การต่อเติมอาคาร
เช้าวานนี้ ( พ. ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๓ ) ผม ลูกสาว และน้องชายภรรยา ได้ไปกราบนมัสการ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม เจ้าอาวาสวัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล จึงเชิญท่านทั้งหลายอนุโมทนาบุญ ครับ
เกี่ยวกับเรื่องการต่อเติมอาคาร เป็นเรื่องสืบเนื่องจากกระทู้เกี่ยวกับการต่อเติมอาคาร หรือปัญหาด้านโครงสร้าง เช่น ต่อเติมห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว ผนังมีรอยร้าว และเปลี่ยนวัสดุก่อผนัง เป็นต้น มักมีคำถามว่า จะใช้เสาเข็มกี่ต้น มีขนาดและความยาวเท่าไร โครงสร้างของอาคารต่อเติม จะเป็นแบบไหน จะเชื่อมติดกับโครงสร้างของอาคารเดิม หรือแยกโครงสร้างออกจากกัน จะแก้ไขโครงสร้างอย่างไร เป็นต้น คำถาม ต่าง ๆ เหล่านี้ จะมีผู้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย ทั้งในเชิงสร้างสรรค์และไม่สร้างสรรค์ ผมขออนุญาตแสดงเฉพาะกรณีของความคิดเห็นที่ไม่สร้างสรรค์ ซึ่งมีลักษณะพอสังเขป ดังนี้ -- โต้เถียงกันระหว่างผู้แสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน -- อย่าเชื่อคำตอบในนี้ ( ยุ่งล่ะครับ เพราะหมายความว่า ท่านเจ้าของกระทู้ ต้องไม่เชื่อความคิดเห็นนี้ด้วย ) ( ฮา ) ๕๕๕ -- ถ้าแนบใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม มาด้วย จึงน่าเชื่อถือ ( ยุ่งหนักขึ้นไปอีก เพราะผู้แสดงความคิดเห็น คงไม่ได้เป็นวิศวกร กันทุกท่าน จะเรียกว่าสองมาตรฐานหรือไม่ ) ( ฮาได้อีก ) ๕๕๕ -- ผู้แสดงความคิดเห็น ไม่ได้อยู่ในบ้านนั้น ถ้าเป็นอะไรไป จะไม่มีใครรับผิดชอบ ( นี่ น่าจะเสี่ยงที่สุดนะครับ สำหรับผู้แสดงความคิดเห็น เพราะต้องไปอยู่ในบ้านนั้นด้วย เพื่อแสดงความรับผิดชอบ ) ( ขอฮาอีกครั้ง ) ๕๕๕ ความคิดเห็นเหล่านี้ ไม่ควรเกิดขึ้น ในโลกของสังคมแห่งการแบ่งปัน ถ้าแต่ละท่านแสดงความคิดเห็นโดยตรง ต่อท่านเจ้าของกระทู้ และไม่พาดพิงความคิดเห็นท่านอื่น ในลักษณะเสียดสี โต้เถียง หรือท้าทาย ผู้แสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ดังที่ผมพบมาในบางกระทู้ ผมมั่นใจว่า ท่านเจ้าของกระทู้ ย่อมมีวิจารณญาณ ในการรวบรวมความคิดรวบยอด และสังเคราะห์เป็นข้อสรุปที่ดีที่สุด สำหรับท่านเจ้าของกระทู้ได้ ความคิดเห็นเหล่านี้ ที่หนักที่สุด คือ อย่าเชื่อคำตอบในนี้ เมื่อมีความคิดเห็นเป็นเช่นนี้ ทุกท่านที่แสดงความคิดเห็น จะรู้สึกเช่นไร สำหรับผม ถือว่าไร้มารยาทมาก ทำให้ผมค่อนข้างจะไม่แสดงความคิดเห็นอีกต่อไป ผมจึงเขียน เรื่อง การต่อเติมอาคาร เพื่อให้ท่านทั้งหลาย ได้พิจารณาเป็นข้อมูล ในการต่อเติมอาคาร ของท่าน เนื้อหา ประกอบด้วย สาเหตุของการต่อเติม การกำหนดประเภทของฐานราก และการกำหนดระยะห่างระหว่างฐานรากใหม่และฐานรากเดิม มีภาพปลากรอบ ( ฮา ) ๕๕๕ เพื่อความเข้าใจ หากบทความนี้ มีประโยชน์ต่อท่านทั้งหลาย ผมขออำนาจคุณพระรัตนตรัยและอานิสงส์ของการเผยแพร่ความรู้ นี้ แผ่อุทิศส่วนกุศล อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่มารดาบิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่ญาติพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติพี่น้องทั้งหลายของข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง เม คุรูปัชฌายาจะริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจะริยา ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เทวา ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงและเทวดาผู้รักษากายข้าพเจ้า มีความสุข อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวง มีความสุข อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เวรี ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงและเจ้ากรรมนายเวรซึ่งทำร้ายข้าพเจ้าในขณะนี้ มีความสุข อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา ขอส่วนบุญนี้ จงสำเร็จ แก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง มีความสุขถ้วนหน้ากัน เทอญ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย สุขี อัตตานัง ปริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจ รักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยทั้งสิ้นเถิด
หลังจากแผ่อุทิศส่วนกุศลและแผ่เมตตา กันแล้ว จะเข้าสู่รายละเอียดของเนื้อเรื่อง ดังนี้ ครับ
สาเหตุของการต่อเติม การต่อเติมอาคาร มีสาเหตุมาจาก อาคารเดิมมีพื้นที่ใช้สอยไม่เพียงพอ ต่อการใช้งาน หรือความต้องการ จึงจำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ใช้สอย ด้วยการต่อเติมอาคาร เช่น ต่อเติมห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องครัว เป็นต้น อาคารที่ต่อเติม ไม่จำเป็นต้องเป็นอาคารชั้นเดียว อาจเป็นอาคารหลายชั้น ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจำนวนพื้นที่ใช้สอยที่ต้องการ พื้นที่ว่างของที่ดิน และ พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ รวมทั้งข้อกำหนดของท้องถิ่น เป็นต้น สิ่งสำคัญที่สุดของการต่อเติมอาคาร คือ การกำหนดประเภทของฐานราก และระยะห่างระหว่างฐานรากใหม่และฐานรากเดิม เพื่อป้องกันฐานรากเกยกัน การออกแบบอาคารต่อเติม จะมีกระบวนการออกแบบ เช่นเดียวกับการออกแบบอาคารใหม่ทั้งหลัง แต่สิ่งที่ต่างกัน คือ -- อาคารต่อเติมจะอยู่ชิดกับอาคารเดิม เสมือนเป็นอาคารหลังเดียวกัน ดังนั้น โครงสร้างพื้น บริเวณชิดอาคารเดิม จะเป็นโครงสร้างแบบคานยื่นและเสาลอย และ -- แยกโครงสร้างของอาคารแต่ละหลังออกจากกัน เพื่อให้การทรุดตัวของอาคารแต่ละหลัง เป็นอิสระต่อกัน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องใช้ระบบโครงสร้างและความแข็งแรงของวัสดุ เช่นเดียวกับอาคารเดิม เนื่องจากเทคโนโลยีของวัสดุ มีการวิจัยและพัฒนา ในด้านการรับกำลังที่สูงขึ้น การกำหนดประเภทของฐานราก ฐานรากของอาคารต่อเติม จะเป็นฐานแผ่ คือฐานรากถ่ายน้ำหนักให้ดิน หรือฐานรากเสาเข็ม คือฐานรากถ่ายน้ำหนักให้เสาเข็มและเสาเข็มถ่ายน้ำหนักให้ดิน นั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของน้ำหนัก ที่ถ่ายลงฐานราก สภาพชั้นดิน และการตัดสินใจของวิศวกรโครงสร้าง การหาขนาดของฐานแผ่ จะขึ้นอยู่กับขนาดของน้ำหนัก ที่ถ่ายลงฐานราก เทียบกับความสามารถในการรับแรงแบกทาน ( bearing ) ของดิน กรณีไม่มีเอกสารรับรองผลการทดสอบ ให้ปฏิบัติตาม กฎกระทรวง ฉบับที่ ๖ ( พ.