::ส่วนเกิน:: โครงการตะพาบครั้งที่87
 

ส่วนเกิน

ICU

“อาการหนักมากหรือเปล่าครับคุณพยาบาล ? อ่อครับ งั้นให้valium 10 mg IV ไปก่อนล่ะกันครับ

เดี๋ยวผมจะรีบไปดู”นพ.วิทย์มักถูกตามจากICU(หอผู้ป่วยวิกฤต)อยู่บ่อยๆ  เขามักพบว่าอาการของ

ภรตมักเป็นมากขึ้นหลังจากญาติพากันมาเยี่ยม

    ภรตเป็นเด็กหนุ่มวัย 18 ปี พึ่งจะสอบติดคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยชื่อดังไปมาดๆ

แต่เขาต้องประสบเคราะห์ร้าย เพราะหลังจากประกาศผลสอบ คงเป็นเพราะฉลองกับเพื่อน

จนเมามากไป จึงประสบอุบัติเหตุรถยนต์พุ่งตกลงคลองข้างทาง เพื่อนของเขาเสียชีวิต

ส่วนเขาอาการหนักมาก

“สงบแล้วค่ะคุณหมอวิทย์ ก่อนนี้แกดูดิ้นทุรนทุรายมาก หายใจไม่สัมพันธ์กับเครื่อง แปลกนะค่ะ

เป็นตอนญาติมาเยี่ยมทุกที สงสัยจังว่ามีอะไร  พี่ก็เห็นพ่อ แม่ และญาติคนอื่นๆดูเป็นห่วงและ

รักแกมาก ร้องไห้และปลอบให้แกสู้ตลอด”  

 “จริงด้วยครับพี่  เท่าที่ผมเคยเจอคนไข้ที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนมากขนาดนี้ ไม่น่าจะมี

การรับรู้อะไรเหลืออยู่อีกนะครับ หมอบางคนเค้าถึงชอบเรียกว่า เป็นผัก ไงล่ะครับ ยิ่งมาติดเชื้อ

ในกระแสเลือดหลังผ่าตัดอีก ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ ตอนกลางวันแกเป็นยังไงบ้าง ดิ้นแบบนี้รึเปล่าครับ”

“แกแปลกนะคะ แม้ว่าจะตอบสนองได้แค่ลืมตา หลับตา แต่ก็ทำเป็นเวลา แกมักจะหลับตากลางวัน

กลางคืนมักจะลืมตามองเพดาน บางครั้งก็มีน้ำตาไหลออกมาด้วย พี่ว่าแกน่าจะมีอะไรในใจนะคะ”

“ขอบคุณมากนะครับพี่ ยังไงพรุ่งนี้เช้า ผมรบกวนช่วยนัดคุยกับญาติ ให้ผมหน่อยนะครับ

 ผมจะได้แจ้งอาการ คุยเรื่องการดำเนินโรคด้วยน่ะครับ”

นพ.วิทย์เดินออกไปนอก ICU...เสียงเครื่องช่วยหายใจและเครื่องตรวจสัญญาณชีพก็ร้องอีกครั้ง

 

                   

                                    

 

คราบน้ำตา  

ครอบครัวของภรตค่อนข้างมีฐานะ ทำงานเป็นวิศวกรเกือบทั้งบ้าน ภรตเป็นเด็กดี ตั้งใจรียนและ

 เรียนได้ดีเสมอ เขาเป็นคนชอบศิลปะมาก นี่อาจทำให้เขาต่างจากคนอื่นในบ้าน

ภรตคือความหวังหนึ่งเดียวของครอบครัว

“เรารักแกมากนะหมอ นี่แกก็ยังอายุน้อย พึ่งสอบได้ยังไม่ทันได้เรียนเลย  เรามีลูกชายคนเดียว

