BlogGang.com : : The Prophet : Review : "เบิร์ด อาสาสนุก" : พี่เบิร์ด old school มาแล้ว

Review : "เบิร์ด อาสาสนุก" : พี่เบิร์ด old school มาแล้ว

"อาสาสนุก" เป็นอัลบั้มชุดที่เท่าไรแล้วหละ ของสุดยอดนักร้องแห่งประเทศไทยคนนี้ แต่ที่แน่ๆ พี่เบิร์ดออกมาทีไร ก็ต้องมีความไม่ธรรมดาทุกที

จากการที่ผมสังเกตในช่วงยุคหลังๆ ของพี่เบิร์ด แต่ละอัลบั้มก็จะมีทั้งแบบที่ดังสุดๆ กับดังพอประมาณ หรือไม่ดังเลยคละเคล้ากันไป หลังจาก หลงทางใน Dream คืนฟอร์มใน ธงไชย เซอร์วิส เฉยๆ ใน ตู้เพลงสามัญประจำบ้าน และคืนฟอร์มอีกใน smile club และกลับมาท๊อบฟอร์มอีกใน ชุดรับแขก จากนั้นก็แผ่วเบาลงเรื่อยๆ จาก volume1 มาธงไชย วิลเลจ จนเบาบางสุดๆ ใน simply bird จนผมรู้สึกว่า ป๋าคงจะไม่กลับมาท๊อปฟอร์มอีกแล้ว

แต่ชุดนี้ก็ทำให้ผมดีใจ +ประหลาดใจ ที่ชุดนี้เป็นอีกชุดที่ฝ่ายการตลาดไม่ยอมเปิดตัวด้วยเพลงเร็วๆ ดังชุดก่อนที่เปิดตัวด้วยเพลงช้าอย่าง "ช่วยรับที" ชุดนี้กลับเลือกเปิดตัวด้วยเพลงจังหวะฮิปฮอบเบาๆ อย่าง "อยู่คนเดียว" ที่แทงอารมณ์คนเหงาซะมากมาย จนเข้าไปสู่อันดับหนึ่งได้อีกครั้ง ในยุคที่ชาร์ตเพลงฮิตมีแต่เพลงของค่ายสมอลล์รูมและค่ายอินดี้ในเวลานี้

เนื้อเพลง "อยู่คนเดียว" ที่ทำให้ผมสนใจในอัลบั้ม "อาสาสนุก" คงเพราะการแต่งของ Muzu เจ้าของเพลง "ไม่เคย" ที่เคยเข้าไปอยู่ในใจหลายๆ คนที่ชอบแนว easy listening ในหลายๆ ปีก่อน ที่ทำให้ผมแปลกใจว่า ทำไมโปรดิวเซอร์ถึงเลือกฝืมือการแต่งของคนๆ นี้มาเปิดอัลบั้ม ทั้งๆ ที่คราวก่อน เพลงแรกของพี่เบิร์ดต้องเป็นเพลงของนักแต่งเพลงระดับเทพ เช่น พี่ดี้ โจอี้ บอย ติ๊ก ชีโร่ เป็นต้น แต่พอได้ฟังทำนองเพลงฮิบฮอบ+เสียงฉิ่งฉับ+กีตาร์อคุสติกเบาๆ ในเพลงนี้หลายๆ รอบก็ทำให้รู้ได้เลยว่า "พี่เบิร์ดกลับมาคืนฟอร์มอีกแล้ว"

มาดูเพลงอื่นๆ ในอัลบั้ม "อาสาสนุก" กันบ้างครับ อัลบั้มนี้โดยรวมให้กลิ่นใอ easy listening อย่างเช่นอัลบั้มก่อน Simply bird แม้ฟังโดยรวมทั้งอัลบั้มจะให้โทน "เหงา" อย่างชัดเจนมากๆ แต่ยังนับว่ามีความ "สนุก" มากกว่า เนื่องด้วยมีเพลงสนุกๆ กลับมาอีกครั้ง ทำนองป๊อบบีทง่ายๆ แบบนี้หละที่เหมาะกับพี่เบิร์ดที่สุดแล้ว ดังเช่นเพลงแรก

