|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
++..Legend of Therabithia..++ : ตำนานแห่งเทราบิเทีย - บทที่ 6 (2)
2.
ขณะที่อสูรฟีนิกส์ซึ่งสังฆราชเมลฟิสบินนำยานเหาะของไกเซอร์ลงสู ่เบื้องล่าง ทันใดนั้น ก็มีสัญญาณติดต่อมาจากยานรบกิกันติก เวโรนิสกดปุ่มเพื่อเปิดสัญญาณติดต่อทันที
ค่ะท่านผู้บัญชาการ.. ใม่ทันที่เวโรนิสได้พูดต่อ เสียงจากปลายสายก็สั่งมาด้วยเสียงอันดังทันที เวโรนิสและไกเซอร์ รีบถอยออกมาก่อน ข้าจะใช้ปืนใหญ่สลายพลังเวทย์ จาก ณ ตรงนี้..เร็วเข้า!! เธอยังงุนงงอยู่ เสียงของเรมิเอลก็ย้ำคำพูดเดิมทันที ข้าและยานอินวินซิเบิ้ลกำลังจะไปถึงในอีก 30 วินาทีข้างหน้า อสูร 2 ตัวนั่นพวกเจ้ารับมือไม่ได้หรอก
2 ตัวงั้นเหรอ.. เวโรนิสทวนคำและหันไปมองไกเซฮร์ที่ขับยานตามอสูรฟินิกส์ไป และก็นึกอะไรได้บางอย่าง จึงรีบติดต่อไกเซอร์ทันที เจ้าบ้า... กลับมานี่เดี๋ยวนี้ มันเป็นกับดัก!! แต่กลับไม่ได้สัญญาณตอบรับ หญิงสาวไม่รอช้ารีบบังคับยานพุ่งลงไปด้านล่างตามไปทันที
เปรี้ยง!!! เสียงดังสนั่นกึกก้องไปทั่วบริเวณเมื่อยานของเวโรนิสบินด้วยควา มรวดเร็วหมายจะตามไกเซอร์ แต่กลับถูกอะไรบางอย่างกระแทกจนกระเด็นไม่เป็นท่า เมื่อเธอได้สติก็รีบบังคับยานให้ทรงตัวก่อนที่จะกระแทกกับภูเขา ที่อยู่บริเวณน้นได้ทันท่วงที
อะไรกันนะ... เวโรนิสงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอมองไปดูที่เครื่องมือวัดพลังเวทย์แต่กลับไม่มีปรากฏสัญญาณตร วจจับพลังแต่อย่างไรเลย... เป็นไปไม่ได้ ...หรือว่าเซ็นเซอร์รวน.. ทันใดนั้นสัญญาณติดต่อก็ดังขึ้นอีก พร้อมกับเสียงของเรมิเอล ทำอะไรอยู่ ออกมาจากวิธียิงเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นยานของเจ้ากับไกเซฮร์จะถูกลูกหลงด้วยนะ เวโรนิสรีบรายงานสถานการณ์ไปทันทีว่าไกเซฮร์ก็อยู่ ณ ที่นั่นด้วย
เรมิเอลที่บัญชาการอยู่ ณ ยานอินวินซิเบิลหยุดคิดครู่หนึ่ง แล้วเขาก็ออกคำสั่งให้เวโรนิสบินกลับมาทันที หญิงสาวพยายามทัดทาน แต่ชายหนุ่มก็ตัดบทว่า ปืนใหญ่สลายพลังเวทย์ จะทำลายอนุภาคเทอร่า ยานของไกเซอร์อยู่ในบริเวณเมืองแล้ว คงไม่เป็นไรหรอก ....เอาละ นับถอยหลังและเตรียมยิง Deterra Cannon!!!