หมอช่วยแกเต็มที่นะครับ มียาหรือการรักษาอะไรดีๆ เราจ่ายได้ทั้งหมด” พ่อของภรตพูด

ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา “หมอเข้าใจดีครับ แต่ตอนนี้หมอช่วยผ่าตัดสมองไปสามครั้งแล้ว

อาการก็ไม่ได้ตอบสนองเลย ความรู้สึกอยู่ในขั้นโคม่าตลอด ซ้ำยังมาติดเชื้อในโรงพยาบาลอีก

หมอจะช่วยเต็มที่นะครับ แต่ต้องบอกพ่อกับแม่ให้เผื่อใจไว้บ้าง หากว่า...”นพ.วิทย์พูดยังไม่ทันจบประโยค

“เราเต็มที่ครับหมอ! ต่อให้หัวใจหยุดเต้น เราก็ขอปั๊มและให้ยากระตุ้นหัวใจ ผมบอกแกข้างหูตลอด

ให้อดทน ให้แกกลับมาให้ได้ พ่อจะช่วยแกเอง” พ่อของภรตพูดพร้อมกับใช้มือปาดน้ำตา

นพ.วิทย์บอกลาและรับปากกับพ่อและแม่ของภรตว่าจะช่วยเต็มที่

ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น...................เตรียมทีมปั๊มหัวใจเลยครับ คนไข้หัวใจหยุดเต้น!!!

                  

                      

 เสียงกระซิบและจิตดวงสุดท้าย 

“ตอนนี้เราปั๊มหัวใจไปสองรอบแล้วครับ คนไข้กลับมามีสัญญาณชีพแล้ว แต่อาการไม่ดีแล้วนะครับ

อวัยวะแกล้มเหลวไปหลายส่วน” นพ.วิทย์แจ้งอาการแก่ญาติทุกคน

“ไม่ต้องปั๊มอีกแล้วล่ะครับ แต่ผมขอให้ยากระตุ้นหัวใจต่ออีกหน่อยนะครับ ลุงที่สนิทกับแกกำลัง

เดินทางกลับมาจากเมืองนอก ใกล้จะถึงแล้ว เขาบอกอยากจะกล่าวลาแกด้วยตัวเองน่ะครับ”

พ่อของภรตพูดพร้อมทั้งน้ำตา หลังจากเห็นเลือดที่ออกมาจากท่อช่วยหายใจเป็น

ปริมาณมากหลังจากการปั๊มหน้าอกช่วยชีวิต

ไม่นานนักเรื่องไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้น เครื่องช่วยหายใจร้องลั่น สัญญาณชีพแกว่งมาก และภรต

 เริ่มลืมตาและดิ้นอย่างทุรนทุราย นพ.วิทย์ได้ให้ญาติออกไปรอข้างนอก เขาไม่กล้าให้ยานอนหลับ

เพราะอาจมีผลต่อสัญญาณชีพได้  ทุกคนได้แต่ภาวนาให้เขากลับมา คุณลุงคนนั้นมาถึงไม่นาน

นพ.วิทย์ให้เขาเข้าเยี่ยมได้คนเดียว คุณลุงกระซิบบางอย่างข้างหูภรต จากนั้นเขาก็เดินออกมา

พร้อมน้ำตา ไม่นานนักภรตหลับตาลง หยุดดิ้นและสัญญาณชีพค่อยๆราบเรียบจนเป็นเส้นตรง

..........เขาจากไปอย่างสงบ

“คุณลุงครับ ผมรบกวนถามหน่อยครับว่าคุณลุงพูดอะไรกับแกน่ะครับถึงได้สงบลงได้” นพ.วิทย์ถาม

“ก่อนหน้านี้แกโทรมาบ่นกับลุงน่ะหมอ ว่าอยากจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่  แกทะเลาะกับพ่อ

พ่ออยากให้แกเรียนวิศวะน่ะ เถียงกันรุนแรง แกเสียใจมากร้องไห้ตลอด เพราะแกอยากเรียนศิลป์จริงๆ 

