โชคชะตาไม่เข้าใจ..
บางครั้ง..
คำพูดของใครบางคน ที่เราไม่รู้จัก กลับทำให้เรามีกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อสู้ชีวิตต่อไป
บางครั้งแค่ตัวอักษรไม่กี่ตัว ที่ถูกร้อยเรียงเป็นคำสั้นๆ กลับมีความหมายยิ่งใหญ่สำหรับเรา
และบางครั้งที่ คำถามง่ายๆ ของเด็กน้อยกลับมีแรงฉุดกระชาก สติ
ที่กำลังหลุดลอยให้กลับมามองเห็น ความจริง อีกด้าน ที่เราไม่เคยมองเห็นมัน
แรงบันดาลใจ เกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา
โดยไม่จำเป็น จะต้องออกจากปากของนักพูดระดับโลก
หรือจะต้องมาจากปลายปากกาของนักเขียนชื่อดัง แต่อย่างใด..
คนเรามักจะโหยหา อาหารทางใจ มาเติมเต็มความพร่อง มาเติมช่องว่างของสติปัญญาอยู่เสมอ
เพราะบางครั้งสิ่งที่เราคิดว่าเรารู้ แต่เรากลับอธิบาย ขยายความหมายของมันไม่ได้เลย ก็มี
เหมือนกับที่เราบางครั้งไม่สามารถอธิบาย ปรากฏการณ์ ทางความคิด ทางจิตวิญญาณ
หรือแม้แต่ ทางกายภาพ ของเราได้
จนเราต้อง ยกยอด ให้กับ ความบังเอิญ รับเอาความดีความชอบชังไปเสียก็บ่อยครั้ง
ทั้งความสุขและความทุกข์ ในชีวิตเรา
จริงหรือ ที่มันเป็นแค่เรื่องที่ถูกใครก็ไม่รู้กำหนด ถูกขีดเขียนมันเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
เพียงแต่รอเวลาให้เรามาเดินตามร่องรอย เดินตามเส้นทางแห่งลิขิตนั้นไป..
และหลายคนก็พร้อมใจเรียกมันว่า โชคชะตา
ประมาณว่า อะไรมันจะเกิดมันก็ต้องเกิด อย่าคิดไปฝืนเสียให้ยาก..
ในยามที่ชีวิตเราสุขสงบ ราบรื่น หรือรอดพ้นจากภัยอันตราย
เราก็ขอบคุณโชคชะตาฟ้าดิน ที่ทำให้เราแคล้วคลาด
แต่หากเมื่อใดที่ชีวิตต้องเข้ามุมอับ โดนเงามืดครอบงำจนไปไม่เป็น
เราก็จะโทษว่า ฟ้าดินลงทัณฑ์กลั่นแกล้ง
ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย.. พร้อมตัดพ้อต่อว่า ทำไมถึงต้องเป็นเรา..!!
เพราะความไม่เข้าใจในชีวิต เราถึงต้องยอมทนติดอยู่กับ กับดักของชีวิต จนดิ้นไม่หลุด
ยอมจำนนต่อฟ้าดิน ที่ใจร้ายกลั่นแกล้งเราให้ตกระกำลำบาก
ทั้งๆที่ในชีวิตนี้ก็ไม่เคยคิดจะไปเบียดเบียนใครให้ได้รับความเดือดร้อน
และหากทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตเราเป็นเรื่องบังเอิญจริง
แล้วทำไมเรื่องร้ายๆที่เราไม่อยากเจอะเจอ มันถึงจำเพาะเจาะจงมาเกิดกับเราเล่า..?
ทำไมมันไม่ไปเกิดกับคนอื่นๆบ้าง ไม่เข้าใจจริงๆ..
หากลองคิดดูดีๆ ก้จะพบว่า
ไม่ว่าใครหน้าไหน รวย จน สูงศักดิ์ หรือต่ำต้อย ต่างก็หนีคำๆหนึ่งไปไม่พ้น..
นั่นคือคำว่า ทุกข์
คนจนก็ทุกข์แบบคนจน คนรวยก็ทุกข์แบบคนรวย
พระราชาก็ทุกข์แบบพระราชา ยาจกก็ทุกข์แบบยาจก
คนเลวก็ทุกข์แบบคนเลว คนดีก็ทุกข์แบบคนดี สัตว์ก็ย่อมทุกข์แบบสัตว์ ฯลฯ
ความทุกข์ จึงเป็นสมบัติของคนทั้งโลก
หาใช่เป็นของคนใดคนหนึ่งไม่
ก็ในเมื่อเราเกิดมาบนกองทุกข์ ถึงแม้ใครจะเถียงว่าไม่จริง
ก็เห็นบางคนเกิดมาบนกองเงินกองทอง แล้วมันจะทุกข์ได้อย่างไรเล่า..?