5..4..3..2..1
Fire!! ขาดคำ อากาศบริเวณท้องฟ้ารอบๆ เมืองอัลเทน่าโพลิสกลับปั่นป่วนอย่างรุนแรงและกลายเป็นพายุละออ งแสงจำนวนมากที่ถุกหมุนวนดูดลงไปในทิศทางหนึ่งซึ่งยานอินวินซิเ บิ้ลลอยอยู่เหนือน่านฟ้า เวโรนิสเห็นดังนั้นรีบบังคับยานบินถอยออกห่างไปในทันที ขณะเดียวกันก็เกิดลำแสงขนาดมหึมาก็พุ่งสวนทางมาอย่างรวดเร็ว ตรงไปยังเมืองอัลเทน่าโพลิสที่ลอยอยู่เบื้องหน้า
ขณะที่ไกเซอร์กำลังบินลงไปใกล้พื้นผิวของเมืองอัลเทน่าโพลิส เขาก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน พอหันกลับไปก็ต้องตกใจที่เห็นคลื่นพลังแสงขนาดมหึมาพุ่งตรงมาจา กท้องฟ้า
เฮ้ยยย.....! ไกเซอร์พยายามหลบแต่ไมพ้น ยานของเขาถูกคลื่นลำแสงกระแทกอย่างรุนแรงและกลืนหายไปกับเสียงร ะเบิดอันกึกก้องกัมปนาท แต่ก่อนที่คลื่นพลังจะตกลงสู่ตัวเมือง ทันใดนั้นก็มีลำแสงสีฟ้าจำนวนมากมายพุ่งมาจากทางวิหารอัลเทน่าแ ละปะทะกันกับคลื่นพลังทำลายเวทย์จนเกิดระเบิดเสียงดังกีกก้องกั มปนาท
บรึมมมมม!!!
เรมิเอลยืนมองดูจากยานอินวิซิเบิ้ลอย่างใจจดใจจ่อ แต่แล้วเขาก้ต้องประหลาดใจเมื่อพอหมอกควันได้จางลง ปรากฏว่าพลังจากปืนใหญ่ของเขากลับหยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยมีลำแสงสีฟ้าที่กระจายตัวเป็นดังโซ่คอยรัดรึงอยู่ ณ เบื้องล่างนั้นเองปรากฏร่างของเด็กหญิงคนหนึ่งลอยอยู่เหนือวิหา รอัลเทน่า ร่างของเธอมีออร่าสีฟ้าสัณฐานคล้ายโซ่ปกคลุมแผ่ออกมาคล้ายเกราะ ป้องกัน.. เธอมองมายังทิศที่ยานอินวินซิเบิ้ลลอยอยู่และเบื้องหลังของเธอก ็คืออสูรฟินิกส์และสังฆราชเมลฟิสที่ก็กำลังประหลาดใจไม่ต่างกัน
เจ้า...ไม่สิ ...ท่านคือ.. ชายชราเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ร่างของเด็กหญิงไม่ตอบแต่เธอกลับลอยไปอยู่เหนือเทวรูปเทพีอัลเท น่า ทันใดนั้น เทวรูปก็กลับเปล่งแสงสีฟ้าเจิดจ้า และค่อยๆ เคลื่อนไหวได้ดังมีชีวิต พื้นผิวเทวรูปที่เป็นแผ่นหินค่อยๆ กลายเป็นผิวหนังดังผิวมนุษย์ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ท่ามกลางความตกตะลึงของเรมิเอลกับเวโรนิสที่เห็นเหตุการณ์
เวโรนิสอุทานด้วยความตกใจ นี่มันอะไรกัน ทำไมเทวรูปนั่นถืงเป็นแบบนี้... ข้าไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน เรมิเอลรีบไปดูเครื่องวัดพลังเวทย์ปรากฏว่าไม่สามารถจับพลังได้ บ้าจริง... ทันใดนั้นจอภาพก็ฉายภาพใบหน้าของเทวรูปที่บัดนี้กลายเป็นใบหน้า ของหญิงสาวผู้งดงามและได้พูดผ่านเครื่องติดต่อด้วยเสียงอันทรงอ ำนาจว่า
นามของข้าคืออัลเทน่าเทพีแห่งแสงสว่าง เทพเจ้าผู้ปกป้องคุ้มครองโลกนี้ พวกเจ้าจงหยุดรุกรานดินแดงของข้าและกลับไปเดี๋ยวนี้!!