ลุงรู้จักหลานคนนี้ดี ลุงกระซิบบอกแกว่า

    ไม่ต้องห่วงนะ พ่อแกยอมให้แกเรียนศิลป์แล้วล่ะ แกไม่ใช่ ส่วนเกิน ในบ้านเหมือนที่พ่อแกพูด

หรอกนะ ทุกคนยอมรับแก  ถ้าเหนื่อยก็นอนพักสักหน่อย ตอนนี้พ่อแม่ ลุงมาอยู่ข้างๆแล้วนะ

ทำใจให้สบาย  ตื่นมาลุงกับพ่อจะพาแกไปซื้อชุดนักศึกษาและอุปกรณ์วาดเขียนใหม่”

 

*มีเรื่องลงในนิตยสารTime ประมาณสองปี เกี่ยวกับเรื่องคนไข้โคม่า หรือที่เรามักเรียกว่าเจ้าชายนิทรา

หรือ เป็นผัก มีงานวิจัยพบว่าประมาณสี่สิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยยังมีความรู้สึกตัวอยู่ ไม่มากก็น้อยต่างกัน 




Create Date : 21 สิงหาคม 2556
Last Update : 22 สิงหาคม 2556 22:48:04 น.
Counter : 1797 Pageviews.

38 comments
  
เจิมๆๆๆ
เป็น "ส่วนเกิน" ที่ตื่นเต้น เร้าใจแบบหมอๆจริงๆค่ะ
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:0:52:46 น.
  
สวัสดียามเช้าค่าคุณหมอ
เขียนเล่าเรื่องราวแบบนี้...
ทำให้น่าอ่านน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบนะค่าคุณหมอ

อืมมนะ หากใครถูกตราหน้าว่าเป็น "ส่วนเกิน"
คงไม่ต้องบรรยายถึงความรู้สึกแล้วหล่ะเน๊อะว่าจะร้าวลึกซักแค่ไหน
ยิ่งโดยเฉพาะหากคนที่ต่อว่ามานั้นกับคนที่เป็นพ่อแม่แล้วหล่ะก็
คงเป้นปมที่ใหญ่หลวงในใจไปตลอดชีวิตเลยเนอะ


เช้านี้พริ้วไหวมีเมนูใหม่มาฝากนะค่าคุณหมอ



ปลาหมึกผัดพริกเผาโหระพามาส่งแระค่า


โหวตไล้ค์ให้งานเขียนคุณหมอนะค่า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
au_jean Klaibann Blog ดู Blog
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


มีความสุขกับภารกิจหน้าที่ตลอดทั้งวันนะค่าคุณหมอ
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:6:20:34 น.
  
สวัสดียามเช้าครับ


โหวตบล็อกงานเขียนให้เลยนครับคุณหมอ
อ่านตามไปจนจบ
นึกภาพตามได้เลยครับ

ชอบมากครับ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:6:55:21 น.
  
แบบนี้เค้าเรียกว่า อาการติดค้าง ในในด้วยนะค่ะ
เพราะคิดว่าตัวเองยังมีอะไรค้างคา เลยยังไม่ได้จากไป
ทันที แต่พอบทจะไปขึ้นมาก็อย่างง่ายเลยค่ะ ..


เคยได้อ่านงานของทางฝั่งเมกาเหมือนกันค่ะที่หมอ
เขียนถึงผู้ป่วยที่อยู่ในห้อง ICU เรียกว่าก้ำกึ่งจะไม่รอดกับ
พร้อมจะไปและว่ารอแบบลังเล เค้าก็พูดแบบนี้เหมือนกัน
นะค่ะว่า โดยมากก็จริงๆ ก็พอจะมีบ้างที่รู้ตัวแต่ว่าสื่อสาร
ออกมาไม่ได้ อ่านแล้วรู้สึกสลดเหมือนกันนะค่ะ
เพราะคิดดูว่าถ้าเป็นตัวเองล่ะ คงรู้สึกแย่เอามากๆ แต่ว่า
ณ ตอนนั้นคงไม่ได้คิดอะไรนอกจากว่าถ้ามันทรมานมากๆ
ไปเลยดีกว่าไม๊จะได้หมดสิ้นกันเสียที

โดย: JewNid วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:9:26:12 น.
  
