ตลอดระยะเวลา 1 ปี หลังการเปิดตัวรถปิกอัพ ออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์ ที่มีกระแสตอบรับจากผู้ใช้รถชาวไทยอย่างท่วมท้น โดยมียอดจำหน่ายและค้างส่งมอบมากกว่า 200,000 คัน ส่งผลให้ลูกค้าต้องรอรับรถนานเป็นปรากฏการณ์จนผู้บริหารต้องออกมาขออภัยลูกค้า พร้อมทั้งยอมรับว่าบริษัทต้องเผชิญกับยอดจำหน่ายและค้างส่งที่ถือว่ามากที่สุดในการดำเนินธุรกิจตลอด 55 ปีของกลุ่มอีซูซุในประเทศไทย
นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นฐานการส่งออกรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ไปยังตลาดโลก ทำให้ส่งผลกระทบต่อเนื่องกับการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ในต่างประเทศที่ต้องล่าช้าออกไปกว่ากำหนดเดิมที่วางไว้ อย่างไรก็ตามกลุ่มอีซูซุได้ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง ดังนั้นบริษัทจึงมุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ผู้ใช้รถชาวไทยให้เกิดความพอใจก่อนจะขยายตลาดใหม่ในต่างประเทศความสำเร็จของออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์
ในประเทศไทยถือได้เป็นเครื่องการันตีความมั่นใจในการก้าวต่อไปสู่ตลาดโลกของกลุ่มอีซูซุ โดยบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ได้นำคณะสื่อมวลชนไทยไปเยี่ยมชมกิจการของกลุ่มบริษัทมิดี้ ยุโรป ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายรถอีซูซุรายใหญ่ของทวีปยุโรป ที่เมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลี และเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 66 ปี มีความเชี่ยวชาญด้านตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ของประเทศอิตาลี จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายรถอีซูซุอย่างเป็นทางการในปี 2537 โดยเริ่มจัดจำหน่ายเฉพาะรถบรรทุกก่อนที่จะเริ่มขายรถปิกอัพในปี 2541
กลุ่มบริษัทมิดี้ ยุโรปที่นำทัพโดย มร.จังคาโล่ มิรันโดล่า ประธานกลุ่มฯ ผู้เป็นรุ่นที่สองของตระกูลเบรนดาเกลียได้วางแผนพร้อมสรรพในการเปิดตัวรถปิกอัพ ออล-นิวอีซูซุ ดีแมคซ์ในเขตการจำหน่ายที่รับผิดชอบคือ อิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน ด้วยการส่งทั้งผู้จำหน่ายอีซูซุและสื่อมวลชนไปสัมผัสสมรรถนะ รวมทั้งเข้าร่วมหลักสูตรการตลาดของตรีเพชรอีซูซุ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศของตนเอง
หลังจากนั้นได้เดินหน้าแนะนำรถปิกอัพออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์สู่สาธารณชนในงานมอเตอร์โชว์ระดับโลกทั้งที่เจนีวา มาดริด และปารีส รวมทั้งการร่วมมือกับพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อจัดกิจกรรมพิเศษหลากหลายรูปแบบเพื่อโปรโมต อีซูซุ ดีแมคซ์ให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ คณะสื่อมวลชนได้เยี่ยมชมโรงงานประกอบรถบรรทุกอีซูซุ ศูนย์อะไหล่ และพื้นที่สำหรับสต๊อกรถปิกอัพออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์ที่ว่างเปล่าเนื่องจากประเทศไทยไม่สามารถส่งรถไปให้ได้ โดย มร.จังคาโล่กล่าวว่าแม้ยุโรปจะประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ แต่กลุ่มบริษัทมิดี้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และที่สำคัญความต้องการซื้อรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ของลูกค้าก็มีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทฯ ไม่สามารถมีรถให้ลูกค้าได้ อย่างไรก็ตามสถานการณ์ต่าง ๆ คงดีขึ้นและคลี่คลายในที่สุด เพราะมั่นใจในตัวผลิตภัณฑ์และการบริหารของกลุ่มอีซูซุในประเทศไทยที่มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้รถปิกอัพ ออล-นิว อีซูซุ ดีแมคซ์มีส่วนแบ่งตลาดอย่างน้อย 20% ในทุกตลาดที่กลุ่มมิดี้รับผิดชอบ.