ณ ปราสาทเทราบิเทีย
เซซิรอสเดินออกมายังท้องพระโรงด้วยใจสับสน.. เขารู้สึกปวดหัวอย่างมากมาย ชายหนุ่มเดินเรื่อยเปื่อยไปตามบันใดวนไปเรื่อยๆ อย่างเลื่อนลอย เขาครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา จนมาหยุดตรงหน้า ณ คุกไต้ดินเพียงลำพัง เขาเดินข้ามผ่านม่านพลังเวทย์ที่ไว้กักขังพลังเวทย์มนตร์ไปยังส ่วนที่ลึกที่สุด เบื้องหน้าคือร่างอันไร้สติของอสูรอีฟริตที่ถูกผนึกไว้และยังเห ลือเค้าโครงร่างกายของกษัตริย์อัลวิสอยู่
เพราะเจ้า.....เป็นเพราะเจ้าที่ทำให้ข้าเกิดมา....แถมยังทำให้ข ้าเป็นอย่างนี้อีก ชายหนุ่มใช้มือช้อนคางของอัลวิสขึ้นมาและมองดูด้วยความเกลียดชั ง เลือดของแม่ข้า... ทุกหยดข้าจะให้เจ้าชดใช้แน่ๆ อีกไม่นานหรอก เมื่อเซซิรอสกำลังจะถอยหลังกลับไปก็ต้องผงะเมื่อเห็นสิ่งที่อยู ่ตรงหน้า..ร่างของผู้หญิงคนหนึ่งมองมาที่เขาด้วยแววตาอ่อนโยนแต ่เศร้ายิ่งนัก ซึ่งเขาจำได้ทันทีจนต้องหลุดปากออกมาอย่างตกใจ
ท่านแม่... ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปหาแต่กลับทะลุร่างนั้นล้มลง ร่างนั้นหันกลับมาพูดกับเซซิรอสเบาๆ ก่อนที่จะจางหายไปว่า ลูกแม่.... จงอย่ายอมแพ้ความมืด... เซซิรอสมองดูร่างนั้นค่อยๆ เลือนลางไปอย่างไม่วางตา และน้ำตาของเขาค่อย ๆ หยดลงมาอาบแก้มทีละน้อยๆ ไม่!!!! เขาตะโกนด้วยความปวดร้าวอย่างสุดซึ้ง ขณะเดียวกันในเงามืดมุมหนึ่ง ลอร์ดฟอลคอนที่แอบมองดูเหตุการณ์จากมุมเสาต้นหนึ่งอยู่ไกลๆ ก็ยิ้มด้วยความพอใจและค่อยๆ เดินกลับขึ้นไปอย่างช้าๆ พร้อมกับรำพึงเบาๆ ว่า
อีกไม่นานหรอก.... พวกเจ้าจะได้รับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของข้า และถึงคราวที่พวกเจ้าจะต้องเจ็บปวดอย่างที่ข้าเคยรับมาบ้างแล้ว หึๆๆ
ก่อนหน้านั้นไม่นาน ณ วิหารอัลเทน่า...
อารุสเมื่ออุ้มเซเลสเทียออกมานอกวิหารได้แล้ว เขาก็พบกับร่างหนึ่งที่นอนสลบอยู่ ร็อดนี่ย์นั่นเอง ชายหนุ่มค่อยๆ วางเซเลสเทียลงและไปเขย่าตัวร็อดนี่ย์อย่างแรง ร็อดนี่ย์ๆๆ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ฟื้นสิๆๆๆ แล้วหญิงสาวก็เริ่มมีสติขึ้น เธอค่อยๆ ลืมตามาและมองเห็นอารุสก็ค่อยๆ ลุกขึ้นและพอรู้สึกตัวก็ผลักอารุสออกไปทันที
