กรกฏาคม 2560

 
 
 
 
 
 
1
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
31
 
 
2 กรกฏาคม 2560
All Blog
หัดนั่งเรือ...






 หากจะถามว่ามีอะไรในโลกนี้ที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงไม่หยุดหย่อน..

ซึ่งบางคนและอีกหลายคนก็อาจจะบอกว่าก็ วันเวลา สายน้ำ สังขารร่างกาย ยังไงเล่า

หรือแม้กระทั่ง เงินในกระเป๋า ของเรา..


วันเวลาที่เดินหน้าไม่เคยหยุดรอใคร ถูก

สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ ก็ถูก

สังขารร่างกายแสดงการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เกิดจนถึงวันตาย ก็ถูกอีก

หรือ ทรัพย์สินเงินทอง ที่เหน็ดเหนื่อยอุตสาหะ ดิ้นรนค้นหา 

สุดท้ายก็แปรเปลี่ยนไป ย้ายไปอยู่กับ เจ้าของใหม่ เมื่อเจ้าของเก่า หมดสิทธิ์ ใช้งานมัน..



ในความเห็นของผู้เขียน ไม่มีอะไรสิ่งใดในโลกที่จะสามารถ สวิงสวาย เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว

รวมถึงอุดมไปด้วย ความไม่แน่นอน เท่ากับ จิตใจของคน



จิตใจ มีพลานุภาพที่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งภายในและโลกภายนอกได้

จิตใจ ที่สามารถสร้างผลงานสุดแสนประทับใจทั้งด้านบวกและลบ จนเราลืมไม่ลง

จิตใจ ที่มีส่วนประกอบแยกย่อยจนยุบยับ เมตตา ราคะ สงบ วุ่นวาย สับสน ฟุ้งซ่าน วางเฉย ฯลฯ



หากจะมีใครมาบอกเล่าถึงความแปรเปลี่ยนแปรปรวนของสิ่งใดๆ ก็ตาม

จิตใจคนเรานี่แหละ คือ ตัวอย่างชั้นดี



เราคนไทยโชคดีที่เรามี ภาษา เป็นของชนชาติตนเอง มีเอกลักษณ์ที่น่าภาคภูมิใจ

และ ภาษาไทย ก็เป็นภาษาที่แสนพิเศษ ในความเป็น ภาษาสภาวะ ที่ไม่เหมือนใคร

เป็นภาษาที่แสดงให้เราเข้าใจถึง 

สถานะการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับตัวตนและจิตใจของเราขณะนั้นๆ

ทำให้เราเข้าใจ เข้าถึง รู้สึกคล้อยตาม และสามารถใช้จินตนาการตามได้อย่างละเอียดละออ

เมื่อได้อ่าน ได้ฟัง



ในทางพระพุทธศาสนาเราจะกล่าวถึง จิต มากกว่า ใจ 

แต่ในชีวิตประจำวันเราใช้ทั้งสองคำมารวมเรียกชื่อเสมือนหนึ่งว่า มันคือสิ่งเดียวกัน



แต่หากจะย่อยให้เข้าใจง่ายๆ ผู้เขียนก็จะขอเรียกรวมกันเสียเลย

แต่โดยนัยแล้วก็คือการกล่าวอ้างถึงสภาวะของ จิต เป็นหลักนั่นเอง



เราอาจจะเคยสงสัยว่าทำไม คนเราถึงดีเลวไม่เหมือนกัน..?

ทำไมคนเราถึงมีความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ไม่เท่ากัน..?

บางคนแม้มีจิตใจเมตตาสูงแต่กลับมีความลำเอียงเลือกข้าง

ขณะที่บางคนโกรธง่าย หัวร้อนไว แต่กลับรักความยุติธรรม เกลียดความไม่เท่าเทียม..