1. "เรามา sing" ผมฟังครั้งแรกรู้สึกเหมือนกับฟังเพลง "ก็ดี+โอ้ละหนอ my love" ด้วยบีทสนุกๆ ท่อนฮิบฮ็อบแร็พที่ฟังไม่ยากนัก แต่ก็ยังให้อารมณ์สนุกๆ แบบพี่เบิร์ด แม้จะไม่เท่า "ก็ดี+โอ้ละหนอ mylove" ก็ตาม แต่ก็เป็นเพลงที่คิดว่าเปิดในผับแล้วก็จะทำให้คนเต้นกันได้ไม่ยากนัก

2. "อยู่คนเดียว" เพลงนี้ ลงตัวครับ ไม่ต้องวิจารณ์อะไรมากมาย

3. "Too much so much very much" ด้วยชื่อเพลงครั้งแรก ไม่ชวนให้ฟังเอาเสียเลย แต่พอฟังไปแล้ว กลับกลายเป็นเพลงสนุกๆ ที่ชอบมากที่สุดแล้ว กับบีทที่คุ้นเคย นึกถึง "บอกว่า อย่าน่ารัก" มาทันที เนื้อร้องที่เอาคำว่า "มาก" มาประกอบกันเป็นเพลงได้ "มากเกิน" "มากไป" "มากมาย" น่ารักครับเพลงนี้

4. "Alone" เพลงนี้่ยาว"ที่สุดในอัลบั้ม เป็นเพลงกลางๆ ที่ให้อารมณ์คึกคักสนุกๆ กลางๆ มากกว่าจะให้อารมณ์เหงาๆ เหมือนชื่อเพลง เพลงนี้ก็น่าจะเป็นภาค "ปลอบใจ" ของเพลง "อยู่คนเดียว" ได้ เป็นเพลงในโทนเหงาๆ เพลงหนึ่งในธีมของอัลบั้มนี้ ที่ผมชอบการ arrange มากๆ ครับ

5. "ตะโกนว่ารัก..ว่ารัก" เพลงนี้ถ้าใครได้ฟัง ก็ได้กลิ่น "บี้ เดอะสตาร์" มาแตะจมูก จนผมคิดว่า เพลงนี้ ป๋าน่าจะแย่งบี้มาร้องแน่ๆ เลย 5555 เป็นบีทสนุกๆ แบบบี้ๆ ครับ แต่มาลองให้ ซูปเปอร์สตาร์อันดับ 1 มาร้องดูบ้าง ฟังสนุกๆ แต่ไม่มีความอยากให้ฟังต่อ มันไม่ใช่พี่เบิร์ดอะครับ มันไม่ใช่

6. "ร้องให้ทำไม" ตอนแรกผมนึกว่าเป็นเพลงแนว ให้กำลังใจ ปลอบใจ แต่กลับกลายเป็นเพลงประชดความรัก ที่ให้อารมณ์เข้มแข็งในความอ่อนแอมากมาย (เอ๊ยังไง) ด้วยท่อนฮุคที่โดน แบบเพลงอกหักอื่นๆ ของพี่เบิร์ดอย่า "ไม่เหงาไม่ใช่ฉัน-ไม่แข่งยิ่งแพ้" เพลงนี้ก็จะเป็นเพลงอีกเพลงที่ติดหูได้ไม่ยากครับ เสียอย่างเดียว ดนตรีอ่อนไปนิด

7. "ชี้แนะ" เป็นเพลงบีทสนุกๆ อีกเพลง ที่ผมคิดว่า "อ่อน" ทีี่สุดในอัลบั้มนี้แล้ว ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ และทำให้ผมกดผ่านทุกทีที่ฟังเพลงนี้ แต่ไม่แน่ คุณอาจจะชอบก็ได้ครับ ลองฟังดุ

8. "อย่าทำอย่างนี้กับใคร...เข้าใจไหม" เพลงที่ชื่อยาวที่สุดในอัลบั้ม และเป็นเพลงอกหักที่ผมคิดว่า "เพราะที่สุด" ในอัลบั้มของพี่เบิร์ดชุดหลังๆ เนื้อเพลงทุกอย่างลงตัว ยกเว้นอย่างเดียว คือชื่อเพลงไม่น่าจะมีคำว่า "เข้าใจไหม" เลย แค่ "อย่าทำอย่างนี้กับใคร" ก็น่าจะพอแล้ว แต่เข้าใจว่า กลัวจะไปซ้ำกับเพลงของพี่อ่ำสมัยก่อนก็เลยเติมให้แตกต่าง แต่เพราะครับเพลงนี้ ให้อารมณ์แบบ "อย่าัรักกันเลย" มากมาย