นี่เจ้าจะทำอะไรน่ะ..! อารุสไม่ตอบและรีบบอกว่า ไปกันเถอะ เราต้องรีบพาเจ้าหญิงไปจากที่นี่ ร็อดนี่ย์ได้ยินก็นีกได้ จริงสิ ข้าได้ยินเสียงเพลง...แล้วก็ไม่รู้สึกตัวเลย...แล้วองค์หญิงเป็ นอย่างไรบ้าง อารุสจึงชี้ไปที่เซเลสเทียที่ยังสลบอยู่ ร็อดนี่ย์ไม่รอช้าจึงค่อยๆ ไปเขย่าตัวเซเลสเทีย แต่ไม่ได้ทำให้เธอคืนสติได้เลย อารุสเห็นดังนั้นจึงรีบเตือนร็อดนี่ย์ให้รีบไป เราช่วยๆกันพยุงเจ้าหญิงและรีบไปจากที่นี่เถอะ. ร็อดนี่ย์พยักหน้าแต่ก็นึกอะไรบางอย่างได้ แล้วเรน่าละ เรน่าอยู่ไหน อารุสตอบว่า เรน่า....ไม่สิ เด็กคนนั้นกลายเป็นเทพีอัลเทน่าไปแล้ว ไม่มีเวลาเล่าอะไรแล้ว ...เรารีบไปกันเถอะ
เมื่อพวกอารุสพาเซเลสเทียออกมาทางสวนด้านหลังวิหาร ..ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่ารอบๆ วิหารนั้นกลายเป็นแผ่นดินที่ลอยอยู่บนพ้า อารุสอุทานทันที แล้วเราจะไปยังไงกันดี ร็อดนี่ย์ไม่ตอบแต่กลับล้วงหยิบเอาสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋า มันเป็นขนใบเล็กๆ อารุสทำหน้าสงสัย นี่มันอะไร... ร็อดนี่ย์ยิ้มๆ และส่งให้กับอารุส ขนมังกร...ขนของรูบิน่าไงละ ข้าแอบเด็ดมันมา เราจะได้เรียกมันมาได้ เอาละ เจ้าลองเป่ามันให้เกิดเสียงดังๆ และลองเรียกมันจากหัวใจเจ้าดูสิ ชายหนุ่มรับมันมาจากมือร็อดนี่ย์อย่างงงๆ หลังจากค่อยๆ วางตัวเจ้าหญิงเซเลสเทียลง และลองทำตามดู
ปู๊ดดดด
แค่กๆๆๆ อารุสสำลักหลังจากพยายามเป่าแต่เหมือนขนมังกรจะทำให้ระคายเคือง จมูกจนต้องไอออกมา ร็อดนี่ย์เห็นก็ส่ายหน้าและดึงมันคืนมาจากมืออารุสทันที นี่ๆ ค่อยๆ ทำสิ ยิ่งขนมันหลุดมากเท่าไร จะยิ่งสื่อสารได้ระยะทางน้อยเท่านั้นนะ ร็อดนี่ย์ค้อนและส่งกลับไปให้อารุสลองใหม่อีกครั้ง เอ้า เอาใหม่ เร็วๆ
คราวนี้อารุสตั้งใจเป่าอย่างจริงๆ จังๆ ฟู่....... เสียงเบาๆ ค่อยๆ ลอยตามลม.. ไปจนถึงมังกรรูมิน่าที่สลบอยู่ มันค่อยๆ ลืมตาขึ้นและค่อยๆ ยันตัวเองขึ้น พอได้ที่แล้วก็กางปีกออกและบินออกไปอย่างรวดเร็ว
จะได้ผลเหรอ ...นี่เจ้ารู้ได้ยังไง... หลังจากลองเป่าไป 3 ครั้ง อารุสก็หันหน้ามาถามด้วยความไม่แนใจ ร็อดนี่ย์ทำคิ้วขมวดก่อนจะตอบว่า ไม่รู้สิ ข้าเองก็เรียนรู้จากท่านพอ... อารุสกุมขมับด้วยความปวดหัว แล้วมันจะได้ผลมั๊ยเนี่ยะ... ทันใดนั้น ร็อดนี่ย์ก็ผลุดลุกขึ้นและจับมืออารุสให้มองดูบนฟ้า นี่ๆ เจ้าดูนั่นสิ ตรงนั้นน่ะ.. อารุสมองตามไปก็พบเงาเคลื่อนไหวตรงมาทางนี้ พอเข้ามาใกล้ๆ ทั้งสองคนก็ตะโกนพร้อมกันด้วยความดีใจ
รูมิน่า!!