เป็นตะพาบที่เศร้ากับอาการเจ็บไข้ได้ป่วยที่ทุกคนต้องเจอ
ไม่ว่าจะมากจะน้อยนะคะ
กรณีนี้ก็เหมือนกัน เสียดายอนาคต

ชอบมากๆค่ะ
คราวหน้ามาแนวนี้อีกมั๊ยคะ
ได้อ่านอะไรที่เรียลๆในชีวิตจริงแล้ว
รู้สึกว่าเรื่องของตัวเองเด็กๆไปเลยค่ะ

ขอบคุณมากๆค่ะ ^^

โดย: lovereason วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:11:55:04 น.
  
โอ้ว...เป็นงานเขียนที่น่าอ่านมากค่ะ
จบดีซะด้วยสิ เล่นเอาน้ำตาซึมนิดหน่อยสำหรับคำว่า "แกไม่ใช่ส่วนเกิน..."
ให้ 1 ไลค์เลยค่ะ งิงิ
โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:12:00:20 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ ตามมาอ่านงานตะพาบคุณหมอ เขียนได้ดีมากค่ะ พี่กิ่งยังไม่ได้เริ่มเลยค่ะ สงสัยอาจจะขอโดดหรือเปล่าไม่แน่ใจค่ะ แหะ แหะ เพราะพักนี้งานเยอะมากมาย

พี่กิ่งโหวตงานเขียนไปแล้วขอไลท์ให้ก่อนนะคะ

มีควมสุขยามเย็นค่ะ




More Flowers Comments
โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:15:57:03 น.
  
ลึกซึ้งค่ะ ซึ้งมาก ตื้นในอกเลยค่ะ
โดย: น้อยหน่ากะสาลี่ วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:19:50:18 น.
  

Like ให้เป็นคนที่ 5
อ่านแล้วซาบซึ้งเลยจ๊ะน้องหมอ

โดย: อุ้มสี วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:21:37:41 น.
  
สวัสดีครับคุณหมอ ^^
มาอ่านแล้วรู้สึกดีมากๆนะครับ
ทำให้รู้ว่าเราก็ควรทำให้คนไข้โคม่าพวกนี้รู้สึกหมดห่วงกังวลนะครับ

ความรักของพ่อแม่ที่ปราถนาหวังดีต่อลูก แต่ขาดความเข้าใจ
ก็ทำให้เกิดความรู้สึก ส่วนเกินของครอบครัวได้นะครับ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะครับ
โดย: วนารักษ์ วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:22:07:59 น.
  
ขอบคุณทุกๆคนที่แวะมาเยี่ยมเยียนมากครับ
เรื่องแบบนี้ มีอยู่บ่อยๆเลยครับ ในคนไข้ระยะสุดท้าย
บางเรื่องก็ดูเหนือจริง ไม่น่าเชื่อ แต่ก็เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆนะครับ มีหลายเคสที่ยิ่งกว่าตัวอย่างเรื่องสั้นนี้อีก จิตใจคนเรายิ่งใหญ่กว่าร่างกายจริงๆนะครับ เอาไว้ถ้ามีเวลาผมจะทะยอยเขียนเล่าให้ฟังต่อนะครับ
โดย: หมอหว่อง วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:22:29:26 น.
  
มาส่งกำลังใจให้คุณหมอแปลงานได้สำเร็จนะครับ
จะรออ่านครับ

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 สิงหาคม 2556 เวลา:23:07:34 น.
  