คำตอบอาจจะมีมากมายหลายอย่าง เช่น การเลี้ยงดูอบรมสั่งสอน การศึกษา อุปนิสัย

รวมถึงจะกล่าวอ้างถึง กรรมเก่า ของแต่ละคน



ในทางพระพุทธศาสนา กล่าวว่า จิต ที่เป็นธรรมะฝ่าย นาม

เป็นสิ่งที่เกิดดับได้รวดเร็ว ต่อเนื่องสืบทอดต่อกันเป็นสาย

ผู้ที่มี สติ ว่องไวพอจึงจะเข้าไปเห็นการเกิดดับของมัน เห็นการขาดตอนได้

แต่สำหรับเราผู้ไม่เคยผ่านการฝึก เจริญสติ ก็อาจจะเข้าใจได้ยากเย็นสักหน่อย



หากจะอธิบายให้เห็นภาพช้าๆคือ

เมื่อมี ผัสสะ มากระทบ ทางทวาร ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ 

กระบวนการ เสพกรรม ก็จะเริ่มทำงานตามขั้นตอนของมัน 

กระบวนการนี้จะทำให้ก่อเกิด อารมณ์รัก ชอบ ชัง ฯลฯ ปรุงแต่งกันไป

สุดท้ายก็กลายไปเป็นความอยาก หรือ ตัณหา ชนิดต่างๆ จนเป็น ความยึดติด หรือ อุปาทาน

และลงเอยด้วยการก่อ เจตนา ไป สร้างกรรม ดี ชั่ว ขาว ดำ 

และก็ไปรอรับ ผล หรือ วิบาก ทั้งดีและเลวของมันต่อไป



ช่วงที่เราเกิดอารมณ์ รัก ชอบ ชัง เฉย นี่แหละ จิตของเราจะเข้าไปรับรู้อารมณ์

ความแปรปรวน เปลี่ยนแปลงของอารมณ์ ก็จะทำให้จิตเกิด ดับ ไปทีละครั้งๆไป

เมื่อจิตมีเมตตา ส่วนประกอบของจิตขณะนั้นก็จะมีเมตตาเป็นส่วนมาก มีความเห็นแก่ตัวน้อย

และเมื่อเรามีอารมณ์โกรธจัด ส่วนประกอบของจิตขณะนั้น ก็จะมีโทสะมากกว่าเมตตา



ส่วนประกอบของจิต มีมากมาย ที่ผสมกลมกลืนกันไปแล้วแต่ว่าขณะนั้นเรารับผัสสะเป็นอะไร

อะไรที่กำลัง กระทบ ทวารทั้งหกของเราอยู่

และความเกิดดับของจิต ก็ผุดเกิด ผุดดับ ต่อเนื่องกันไปไม่หยุดหย่อน นับกันไม่ไหว



และมันก็เป็นอย่างนี้ทุกวี่ทุกวัน

เป็นอย่างนี้มาทั้งชีวิต

เป็นอยู่อย่างนี้มาตลอดทุกลมหายใจ..

แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า มันกำลังกำหนดเส้นทางเดินชีวิตในปัจจุบันของเราอยู่

เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เกมกรรม ของเราและเหล่าสัตว์ทั้งหลายมาชั่วกับชั่วกัลป์..



จิตใจที่แปรปรวนไปมา ฟูแฟบ ห่อเหี่ยว พองโต จะด้วยสุขหรือทุกข์

อาจจะมีค่ามีความหมายกับคนธรรมดาที่ยอมเป็นผู้เล่น เกมชีวิต อย่างไร้ทางขัดขืน

แต่มันจะกลายเป็นแค่ ปรากฏการณ์แสนธรรมดา สำหรับ ผู้ที่รู้ทันมัน



ลองสังเกตจิตใจตนเองดูสิว่า

เมื่อเราได้เข้าใกล้ชายหนุ่ม หญิงสาวในฝัน ใจเรามีอาการอย่างไร..?

