ยาที่ใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร 1
การใช้ยารักษาโรคทั่วๆ ไปนั้น แทบจะไม่มีข้อจำกัด นอกเสียจากว่าจะแพ้ยาหรือมีการเจ็บป่วย แต่สำหรับหญิงมีครรภ์แล้วการใช้ยาเป็นสิ่งที่จะต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากยาที่ใช้อาจจะ
1. มีผลต่อการเจริญของเด็กในครรภ์มารดา 2. มีผลข้างเคียงต่อเด็กในครรภ์มารดา 3. ทำให้เกิดการคลอดที่ผิดปรกติ
คำศัพท์ที่เรามักจะพบสำหรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการใ้ช้ยา ได้แก่ 1. Teratogenic Agents (Teratogens) คือยาหรือสารที่ทำให้เกิดการผิดปรกติของพัฒนาการทางร่างกายของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา (ทารกวิรูป) 2. Malformation เป็นคำที่บอกถึงการผิดปรกติในแต่ละอวัยวะเช่น tooth malformation คือเกิดการเจริญที่ผิดปรกติ อาจจะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการคลอดก็ได้ 3. Mutation คือการเปลี่ยนแปลงถึงระดับ DNA ซึ่งอาจจะทำให้มีความผิดปรกติหรือไม่ผิดปรกติก็ได้ มักเกิดจากสารก่อมะเร็ง (carcinogen) หรือการได้รับรังสี
เราจัดแบ่งยาที่จะใช้ในหญิงมีครรภ์ตาม Pregnancy Categories Risk ซึ่งมี 5 ระดับด้วยกัน A - มีการทดลองยืนยันว่าปลอดภัยต่อทารกในหญิงมีครรภ์ B - มีการยืนยันว่าปลอดภัยในสัตว์ทดลอง แต่ไม่มีการรายงานความผิดปรกติของทารกในหญิงมีครรภ์ C- มีการรายงานถึงความผิดปรกติในสัตว์ทดลอง แต่ไม่มีการรายงานความผิดปรกติของทารกในหญิงมีครรภ์ หรือยังไม่เป็นที่ชัดเจน D - มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความผิดปรกติของทารกในหญิงมีครรภ์ แต่อาจต้องใช้ในกรณีที่จำเป็นต่อการช่วยชีวิต X - มีผลชัดเจนว่าก่อให้เกิดความผิดปรกติของทารกในหญิงมีครรภ์ แต่ในกรณีที่มีความจำเป็นมากๆ แล้ว ควรใช้มากกว่าที่จะไม่ใช้
สำหรับยาที่จัดว่าปลอดภัยนั้น คืออยู่ใน Categories Risk A,B ส่วนยาที่ใช้เมื่อจำเป็นจริงๆ คือ D,X
ส่วน Cat C เป็นยาที่มีจำนวนมาก โดยปรกติแล้ว หากไม่จำเป็น และมียาที่อยู่ใน Cat A,B ใช้อยู่แล้ว ก็จะไม่เลือกใช้ แต่หากไม่มียาที่อยู่ใน Cat A,B ก็อาจจะใช้ C ได้ โดยพิจารณาเป็นรายๆ ไป
Create Date : 26 สิงหาคม 2549 |
|
5 comments |
Last Update : 17 กันยายน 2549 9:32:16 น. |
Counter : 5596 Pageviews. |
|
|
|