ศ. ๒๕๒๗ ) ออกตามความใน พรบ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. ๒๕๒๒ ผมขอยกรายละเอียดมา เฉพาะข้อที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ข้อ ๑๘ น้ำหนักบรรทุกบนดินที่ฐานรากของอาคารนั้น ต้องคำนวณให้เหมาะสม เพื่อความมั่นคงและปลอดภัย ถ้าไม่มีเอกสารที่รับรองโดยสถาบันที่เชื่อถือได้แสดงผลการทดลองหรือการคำนวณ จะต้องไม่เกินกำลังแบกทานของดินประเภท ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ ( ๑ ) ดินอ่อนหรือดินถมไว้แน่นตัวเต็มที่ ๒ ตัน / ตารางเมตร ( ๒ ) ดินปานกลางหรือทรายร่วน ๕ ตัน / ตารางเมตร ( ๓ ) ดินแน่นหรือทรายแน่น ๑๐ ตัน / ตารางเมตร ( ๔ ) กรวดหรือดินดาน ๒๐ ตัน / ตารางเมตร ( ๕ ) หินดินดาน ๒๕ ตัน / ตารางเมตร ( ๖ ) หินปูนหรือหินทราย ๓๐ ตัน / ตารางเมตร ( ๗ ) หินอัคนีที่ยังไม่แปรสภาพ ๑๐๐ ตัน / ตารางเมตร การหาจำนวนเสาเข็มของฐานรากเสาเข็ม จะขึ้นอยู่กับขนาดของน้ำหนัก ที่ถ่ายลงฐานราก เทียบกับความสามารถในการรับน้ำหนักปลอดภัยของเสาเข็ม ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพของชั้นดิน กรณีฐานรากเสาเข็ม จะมีข้อกำหนดเกี่ยวกับระยะทางระหว่างเสาเข็มและอาคารข้างเคียงต่างเจ้าของ จะต้องมีระยะทางไม่น้อยกว่า ๓๐ เมตร ตามประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ในการก่อสร้างอาคารและสาธารณูปโภค ลงวันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๙ ซึ่งยกเลิกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร เพื่อป้องกันภยันตรายที่อาจเกิดแก่สุขภาพ ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชน ลงวันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๓๔ ผมขอยกรายละเอียดมา เฉพาะข้อที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ๔.๘ การทำฐานรากอาคาร ๔.๘.๑ การทำฐานรากอาคารโดยใช้เสาเข็มด้วยการเจาะ กดหรือตอก และการขุดดิน ผู้ดำเนินการจะกระทำได้เฉพาะในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ถ้าจะกระทำในระหว่างพระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้นต้องได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากนายช่าง และได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครก่อน ๔.๘.๒ ปั่นจั่น เครื่องมือ เครื่องจักรที่ใช้สำหรับตอกเสาเข็ม หรือเจาะดินเพื่อทำเสาเข็ม ต้องจัดให้มีการป้องกัน เสียง ควัน และการฟุ้งกระจายของเศษดินขณะดำเนินการ โดยใช้ผ้าใบทึบหรือวัสดุอย่างอื่นหรือเทียบเท่า ขึงรอบบริเวณมีความสูงอย่างน้อย ๒ ใน ๓ ของความสูงของปั้นจั่นที่ใช้ตอกเสาเข็ม หรือเจาะดิน ๔.๘.๓ ถ้าตำแหน่งของเสาเข็มอยู่ห่างจากอาคารต่างเจ้าของหรือต่างผู้ครอบครองน้อยกว่า ๓๐ เมตร ให้ใช้ระบบเสาเข็มที่มีการเจาะดินออกบ้างหรือทั้งหมด ๔.