เคยอ่านเคสคล้ายกันนี้ครับ ประมาณว่าบางครั้งคนไข้ไม่ยอมจากไปเพราะรอใครคนใดคนหนึ่ง หรือบางครั้งไม่ยอมไปเพราะความโกรธแค้นกับใครบางคน ซึ่งพอคนๆ นั้นมาถึงแล้ว แล้วบอกกับคนที่นอนอยู่ว่า มาหาแล้วนะ หรือไปเถอะ อภัยให้แล้ว พวกเขาก็จากไปอย่างสงบทันที ซึ่งเรื่องแบบนี้เหมือนไม่น่าเชื่อแต่มันก็ใช่ว่าจะไม่มี

+
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:0:03:41 น.
  
สวัสดียามเช้าที่ฝนตกค่าคุณหมออ

เมื่อวานมัวแต่ใส่ใจในเนื้อหาจนลืมพูดถึงภาพประกอบเลยค่า
จะบอกว่า ภาพหอยทากอ่ะ น่ารักดีค่า ช๊อบบบบบบบบ
แต่มิชอบหอยทากนะค่า ชอบแต่รูป 55
หน้าฝนหอยทากเยอะ

มีความสุขกับงานตลอดวันค่าคุณหมอ
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:6:36:53 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:6:56:24 น.
  
สวัสดีค่ะ คุณหมอ

คำพูดของผู้ใหญ่ มักส่งผลให้เด็กวัยรุ่น มีสภาพจิตใจ เศร้าหมองและเครียด

การสื่อสารกับเด็กวัยรุ่น จึงควร ระมัดระวังด้วยนะค่ะ จริงไหมค่ะคุณหมอ

ในสภาวะเช่นนี้ ร่างกายไม่ตอบสนอง แต่กลไกการทำงานของจิตยังมีอยู่ หรือเป็นกลไก การทำงานของสมองค่ะ

คือ........เหมือนรอคอยคนที่รักค่ะ พอรู้ (รู้ทางสมองหรือจิต )ยังสามรถ รอคอยได้

สงสัยค่ะ ว่าหลักการแพทย์คิดว่ารู้ ทางใดค่ะ สมองหรือจิต

**คุณหมอ อ่านแล้วงง กับคำถามพี่ หรือเปล่าค่ะ**

ทำงานมีความสุขค่ะ
โดย: ตาลเหลือง วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:10:22:54 น.
  
วันนี้ตั้งใจมาโหวตงานเขียนให้คุณหมอนะครับ

เมื่อวานโหวตเต็ม อิอิ ^^

เรื่องพวกนี้อีกหน่อยคงเป็นหนังสือดีๆสักเล่มนะครับ

ป.ล.

ขอบคุณที่ชมนะครับ

บางทีผมก็รู้สึกว่าจะอัดความคิดให้คนอ่านมากไปครับ แหะๆ


โดย: วนารักษ์ วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:16:04:34 น.
  
อนุญาตตอบคำถามของพี่ตาลในBlogของตัวเองด้วยนะครับ เพราะคิดว่าอาจจะเป็นประโยชน์และมีคนสงสัยอยู่
คำถาม
ในสภาวะเช่นนี้ ร่างกายไม่ตอบสนอง แต่กลไกการทำงานของจิตยังมีอยู่ หรือเป็นกลไก การทำงานของสมองค่ะ?
ตอบ
ในทางการแพทย์นั้น มีหลักฐานและงานวิจัยหลายอย่างที่ช่วยยืนยันว่าการที่คนไข้อยู่ในสภาวะที่ไม่รู้สึกตัว หรือที่เรียกว่า เป็นผัก นั้นยังมีการทำงานของสมองอยู่ แต่อาจเป็นเพราะสภาพร่างกายและสมองได้รับความเสียหายมากเกินไป(อันนี้เลยทำให้การรับรู้แตกต่างกันไปแต่ละคนครับ) จึงไม่อาจเคลื่อนไหวตอบสนองให้เห็นได้ เช่น การทำสแกนสมองเปรียบในคนปกติกับคนไข้มีอัตราการใช้ออกซิเจนเท่าๆกัน เช่นนี้เป็นต้นครับ