นั่นเป็นการมองเห็นชีวิตแบบตื้นเขินทางปัญญาที่สุด
หากยังมองว่าทรัพย์สมบัติบรรดามีจะช่วยปลดเปลื้องแบ่งเบาความทุกข์ได้
ลองไปถามคนที่มีทรัพย์สมบัติมากๆดูสิว่า ลึกๆเขามีความทุกข์อย่างไรบ้าง
จะได้ข้อสรุปแบบว่า แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เรียกว่าเป็นก้อนเดียวกันก็ว่าได้
หากมองได้แจ้งแทงทะลุ ก็คือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นแหละคือ กองทุกข์
หรือจะมองให้ละเอียดเข้าไปอีกหน่อย ก็คือ กายและใจ ของเรานี่แหละ คือกองแห่งทุกข์
ที่เราทั้งหลายจะต้องเจอไม่วันใดก็วันหนึ่ง ไม่ว่าจะหน้าไหน ไม่มีทางหนีพ้น..
และเรื่องราวดีร้ายที่ผ่านพ้นเข้ามาในชีวิตเรานั้น ก็หากใช่เรื่องที่ใครมากำหนด
กำหนดให้เราเจอ กำหนดให้เราทำ กำหนดให้เราเป็น
เราเองทั้งนั้น หาใช่พรหมลิขิต ฟ้าดิน โชคชะตา ดวงดาวอื่นใด
เพราะเราทำเหตุอย่างนั้นเอาไว้ สุดท้ายก็ต้องรับผลอย่างนั้นแน่นอน ไม่มีแปรผันเป็นอื่นได้เลย
ใช่แล้ว เรากำหนดชีวิตของเราเองมาตั้งแต่แรก
เราได้ออกแบบทางเดินชีวิตของเราเอาไว้ตั้งแตแรกแล้ว
เพียงแต่เราไม่รู้ เพียงแต่เราไม่เข้าใจมันเอง..!!
นับจากวันนี้ เวลานี้ หากเราได้ประสบเคราะห์กรรมดีหรือร้าย
ก็อย่าพึ่งไปตีโพยตีพาย โทษฟ้าโทษดิน ดวงดาว โชคชะตามั่วซั่ว
ตั้งสติให้ดี แล้วบอกตัวเองว่า นี่มันผลงานของเราเองทั้งนั้น
เวลามีช่วงเวลาของชีวิตที่ดี ก็บอกตัวเองเอาไว้ว่า เพราะเราทำเหตุเอาไว้ดี ชีวิตวันนี้มันจึงดี
แล้วเวลาชีวิตมันบัดซบเหลวแหลก ก็ต้องเตือนตนเองว่า เพราะเราทำเหตุไม่ไดีเอาไว้
หากตั้งจิตใจ ตั้งความเห็นเอาไว้อย่างนี้แล้ว
ความดิ้นรน ความทุรนทุรายจากทุกข์ก็จะเบาบางไปมากทีเดียว
เราจะมีแรงบันดาลใจในการสร้างความดี สร้างชีวิตของเราให้ดีมากยิ่งขึ้น
เพราะเชื่อในเหตุและผล มากกว่าเชื่อความบังเอิญที่มันไม่มีจริง..
ไม่ต้องไปต่อว่าโชคชะตาที่ไม่เคยเข้าใจเรา..
แต่เป็นเพราะเราไม่เคยเข้าใจตนเอง ไม่เคยเข้าใจชีวิตของเราต่างหาก
เพราะหากเรายังคิดไม่เป็น มองเกมชีวิตไม่ออก
ต่อให้มี หนึ่งร้อยแรงบันดาลใจ หนึ่งพันคำคมแง่คิด เข้ามากระตุ้น เข้ามาพลิกความคิดจิตใจ
สุดท้ายก็โดน โมหะความหลงผิด หลอกลวง
ให้ต้องกล่าวโทษโชคชะตาฟ้าดินเรื่อยไป แต่ไม่เคยโทษตนเองไปจนตาย..
ขอขอบคุณเจ้าของภาพสวยๆทุกภาพครับ
วันที่: 22 เมษายน 2560 เวลา:8:55:21 น.
ผู้ติดตามบล็อก : 22 คน [