เมื่อเราอยากได้ รถ บ้าน มือถือ เฟอนิเจอร์ใหม่ๆ ใจเรามีอาการอย่างใจ

เมื่อเห็นอาหารที่เราอยากลิ้มลองมานาน ใจเรามีอาการอย่างไร

เมือโดนหักหลังโดนนินทา ตำหนิ ด่าทอต่อว่า ใจเรารู้สึกอย่างไร



อารมณ์โลภ โกรธ หลง  ต่างก็วนเวียนเปลี่ยนหน้ามาทักทายเราอยู่ทุกวัน

เราต้องอยู่กับมันภายใต้เงื่อนไขอย่างเดียวคือ เชลยกิเลส เป็นทาสของมัน



ในชีวิตจริงบางวันเราอาจจะต้องเคยเห็นความโกรธอยู่บ้าง

แต่เมื่อมีสิ่งใหม่มากระทบความโกรธนั้นก็จะดับไป จิตใจเรากำลังไปรู้อารมณ์อื่นอยู่

ต่อเมื่อ มีสิ่งมากระทบให้เกิดความจำเรื่องที่โกรธได้ เราก็กลับมาโกรธต่อ

แต่จิตที่มารับรู้อารมณ์โกรธตัวแรก กับ ตัวที่สองไม่ใช่จิตดวงเดิม เป็นคนละตัว กัน

แต่เป็นเพราะ สัญญา ความจำได้หมายรู้ ทำให้เราคิดว่ามันเป็นอารมณ์เดียวกัน



เรื่องจิตใจ เป็นเรื่องที่จะให้พูดกันทั้งวันก็คงพูดไม่จบ

เพราะมันกว้างขวาง ลึ้กซึ้ง ซับซ้อน จนยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ง่ายๆ

จึงมีคนเปรียบเทียบ จิตใจของมนุษย์กับความลี้ลับกว้างใหญ่ของจักรวาล

ว่ามันเป็น เรื่องเดียวกัน..



ในอนาคตเราอาจจะมีเครื่องมือที่สามารถตรวจวัด

จำนวนดวงดาวและเอกภพในมหาจักรวาลนี้ได้

แต่เราจะไม่สามารถใช้เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ใดๆมาตรวจวัดจิตใจคนได้เลย..



หากเราเชื่อว่ายังมีดวงดาวเกิดใหม่และแตกดับนับไม่ถ้วนในเอกภพนี้

ขอให้เราเห็นภาพเถอะว่า ดวงจิตของเราก็เกิดดับนับไม่ถ้วนเช่นเดียวกัน..



การเกิดใหม่ของดวงดาวดวงหนึ่ง อาจจะสร้างความสั่นสะเทือนให้กับห้วงอวกาศ

ทำให้เราได้เห็นแสงแห่งการ ก่อกำเนิด ผ่านฝากฟ้าเดินทางมานับล้านปีแสง

แต่การเกิดดับของจิตใจเรา ที่อยู่กับตัวเราแท้ๆ เรากับไม่เคยเข้าไปสังเกตมัน

ทั้งๆที่มันก็สร้างความ สั่นสะเทือน ให้กับจิตใจเราไม่น้อยเลย..




หากวันนี้ว่างๆลองหาที่สงบเงียบ นั่งหลับตา ทบทวนกับตัวเอง

วันนี้เราเผลอไป ยินดี ยินร้าย กับเพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว สัตว์เลี้ยงที่บ้าน

สิ่งแวดล้อม แดด ลม ฝน กับข่าวดีข่าวร้าย ฯลฯ ไปกี่ครั้ง..?

เอาที่จำได้ก็พอ..



แล้วจะรู้ว่า วันๆหนึ่งจิตใจเราต้องกระเพื่อมหวั่นไหวไปไม่น้อยเลย

หากว่าการสั่นไหวกระเพื่อมขึ้นลงของจิตใจเราเหมือน คลื่นในทะเล 

ที่มีขึ้นมีลง มีทั้งลูกใหญ่ลูกเล็ก..

แล้วเราต้องนั่งอยู่ในเรือลำน้อยที่ลอยอยู่ท่ามกลางคลื่นนั้น

หากเป็นมือใหม่หัดหัดนั่งเรือ ถ้าไม่อ้วกแตก ก็ถือว่าเก่ง  เพราะสวิงโครงเครงเหลือเกิน



ในชีวิตนี้เราก็เรียนอะไร ต่อมิอะไรมาตั้งเยอะแยะแล้ว

หัดมาเรียนรู้เรื่องจิตใจ หัดมาลองนั่งเรือหัวใจ มาทดสอบความสูงเสียว ของเกลียวคลื่น

ลองมารับมือความแปรปรวนของทะเลจิตใจดูบ้าง

แล้วจะทำให้เรา รักความสงบราบเรียบ ขึ้นอีกเยอะเลย..



ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ




Create Date : 02 กรกฎาคม 2560
Last Update : 2 กรกฎาคม 2560 16:13:10 น.
Counter : 1400 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

นายสมมุติ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [?]