ส่วนในทางศาสนานัน้(ต้องออกตัวว่า ผมไม่ได้เป็นผู้รู้อะไรมากมายนะครับ) จิตของเราก็ยังคงทำงานอยู่ครับ การดับลงของจิตเดิม ไม่ได้ขึ้นกับการตายทางร่างกาย เรื่องนี้ผมคิดว่ากำลังจะเขียนBlogเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่ออยู่แล้วพอดีครับ (ถ้าสนใจติดตามตอนต่อไปได้นะครับ แหะๆ ^_^ ไม่ได้เขียนในเชิงผีสางอะไรนะครับ แต่ความเข้าใจนี้ อาจจะมีประโยชน์ในการดูแลคนไข้ระยะสุดท้ายได้ครับ)
การสิ้นสุดของการทำงานของจิตเกิดขึ้นเมื่อมีการเกิดของ จุติจิตครับ
เรียกเช่นนี้น่าจะเข้าใจได้มากกว่า แต่ในความเป็นจริงมันเป็นสมมติที่มนุษย์สร้างขึ้นนะครับ เพราะจริงๆแล้ว เรามีแต่การสืบเนื่องนะครับ ไม่มีการเกิด ไม่มีการตาย(ถ้างงตรงนี้ ไม่เป็นไรนะครับ)

เพราะฉนั้นการทำงานของสมองและจิตนั้น เป็นคนละส่วนกันนะครับ แต่เป็นไปได้ที่คนที่ไม่รู้สึกตัว จะสามารถรับรู้ได้จากทั้งสองอย่าง หรือจากจิตเพียงอย่างเดียวหากสมองตายไปแล้วจริงๆครับ
โดย: หมอหว่อง วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:21:51:13 น.
  
มาอ่านคำถามและเฉลยข้างบนครับ ดีจังเลยนะครับจำได้ความรู้ดีๆอีก แหะๆ ^^

มีความสุขกับวันศุกร์เช่นกันนนะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับผม

โดย: วนารักษ์ วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:22:10:57 น.
  
ขอมาทำความรู้จักกับบล็อกเกอร์ชั้นแนวหน้าอีกคนในอนาคตอันใกล้นี้นะครับคุณหมอ

อ่านเรื่องจบแล้วครับ เขียนได้ดีมากครับ
โดย: ปลายแป้นพิมพ์ วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:22:34:05 น.
  
ส่วนเกิน เป็นเรื่องสั้นที่สะท้อนความจริงได้กินใจค่ะคุณหมอ
พ่อแม่ที่คาดหวังกับลูกมากเกินไป
อาจนึกไม่ถึงว่า คำพูดหรือการกระทำที่อาจทำโดยไม่ไตร่ตรองให้รอบคอบ
จะกลายเป็นปมบาดลึกในจิตใจลูกได้ขนาดนี้นะคะ

โหวตและ like ค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog



นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:23:10:34 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับคุณหมอ


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 สิงหาคม 2556 เวลา:23:56:41 น.
  
จำได้ว่ามีเรื่องคนเป็นผักไปนานมากกกกก
แล้วยังฟื้นขึ้นมาได้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นสิบปีครับ
จำไม่ได้ว่าที่สหรัฐฯหรือแคนนาดา

สังคมเรายังมีพ่อแม่รังแกฉันเยอะนะครับ
มีลูกเมื่อไหร่ ผมยังไม่แน่ใจตัวเองเลยหนิ
โดย: เป็ดสวรรค์ วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:3:31:07 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:6:30:08 น.
  
