพ่อคุณแม่ที่ยังดูแล ยังมีความหวัง ยังมีกำลังใจ แต่เด็กอีกเป็นจำนวนมากก็ดูจะหมดหวัง อยู่ห้องอนาถาบ้างก็มี รอเวลาเท่านั้น
โอมโอมครับ ครอบครัวเรายังมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม ว่าโอมโอมต้องหายดี หายเป็นปกติกลับมาในวันหนึ่ง แน่นอนว่าแม่คนเดียวทำอย่างนั้นไม่ได้ แล้วแม่ก็เชื่อว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องส่งคนดี ๆ มาช่วยแม่ ช่วยดูแลรักษาโอมโอมให้หายดี แล้วเราก็ได้สุดยอดพยาบาล ป้าหนึ่ง มาดูแลหนูไงลูก
โอมโอมครับ หนูรักษาตัวในโรงพยาบาลกว่า 4 เดือน นี่เป็นรูปถ่ายเพียงใบเดียวที่เรามีครับ คุณครูดาถ่ายรูปนี้ให้ อาจารย์หมอที่ทำให้หนูกินได้ ใส่เสื้อสีชมพูอยู่ข้างหลังหนูครับ
Create Date : 30 เมษายน 2552 |
|
5 comments |
Last Update : 30 มิถุนายน 2552 21:11:44 น. |
Counter : 976 Pageviews. |
|
|
|