ขณะเดียวกัน ณ ยานอินวินซิเบิ้ล
เวโรนิสหลังจากเข้ามายังยานแม่ได้แล้วก็วิ่งมาหาเรมิเอลด้วยควา มตกใจ นั่นมันอะไรกันน่ะ...พลังขนาดนี้ยังทำอะไรอสูรนั่นไม่ได้ ...เราจะทำยังไงกันดี เรมิเอลยกมือหนึ่งกุมขมับและโบกมือห้ามไม่ให้พูดต่อ นั่นไม่ใช่อสูร..เวโรนิส.. ขอข้าใช้ความคิดหน่อย หญิงสาวยังไม่หยุดแต่กลับเดินเข้าไปที่จอภาพและชี้ให้ดูมาตรวัด พลังเวทย์และพูดว่า ไม่ใช่อสูรแล้วมันอะไร ทำไมเครื่องจับพลังเวทย์ถึงจับมันไม่ได้ แถมยังทำลายพลังของ Deterra cannon ได้ในพริบตาอีก
นั่นไม่ใช่อสูร นันคือเทพเจ้า เสียงหนึ่งจากเครื่องติดต่อดังทำลายความเงียบขึ้น เป็นเสียงของโคลก้านั่นเอง เรมิเอลรีบกดปุ่มตอบรับและพูดต่อทันที เทพเจ้า...เจ้าหมายถึงเทพีอัลเทน่างั้นเหรอโคลก้า. เวโรนิสถามต่อ แล้วเราจะทำยังไงกันดี เสียงนั้นตอบมาทันควันเช่นกัน จงรีบกลับมาที่พระราชวัง เราจะต้องกำจัดร่างทรงของเทพรัตติกาลเนครอสให้ทันเวลาก่อนที่เท พสององค์จะพบกัน ...ไม่งั้นเราจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
เวโรนิสทุบแผงควบคุมและตะคอกไปกลับอย่างโมโห ไม่ได้นะ ...ไกเซฮร์อยู่ด้านล่าง...ข้าจะทิ้งเค้าไว้ไม่ได้! หญิงสาวหันไปมองเรมิเอลและชี้หน้าด้วยความโกรธ เจ้าเองบอกเองว่า มันไม่มีผลร้ายแรงกับมนุษย์ แต่จะมีผลกับเครื่องยนต์พลังเวทย์....แล้วดูสินี่มันอะไรกันละ ข้าจับความเคลื่อนไหวของเจาไม่ได้เลย พูดจบเวโรนิสก็เดินออกไปจากห้องทันที เรมิเอลเห็นดังนั้นก็รีบถามทันที เดี๋ยว ....เจ้าจะไปไหน เวโรนิส
หญิงสาวหันกลับมาตอบทันควัน ข้าจะไปช่วยเจ้าบ้าไกเซฮร์!!
.เรมิเอลพยายามทัดทาน หยุดนะเวโรนิส... เจ้าจะไปไม่ได้มันอันตราย แต่เสียงของโคลก้าตามสายก็แทรกขึ้นมาว่า ปลอยเธอไป...และรีบกลับมาเถอะ..ข้าเกรงว่าถ้าข่าวนี้ไปถึงหูประ ชาชนเทราบิเทีย เขาจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านกองกำลังจักรวรรดิ์ ทุกอย่างจะพลัง และเมื่อนั้นเราจะแย่... ข้าเชื่อว่าสองคนนั่นจะหาทางรอดกลับมาได้ เวโรนิสจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามหรอก เรมิเอลกัดฟันกรอดและหันไปออกคำสั่งทันที
ถอยกลับเต็มกำลัง!!
ณ ป่ามายา..
ผลึกคริสตัลที่ผนึกราชินินิรันดร์กาล อัลฟิโอน่าไว้กำลังเปล่งแสงสีฟ้าสุกใสอบอุ่น ทำให้หมาป่าฟิเลมินอสค่อยๆ ลื่มตาขึ้น และรุ้สึกมีพลังเต็มเปี่ยมขึ้นมาอีกครั้ง ฟิเลมินอสมองไปยังผลึกคริสตัลอย่างมีความหวังพลางรำพึงว่า ผุ้ที่ถูกเลือกเอย.... ในที่สุดเจ้าก็ทำสำเร็จแล้วสินะ มันลุกขึ้นยืนและค่อยๆ ไปหมอบหน้าเทวรูปเทพีอัลเทน่า
ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้งหนึ่ง ฟิเลมินอสได้พูดกับรูปปั้นเทพีอัลเทน่าว่า
หวังว่าครั้งนี้... คงจะจบกงล้อแห่งชะตากรรมอันเป็นนิรันดร์เสียที... แล้วข้าคงจะได้พักผ่อนตลอดกาล..
(ต่อตอนหน้า)
Create Date : 08 เมษายน 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 8 เมษายน 2553 17:18:32 น. |
Counter : 795 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
คนบ๊องๆ คนหนึ่ง.. รักดนตรี เสียงเพลง เตบอยากเป็นครูบ้านนอก แต่ดันเป็นโปรแกรมเมอร์เมืองหลวง ชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ฝันอยากจะเป็นบาหหลวง แต่ดันแอบหลงรักสาวอยุ่ร่ำไป ใครๆ บอกว่าเป็นคนดี แต่ตัวเองบอกว่าคงไม่ดีเท่าไร อย่างน้อยก็หน้าตาหละ... แต่เห็นหน้าตาอย่างนี้ ก้อจบปรัชญาราม นะคร้าบบบ
|
|
|
|
|
|
|
|