สวัสดียามเช้าวันศุกร์ค่าคุณหมอ
สุขหรรษาตลอดทั้งวันนะค่า
โดย: พริ้วไหวไปตามลม วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:6:50:58 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอบคุณค่ะ ที่ตอบคำถามพี่ และจะรออ่านงานคุณหมอเกี่ยวกับเรื่องของจิตค่ะ

จิต เป็นพลังงานที่ เร้นลับนะค่ะ โดยส่วนตัวพี่เชื่อในเรื่องของพลังจิตค่ะ

เช่นบางทีคิดถึง เพื่อนคนหนึ่ง นึกอยากโทรไปหาเขา แต่ เขากลับโทรมาหาก่อน ไม่รู้ว่าพลังจิต ของพี่ส่งถึงเขา เขาจึงโทรมาหาพี่ หรือเพราะ เขาส่งพลังจิตถึงพี่ พี่จึงคิดถึงเขา

โดย: ตาลเหลือง วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:9:09:48 น.
  
แวะมาทักทายค่ะคุณหมอ
ลุ้นตามไปด้วยทุกตอนเลยค่ะ
เขียนได้ดีจังค่ะ
โดย: aom_charming วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:12:48:28 น.
  
ขอบคุณครับ
โดย: ravio วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:19:16:43 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอพี่กิ่งมาอ่านเสียงกระซิบจากดวงจิตสุดท้ายอีกครั้งค่ะ
พร้อมมาโหวตให้ด้วยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หมอหว่อง Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

งานเขียนของคุณหมอทุกเรื่องน่าสนใจมากค่ะ แล้วพี่กิ่งจะมาติดตามอ่านต่อไปนะคะ

โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:19:17:39 น.
  
สวัสดีครับคุณหมอ อ่านแลวพลอยเศร้าไปกับครอบครัว
ในเรื่องนี้ด้วยครับ
ขอโหวตครับ
โดย: moresaw วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:19:41:36 น.
  
คำสอนของท่านพุทธทาสหลายๆคำสอน
ถือว่ามาก่อนกาล
คือในยุคของท่าน
คนไม่ค่อยเข้าใจนัก
จนวันนี้ถ้าเราตามอ่านงานท่านดีดี
จะพบว่า
คำสอนของท่านพุทธทาสทันสมัยมาก
และไม่มีวันล้าสมัยเลยเพระาพูดแต่เรื่องของสัจธรรม


โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:21:42:45 น.
  
วันหยุดนี้ต๋าไม่มีแพลนไปเที่ยวไหนค่ะคุณหมอ
พรุ่งนี้ตั้งใจจะไปทำบุญค่ะ

นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 23 สิงหาคม 2556 เวลา:22:24:05 น.
  
มาอ่านตะพาบครับ คุณหมอ
เรียนจบ สอบเข้าโน่นนี่ได้
แปลกใจทำไมต้องฉลองด้วยเหล้าจนเมามาย ไม่ตายก็พิการ
โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:0:10:52 น.
  
สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:6:39:02 น.
  
สวัสดีค่ะคุณหมอ

มีความสุขในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ นะคะ

ยินดีที่คุณหมอแวะไปทักทายกันบ่อยๆ คะ

งานเขียนรอบนี้ดูเศร้าจัง

สงสารภรตและครอบครัว
โดย: kanyong1 วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:10:16:29 น.
  
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับคุณหมอ
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:10:46:52 น.
  
แวะมาเยี่ยมในวันหยุด สวัสดีครับ

มาติดตามผลงานตะพาบของคุณหมอด้วย เขียนได้ดีมาก likeครับ

และได้กดติดตามบล็อกด้วยนะครับ
โดย: **mp5** วันที่: 24 สิงหาคม 2556 เวลา:10:56:29 น.
  
อ่านแล้วจะร้องไห้ค่ะ
โดย: MsRoseQuartz วันที่: 18 ธันวาคม 2556 เวลา:3:42:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหว่อง
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]



สิงหาคม 2556

 
 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31