๘.๔ การทำเข็มพืด การทำเสาเข็ม และการขุดคู จะต้องกระทำห่างจากเขตที่ดินข้างเคียงหรือต่างเจ้าของ ไม่น้อยกว่า ๘๐ เซนติเมตร หรือตามที่กฎหมายอื่นกำหนดไว้ เว้นแต่จะได้รับการยินยอมจากเจ้าของที่ดินข้างเคียงหรือต่างเจ้าของเป็นหนังสือ ๔.๘.๕ ดินที่ขุดออกจากการก่อสร้างฐานราก ต้องจัดให้มีที่กองโดยเฉพาะและต้องปิดหรือปกคลุมหรือเก็บในพื้นที่ที่ปิดล้อม ซึ่งไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญต่อเจ้าของที่ดินข้างเคียงหรือประชาชนที่ใช้ที่สาธารณะ ๔.๑๐ การควบคุมด้านเสียงและแสง ๔.๑๐.๑ การก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคารจะกระทำให้เกิดเสียงดังเกินกว่า ๗๕ เดซิเบล ( เอ ) ในระหว่างระยะ ๓๐ เมตร ไม่ได้ ๔.๑๐.๒ ห้ามก่อสร้างหรือกระทำการ ใด ๆ ในบริเวณที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคาร ซึ่งก่อให้เกิดเสียง แสง และมลภาวะรบกวนต่อสุขภาพ ชีวิต ร่างกาย ของผู้อยู่อาศัยข้างเคียงระหว่าง ๒๒.๐๐ น. ถึง ๐๖.๐๐ น. เว้นแต่จะมีมาตรการป้องกันเป็นอย่างดีและได้รับการเห็นชอบจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว การใช้เสาเข็มตอกหรือเสาเข็มเจาะ ของอาคารต่อเติม ไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดและความยาวเท่าอาคารเดิม เนื่องจากการแยกโครงสร้างของอาคารแต่ละหลังออกจากกัน เพื่อให้การทรุดตัวของอาคารแต่ละหลัง เป็นอิสระต่อกัน ดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว การกำหนดระยะห่างของฐานราก การกำหนดระยะห่างระหว่างฐานรากอาคารต่อเติมและฐานรากอาคารเดิม จำเป็นต้องมีแบบก่อสร้างเดิม เพื่อตรวจสอบขนาดและตำแหน่งของฐานราก รวมทั้งเสาเข็มของอาคารเดิม เพื่อป้องกันฐานรากเกยกัน ดังกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว กรณีฐานแผ่ จะกำหนดจากเส้นมุมลาดของมวลดิน ที่ระดับฐานแผ่ของอาคารเดิม ซึ่งมุมลาดของมวลดิน คือ มุมที่มากที่สุด วัดจากแนวนอน ซึ่งมวลดินสามารถคงรูปอยู่ได้ตามธรรมชาติ โดยไม่พังทลายลงมา เรียกว่า มุมลาดของมวลดินตามธรรมชาติ ( angle of repose ) โดยปกติ มีค่าเท่ากับมุมเสียดทานภายในระหว่างเม็ดดิน ( มุม Ø ) ตำแหน่งของฐานแผ่และการขุดหลุมฐานราก จะต้องอยู่เหนือแนวเส้นมุมลาด นี้
กรณีฐานรากเสาเข็ม จะกำหนดเป็นระยะห่างจากเสาเข็มของอาคารเดิม โดยปกติ จะกำหนดให้มีระยะห่างไม่น้อยกว่า ๓ เท่า ของขนาดเสาเข็มต้นที่ใหญ่กว่า แต่ทั้งนี้ ต้องคำนึงถึงระยะห่างที่เครื่องจักร เช่น ปั้นจั่น หรือเครื่องเจาะ สามารถเข้าทำงานได้
งานต่อเติมอาคารที่ผมทำไว้ ผมใช้เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง หกเหลี่ยมกลวง ขนาด ๑๕ ซม. ยาว ๖.๐๐ ม. ทุกวันนี้ ใช้งานได้เป็นปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องการทรุดตัว แต่ประการใด สุดท้ายนี้ ผมมีเพลง มาให้ฟังกัน เพื่อความสนุกสนานและบันเทิง เป็นการส่งท้าย ครับ
บ้านของเรา
Create Date : 14 ตุลาคม 2553 |
Last Update : 24 ตุลาคม 2557 12:02:15 น. |
|
34 comments
|
Counter : 16193 Pageviews. |
|
|