9. "โลกของคนเหงา" ถ้าถามถึงเพลงที่ฟังแล้ว "เหงา" ที่สุด ก็คงเป็นเพลงนี้แหละครับ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าโลกของคนเหงา ฟังแล้วให้อารมณ์แบบเพลงสมัยก่อนๆ ของพี่เบิร์ดมากๆ เนื้อเพลงที่แสดงความรู้สีกของคนเหงาสองคนที่เข้าใจกัน คงจะบ่งบอกตัวตนของพี่เบิร์ดได้ดีที่สุดละครับ

10. "อกมีไว้หัก" เหมือนจะเศร้า แต่ถ้าคุณชอบเพลงกีตาร์โปร่งอคูสติกเบาๆ ฟังง่ายๆ เนื้อหาดีๆ ปลอบใจๆ แต่ให้อารมณ์โยกๆ ละก็เพลงนี้เหมาะกับคุณครับ เนื้อร้องที่เอาสุภาษิตเกี่ยวกับคำว่า "อกหัก" มารวมไว้ ไ่ม่ว่าจะ "อกหักดีกว่ารักไม่เป็น" "อกหักไม่ยักกะตาย" "ที่ไหนมีรักมีทุกข์" มาเรียงร้อยเป็นเพลงสอนใจได้อย่างลงตัว ชอบครับ เสียอย่างเดียวให้อารมณ์เหมือนเพลง "ฝนตกที่หน้าต่าง" ยังไงไม่รู้สิ -*-

11. "อยากบอกรัก" เพลงช้าๆ เพลงนี้เป็นเพลงที่ ซึ้งที่สุด แล้วครับ ก็ยังเป็นโทนของคนเหงาๆ ที่บ่นรำพึงรำพันได้อย่างน่าฟัง ด้วยเมโลดี้สวยๆ คิดว่าน่าจะโดนใจคนที่กำลังแอบรักชาวบ้านแต่ไม่อยากบอกได้ไม่ยาก ให้อารมณ์แบบ "รู้ไหมว่าฉันคิดถึง-มีแต่คิดถึง" ในอัลบั้มก่อนๆ ที่ต้องมีเพลงแบบนี้ทุกชุดครับ

12. "นับเืรื่องดีๆ" เพลงสุดท้ายที่เหมือนจะเป้นเพลง "กล่อม" นอน ที่สอนเทคนิคให้คนที่ "นอนไม่หลับ" โดยเฉพาะ ฟังเพลินๆ ก็ดีครับ แต่ก็ยัง "ไม่สุด" ในแง่ของความลงตัวนะ ด้วยความที่มัน "เบา" จนเกินไป แต่ก็เหมาะสมในแง่ของ "เพลงปิดอัลบั้มนี้" ได้อยา่งสมบูรณ์ครับ

-----------
สรุป ถ้าคุณคิดถึงพี่เบิร์ดในแบบเดิมๆ อย่างเช่น ธงไชย เซอร์วิส แต่ก็ยังเสียดายความล้ำแบบ Volume 1 อัลบั้มนี้นับว่าเป็นอัลบั้มที่น่าจดจำที่สุดในชุดหลังๆ ของพี่เบิร์ดแล้วครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนโทน "เหงาๆ" แล้ัวละก็ Recommend เลยครับ

ป.ล.

อุดหนุนของแท้ด้วยนะ เพื่อที่จะได้เป็นกำลังใจให้นักแต่งเพลง ได้แต่งเพลงเพราะๆ มาให้นักร้องที่เรารักได้ร้องให้เราฟังกันต่อไปนานๆ ครับ
-----------

Create Date : 05 มีนาคม 2554

Last Update : 5 มีนาคม 2554 15:02:25 น.

0 comments

Counter : 712 Pageviews.